xs
xsm
sm
md
lg

สืบน.จับ “ฤทธิ์วายร้าย” ทลายเครือข่ายมังกรจีน “อาเหว่ย” แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สืบน.จับ “ฤทธิ์วายร้าย” ทลายเครือข่ายมังกรจีน “อาเหว่ย” แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ชุดสืบสวนตำรวจนครบาลสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสามารถแกะรอยอาชญากรรมจนนำไปสู่การจับกุมวายร้ายชื่อดัง ซึ่งกำลังผงาดอยู่ในยุทธจักรนอกกฎหมายที่มีสมุนเป็นคนต่างชาติ โดยเชื่อมโยงกับองค์กรอาชาญกรรมเชื้อสายมังกรที่ใช้แผ่นดินไทยเป็นที่ทำมาหากิน

โดยการ บุกเข้าจับกุมนายวรงฤทธิ์ รัตนกิจพิศาล คนดังในยุทธจักรทรชนฉายา “ฤทธิ์วายร้าย” ชนิดที่เจ้าตัวไม่ทันได้ไหวตัว ไม่มีเวลาคิดที่จะแหวกวงล้อมหลบหนี กลายเป็นวายร้ายสิ้นฤทธิ์ ถูกใส่กุญแจมือคาห้องพักในโรงแรมย่านซอยเสือใหญ่เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา

งานนอกกฎหมายที่ฤทธิ์วายร้ายสร้างชื่อในยุทธจักรทรชนจนถูกออกหมายจับหลายใบมีทั้งค้ายาเสพติดประเภทยาไอซ์ในประเทศและส่งออกไปยังเกาหลีใต้เป็นหัวหน้าแก๊งชิงบัตรเครดิตจากนักท่องเที่ยว โดยมีเครือข่ายเป็นชาวจีนและเวียดนาม แล้วนำบัตรที่ได้ไปรูดซื้อสินค้าปลอม ๆ แบบซื้อทิพย์จากร้านที่อยู่ในอาณัติจนได้เงินสดไปเกือบ 2 ล้าน

นอกจากนี้ยังวางแผนฉ้อโกงธนาคารอย่างเป็นระบบโดยเตรียมการจัดหาบุคคลที่โพรไฟล์ดี ประวัติน่าเชื่อถือเป็นตัวเชิดออกหน้าในการกู้เงินจากธนาคาร อ้างว่านำไปลงทุนเมื่อได้เงินแล้วก็จะปล่อยให้ธุรกิจล้มละลาย กลายเป็นหนี้สูญสร้างความเสียหายให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ตกเป็นเหยื่อ

แม้วายร้ายฤทธิ์ หรือนายวรงฤทธิ์จะพยายามบินเหนือเมฆระวังป้องกันตนเองเป็นอย่างดี ด้วยการไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเปลี่ยนสถานที่กบดานโดยเช่าโรงแรม หรือห้องพักตามโฮสเทลเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่พ้นมือ “สืบนครบาล” ที่พังประตูบุกเข้าชาร์ท ขณะที่ฤทธิ์วายร้ายพยายามจะลบข้อมูลในมือถือเพื่อทำลายหลักฐาน แต่ก็ไม่ทันการณ์จึงถูกจับกุมพร้อมหญิงข้างกายอีก 2 คน โดยในห้องพักมีทั้งเครื่องรูดบัตรเครดิตและยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง

นายวรงฤทธิ์จะให้การว่า เดิมตนเองประกอบอาชีพสุจริตเป็นนายหน้าขายที่ดินและรถยนต์แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิดธุรกิจประสบการขาดทุนจึงหันเหเข้าสู่งานนอกกฎหมายโดยปลายปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับชาวจีนที่ชื่อ “อาเหว่ย” ซึ่งเป็นนายใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

อาเหว่ยจึงขอให้ตนเองเป็นธุระจัดหาเครื่องรูดบัตรเครดิตเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องการเปลี่ยนวงเงินในบัตรเครดิตเป็นเงินสดไว้ใช้จ่ายในเมืองไทย ตนเองจึงดำเนินการให้โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากวงเงินที่รูดซื้อสินค้าปลอมครั้งละ 20-30 เปอร์เซนต์

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อคำให้การดังกล่าว เพราะมีหลักฐานแน่นหนาว่า วายร้ายชาวไทยผู้นี้คือ หนึ่งในตัวการสำคัญของแก๊งขโมยรูดบัตรเครดิต โดยจัดหาเครื่องรูดบัตรมาจากบริษัทที่จดทะเบียนขึ้นลอย ๆ รวมทั้งจากร้านทองอีกหลายแห่ง เพื่อเตรียมไว้สำหรับรูดบัตรโดยเฉพาะ

รวมทั้งยังมีหลักฐานด้วยว่า นายวรงฤทธิ์ผู้นี้มีความสนิทสนมแนบแน่นกับอาเหว่ย หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง

ผลงานของสืบนครบาลในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการตัดรอน กิ่งก้านสาขาของอาชญากรข้ามชาติที่ใช้คนไทยเป็นหัวหน้าสาขาสร้างความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์เท่านั้น
หากแต่ยังเป็นการกอบกู้ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ซึ่งถือเป็นรายได้มหาศาลของประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นการกอบกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำลังมัวหมองอัปยศอย่างหนัก จากคดีฆาตกรรมป้าบัวผันจับแพะช่วยเหลือแก๊งโจ๋จังหวัดสระแก้ว

เหนืออี่นใดก็คือ ผลงานของสืบนครบาล เป็นการให้คำตอบอย่างเป็นรูปธรรม แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศว่า ...ตำรวจดีมีไว้ทำไม ! 
กำลังโหลดความคิดเห็น