2567 ทรชนฟันน้ำนม ครองเมือง
จากกรณีแก็งค์โจ๋อายุ 13 ถึง 16 ปี ก่อคดีอำมหิตฆ่าโหดเหยื่อที่เป็นผู้หญิงรุ่นแม่ด้วยการรุมซ้อมแล้วลากร่างไปโดยบ่อก่อนจะจับกดน้ำจนเสียชีวิตอย่างทารุณที่อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นแก็งค์ทมิฬที่เป็นเยาวชนทั้ง 5 คน แต่พฤติกรรมเทียบเท่าคนร้ายอาชีพได้นำจักรยานยนต์ที่เป็นพาหนะในการก่อเหตุทั้งสองคันไปล้างทำความสะอาดเพื่อทำลายหลักฐานรวมทั้งล้างคราบเลือดออกจากร่างกายของตนเองก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับเข้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มิหนำซ้ำหนึ่งในแก๊งโจ๋อำมหิตยังโทรศัพท์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้รุ่นพี่ฟังด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ ปราศจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทั้งที่สิ่งที่ตนเองกระทำเป็นความโหดร้ายทารุณ เยี่ยงสัตว์ป่า จนผู้คนที่ได้เห็นภาพพฤติกรรมและได้ฟังคลิปเสียงที่เผยแพร่ทางสื่อทุกสำนัก ต่างพากัน โกรธแค้นสาปแช่งทรชนรุ่นเยาว์ให้ได้รับโทษอย่างสาสมกับความอำมหิตที่นรกฝังไว้ในร่างของพวกมัน
แต่ในความเป็นจริง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมฆาตกรทั้ง 5 ซึ่งเป็นเยาวชนล้วน ๆ โดยรายที่เด็กสุดมีอายุเพียงแค่ 13 ปี และทุกคน ให้การรับสารภาพจนหมดเปลือกก็ตาม
หากกฎหมายอันอ่อนแอของบ้านเราที่กำหนดการปฏิบัติต่อคนร้ายที่เป็นเยาวชน ในลักษณะที่แตกต่างกับกฎหมายในความผิดคดีอาญาของผู้ใหญ่อย่างสิ้นเชิง ชนิดเทียบกันไม่ได้
ทำให้โอกาสที่เยาวชนฆาตกรที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในรูปแบบต่างๆ จะได้รับการลงโทษอย่างสาสม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะแม้แต่กระบวนการต้นทางในการดำเนินคดีกับเด็กนรกเหล่านี้ ยังต้องเป็นไปอย่างประประคับประคองนิ่มนวล ราวกับพวกมันเป็นเด็กไร้เดียงสา เริ่มตั้งแต่ต้องมีผู้ปกครองและสหวิชาชีพเข้าร่วมในการรับฟังการสอบสวนการให้ปากคำ อีกทั้งยังได้รับการคุ้มครอง ไม่ให้เปิดเผยชื่อจริงและหน้าตา ทั้งที่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้บริสุทธิ์ในสังคมได้ตระหนักรู้ และระมัดระวังตัว หากพบเจอเด็กนรกเหล่านี้ในอนาคต
รวมทั้งยังคุ้มครองไม่ให้มีการนำผู้ต้องหาเยาวชนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่อย่างใด อีกทั้งคดียังจะต้องถูกพิจารณาในศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไม่ใช่ศาลอาญาเหมือนคนร้าย ฆาตกรที่เป็นผู้ใหญ่
และหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ฆาตกรเยาวชนเหล่านี้ก็จะถูกคุมขังในสถานพินิจ มิใช่เรือนจำมหันตโทษ
นี่เองจึงทำให้เกิดกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้มีการแก้กฎหมาย ในการ ดำเนินคดีต่อผู้ที่เป็นเยาวชนให้เท่าเทียมกับผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลทั่วไป หลังจากที่สังคมไทยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การก่อเหตุของผู้ที่เป็นเยาวชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น และมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมอำมหิต ไม่น้อยไปกว่าทรชนฆาตกรที่เป็นผู้ใหญ่
ทั้งนี้ก็เพื่อคุ้มครองสุจริตชนที่ไม่มีโอกาสล่วงรู้เลยว่า วันหนึ่งวันใดตนเองจะตกเป็นเหยื่อของทรชนฟันน้ำนมที่กำลังฮึกเหิมได้ใจที่รับรู้ว่ากฎหมายที่เกี่ยวกับเยาวชนของเมืองไทยคุ้มกะลาหัวพวกมันอยู่ ต่อให้ปล้นวิ่งชิงทรัพย์ฆ่าคนอย่างโหดร้ายเพียงใดโทษของพวกมัน ก็ไม่มีวันถึงตาย
เหมือนเช่น กรณีนักฆ่าอายุ 14 ที่ลากปืนไปไล่ยิงคนในศูนย์การค้าสยามพารากอนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนมีเหยื่อผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไปถึง 3 ศพ ซึ่งจนบัดนี้ฆาตกรฟันน้ำนมรายนั้นก็ยังคงลอยนวล
โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีใด ๆ ได้ เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาส่งฟ้อง อีกทั้งยังต้องปล่อยตัวให้ผู้ปกครองมารับไปดูแลต่อ ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายเยาวชน อันทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
กฎหมายดังกล่าวมุ่งคุ้มครองและให้สิทธิ์แก่คนร้ายที่เป็นเยาวชนมากกว่าการคุ้มครองและคืนความชอบธรรมให้แก่ผู้สูญเสีย
ดังนั้นหากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงเพิกเฉย และปล่อยให้กระแสเรียกร้องเหล่านี้จางหายไปกับสายลม ก็เชื่อได้เลยว่า ในอนาคตข้างหน้า เมืองไทยจะอยู่ในยุคที่ฆาตกรฟันน้ำนมคนร้ายเยาวชนครองเมือง เป็นภัยสังคมอย่างสมบูรณ์