เผยตัวเต็ง รมว.บัวแก้วคนใหม่ เปิดลึกเฮ้งเขี่ยแฮ้งค์

เผยตัวเต็ง รมว.บัวแก้วคนใหม่ เปิดลึกเฮ้งเขี่ยแฮ้งค์

ทำเอา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและแกนนำรัฐบาลเพื่อไทย ว้าวุ่นหนักเลย กับการทิ้งระเบิดที่ ปานปรีย์ พหิทธานุชกร ลาออก จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังมีพระบรมราชโองการ ให้เหลือ เก้าอี้ รมว.ต่างประเทศเพียงตำแหน่งเดียว

โดย ปานปรีย์ ยอมรับว่าสาเหตุที่ลาออก เพราะมองว่า การเป็นรมว.ต่างประเทศ เพียงตำแหน่งเดียว จะทำให้การทำงานเพื่อขับเคลื่อนเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเวลาไปพูดคุยเจรจาความกับต่างประเทศ น้ำหนัก-การต่อรอง จะลดน้อยลง ไม่เหมือนกับการเป็นทั้งรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ

การลาออกของ ปานปรีย์ ทำให้ โฉมหน้า ครม. เศรษฐา1/2 สะดุดตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มทำงาน และที่ได้รับผลกระทบตรงๆ ก็คือ ตอนนี้ เกิดสภาวะสุญญากาศ ขึ้นในกระทรวงการต่างประเทศ เพราะไม่มีรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียวในกระทรวง

เพราะก่อนหน้านี้จากที่มี จักรพงษ์ แสงมณี เป็นรมช.ต่างประเทศ แต่ล่าสุด เศรษฐา ตั้งมาเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี เลยทำให้ตอนนี้กระทรวงบัวแก้ว ไม่มีรัฐมนตรีสักคน

แต่คาดว่า เศรษฐา ก็คงอาจให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ -รมว.พาณิชย์ มารับผิดชอบงานกระทรวงการต่างประเทศในเชิงภาพรวมไปก่อน เพื่อรอให้ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ-รมว.คลัง กับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ-รมว.คมนาคม เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯก่อน แล้วก็อาจมอบหมายงานให้คนใดคนหนึ่งระหว่าง ภูมิธรรม-พิชัย-สุริยะ รับผิดชอบงานกระทรวงการต่างประเทศ จนกว่าจะมีการตั้งรมว.ต่างประเทศคนใหม่ ซึ่งดูแล้ว อาจจะเป็นพิชัย ชุณหวชิร จะเป็นคนดูแล

ส่วนคนที่จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศคนใหม่ ก็อยู่ที่ เศรษฐา กับทักษิณ ชินวัตร ว่าจะใช้สูตร”คนใน-คนนอก”

หากเป็นคนในพรรคเพื่อไทย ก็มีหลายคนรอลุ้นคั่วเก้าอี้ ที่ต้องเป็นคนมีภาพอินเตอร์-ภาษาอังกฤษเยี่ยม ซึ่งหากดูตอนนี้ ข่าวบางกระแสจับตาไปที่”นพดล ปัทมะ”อดีตรมว.ต่างประเทศ ที่ตอนนี้เป็นประธานกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เรียกได้ว่า เป็นเต็งหนึ่งในพรรคอยู่ แต่คนอื่นในพรรค ก็มีรอเสียบเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกจบจากต่างประเทศ

แต่หากจะเป็น”คนนอกพรรค”โดยเฉพาะพวกอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีหลายคนที่ถูกพูดถึงเช่น”อดีตทูตปู”หรือ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นข้าราชการการเมือง คือ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ปานปีย์) ซึ่งพอปานปรีย์ ลาออก ก็ทำให้ มาริษ พ้นจากตำแหน่งไปโดยปริยาย

สำหรับ นายมาริษ เป็นอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในวงการทูต ก็เช่น อดีต เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย , อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ และอดีตเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นต้น

