จุดกระแสนิรโทษ ปล่อยเด็กคืนสังคม คุ้มครองคนเห็นต่าง

จุดกระแสนิรโทษ ปล่อยเด็กคืนสังคม คุ้มครองคนเห็นต่าง

การเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการหัวใจหยุดเต้นภายหลังอดข้าวประท้วงในเรือนจำ ได้นำมาซึ่งการแสดงความอาลัยจากทุกฝ่าย รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นในทางการเมืองเพื่อสร้างหลักประกันสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการประกันตัว และการนิรโทษกรรม

ความคิดเห็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า “สู่สุคตินะบุ้ง เสียใจด้วยอย่างยิ่งครับ ขอแสดงความเสียใจ และอาลัยต่อการจากไปของบุ้ง ไม่ควรมีใครเสียชีวิต เพราะความคิดที่แตกต่าง ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นกรณีสุดท้าย ปล่อยเด็กๆ ที่เหลือออกมาเถอะครับ”

ขณะที่ พรรคก้าวไกล ได้ออกคำแถลงที่แสดงออกถึงความเสียใจอย่างเป็นทางการ เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย กับประเด็นและวิธีการที่คุณบุ้งแสดงออกในช่วงที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลขอยืนยันหลักการว่า ในสังคมประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนต้องได้รับการรับรอง ไม่ควรมีใครต้องติดคุกเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธสิทธิในการได้รับประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง เพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง และไม่ควรมีใครถูกผลักให้ต้องต่อสู้ด้วยวิธีการที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิต"

นอกจากการแสดงความเสียใจจากหลายฝ่ายแล้ว ยังมีกระแสเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐอย่างกรมราชทัณฑ์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์ทื่เกิดขึ้นว่า หลังจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รับตัว น.ส.เนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เนติพร ได้รับประทานอาหารและน้ำปกติ ซึ่งแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาดูแลใกล้ชิดและต่อเนื่อง

"แต่ (น.ส.เนติพร) ยังมีอาการขาอ่อนแรงและบวมเล็กน้อย ผลเลือดมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อย เกลือแร่ต่ำ โดย น.ส.เนติพร ปฏิเสธการรับประทานเกลือแร่และวิตามินบำรุงเลือด จนเกิดอาการดังกล่าวและเสียชีวิตในวันนี้ (14 พ.ค.)"

กรมราชทัณฑ์ ระบุด้วยว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเชื่อมั่น จึงให้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ทำการชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว

ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นางสาวเนติพร ได้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมือง 7คดี