เศษฝรั่งเตะหมอ ดูถูกศักดิ์ศรีคนไทย ไล่มันกลับบ้านไป

เศษฝรั่งเตะหมอ ดูถูกศักดิ์ศรีคนไทย ไล่มันกลับบ้านไป  
จากกรณีแพทย์หญิงธารดาว จันทร์ดำ หรือหมอปาย ถูกนายเดวิด ฝรั่งต่างชาติชาวสวิส เจ้าของวิลล่าหรูบริเวณหาดยามู จังหวัดภูเก็ต ประเคนแข้งใส่แผ่นหลังจนได้รับบาดเจ็บพร้อมกับด่าทอเหยียดหยามว่า
เป็นคนไทยชั้นต่ำ

สาเหตุมาจากหมอปายกับเพื่อนไปนั่งเล่นบนบันไดวิลล่าของนายเดวิด ซึ่งติดกับหาดทรายเมื่อคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
สื่อทุกสำนักตีแผ่พฤติกรรมถ่อยของนายเดวิดที่เคยกระทำในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตลอดจนเร่งรัดในการดำเนินคดีกับนายเดวิดในข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายเดวิดก็แจ้งความหมอปายกับเพื่อนในข้อหาบุกรุกเช่นกัน

ทั้งนี้นาย ปัณยา สำเภารัตน์ นายอำเภอถลาง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี ตำบลป่าคลอก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุร่วมกัน ระบุว่า พื้นที่ของวิลล่าดังกล่าวยังเป็น นส.3ก ซึ่งเจ้าของโครงการอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องขอเอกสารสิทธิ์ครอบครองโฉนด และบริเวณทางเข้าโครงการไปถึงชายหาด ระยะทางประมาณ 100 เมตร เป็นภาระที่เจ้าของโครงการต้องยินยอมให้บุคคลทั่วไปใช้ในการสัญจรลงสู่ชายหาดซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ

ส่วนในจุดที่มีการสร้างบันไดจากวิลล่าลงสู่หาด เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า บันไดขั้นที่ 2 ถึงบันไดขั้นที่ 4 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย เป็นการสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ จึงได้สั่งให้ทำการรื้อถอนและแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะแล้ว

เมื่อเป็นดังนี้การที่นายเดวิดระบุว่า แพทย์หญิงธารดาวบุกรุกจึงขัดต่อข้อเท็จจริง

ทางด้านแพทย์หญิง ธารดาว หรือหมอปาย ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของจังหวัดภูเก็ตแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า การที่ตนเองออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของคนไทยที่ไม่ควรจะถูกชาวต่างชาติที่เข้ามาหากินบนผืนแผ่นดินไทยดูถูกเหยียดหยาม ว่าเป็นคนพื้นเมือง อีกทั้งคู่กรณีอวดอ้างว่า มี คนหนุนหลัง รู้จักนายตำรวจใหญ่ โดยเฉพาะภรรยา ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน ถึงกับกล่าวว่า สามารถยิงตนเองซึ่งเป็นผู้บุกรุกให้ตายได้เลย โดยไม่ติดคุก เพราะมีลูกเป็นตำรวจ

หมอปายยืนยันว่า ขณะที่นั่งอยู่บนบันไดวิลล่าขั้นสุดท้าย เท้ายังเหยียบอยู่บนผืนทราย ซึ่งอยู่นอกวิลล่า และตนเองมองไม่เห็นป้ายที่ปักไว้ว่า เป็นพื้นที่ส่วนตัวห้ามบุกรุก

แต่สิ่งที่ตนเองรับไม่ได้ นอกเหนือจากการถูกทำร้ายก็คือ การที่นายเดวิดเหยียดหยามว่า เป็นคนไทยพื้นเมืองและด่าว่า อย่างหยาบคาย ให้ออกไปจากพื้นที่ส่วนตัวของเขา ซึ่งหมอปายยืนยันว่า ในส่วนของคดีความจะดำเนินการจนถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความใดๆ

อย่างไรก็ตาม นายเดวิดซึ่งถูกแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมทนายความ ได้ออกมาแก้ตัวว่า ตนเองสะดุดบันไดทำให้เท้าไปโดนแผ่นหลังของแพทย์หญิงคนไทยโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งขัดแย้งกับคลิปวีดีโอที่ถูกเปิดเผย และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นายเดวิดซึ่งเป็นเจ้าของกิจการปางช้างในจังหวัดภูเก็ตเดินตรงที่เข้าหาหมอปายกับเพื่อนที่นั่งหันหลังให้

จากนั้นนายเดวิดได้ตะโกนด่าหยาบคาย ถึงขั้นใช้คำว่า “Fuck Off” และมีเสียงกระแทกร่างกายอย่างรุนแรงเหมือนการเตะ

ทั้งนี้ทนายความซึ่งเป็นคนไทย แต่รับงานแก้ต่างให้กับชาวต่างชาติระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนายเดวิดในระดับหนึ่ง เชื่อได้ว่า ไม่ได้มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายอย่างที่คู่กรณีระบุ ส่วนการที่นายเดวิดลูกความของตนตรงรี่เข้ามาหาคู่กรณี เป็นเพราะวิลล่าแห่งนี้เคยถูกบุกรุก และมีการวิวาทมาแล้วหลายครั้ง นายเดวิดจึงเข้าใจผิดคิดว่าจะเป็นการกระทำในลักษณะเดียวกัน อีกครั้งหนึ่ง

พฤติกรรมของนายเดวิดและภรรยาซึ่งเป็นคนไทย เป็นเรื่องที่เกินกว่าจะรับได้ โดยเฉพาะภรรยาของนายเดวิด ซึ่งดูหมิ่นเหยียดหยามคนไทย แถมอ้างถึงเส้นสายในวงการตำรวจ ซึ่งดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย เพราะนางเป็นผู้โทรศัพท์ เรียกตำรวจมายังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และได้รับการตอบสนองอย่างทันใจ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเดินทางมาถึงในไม่กี่นาที ยังตัดสินด้วยว่า แม้นายเดวิดจะเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย แต่หมอปายกับเพื่อน ก็เป็นฝ่ายบุกรุกเช่นกัน

นาทีนี้เรื่องราวทั้งหมดได้ลุกลามบานปลาย และส่งผลอย่างรุนแรง ต่อนายเดวิดที่กำลังจะถูกตรวจสอบในทุกมิติ และอาจบานปลายไปถึงขั้นเส้นทางการเงิน การเสียภาษี หรือร้ายแรงสุด อาจเป็นไปตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้สัมภาษณ์ว่า จะต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น หากพบว่า กระทำผิดร้ายแรงก็จะเสนอให้ยกเลิกสิทธิ์ในการพักอาศัยในประเทศไทยก็เป็นได้

นายเดวิด เศษฝรั่งชาวสวิส ควรได้รับผลกับการกระทำของเขาอย่างสาสม เศษฝรั่งแบบนี้ ไม่ควรจะให้อยู่บนแผ่นดินไทย อีกต่อไป