เกาะสมุยล่าข้ามโลกแก๊งรัสเซียปล้นเงินคริปโตฯ เพื่อนร่วมชาติก่อนหลบหนีออกนอกประเทศ แต่สุดท้ายไม่รอด

สุราษฎร์ธานี - ตำรวจภาค 8 ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจเกาะสมุย ล่าข้ามโลก แก๊งปล้นเงินคริปโตฯ เพื่อนร่วมชาติชาวรัสเซีย หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศคาซัคถาน ล่าสุดตำรวจตามจับกุมตัว พร้อมนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่เกาะสมุย


วันนี้ (15 มี.ค.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.อดิพัฒน์ กรึงไกร รอง ผบก.สส.ภ.8 มอบหมายให้ พ.ต.อ.จิตปะพัทธ์ เอกโพธิ์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ แดงไชย สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 ร่วมกับ พ.ต.ต.สวัสดิ์ ทัสวัลส์ สว.สส.สภ.เกาะสมุย พ.ต.ต.พสธร กุลจิตติชุติพร สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา นายเเดเนียล อูเกย์ Mr.DANIL UGAY อายุ 43 ปี สัญชาติรัสเซีย ความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการโดยหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยใช้กำลัง ประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำอมต่อสิ่งนั้น”

หลังจากตำรวจสากลประสานมายังตำรวจภาค 8 ว่าจะมีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 13/2565 ลงวันที่ 3 ต.ค.2565 กำลังจะเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน AIR ASTANA เที่ยวบินที่ KCatine เส้นทาง ALA-BKK ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดู โดย นายแดเนียล อูเกย์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาขึ้นเครื่องเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาท่าอากาศยานเกาะสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน


จากนั้นนำผู้ต้องหาเดินทางต่อไป สภ.เกาะสมุย เพื่อสอบปากคำ พร้อมนำตัวเข้าห้องขัง สภ.เกาะสมุย เพื่อรอส่งศาลจังหวัดเกาะสมุย ดำเนินคดีต่อไป

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ได้มี MR.evgenII นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย อายุ 31 ปี เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ ทัพภะ สารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่าขณะที่ตนกับภรรยานั่งดื่มกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่งในตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย ได้มีรถตู้สีดำจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้มาจอดที่หน้าร้าน ต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติจำนวน 4 คนลงมาจากรถ พร้อมทั้งผู้ร่วมก่อเหตุและขับจักรยานยนต์สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาสมทบอีก 2 คน รวมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน บุกเข้ามาจี้ตนพร้อมทั้งข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย โดยให้ตนโอนเงินสกุลคริปโตฯ มูลค่าประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 112 ล้านบาท


ซึ่งในตอนนั้น นาย evgenII ให้การว่าตนมีเงินประมาณ 58,000,00 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.2 ล้านบาท จึงได้โอนให้ทางกลุ่มโจรไปเป็นจำนวน 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท เนื่องจากผู้เสียหายกลัวว่าจะได้รับอันตราย

จากนั้นตำรวจสืบสวนภาค 8 พร้อมตำรวจ สภ.เกาะสมุย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ทำการแกะรอยสืบหา และสามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมแก๊งไว้ได้ ส่วนนายแดเนียล อูเกย์ ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ที่พาเพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุ และหลังเพื่อนถูกจับกุมตัว นายแดเนียล ได้หลบหนีเดินทางออกนอกประเทศ และไปกบดานอยู่ที่ประเทศคาซัคถาน ก่อนถูกจับกุมตัวและนำตัวกลับมายังประเทศไทยในบ่ายวันนี้

สำหรับแก๊งรัสเซียกลุ่มนี้ที่เข้ามาก่อเหตุเพื่อนร่วมชาติในประเทศไทย จะเคลื่อนไหวอยู่ใน 4 จังหวัด ประกอบไปด้วย จ.ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งการจัยกุมแก๊งนี้ โดยนายแดเนียลเป็นผู้ต้องหารายสุดท้าย และเป็นการปิดจ๊อบคดีปล้นเงินคริปโตฯ บนเกาะสมุย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปเมื่อ 2 ปีก่อน