อุทัยธานี - แม่ทนไม่ไหว..วอนขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวเด็ก นร.ชั้น ป.1 วัย 6 ขวบ ถูกครูสาวตีหลัง-ขังไว้ในห้องสมุด ตั้งแต่เข้าเรียนเทอมแรก เทอมสองยังโดนอีก จนหวาดผวาไม่กล้าไปโรงเรียน เผยเคยถามครูสาวบอก..ก็ฉันเป็นคนแบบนี้ ร้องผู้บริหารโรงเรียน แจ้ง ตร.แล้ว แต่กลัวเรื่องเงียบ
สาวอายุ 27 ปี ชาวหมู่ 2 บ้านบุ่งกระเซอร์ ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวหลังลูกสาววัย 6 ขวบถูกครูสาวตีที่หลังอยู่บ่อยครั้ง หนำซ้ำยังนำไปขังไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียน จนลูกสาวไม่ยอมไปโรงเรียน และมีอาการหวาดผวาเมื่อพูดถึงครูสาวคนดังกล่าว
จากการลงพื้นที่พบกับนางสาวสุนิษา จันทร์หอม ผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าว เปิดเผยเรื่องราวว่า ลูกสาวตนเรียนอยู่ชั้น ป.1 ของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในอำเภอลานสัก มาบอกว่าถูกครูนัน (นามสมมติ) ตีที่หลังจนจุก ก่อนนำไปขังไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียนอีก ตีตั้งแต่เข้าเรียนเทอมแรกและเทอมที่สองในเดือนธันวาคม 66 ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา พอถึงเวลาที่จะพาลูกไปส่งโรงเรียน ลูกสาวจะหวาดกลัวและร้องไห้ พร้อมบอกกับตนว่าไม่อยากไปโรงเรียนเพราะกลัวถูกครูตีซ้ำอีก
เมื่อทราบเรื่องจากลูกก็ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันต่อ พ.ต.ท.กิตติ สุขวงษ์คำ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสัก เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และแจ้งผู้บริหารโรงเรียนให้ได้ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้แจ้งมาว่าส่งเรื่องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุทัยธานี เขต 2 แล้ว
แต่ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม และกลัวว่าเรื่องจะเงียบ จึงตัดสินใจร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของลูกไม่เหมือนเดิม แม้ตอนนี้ลูกถูกย้ายให้ไปเรียนร่วมกับห้องอื่นไม่ได้เรียนกับครูสาวรายนี้แล้วก็ตาม ลูกก็ยังมีอาการหวาดกลัวอยู่ จนเรียนไม่ทันเพื่อน
“ที่ผ่านมาเคยไปคุยกับครูสาวรายนี้ด้วยเช่นกัน แต่กลับได้คำตอบมาว่าไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับเด็ก แต่ดูจากที่ได้สัมผัสพูดคุยกันแล้ว เหมือนกับว่าครูสาวนั้นจะให้เด็กปรับตัวเข้าหาเขาอย่างเดียว ตัวเองไม่ยอมปรับตัวเข้าหาเด็กเลย คือจะแว้ดๆ ใส่อย่างเดียว แล้วก็มาบอกว่าก็เขาเป็นคนแบบนี้ ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันเป็นคนแบบนี้ ทำให้รู้สึกว่าเรื่องที่ลูกสาวพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง” นางสาวสุนิษากล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) บอกว่าถูกครูตีหลังอย่างแรงมากจนเจ็บหลัง และถูกครูพาไปขังไว้ที่ห้องสมุดด้วย แต่วันที่ถูกขังนั้นมีนักเรียนทำเวรห้องสมุดอยู่ด้วย พร้อมกับยอมรับว่า รู้สึกกลัวครูรายนี้ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของครูนัน (นามสมมติ) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางครูสาวรายนี้กล่าวว่าไม่ขอให้ข่าวหรือชี้แจงอะไรกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้วย โดยกล่าวแค่เพียงว่า เรื่องนี้ทางเขตพื้นที่การศึกษาฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และอยู่ในระหว่างรอผลสอบ
