นครศรีธรรมราช - ตำรวจตามสืบจนพบร่างสาวพม่าพนักงานร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช หลังเพื่อนแจ้งหายตัวไป ตร.เชื่อถูกอดีตแฟนหนุ่มฆ่าทิ้งศพบ่อน้ำในกุฏิร้างหลังวัด ฉกทอง 3 บาทไปขายก่อนหลบหนี
วันนี้ (11 มี.ค.) ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้แจ้งวิทยุด่วนเข้า สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากการสืบสวนติดตาม น.ส.ซูซาอัง หรือที่รู้จักในชื่อ “สา” อายุประมาณ 30 ปีเศษ ที่ถูกระบุว่าหายตัวไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ถูกพบกลายเป็นศพถูกทิ้งอยู่ในบ่อน้ำร้างที่ไม่ได้ใช้งานในกุฏิร้างหลังวัดท้าวโคตร ในตลาดชุมชนท้าวโคตรในเขตรั้ววัด ถนนราชดำเนิน ต.ศาลามีชัย อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงแจ้งไปยัง พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผู้กำกับการ พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มชัย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบว่าอยู่หลังตลาดชุมชนเป็นกุฏิร้างรอรื้อถอน ตอนหลังของกุฏิเป็นบ่อน้ำเก่าลึกลงไปราว 3.5 เมตร พบศพหญิงสาวถูกทิ้งอยู่ก้นบ่อสภาพเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3-4 วัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต็กเซี่ยงตึ๊งได้โรยตัวลงไปเพื่อพิสูจน์ทราบยืนยันจนแน่ชัด จากนั้นจึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรเข้าตรวจสอบ พบว่าหญิงรายนี้คือ น.ส.ซูซาอัง หรือที่รู้จักในชื่อ “สา” มีอาชีพเป็นพนักงานโซนเครื่องดื่มร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของเมืองนครศรีธรรมราช และยังเป็นดาวโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม เป็นที่รู้จักกันดีในวงกว้างของนครศรีธรรมราช หายตัวไปหลังจากออกจากที่ทำงานไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นได้บันทึกคลิปสุดท้ายไว้อย่างสวยงาม
พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนติดตามตั้งแต่รับแจ้งคนหาย จนพบว่าใครเป็นใครเมื่อวานนี้ ชัดเจนทั้งหมดแล้ว อยู่ในระหว่างการรอขอหมายจับ พบว่าอดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายนำทองคำรูปพรรณของผู้ตายไปขาย มีภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมด รวมทั้งภาพจากการไล่กล้องก่อนหายตัวจนหายไปละแวกใกล้เคียงกับกำแพงวัดท้าวโคตร ซึ่งใกล้เคียงกับบ้านของอดีตแฟนเก่าของผู้ตาย
เจ้าหน้าที่ได้ติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ออกค้นหาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ค้นหาทุกซอกทุกมุมในพื้นที่สงสัย จนกระทั่งพบศพอยู่ในบ่อนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วหมายจับสามารถขอได้ก่อนหน้านี้แล้วในข้อหาที่เกี่ยวกับทรัพย์ แต่ด้วยที่เชื่อว่าการหายตัวไปนั้น น.ส.ซูซาอัง จะต้องเสียชีวิตแน่จึงค้นหาศพจนพบ รูปคดีจึงเปลี่ยนไป ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นได้หลบหนีไปตั้งแต่ 2 วันหลังเกิดเหตุคือราววันที่ 6-7 มี.ค.67
ขณะที่กลุ่มเพื่อนของผู้ตายจากร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งเพื่อนชายคนสนิทคนใหม่ได้เข้ามาดูที่เกิดเหตุต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าผู้ตายเป็นคนขยันมาก ไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาใดๆ กับใครให้ฟัง เอาการเอางาน นอกจากทำงานในโซนเครื่องดื่มแล้ว ในช่วงกลางคืนยังไปทำพาร์ทไทม์ชำแหละไก่กับนายจ้างคนเก่า และยังเช่าห้องเช่าของนายจ้างอยู่ด้วย
โดยถูกระบุว่าหลังจากหายตัวไปนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้นำรถจักรยานยนต์สีชมพูของผู้ตายมาจอดไว้ที่บ้าน ก่อนที่ชายคนนั้นได้หลบหนีไป ซึ่งชายดังกล่าวได้ถูกยืนยันว่าคือ “นาย” เป็นอดีตแฟนเก่าที่พยายามมาขอคืนดีกับผู้ตาย แต่ไม่ได้ถูกตอบรับคืนดีด้วยก่อนที่จะถูกนำตัวไปแล้วเกิดเหตุขึ้น
