ผงะ บัญชีม้าทีมโจ๊ก เส้นเงินโผล่งานกฐิน โอนเงินบาปทำบุญ
ทีมสอบสวนของนครบาล คดีเจ้าแม่มินนี่ มีความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง เมี่อไล่ตามเส้นทางการเงินจากบัญชีม้า ที่ดูแลโดยลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. แล้วพบ “เส้นเงิน” ไปโผล่แม้กระทั่งที่วัด
โดยทีมสอบพบเงินจากบัญชีม้า ถูกบริจาคให้กับวัดศาลาปูนวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี 2565
ดังนั้น เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ทีมสอบสวน จึงเดินทางไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบปากคำพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร และเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา ถึงที่มาถึงที่ไป ทำไมวัดถึงได้รับเงินบริจาคหลักแสนบาท อันเป็นเงินจากบัญชีม้า
พระครูอนุกูลศาสนกิจ ซึ่งเตรียมทนายความมาพร้อม ได้ให้การอย่างเคร่งเครียดกับพนักงานสอบสวน นานหลายชั่วโมง เนื่องจากเจ้าอาวาสไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ที่ได้รับเงินผิดกฎหมายมา ผ่านการทำบุญ รู้สึกว่าบิ๊กโจ๊ก เป็นตัวการสร้างความเดืดดร้อนให้กับวัด
ผลการสอบสวนครั้งนี้ ทราบว่า หลังจากบิ๊กโจ๊กบริจาคเงินทำบุญนับแสนบาท ก็ได้ขอให้ทางวัดออกใบอนุโมทนาบัตรให้ด้วย ซึ่งทางวัดก็ดำเนินการให้ในชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตามที่ร้องขอมา ซึ่งบิ๊กโจ๊ก สามารถเอาใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าว ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
ทั้งนี้ บัญชีม้าที่บริจาคเงินนับแสน ให้วัดศาลาปูนวรวิหารดังกล่าว ก็เป็นบัญชีม้าเดียวกัน กับที่รับมาจากเว็บพนันเจ้าแม่มินนี่ และมีการโอนเงินผ่านบัญชีม้า จ่ายค่ากรมธรรม์ประกันชีวิต ให้คนในครอบครัวบิ๊กโจ๊กหลักล้านบาท
หลักฐานล่าสุดนี้ จึงมัดตัวบิ๊กโจ๊กซ้ำอีกเปลาะ ว่าบิ๊กโจ๊กน่าจะรู้เห็นกับการใช้จ่ายเงินจากบัญชีม้า ไม่ใช่แค่เฉพาะลูกน้องที่จัดการไปเองโดยพลการ เจ้านายไม่เกี่ยว อย่างที่เจ้าตัวอ้างมาโดยตลอด
จากการตรวจสอบย้อนหลัง พบคลิปข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานไว้ ระบุว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ขอรับพระราชทานผ้ากฐินพระราชทาน ปี 2565 จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาถวายที่วัดศาลาปูนวรวิหาร โดยมีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกอบจ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมในพิธีครั้งนั้น
โดยมี พระครูอนุกูลศาสนกิจ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นองค์ประธาน นำพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา โดยมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินถวายมาพร้อมกฐินพระราชทาน ประจำปี 2565 จำนวน 3 ล้านบาท
ขั้นตอนต่อจากนี้ ทีมสอบสวนจะตรวจสอบว่า บิ๊กโจ๊กได้ใช้ใบอนุโมทนาบัตรจากวัดศาลาปูนวรวิหาร ไปขอลดหย่อนภาษีหรือไม่ แล้วยังต้องขยายผลสอบสวนไปยังวัดต่างๆ เนื่องจากบิ๊กโจ๊ก มีพฤติกรรมเดินสายทำบุญในลักษณะเดียวกัน
เรียกว่า ยังมีอีกหลายวัด เข้าข่ายเดือดร้อนตามๆ กัน เมื่อดันมีคนเอาเงินสกปรก เงินบาปมาฟอกกับงานบุญทางศาสนา