ส่วนข้าราชการการเมืองอีกคน ที่ก่อนหน้านี้ มีตำแหน่ง ในกระทรวงการต่างประเทศ ก็คือ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกตั้งให้เป็น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี(กระทรวงการต่างประเทศ) แต่น่าจะมีภาษีน้อยกว่า นพดล-มาริษ เพราะข่าวว่า สีหศักดิ์ ไม่ค่อยมีสัมพันธ์การเมืองอะไรกับฝ่ายทักษิณและพรรคเพื่อไทยมากนัก

แต่ก็คาดว่า ชื่อรมว.ต่างประเทศ คนใหม่ ที่เศรษฐา -ทักษิณ จะดันขึ้นมา ถึงตอนนี้น่าจะมีอยู่แล้ว ที่อาจมีหลายตัวเลือก ภายใต้สูตรอย่างที่บอก คือจะเอา”คนใน”หรือ”คนนอก” พรรคเพื่อไทย และคงไม่ใช่สูตรที่ เศรษฐา จะควบ คือเป็นนายกฯควบ รมว.ต่างประเทศ

ส่วนรัฐมนตรี เศรษฐา 1 ที่ไม่ได้ไปต่อ ซึ่งก็แยกเป็นของเพื่อไทย คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรมว.สาธารณสุข –ไชยา พรหมา อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ -พวงเพ็ชร ชุณละเอียด อดีตรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
แต่ละคนก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป เช่น ไม่มีผลงาน-มีคนไปให้ข้อมูลกับทักษิณว่า มีปัญหาเรื่องการบริหารงานในกระทรวง -โดนปรับออกเพื่อเอาคนอื่นเข้าเป็นแทนตามโควตา

เช่นกรณีของ ไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู ก็ชัดเจนว่า ออกตามโควตาอีสาน แล้วเอา จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด มาเสียบแทน ในตำแหน่ง รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเรื่อง ไชยา ไม่มีผลงานจับต้องได้

ส่วนเจ๊แจ๋น พวงเพ็ชร แม้ข่าวว่าพยายามวิ่งเข้าหา คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เพื่อขอต่อวีซ่าไปอีกรอบ แต่ก็ไร้ผล ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเพราะถือว่าได้เป็นรมต.มาร่วมแปดเดือนก็ดีแล้ว เพราะผลงานเลือกตั้ง ที่คุมพื้นที่กทม.ล้มเหลวสิ้นเชิง ได้ส.ส.เขตมาแค่คนเดียว จาก 33 เขต แถมคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ หลายเขต ก็แพ้ก้าวไกลแบบไม่มีลุ้น แถมบางเขต ยังแพ้ รวมไทยสร้างชาติอีกด้วย แต่คาดว่าจะมีรางวัลปลอบใจให้หลังจากนี้ เพื่อรักษาหน้าไว้ให้

ขณะที่ “รวมไทยสร้างชาติ”เหตุที่  เสี่ยแฮ้งค์ อนุชา นาคาศัย รักษาเก้าอี้รมช.เกษตรฯไว้ไม่ได้ หลายคนมองว่าไม่แปลกใจ เพราะกำลังภายในสู้ เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ที่มาเป็นรมช.พาณิชย์แทนไม่ไหว อนุชา มีส.ส.ในกลุ่มแค่สองคน คืออนุชา กับธนกร วังบุญคงชนะ ที่ก็เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อีกทั้งแกนนำรวมไทยสร้างชาติ คงเชื่อว่าเลือกตั้งรอบหน้า ยังไง เสี่ยแฮงค์ คงกลับไปอยู่กับสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เพื่อไทย ดังนั้น ก็ริบเก้าอี้คืน แล้วให้ สุชาติ ที่ข่าวว่า ทุ่มหนักตอนเลือกตั้ง อีกทั้งสุชาติ มีส.ส.ในกลุ่มมาเคลมว่ามีประมาณ 6-7 คน รวมถึงเพื่อเป็นการซื้อใจ สุชาติ ไม่ให้ย้ายพรรค ไปอยู่กับภูมิใจไทย ตามที่มีกระแสข่าว

เจอเข้าแบบนี้ อนุชา เลยโดนยึดเก้าอี้ ไปให้ สุชาติ ชมกลิ่นอย่างที่เห็น