ชุมพร - อดีตตำรวจ พร้อมเมียตั้งบริษัททิพย์ต้มตุ๋น หลอกรับซื้อฉ้อโกงแม่ค้าขายส่งทุเรียนนับ 10 ราย รวมเงินกว่า 10 ล้านบาท ออกมารวมตัวร้องสื่อ หลังแจ้งความคดีไม่คืบ ยังลอยหน้าตระเวนหลอกเหยื่อให้หลงเชื่ออีกหลายราย
วันนี้ (27 เม.ย.) น ส.ศรีนภา ธาตุมี หรือเจ๊ไก่ อายุ 39 ปี ผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียนในตลาดอวยชัย หมู่ 4 ต.วงตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ตนและผู้ประกอบการอีกนับ 10 คน มีทั้งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ถูกแก๊งต้มตุ๋นซึ่งเป็นอดีตตำรวจ และเมีย คือ นายสารัช อายุ 26 ปี และ น ส.เบ็ญ อายุ 27 ปี 2 ผัวเมีย อยู่ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทรับซื้อผลไม้ตามฤดูกาล และพวกอีกหลายคนทำงานกันเป็นทีมมาติดต่อรับซื้อทุเรียนจากตน ครั้งที่ 1 วันที่ 12 ตุลาคม 66 จำนวน 2,200 กิโลกรัม เป็นเงิน 304,000 บาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 14 ตุลาคม 2566 จำนวน 2,000 กิโลกรัม เป็นเงิน 330,400 บาท ครั้งที่ 3 วันที่ 17 ตุลาคม 2566 จำนวน 1,615 กิโลกรัม เป็นเงิน 272,250 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 910,650 บาท
โดยมีนายสารัช เป็นผู้ติดต่อซื้อ การซื้อในงวดแรกนายสารัช จะจ่ายเงินดีและตรงตามที่ตกลงกัน แต่มางวดที่ 2 และที่ 3 เริ่มมีปัญหา จ่ายไม่ตรงตามข้อตกลงและทยอยจ่ายเพียงเล็กน้อย จนสุดท้ายไม่อีกจ่ายอีกเลย เมื่อทวงถามจะมีคนรับสายโยนกันเป็นทอดๆ อ้างโน่นนี่นั่น เหมือนทำกันเป็นขบวนการ
“เจ๊ไก่” กล่าวว่า นายสารัช เดิมเป็นตำรวจสังกัด สภ.แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ตราด ปัจจุบันได้ลาออกจากราชการแล้ว เนื่องจากถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมฉ้อโกง ปัจจุบัน ยังค้างไม่จ่ายหนี้ค่าทุเรียนตนอีกจำนวน 372,250 บาท ได้มีการแจ้งความคดีอาญาฐานฉ้อโกงไว้แล้วที่ สภ.หลังสวน จ.ชุมพร แต่ทุกวันนี้คดียังไม่คืบหน้า
ที่เจ็บปวดมากคือแก๊งนี้ยังไปต้มตุ๋นหลอกลวงผู้ประกอบการอีกหลายรายตามจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ตอนนี้ผู้เสียหายรวมกลุ่มกันได้แล้วเกือบ 10 คน ที่ถูกแก๊งอดีตตำรวจฉ้อโกง ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าจะต้องรวมตัวกันนำหลักฐานไปร้องทุกข์ต่อตำรวจสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตำรวจกองปราบ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งดำเนินคดีแก๊งต้มตุ๋นกลุ่มนี้ เพราะหากปล่อยไว้ยังจะมีผู้เสียหายถูกหลอกถูกฉ้อโกงมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้าน “ครูเบียร์” ผู้เสียหายอยู่ที่ จ.น่าน ได้วิดีโอคอลกับผู้สื่อข่าวเล่าถึงพฤติกรรมฉ้อโกงของแก๊งอดีตตำรวจกลุ่มนี้ว่า ทุกวันนี้ตนเป็นทุกข์มากต้องจ่ายหนี้ที่ไปซื้อขิงสดจากเกษตรกรมาส่งให้แก๊งต้มตุ๋นพวกนี้ แม้จะขายทรัพย์สินไปบางส่วนแล้วแต่ยังไม่พอใช้หนี้ ได้แจ้งความร้องทุกข์ตำรวจนานหลายเดือนแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า ตนโดนฉ้อโกงหลอกซื้อขิงสด จำนวน 14 รถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งแก๊งนี้ได้จ่ายเงินให้ตนเพียง 5 คัน จำนวน 9 แสนกว่าบาท ส่วนอีก 9 คัน จำนวนกว่า 1 ล้านบาท ไม่ยอมจ่ายให้
ครูเบียร์ เล่าต่อว่า กรณีของตนเหตุเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 สำหรับตนมี น.ส.เบ็ญ ผู้เป็นเมียนายสารัช ได้มากับพวกจำนวน 7 คน อ้างเป็นเจ้าของบริษัทเข้ามาติดต่อซื้อขิงสด การพูดจาดี มีหลักฐานน่าเชื่อถือ พฤติกรรมของแก๊งนี้งวดแรกๆ จะจ่ายเงินตีตามตกลงกัน พอเที่ยวหลังๆ สั่งซื้อจำนวนมากขึ้น แล้วไม่จ่ายเงิน แล้วปิดการสื่อสารทุกช่องทาง เมื่อตนตามไปยังบริษัทในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ที่แก๊งนี้ปักหมุดไว้ให้ ไม่ปรากฏว่ามีบริษัทดังกล่าวจริงตามที่กล่าวอ้าง จนปัจจุบันตนต้องขายทรัพย์สินที่ดินเพื่อนำเงินไปจ่ายให้เกษตรกรที่ปลูกขิงขายให้กับตน ที่นำไปขายต่อให้แก๊งนี้ แม้จะไปแจ้งความเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกงนานแล้ว แต่แก๊งนี้ยังอยู่เหมือนเดิม ยังมีพฤติกรรมหลอกหาเหยื่อไปเรื่อยๆ มีผู้เสียหายหน้าใหม่อีกจำนวนมาก
