'ทักษิณ' เลิกเหนียม เดินสาย-เข้าเพื่อไทย เมิน กม.พรรคการเมือง
นับตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ ประกาศว่าใครไม่ชอบก็ต่างคนต่างอยู่ ก็ปรากฎว่าไม่อ้อมค้อมกันให้เสียเวลาแล้ว เปิดตัวพบมิตรรักแฟนคลับชัดเจน
ล่าสุดจะด้วยความบังเอิญหรือไม่ คงไม่มีใครรู้ เพราะได้ปรากฎภาพเดินทางไปยังใจกลางเมืองอย่างสีลมเพื่อตัดผมที่ร้านแถวสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีแฟนคลับมารอขอถ่ายรูปจำนวนหนึ่ง พร้อมกับสอบถามถึงความเป็นอยู่ของประชาชนในยามที่เศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้
การเดินทางไปตัดผมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นอาจยังไม่พอ เพราะในวันที่ 26 มีนาคม เตรียมเดินทางไปยังพรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ส.เข้าพบตนเองด้วย แทนการให้ส.ส.เดินทางไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวกับครอบครัว
ในเรื่องของการเดินทางไปยังพรรคเพื่อไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าพรรคก็ไม่แปลกอะไร เพราะอดีตนายกเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย เมื่อท่านมีโอกาสกลับมาก็คิดถึง สส. ถือว่า เป็นธรรมดาของปุถุชนคนหนึ่ง หลายคนคงคิดถึงอดีตนายกฯ เพราะเมื่อตอนอยู่โรงพยาบาลก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเยี่ยม ขณะที่อยู่บ้านพักส่วนตัวก็ยังไม่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมเช่นกัน แต่หากนายทักษิณเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นการดีเพราะหลายคน ก็คิดถึงและอยากจะเจอ
ส่วนเรื่องข้อกฎหมาย มีประเด็นจะเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า หากย้อนกลับไปในสมัยก่อตั้งพรรค ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีแต่คนให้ความเคารพรักนับถือ คงไม่ได้เป็นการครอบงำพรรค เพราะการบริหารพรรคก็จะมีหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว การตัดสินใดๆก็ต้องผ่านมติของกรรมการบริหารพรรค
ข่าวว่าในวันอังคารที่ 26 มีนาคมนี้ นายทักษิณ อดีตนายกฯจะเดินทางมาที่พรรคเพื่อไทยในเวลา 13.45 น. เพื่อเปิดโอกาสให้ สส.เข้าพบโดยอาจจะเป็นการทยอยเข้าพบเป็นกลุ่ม ๆ ตามรายจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด เพราะที่ผ่านมามี สส.จำนวนมากต้องการพบนายทักษิณเพื่อเยี่ยมเยียน ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบอดีตนายกฯ อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณในวันที่ 26 มีนาคม จะมาเพื่อให้ สส.พบเพื่อเยี่ยมเยียนอย่างเดียวเท่านั้นจะไม่เข้าไปร่วมประชุมพรรคหรือเกี่ยวข้องใด ๆ กับการประชุมในวันดังกล่าว
สำหรับข้อกฎหมายเกี่ยวกับห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกกระทำการครอบงำพรรคการเมือง ปรากฎอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 มาตรา 29 ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม" โดยการฝ่าฝืนที่จะมีโทษตามมาตรา 108 ที่ระบุว่า "ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 29 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น"