ครบ 5 ปี ถึงวันอำลา ส.ว.ลากตั้ง คสช.ยังมีพวกลุ้นอยู่ต่อ
ครบห้าปีแล้ว สำหรับ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 250 คน ที่เรียกกันว่า”ส.ว.คสช.”เพราะเป็นสว.ที่คลอดออกมาในช่วงเปลี่ยนผ่านจากคสช.ไปสู่รัฐบาลหลังเลือกตั้งปี 2562
โดยรายชื่อสว. 250 คน มีการประกาศลงในเว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา อย่างเป็นทางการ 14 พ.ค.
ซึ่งหากนับจำนวนปีจริงๆ ที่บทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ให้ส.ว.ชุดดังกล่าวมีวาระการดำรงตำแหน่งห้าปี ก็เท่ากับส.ว.ชุดนี้ ก็จะครบห้าปีในวันที่ 13 พ.ค. แต่ส่วนใหญ่ ก็บอกกันไปว่า สว.ชุดนี้ครบวาระห้าปีในวันนี้ ศุกร์ที่ 10 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม ส.ว.ชุดนี้ จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีสว.ชุดใหม่ 200 คนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยมีอำนาจต่างๆ เหมือนเดิมหมด ยกเว้นการโหวตเลือกนายกฯ ที่ให้แค่ห้าปี นับจากมีการโปรดเกล้าฯสว.เมื่อ 14 พ.ค. 2562
ผลงานส.ว.ชุดนี้ เฉพาะด้านนิติบัญญัติ สรุปว่าห้าปีให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 54 ฉบับ-อนุมัติพระราชกำหนด จำนวน 14 ฉบับ
และเมื่อส.ว.ทั้ง 250 คน กำลังจะแยกย้าย ไปตามทางของตนเอง บางคน ก็เริ่มหาทางเดินใหม่ให้กับตัวเอง ตามช่องทางที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้
เพราะแม้รัฐธรรมนูญจะบัญญัติไม่ให้ส.ว.ไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆภายในสองปี นับจากพ้นจากการเป็นส.ว. แต่บางตำแหน่ง ที่ไม่ใช่ตำแหน่งการเมือง ก็เปิดทางให้สว.ไปหาทางเดินใหม่ได้ เช่น อย่างตอนนี้ “คำนูณ สิทธิสมาน”ที่เป็นมาแล้วทั้งอดีตส.ว.-อดีตสนช.-อดีตสปท. ที่เคยเป็นอดีตสื่อมวลชน ก็ไปสมัครเป็นบอร์ดไทยพีบีเอส เพราะไม่ถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมือง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ตามไทม์ไลน์ของกกต.ก่อนหน้านี้ บอกไว้ว่าจะประกาศรับรองผลการเลือกสว.ชุดใหม่200คน ภายในวันที่ 2 ก.ค.
แต่ตามพรบ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาฯ พ.ศ. 2561 มาตรา 42 ที่บัญญัติว่า
หลังการเลือกสว.ระดับประเทศเสร็จสิ้นลงในวันที่ 26 มิ.ย. กฎหมายกำหนดให้ ผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศแจ้งผลให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ทราบและเมื่อกกต.ได้รับรายงานแล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่าห้าวัน เมื่อพ้นกำหนดเวลา ดังกล่าวแล้ว ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลในราชกิจจานุเบกษา ที่ก็คือจะตรงกับวันที่ 2 ก.ค.พอดี
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูตามข้อกฎหมาย ย่อมหมายถึงว่า หากครบห้าวันแล้ว กกต.เห็นว่า กระบวนการเลือกส.ว.มีปัญหา ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม อีกทั้ง มีการร้องเรียน ฟ้องร้องมากมาย เพื่อคัดค้านไม่ให้กกต.รับรองรายชื่อสว.บางคนหรือหลายสิบคน ก็ทำให้ กกต.อาจเลื่อนการประกาศออกไปได้
ไม่จำเป็นต้องประกาศรายชื่อทั้งหมดในวันที่ 2 ก.ค. ก็ได้ โดยอ้างเหตุเรื่องมีการร้องเรียน และหรือการฟ้องร้องต่างๆ
จุดนี้เลยทำให้ ส.ว.บางคน ก็มีข่าวว่า ยังไม่มีการเก็บของออกจากห้องทำงานที่ตึกวุฒิสภา เพราะมองว่ากกต.อาจเลื่อนการรับรองสว.ออกไป เลยยังไม่รีบเก็บขอบ ร่ำลาเพื่อนสว. ด้วยกัน เพราะคิดว่ายังอาจได้เจอกันอีกสักระยะ
ถึงให้ส.ว.ชุดนี้อยู่ต่ออีกระยะ มันก็ไม่มีผลทางการเมืองอะไร เพราะตอนนี้ไม่มีวาระสำคัญอะไรที่บางกลุ่มเช่น กลุ่มอำนาจเก่า ที่มีส่วนกับการทำคลอดสว.ชุดนี้ออกมา จะต้องตรึงสว.ชุดนี้ ไว้ให้อยู่ต่อไป เพราะหลังเปิดสภาฯ 10 ก.ค. ก็ไม่มีคิวส.ว. ต้องไปร่วมโหวตกฎหมายสำคัญๆ
ส่วนการแก้กฎหมายประชามติ-แก้ไขรัฐธรรมนูญ ของรัฐสภา ดูแนวโน้มก็คงลากยาว ยังไง ก็ต้องให้ส.ว.ชุดใหม่ เข้ามาทำอยู่แล้ว จึงไม่เห็นความจำเป็นอะไร ต้องให้ส.ว.ชุดปัจจุบันอยู่ต่ออีกระยะ เผลอๆ หากใครคิดจะทำ อาจได้ไม่คุ้มเสีย กับการคิดต่อวีซ่าให้สว.
เพราะกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ปี 2561 ก็เปิดช่องให้ กกต.ใช้วิธีการเดียวกับส.ส. ก็ได้ คือ รับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลัง คือหากรับรองไปแล้ว ต่อมากกต. พบว่า คนที่ได้เป็นสว.ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ก็ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อยู่ดี