เจ๊หน่อยตอกสุทิน ทหารเกณฑ์ก็มนุษย์ อย่าใช้ฟอกขาวข้าว
การแสดงกินข้าวเก่าเก็บรวมทศวรรษโชว์ต่อหน้าสื่อมลชนของ 'ภูมิธรรม เวชยชัย' รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีมุมมองหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามฟอกขาวให้กับ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหลบหนีการจำคุกในคดีรับจำนำข้าว หรือ การแก้ไขภาพลักษณ์ที่ว่าด้วยโครงการรับจำนำข้าวในอดีตทำให้เกิดข้าวเน่าที่เป็นภาระทางงบประมาณต่อประเทศจำนวนมหาศาล
ล่าสุดเรื่องการกินข้าวเก่ากำลังมีอีกมุมมองที่น่าสนใจ คือ การสร้างภาพเอาหน้าของรัฐบาล หลังจากล่าสุด 'บิ๊กทิน' สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งรักษาเก้าอี้ตัวเองเอาไว้ได้ ประกาศว่ากองทัพจะรับซื้อรับข้าวดังกล่าวเพื่อเอาไว้ให้กับกำลังพลในกองทัพ หากข้าวนั้นมีคุณภาพดีพอ
"ที่ผ่านมากองทัพก็ช่วยอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ ในการซื้อข้าวให้กับกำลังพล ผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาตกต่ำ หรือหากจะทำเป็นโครงการอย่างที่พูดคุยกัน เราก็ไม่ขัดข้อง" สุทิน ระบุ
ท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ออกมา ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ถึงความเหมาะสมกับการเอาข้าวเก่าที่ยังไม่มีผลทดสอบที่ชัดเจนว่ามีคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ มาให้กำลังพลของกองทัพรับประทาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน แอพพลิเคชั่นเอ็กซ์ แสดงความคิดเห็นว่า “กรุณาเห็น ทหารเกณฑ์ เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับ นายกฯ และรัฐมนตรีทั้งหลาย ที่จะซื้อข้าวจากโครงการจำนำข้าว ข้าว 10 ปี มาให้เค้ากิน ห่วงสุขภาพเขาด้วย นักวิชาการได้ก็ออกมาให้ ข้อเท็จจริงแล้วว่า การบริโภคข้าวเก่าเก็บนานถึง 10 ปี ผ่านการรมยาถึง 60 ครั้ง จะเสี่ยงเป็นมะเร็ง
“รศ.พันทิพา พงษ์เพียจันทร์ รองศาสตราจารย์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เตือน กินข้าวเก่าค้าง 10 ปี สารพิษ-เชื้อราเพียบ เสี่ยงเป็นมะเร็ง แนะอย่าขายให้คนและสัตว์ เอาไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์-น้ำส้มสายชู จะดีกว่า” เสียงท้วงติงจาก คุณหญิงสุดารัตน์
เช่นเดียวกับ 'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ระบุว่า "ผมต้องย้ำตรงนี้ว่า การชิมโชว์ไม่สามารถการันตีอะไรได้ ต่อให้คุณสุทินออกมาชิมโชว์ด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะคุณสุทินไม่ได้กินข้าว 10 ปี ทุกมื้อ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจจัดซื้อให้ทหารกิน ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น และต้องมีปริมาณการตรวจที่มากพอด้วย ไม่ใช่สุ่มจิ๊บๆ มาตรวจพอเป็นพิธี"