สตง.ลุ้น ผู้ว่าฯ คนใหม่ มณเฑียร เจริญผล
มีความเคลื่อนไหวของ “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน”หรือสตง. ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระ
เนื่องจากที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา เห็นชอบ ให้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ก็คือ
“นายมณเฑียร เจริญผล” รองผู้ว่าฯสตง.ลูกหม้อของสตง.
การพิจารณาตรวจสอบประวัติและความประพฤติผู้ได้รับการสรรหา ให้เวลาในการดำเนินการ 60 วัน และเมื่อพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ส่งรายงานต่อที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ให้นายมณเฑียร เป็นผู้ว่าฯสตง.คนใหม่
ผู้ว่าฯสตง.มีวาระการทำงานหกปี จะมาแทน นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าฯสตง.ที่จะพ้นจากตำแหน่งเดือนก.พ.นี้ โดยนายมณเฑียร จะต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากสว.ไม่น้อยกว่า 125 เสียงหรือเกินกึ่งกึ่งของสว.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 250 คน ถึงจะถูกเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเป็นผู้ว่าฯสตง.คนใหม่
อย่างไรก็ตาม การที่สภาฯ จะปิดสมัยประชุมช่วงวันที่ 9 เมษายน จึงทำให้กว่าที่จะมีการนำเรื่องนี้กลับมาให้สว.พิจารณาอีกครั้ง ก็คงต้องรอให้ถึงการประชุมสภาฯสมัยหน้า ทำให้หลังนายประจักษ์ พ้นจากผู้ว่าฯสตง.ไป ตัวนายมณเฑียรในฐานะรองผู้ว่าฯสตง.อาวุโสอันดับหนึ่ง ก็จะขึ้นมารักษาการผู้ว่าฯสตง.ต่อไป จนกว่ากระบวนการเลือกผู้ว่าฯสตง.คนใหม่เสร็จสิ้นลง
และต่อจากนี้อีกไม่นาน ก็จะคราวต้องมีการเลือก-เห็นชอบ “กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน”(คตง.) ที่เป็นบอร์ดของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพราะบอร์ดคตง.บางคนก็จะหมดวาระการทำหน้าที่ในอนาคต หลังจากนี้ จึงทำให้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจฯ
สำหรับสตง.ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะยุคประจักษ์ เป็นผู้ว่าฯสตง.ต้องถือว่า เงียบมาก หากเทียบกับการทำงานของผู้ว่าฯสตงฯคนอื่นก่อนหน้านี้เช่น คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา หรือหญิงเป็ด ที่ทำให้สตง.ยุคคุณหญิงจารุวรรณ ถูกพูดถึงเยอะกับการเข้าไปตรวจสอบงบประมาณและโครงการต่างๆ ของรัฐบาลโดยเฉพาะยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่สตง.เข้าไปตรวจสอบและทำหนังสือทักท้วงหลายโครงการ
จนทำให้ ฝ่ายการเมืองในรัฐบาลไทยรักไทยเวลานั้นร่วมกับ สว.ยุคเลือกตั้งชุดแรกปี 2543 วางแผนเขี่ยคุณหญิงจารุวรรณ ออกจากผู้ว่าฯสตง. จนเรื่องยืดเยื้อเกือบ2-3 ปี แต่สุดท้าย คุณหญิงจารุวรรณ ก็กลับมาเป็นผู้ว่าฯสตง.อีกครั้ง แต่สุดท้าย บั้นปลายชีวิต ของคุณหญิงจารุวรรณ ก็จบไม่สวยมากนัก หลังโดนเรื่องคดีความ จนตกเป็นจำเลยในชั้นศาล
นอกจากนี้ สตง.ยุคที่มี ผู้ว่าฯสตง.ชื่อ”พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” อดีตมือขวา คุณหญิงจารุวรรณ ก็ถือว่าเป็นยุคที่สตง.ถูกพูดถึงไม่น้อยกับการเข้าไปตรวจสอบโครงการนโยบายต่างๆ แม้แต่กับยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตาม
แต่มาถึงยุค ประจักษ์ ที่ขึ้นมาในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ การทำงานของสตง.ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับยุค คุณหญิงจารุวรรณ-พิศิษฐ์ ที่อาจเป็นเพราะบุคลิกของนายประจักษ์ ที่ไม่ค่อยชอบให้ข่าว ไม่อยากเป็นข่าวทางสื่อมวลชน จึงทำให้การทำงานของสตง.หกปีที่ผ่านมาเลยค่อนข้างเงียบแม้จริงๆ จะมีผลงานหลายเรื่อง แต่ไม่มีการออกมาให้ข่าว
อย่างเรื่อง การจัดซื้อเสาไฟกินรี หรือเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ของอบต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการที่อื้อฉาว ก่อนที่ป.ป.ช.จะเข้ามาตรวจสอบ ทางสตง.เป็นต้นเรื่องในเรื่องนี้ก่อนส่งเรื่องต่อไปยังป.ป.ช.
ดังนั้นจึงต้องดูว่า การทำงานของ ผู้ว่าฯสตง.คนใหม่ หากเป็นนายมณเฑียร สุดท้าย สตง.ยุคต่อจากนี้ จะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของทุกหน่วยราชการ-รัฐวิสาหกิจ-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้ดีแค่ไหน รวมถึงการเข้าตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล และการจัดซื้อจัดจ้างของหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
เพื่อทำให้ สตง.ไม่ใช่เสือกระดาษ แต่เป็นเสือที่มีเขี้ยวเล็บ ในการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นเงินภาษีประชาชน