หนูตีสี่ เสียทรงมท.1 ไล่จับบ่อนผ้าถุง นอทหวยทิพย์ กลับไม่โดน
เหมือนจะดี เหมือนจะฟิต คือการเดินสายออกจับบ่อนการพนันของ มท.1 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทั้งที่โคราชและเมืองกาญจน์ ลุยแหลกทั้งกลางวันกลางคืน
ใครเห็นข่าวนี้ก็ร้องอุต๊ะ ที่ผ่านมาเคยมีซะที่ไหน คนระดับ รมว.มหาดไทย จะมาขยันกับงานภาคสนามแบบนี้
เพียงแต่ “เสี่ยหนู ตี4” อาจลืมคิดไป ว่าเมื่อมองมุมกลับ การที่เจ้ากระทรวงมหาดไทย มาจับงานระดับล่าง อย่างการจับบ่อนพนันป๊อกเด้ง กำถั่ว หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าบ่อนผ้าถุง แบบนี้ มันเหมือนทำงานไม่เป็น เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรี
หรือว่างาน รมว.มหาดไทย มันไม่ตึงมือ มันว่างจัดขนาดนั้น ก็ไม่น่าเป็นไปได้
แล้วอะไรเป็นสาเหตุให้นายอนุทิน มาขยันในเรื่องที่ไม่ควรขยันแบบนี้? คำตอบเดียวที่เป็นไปได้คือ การหาแสง ได้สนุกกับการออกเป็นข่าวภาคสนาม โชว์ลีลาถึงลูกถึงคนให้สื่อดู
“มท.1 จับบ่อน” ชวนให้นึกถึง “ผู้ว่าฯ เข็นรถ” ยังไงยังงั้น มันใช่หน้าที่ซะที่ไหน แต่มันมีแสงสาดจ้า
อีกอย่างที่เป็นผลทางลบชัดเจน เป็นเรื่องของการวางงานจับบ่อน ที่เก็บความลับไม่ได้ โดยทั่วไป ปฏิบัติการทลายบ่อน จะต้องกระทำอย่างลับ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบ่อนพนัน ส่วนใหญ่จะมีหูตาคอยกระซิบเตือนภัย โดยเฉพาะพวกเจ้าหน้าที่รัฐคนใกล้ตัวจะเป็นพวกพรายกระซิบ
ซึ่งพอรัฐมนตรีคิดจะจับบ่อนเอง แต่ไม่มีทรง ก็ยิ่งปิดชั้นความลับได้ยาก ดังจะเห็นได้ว่าหนึ่งในบ่อนเป้าหมายของมท.1 ก่อนหนูตีสี่ไปถึง บ่อนก็ม้วนเสื่อเก็บเรียบเหลือไว้แต่ห้องเปล่าๆ ให้ดูต่างหน้า
อันแปลว่า ข่าวแตก ไปถึงหูเจ้าของบ่อนก่อนการจับกุม นี่ขนาดเป็นบ่อนเล็กๆ ตามต่างจังหวัดเท่านั้น รัฐมนตรีก็ยังเอาชนะไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หากเสี่ยหนู อยากจะฝากฝีมือการปราบบ่อนจริงๆ ละก็ ไปลุยบ่อนสเกลใหญ่ ให้สมน้ำสมเนื้อกัน จะเข้าท่ากว่า จะมีประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า
บ่อนที่ว่าก็คือ “ลอตเตอรี่พลัส” ของ “นอท” นายพันธุ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซึ่งเป็นภัยสังคมกลางเมือง เปิดเล่นพนันเย้ยกฎหมาย เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป
เป็นเวลาหลายงวดมาแล้ว ที่ “ลอตเตอรี่พลัส” เปิดขาย “หวยทิพย์” ลอตเตอรี่ที่ไม่มีตัวตน
รับกินเองจ่ายเอง แบบหวยใต้ดิน ได้เสียกันงวดละไม่รู้กี่ร้อยล้าน
ตำรวจก็มีการล่อซื้อไปแล้วจนรู้ว่า “ลอตเตอรี่พลัส” ขายหวยทิพย์แน่นอน บ่อนใหญ่ระดับปลาวาฬอย่างนี้สิ ค่อยคู่ควรกับมท.1 ดีกว่าจะไปเสียเวลากับบ่อนผ้าถุง ระดับปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้น
****
Sondhi X