xs
xsm
sm
md
lg

“อัยการสูงสุด” จี้ “ผบ.ตร.” คุ้มครอง “อธิบดีอัยการ” หลังถูกผู้ต้องคดีมินนี่คุกคาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“อัยการสูงสุด” จี้ “ผบ.ตร.” คุ้มครอง “อธิบดีอัยการ” หลังถูกผู้ต้องคดีมินนี่คุกคาม


“สนง.โฆษกอัยการสูงสุด” เผย อสส.ร่อนหนังสือถึง ผบ.ตร.หามาตรการคุ้มครอง “อธิบดีอัยการ-อัยการพิเศษฯ” และครอบครัว ที่ถูก 8 ตำรวจผู้ต้องหาคดี “เวบพนันมินนี่” คุกคาม พร้อมอนุญาตให้พักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีมาตรการออกมา พร้อมชี้อาจเข้าข่ายความผิดอาญา หากมีการดำเนินคดีต้องแจ้งให้ทราบด้วย

จากกรณีที่ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ทำหนังสือถึง นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ว่าถูก พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย กับพวก ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีเวบไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน โดยได้แนบเอกสารภาพถ่าย นายกุลธนิต และนายสุริยน ในลักษณะคุกคามข่มขู่ และขอหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสอบสวนคดีดังกล่าวไว้ชั่วคราวนั้น

วันนี้ (19 ก.พ.67) สำนักงานโฆษกอัยการสูงสุด แจ้งว่า อัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งถึฝ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้กำหนดมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ซึ่งถูกคุกคาม เนื่องจากการเข้าไปให้คำแนะนำสืบสวนสอบสวนคดี ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ

โดย อัยการสูงสุด ได้ระบุว่า มีคำสั่งมอบหมายให้นายกุลธนิต และนายสุริยน เข้าให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวนคดีเวบไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.66 เป็นต้นไป เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีสำคัญและเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มีความยุ่งยาก สลับซับซ้อน มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นเครือข่ายจำนวนมาก เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนในคดีอาญาซึ่งดำเนินคดีโดยรัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการมอบหมายดังกล่าวเป็นไปตาม ข้อ 9, ข้อ 15, ข้อ 16 และข้อ 17 ของระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563

อัยการสูงสุด ระบุอีกว่า ต่อมา พ.ต.อ.ภาคภูมิ กับพวกรวม 8 คน ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ของ นายกุลธนิต และนายสุริยน ต่ออัยการสูงสุด พร้อมกับแนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของนายกุลธนิต และนายสุริยน ในขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว โดยภาพดังกล่าวมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย โดยผู้ถูกถ่ายภาพไม่ยินยอม และไม่รู้ตัว เพื่อการ
นำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ในเชิงการคุกคามข่มขู่
นายกุลธนิต และนายสุริยน ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มีหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่า การกระทำของผู้ต้องหาทั้งแปดมีลักษณะเป็นการข่มขู่ ติดตามชีวิตส่วนตัว และอาจไม่ปลอดภัยต่อตนเอง และครอบครัว

อัยการสูงสุด ได้พิจารณาหนังสือนายกุลธนิต และนายสุริยน แล้ว เห็นว่า บุคคลทั้งสองถูกคุกคามข่มขู่ สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวนในคดีที่อัยการสูงสุดมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่จริง จึงได้สั่งการ ดังนี้

1.ดำเนินการให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ นายกุลธนิต และนายสุริยน ประภาสะวัต และบุคคลในครอบครัว ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ จนกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของตนเองและบุคคลในครอบครัวหมดไป

2. แจ้งไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครอง
ความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว และให้พิจารณาดำเนินมาตรการไม่ให้ผู้ต้องหา ผู้ร้องเรียนทั้งแปด ที่ยังคงรับราชการเป็นตำรวจ มีพฤติการณ์กระทำในเชิงคุกคามข่มขู่พนักงานอัยการที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ และขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน

3. อนุญาตให้ นายกุลธนิต และนายสุริยน หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ไว้ก่อนชั่วคราว นับตั้งแต่วันที่อัยการสูงสุดอนุญาตเป็นต้นไป จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามข้อ 1-2 เสร็จแล้ว

4.หากเห็นว่าพฤติการณ์การกระทำในเชิงคุกคามข่มขู่สิ้นสุดลงและพนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ เห็นว่ามีความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินแล้ว ให้กราบเรียนอัยการสูงสุดเพื่อโปรดทราบและแจ้งคณะ
พนักงานสอบสวนเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ

และ 5. แจ้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า จากการกระทำดังกล่าวมีบุคคลใดได้กระทำความผิดอาญาหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดให้มีการดำเนินคดีและรายงานผลคดีให้อัยการสูงสุดทราบด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น