xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉากขบวนการ 'ศรีสุวรรณ-เจ๋งดอกจิก ร้องไป ตบทรัพย์ไป !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปิดฉากขบวนการ 'ศรีสุวรรณ-เจ๋งดอกจิก ร้องไป ตบทรัพย์ไป !?

ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สุดของสัปดาห์สำหรับเหตุการณ์จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จากกรณีถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมร่วมกันร้องเรียนและเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว ร่วมกับนายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัครส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจสอบราชการที่ 11 ตามคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี(นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค)

ที่มาที่ไปของเรื่องนี้มีนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นายศรีสุวรรณ ส่งหนังสือร้องเรียนกรมการข้าว ว่ามีการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้าง และได้ติดต่อให้อธิบดีกรมการข้าว และภรรยา ไปเจรจาเรื่องร้องเรียนกับนายศรีสุวรรณที่บ้านของนายศรีสุวรรณ โดยได้เรียกรับเงิน จำนวน 3,000,000 บาท เพื่อยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าวและในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นายยศวริศ กับ นายศรีสุวรรณ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่สภาผู้แทนราษฎร ให้บุคคลทั่วไปได้รู้และรับทราบร่วมกับคณะกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับกรมการข้าวมีการทุจริต จากนั้นนายยศวริศ ได้บอกให้อธิบดีกรมการข้าว ดูแลนายศรีสุวรรณ จึงมีการต่อรองกันเหลือ 1,500,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ให้มีการร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าว โดยให้จ่ายก่อนปีใหม่จำนวน 100,000 บาท ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว เกิดความกลัวว่าจะเกิดความเสียหาย และถูกร้องเรียนกลั่นแกล้งเพื่อให้รับโทษทางอาญา จึงได้ให้เงินไป 2 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 60,000 บาท

และต่อมา น.ส.พิมณัฏฐา ได้ทวงเงินส่วนที่เหลือ โดยแจ้งว่านายยศวริศและนายศรีสุวรรณ จะนำไปจ่ายให้กับคณะกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐ สภาผู้แทนราษฎร อีกหลายส่วน แล้วเรื่องการร้องเรียนต่างๆ จะจบ จากนั้นแจ้งกับภรรยาอธิบดีกรมการข้าวว่าภรรยานายศรีสุวรรณ แจ้งว่าให้นำเงินส่วนที่เหลือไปให้นายศรีสุวรรณที่บ้าน

การสืบสวนพบพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดตามพฤติการณ์ดังกล่าวจริง สำนักงาน ป.ป.ช. บก.ป.ป.ป. และสำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้สนธิกำลังวางแผนปฏิบัติการร่วมกันให้ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวนำเงินตามที่มีการเรียกรับส่วนที่เหลือไปให้ ในวันที่ 26 มกราคม 2567 ตามเวลานัดหมาย ที่บ้านของนายศรีสุวรรณ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการแสดงตัว เข้าทำการจับกุมและตรวจค้นบ้านของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสามจอมรีดได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินจำนวนคนละ 400,000 บาท ก่อนที่จะได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

สำหรับนายศรีสุวรรณ เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมมาจากการเป็นผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองสั่งระงับการขยาย 76 โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หรือการขยายปิโตรเคมีเฟส 3 เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 นับจากนั้นชื่อของนายศรีสุวรรณ ก็ถูกจับตามองมากขึ้นในฐานะนักร้องที่ชอบให้องค์กรอิสระตรวจสอบการกระทำของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ก่อนที่ในปี 2563 จะเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ตรวจสอบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีกู้ยืมเงินจากนายกธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และต่อด้วยอีกหนึ่งคดีใหญ่ที่เขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างโครงการแอชตันอโศก มูลค่า 6,481 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดแอชตัน อโศก ของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 และหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้สังคมไทยจดจำนายศรีสุวรรณ ได้ไม่ลืม คือ การถูกชกที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายหลังเข้าให้ข้อมูลกรณีพรรคเพื่อไทยทำโครงการเงินดิจิทัล เมื่อเดือนพ.ค.2566

จากนี้ต้องบอกว่าอนาคตในทางการเมืองของนายศรีสุวรรณ ได้จบลงแล้ว เพราะต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการต่อสู้คดี

ขณะที่ เส้นทางการเป็นนักการเมืองของ 'เจ๋ง ดอกจิก' ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะครั้งหนึ่งสมัยแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เฟื่องฟูอย่างถึงขีดสุดในอดีต 'เจ๋ง ดอกจิก' ได้ถูกยกระดับให้เป็นหนึ่งในแกนนำเสื้อแดงใกล้เคียงกับ 'จตุพร พรหมพันธุ์' แต่ที่สุดแล้วก็หันมาสวมเสื้อของพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยอ้างว่าต้องการยุติความแตกแยก และเห็นว่าการเดินหน้าต่อสู้แบบในอดีตที่สู้เพื่อเขาแต่เราติดคุก ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองเลยแม้แต่น้อย

ศรีสุวรรณกับเจ๋ง ดอกจิก โคจรมาพบกัน กลายเป็นคู่หูดูโอที่มีน.ส. พิมณัฏฐา เดินตาม โดยมีข่าวว่า ทำการร้องไปตบทรัพย์ไป มาได้พักหนึ่ง ยังมีอีกหลายคนร่วมขบวนการด้วย ที่ทำหน้าที่ปั่นข้อมูลส่งให้ศรีสุวรรณกับเจ๋งเอาไปตบตีเหยื่อ ก็ขึ้นอยู่กับการขยายผลคดีจะไปถึงใครบ้าง


กำลังโหลดความคิดเห็น