ยิ่งลักษณ์ ทางสะดวก ป.ป.ช.ไม่อุทธรณ์คดี พ้นบ่วง-ลุ้นนิรโทษ
ในที่สุดการเมืองก็มาถึงจุดสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ภายหลัง 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นบ่วงคดีไปอีกหนึ่งคดี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 5 ต่อ 1 เสียงไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากกรณีที่ศาลฎีกาฯได้ยกฟ้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในคดีจัดอีเวนต์โรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทยเป็นเงินงบประมาณ 240 ล้านบาท
สำหรับกรรมการป.ป.ช.เสียงข้างมากที่เห็นควรไม่ยื่นอุทธรณ์และมีความเห็นสอดคล้องตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ประกอบด้วย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช., นายวิทยา อาคมพิทักษ์, นางสุวณา สุวรรณจูฑะ, นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ และ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ขณะที่ กรรมการป.ป.ช.เสียงข้างน้อย คือ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวก่อนหน้านี้ศาลฎีกาฯมีมติเอกฉันท์ให้ยกฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์และพวกรวม 6 คน เนื่องจากการไต่สวนพยานและหลักฐานพบว่าการนำงบกลางมาจัดดำเนินโครงการโรดโชว์ เป็นการดำเนินนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา อีกทั้งไม่ได้มีการกระทำในลักษณะที่เป็นการชี้นำหรือจูงใจหรือให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ จึงขาดเรื่องเจตนาพิเศษ ในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการอนุมัติจัดโครงการ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของป.ป.ช.ที่ไม่ยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว เท่ากับว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีคดีค้างในสารบบของป.ป.ช.อีกต่อไป คงเหลือแต่เพียงการรับโทษตามคำพิพากษาจำคุก 5 ปีในคดีโครงการรับจำนำข้าว ท่ามกลางการจับตาจากหลายฝ่ายว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาเสนอนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมถึงกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ หลังจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความคิดเห็นว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้