ก.ต.สั่งฟันตุลาการ รับสินบนล้มคดี กปปส.พบ 2 ฝ่ายเจอกันที่เขาใหญ่
เป็นข่าวสั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรม เมื่อคณะกรรมการตุลาการ หรือ ก.ต. ลงมติ 14 ต่อ 1 ให้สั่งพักราชการข้าราชการตุลาการ 1 ราย ในระหว่างการสอบสวนเอาผิดทางวินัยร้ายแรง
ซึ่งข้อกล่าวหาก็ฉกาจฉกรรจ์มาก คือ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินถึง 175 ล้านบาท จากบรรดาจำเลย ที่เป็นแกนนำม็อบ กปปส. แลกกับการยกฟ้องในทุกกรรม โดยคดีม็อบ กปปส. ศาลชั้นต้นมีพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 สั่งจำคุกแกนนำรวม 15 ราย โดยไม่รอลงอาญา
เมื่อคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ก็ปรากฏว่า มีผู้พิพากษาระดับสูงในศาลอุทธรณ์ 2 ราย เรียกเงินจากจำเลยหลายครั้ง อ้างว่าสามารถจ่ายสำนวนให้กับองค์คณะผู้พิพากษาที่คุ้นเคยกับ “ท่าน” เพื่อสั่งยกฟ้อง
ให้จบสวยในชั้นศาลอุทธรณ์ ไม่ต้องไปดิ้นรนต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา
ครั้งแรกเรียกเงิน 175 ล้านบาท แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงลดจำนวนมาเป็น 49 ล้านบาท และ 35 ล้านบาท ตามลำดับ
ซึ่งแกนนำ กปปส. ที่ถูกเรียกเงินไม่ตกลงด้วย แล้วได้ทำหนังสือร้องเรียนประธานศาลอุทธรณ์ จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
อันแปลว่า ข้อร้องเรียนจากแกนนำ กปปส. มีมูล กรณีกล่าวหาตุลาการเรียกรับสินบน 175 ล้าน
ข่าวแจ้งว่า ตุลาการ 2 ราย เคยนัดพบกับฝ่ายจำเลย เพื่อเปิดเจรจากันเรื่องนี้ ในสถานที่แห่งหนึ่ง แถวเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยเร่งรัดให้รีบจ่ายเงิน ก่อน “ท่าน” จะหมดวาระในวันที่ 30 ก.ย. 2565
การร้องเรียนเอาผิด จึงระบุตัวตุลาการ 2 ราย ไม่ใช่แค่รายเดียว แต่คนที่โดนมติ ก.ต. พักราชการมีเพียง 1 ราย ซึ่งรับหน้าที่ในการประสานงานให้กับ “นาย” ส่วนอีกคน ที่ถูกร้องเรียนด้วย ชิงลาออกจากราชการไปก่อนหน้านี้แล้ว