หมายจับ โจ๊ก น็อค ปปช.-ดีเอสไอ. เลิกป่วนคดีเสียที

หมายจับ โจ๊ก น็อค ปปช.-ดีเอสไอ. เลิกป่วนคดีเสียที

เมื่อตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ตามหมายจับของศาลอาญาแล้ว ต้องจับตาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.

เรื่องคดีความคงต้องสู้กันอีกยาวเป็นหนังชีวิต ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
แต่ตามหลักการการบริหารองค์กรตำรวจแล้ว เมื่อมีนายตำรวจต้องคดีอาญาร้ายแรงขนาดนี้

ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย สอบในรู้ผลภายใน 30 วัน หากพบว่าอยู่ในตำแหน่งไป ก็สร้างความเสื่อมเสียให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยทั่วไป ก็จะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยยังคงได้รับเงินเดือน มีเบี้ยหวัดบำนาญตามเดิม

เรียกว่าเป็นไฟต์บังคับ ในการดำเนินการกับตำรวจที่โดนคดีอาญาร้ายแรง เป็นแนวทางปกติทั่วไป ที่กระทำกันมาตลอด

งานนี้จึงอยู่ในมือของบิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. ที่นายกรัฐมนตรีส่งมากวาดบ้าน จะต้องดำเนินการกับบิ๊กโจ๊ก อย่างตรงไปตรงมา

ซึ่งก็น่าจะรวมไปถึงบรรดาลูกน้องรอบเอวบิ๊กโจ๊กทั้ง 8 ที่โดนคดีส่วยมินนี่ชุดแรก และลูกน้องอีก 4 นาย ที่โดนคดีส่วยมินนี่ชุดสอง สมควรโดนกวาดไปพร้อมกันบิ๊กโจ๊ก

เพราะพอปล่อยให้ตำรวจสีเทาพวกนี้ ได้อยู่ในตำแหน่งตามเดิม ก็มีปัญหาฤทธิ์เยอะ แม้แต่พนักงานอัยการ ยังโดนกลุ่มลูกน้องบิ๊กโจ๊กไปตามข่มขู่

ที่ผ่านมา บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก็ลอยตัวลูกเดียว ไม่กล้าแตะต้องทางวินัยกับเหล่าลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก เพราะกลัวโดนบิ๊กโจ๊กเล่นงานกลับ อย่างที่โดนไปแล้วตอนนี้

กลายเป็นตำรวจเด็กๆ คณะพนักงานสอบสวน ต้องรวมตัวกันเป็น “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ด้วยลำแข้งตัวเองทั้งสิ้น ทุกคนเดิมพันกันด้วยชีวิตราชการของแต่ละคนเลยทีเดียว
ตอนนี้บิ๊กโจ๊กอ้างหลักการ เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เชื่อมั่นว่าตัวเองบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

คำถามก็คือ แล้วทำไมก่อนหน้านี้ ถึงปล่อยของออกมาเป็นชุดๆ เขย่ากระบวนการยุติธรรมอย่างหนัก ทำตัวเหนือกฎหมาย ไม่สนหมายเรียกใดๆ

ต้องรอให้ศาลออกหมายจับออกมา โดยมีถ้อยคำเน้นกันชัดๆ ถึงกำราบให้บิ๊กโจ๊ก ต้องทำท่าเคารพกฎหมาย

โดยในหมายจับในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ออกโดยศาลอาญา รัชดา ระบุชื่อผู้ถูกกล่าวหาชัดเจนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

คราวนี้จะมางอแงโวยวายไม่ได้ ว่ามาใส่ชื่อนำหน้าว่า “นาย” ได้ยังไง ทำไมไม่ใส่ยศชัดๆ
หมายจับระบุเลยว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และก่อเหตุอันตรายประการอื่น
จึงให้จับตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ส่งดำเนินคดี สน.เตาปูน ภายในอายุความ 20 ปี

สิ่งที่บิ๊กโจ๊กต้องทำจากนี้ คือต่อสู้คดีไปตามสิทธิ มีทีมทนายความเก่งๆ ก็ให้ไปสู้ในศาล ดีกว่าจะมาสู้นอกศาล

อึกอักก็บอกพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ ต้องส่งให้ ป.ป.ช.อันอบอุ่นสถานเดียว จนศาลต้องแสดงความชัดเจนผ่านหมายจับ ว่าคดีฟอกเงิน โทษจำคุกเกิน 3 ปี ต้องมาที่ศาล
ขณะที่เบี้ยบนกระดาน อย่างทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จะลุยแฉลากบิ๊กต่อ ต่อไปหรือไม่อย่างไร ก็ไม่ได้ช่วยให้ลูกพี่ มีแต้มต่อในการต่อสู้คดีในศาลแต่อย่างใด

ก็แค่เรื่อง กูชั่ว มึงเลว ระบายอารมณ์แค้น ระหว่าง “หวานเจี๊ยบ” กับ “เฟรนด์ลี่”

ขณะที่ ป.ป.ช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ต่างตั้งท่ารับลูกบิ๊กโจ๊ก คอยปัดแข้งปัดขาพนักงานสอบสวนตำรวจ ก็ได้แต่หงายเงิบไปตามๆ กัน ได้เวลาแยกย้ายไปทำงานเสียที

อย่าทำตัวขยันจนเข้าตำรา 'ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม'

ตอนนี้ ตำรวจต้นน้ำพร้อม ศาลปลายน้ำพร้อม ก็เหลือแต่อัยการกลางน้ำเท่านั้น ต้องพร้อมทำคดีอย่าตุกติกเหมือนปปช.

อย่าให้องค์กรเสียหาย เหมือนคดีเว็บพนัน หลายๆ คดีที่ผ่านมา ที่แอบเป่าทิ้งเงียบๆแลกเงินก้อนใหญ่อย่างที่คนนินทา หมาดูถูก