xs
xsm
sm
md
lg

ร้องฟื้นคดี "บิ๊กโจ๊ก" พันส่วยคาราโอเกะ ไม่เชื่อ ปปช.สุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ร้องฟื้นคดี "บิ๊กโจ๊ก" พันส่วยคาราโอเกะ ไม่เชื่อ ปปช.สุจริต


ข่าวล่ามาเร็ว ระบุว่า ในไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะมีการร้องเรียน ป.ป.ช. ให้รื้อคดีเก่าของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. มาปัดฝุ่นสอบสวนใหม่อีกครั้ง

โดยคดีนี้ ป.ป.ช.เคยสอบแล้ว และยุติการสอบไปแล้ว ผู้ร้องเรียนเห็นว่า การสอบสวนครั้งนั้น มีลักษณะ “ด่วนสรุป” และกรรมการ ป.ป.ช. ให้น้ำหนักคำให้การของพยาน ที่เป็นคนของบิ๊กโจ๊กเอง มากเกินไป
อีกทั้ง คดีนี้ก็ยังไม่หมดอายุความ จึงมีสิทธิ์จะยื่นร้องเรียนให้มีการสอบสวนอีกครั้ง

คดีดังกล่าว เป็นกรณีร้องเรียน โดยนายเขตสยาม เนาวรังสี กล่าวหาบิ๊กโจ๊ก สมัยเป็น ผกก.3 บก.ปคม. ช่วงปี 2553-2554 มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน จากร้านคาราโอเกะทั่วภาคอีสาน ตอนบน

มีหลักฐานการโอนเงินตรงเข้าบัญชีของบิ๊กโจ๊กเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ผ่านบัญชีม้า อำพรางให้ซับซ้อนใดๆ
แต่บิ๊กโจ๊กให้การอ้างถึง “เสี่ยแต๋ม อุดรธานี” ในฐานะพยานเอก บอกว่า เสี่ยแต๋มเป็นคนกลาง นำเงินของบิ๊กโจ๊ก ไปปล่อยกู้กับพวกเจ้าของร้านคาราโอเกะภาคอีสาน

ซึ่งเสี่ยแต๋ม ก็ให้เข้าการกับ ป.ป.ช. อ้างว่า เงินที่โอนเข้าบัญชีบิ๊กโจ๊กครั้งละเป็นแสน หรือบางครั้งถึงหลักล้าน เป็นเงินจากธุรกิจปล่อยกู้ ไม่ใช่เงินที่เจ้าของร้านคาราโอเกะ ส่งส่วย ให้บิ๊กโจ๊กแต่อย่างใด

เสี่ยแต๋ม พยานเอกของบิ๊กโจ๊กคนนี้ ก็คือตัวละครเดียวกันกับที่บิ๊กโจ๊กอ้างถึง อ้างว่าบ้านย่านวิภาวดี ที่ถูก PCT บุกค้นนั้น เจ้าของตัวจริงคือเสี่ยแต๋ม แล้วบิ๊กโจ๊กแค่เช่าพักอาศัยเท่านั้น

แต่ตอนนั้น คำให้การของเสี่ยแต๋ม มีน้ำหนักน่าเชื่อถือในสายตาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งกรรมการคนหนึ่ง ก็คือ “สุภา” ชื่อที่โผล่มาในคลิปลับเสียงหวาน
ป.ป.ช. จึงสั่งยุติการสอบสวน ข้อกล่าวหาบิ๊กโจ๊กรับส่วยคาราโอเกะ อย่างง่ายๆ เพราะเชื่อในคำให้การของคนใกล้ชิดบิ๊กโจ๊ก และจัดให้เสี่ยแต๋ม เป็นผู้เสียหายด้วย

นอกจากนั้น ก็ไม่คิดจะสอบสวนเอาผิด ในคดีปล่อยเงินกู้โดยมิชอบ อีกต่างหาก

ปรากฏเป็นข่าวของแมเนเจอร์ออนไลน์ว่า “มติเป็นทางการประธาน-กรรมการ ป.ป.ช. 7 เสียง ตีตกคดีสุรเชษฐ์เรียกเงินคาราโอเกะ”

สำนวนเรื่องนี้ ถูกยุติเด็ดขาดเมื่อปี 2559 ในยุค คสช. เรืองอำนาจ โดยบิ๊กโจ๊ก มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

คดีส่วยคาราโอเกะ ยังมีเรื่องราวตามมา เมื่อนายเขตสยาม เนาวรังสี ผู้ร้องเรียน เกิดเสียชีวิตกะทันหัน
แล้วมีตำรวจระดับรองผู้การคนหนึ่ง เข้าร้องเรียนให้มีการตรวจสอบค้นหาเบื้องหลังการตาย จนถูกบิ๊กโจ๊กแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมส่งตำรวจคู่ใจอย่าง พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย เข้าไปควบคุมการสอบพยานด้วยตัวเอง ที่ สน.ปทุมวัน

รองผู้การดังกล่าว จึงฟ้องกลับ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ต่อศาลคดีอาญาทุจริต พร้อมส่งคำโต้แย้งไปอัยการสูงสุด และหน่วยงานอื่นๆ แต่ก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
เป็นตัวบ่งชี้ว่า บิ๊กโจ๊กมีบารมีไม่ธรรมดา ในองค์กรต่างๆ ของรัฐ

แม้แต่คดีมินนี่ ซึ่งมีเส้นเงินมาถึงลูกน้องบิ๊กโจ๊ก คดีบางส่วน ถูกส่งไปยัง ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว
ก็มีเสียงลือแว่วออกมาอีก ว่าสำนวนถูกส่งไปให้ลูกน้องในคาถา ของอดีต ป.ป.ช.คนหนึ่ง รับไปดูแลให้

อย่างไรก็ตาม จังหวะที่กรรมการ ป.ป.ช. ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับบิ๊กโจ๊ก หมดวาระไป 2 คน และลุงป้อม ก็อัศดงไปจากวงการเมืองแล้ว

ผู้ร้องเรียนรายนี้ จึงเกิดมีความหวังขึ้นมา ว่า ป.ป.ช. จะช่วยกำจัดการทุจริตมิชอบในวงราชการ อย่างเด็ดขาด

ซึ่งสุดท้าย ก็สุดแท้แต่การพิจารณาของ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน จะยอมรับคดี “ส่วยคาราโอเกะ” มาปัดฝุ่นสอบสวนใหม่หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น