แฉแก๊ง “ตีนไก่เถื่อน” เฮียเก้า-เสี่ยเกียรติ สั่งปศุสัตว์ฮุบโควต้า
เอาเข้าขบวนการ “ตีนไก่เถื่อน” เหิมเกริมระบาดอย่างหนักมาร่วมปี โดยเฉพาะช่วงปลายสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ฝ่ายการเมืองกำลังระดมกระสุนเพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้ง พ.ค.66
แต่เพิ่งจะมาเป็นเรื่อง หลังเกิดโดมิโนจากแก๊งหมูเถื่อน กระทั่ง ดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหารายสำคัญในขบวนการนำเข้าซากสัตว์โดยผิดกฎหมาย ทั้ง “หมูเถื่อน-ไก่เถื่อน”
ซึ่ง 3 ใน 5ที่วงการลือว่าใกล้ชิดถึงตัว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ผู้ต้องการค้าขายตีนไก่ส่งไปประเทศจีนต้องไปหาบุคคลทั้งสามคนนี้
ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” สัญชาติจีน ที่ลึกซึ้งเป็นพี่น้องกับนายเฉลิมชัย, นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชาย “เฮียเก้า” ที่มีศักดิ์เป็นหลานนายเฉลิมชัย และคนที่ 3 คือ “เฮียเกียรติ” สมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขาฯส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ที่เคยเป็นถึงประธานคณะทำงาน รมว.เกษตรและสหกรณ์
เป็นชุดผู้ต้องหาที่ถูกกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องลักลอบ “ตีนไก่เถื่อน” เข้ามาในไทยถึง 1.2 หมื่นตู้
หากย้อนไทม์ไลน์จะพบว่า “แก๊งไก่เถื่อน” ระบาดหนักที่สุดช่วงปี64-66 ซึ่งวันนั้น นายสมเกียรติ เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์
โดยเป้าหมายของแก๊งนี้ไม่ได้ต้องการนำ “ตีนไก่เถื่อน” มาขายในประเทศ แต่เล็งเค้กก้อนใหญ่ในการส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นไปในลักษณะ “โควตา” แต่โควตาดังกล่าวนั้นเป็นฝ่ายประเทศจีน โดย สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ที่เป็นผู้อนุญาตตามให้กับเอกชนไทยตามเงื่อนไขมาตรฐานที่กำหนดไว้
ซึ่ง “แก๊งไก่เถื่อน” ก็สบช่องที่ขั้นตอนการส่งออกไปยังประเทศจีนนั้น ต้องผ่านการพิจารณารับรองโดย “กรมปศุสัตว์” ด้วย ทำให้จู่ๆ กรมปศุสัตว์ ก็เกิดขยันเป็นพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์ม-โรงเชือด ในประเทศ หรือในวงการเรียกว่า “ทุบ” กันเป็นว่าเล่น
และเดาไม่ยาก ว่า ฟาร์ม-โรงเชือด ส่วนใหญ่จะถูกตีว่า ไม่ได้มาตรฐาน และห้ามนำผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่าย หรือส่งออกไปต่างประเทศ
เมื่อไม่มีสินค้าก็ส่งผลให้ “โควตา” ในการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ว่างลง ตามความต้องการของ “แก๊งไก่เถื่อน” ที่วางแผนไว้ล่วงหน้า และลักลอบนำเข้า “ตีนไก่เถื่อน” ซึ่งไม่เป็นที่นิยมบริโภคจากหลายประเทศเข้ามาเพื่อสวมโควตาแทน
ขั้นตอนการสวมสิทธิ์นั้นก็ต้องผ่านโรงงานในประเทศที่ผ่านการรับรองจาก GACC โดยที่ต้องมี “หมอปศุสัตว์ประจำโรงงาน” ซึ่งเป็นคนในสังกัดกรมปศุสัตว์ เป็นผู้เซ็นใบรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ก่อนทำการเคลื่อนย้ายออกจากโรงงาน
ที่สำคัญต้องมีการ “เคลียร์” ด่านต่างๆ จนไปถึงท่าเรือไว้ด้วย เพราะเอกสารสำคัญอย่างใบขออนุญาตเคลื่อนย้ายซากสัตว์นั้นมีการปลอมแปลงในหลายจุด โดยเฉพาะต้นทางโรงงานบรรจุตีนไก่เถื่อน
ว่ากันว่า ช่วงนั้นมีการลักลอบนำเข้าตีนไก่เถื่อนจากประเทศบราซิล หรืออุรุกกวัย เข้ามาเตรียมไว้หลายหมื่นตู้คอนเทนเนอร์ โดยเป็นตีนไก่เถื่อนที่แทบไม่มีราคาจากประเทศต้นทาง เมื่อนำเข้ามาในประะเทศไทย และสามารถส่งออกไปยังประเทศปลายทาง โดยเฉพาะประเทศจีนได้ จะทำกำไรถึง 5 แสนบาทต่อตู้คอนเทนเนอร์
ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมรถบรรทุกที่ขนตีนไก่เถื่อนได้หลายครั้ง แต่ กรมปศุสัตว์ ที่อยู่ภายในกระทรวงเกษตรฯกลับนิ่งเฉยไม่มีการดำเนินการใดๆ ก่อนที่ ดีเอสไอ จะออกโรงมาเล่นงานระดับ “ตัวการ” ในวันนี้