xs
xsm
sm
md
lg

2 นักฆ่าทัพเรือ (ตอน2) “เสธ.โต -เทวราช” ปิดฉาก ยมทูตคู่เพชฌฆาต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



2 นักฆ่าทัพเรือ (ตอน2) “เสธ.โต -เทวราช” ปิดฉาก ยมทูตคู่เพชฌฆาต

ในวิถีแห่งทหารกลางสมรภูมิรบ มีคำกล่าวอันแสดงถึงความผูกพันอันแนบแน่นของผู้ที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ข้างกายของกันและกันว่า “เพื่อนตายสหายศึก”

แต่ในยุทธจักรนักฆ่า คำว่า เพื่อนตายสหายศึก อาจทดแทนได้ด้วยคำว่า “ยมทูตคู่เพชฌฆาต” อันหมายถึง สองนักฆ่าหรือมือสังหารที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการไล่ล่าเด็ดชีพจนกว่าวิญญาณของเป้าหมายจะหลุดลอยจากร่าง

ที่กล่าวมานี้ อย่าคิดว่ามีแต่เพียงในนวนิยาย เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะจากกรณีความพยายามในการล่าสังหารเหยื่อแม่ลูกชาวไต้หวันที่เป็นข่าวโด่งดังสะท้านเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนทั้งประเทศก็ได้รู้จักกับคู่เพชฌฆาตที่ชื่อประกายพฤกษ์กับเทวราช สองทหารเรือสายดาร์ค ที่เป็นคู่บัดดี้กันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายเรือ

ในตอนที่แล้ว เราได้เปิดปูมประวัติของอดีต นาวาเอกเทวราช มนุษย์กบชื่อดัง ให้ได้ทราบไปแล้ว มาในตอนนี้ขอนำเสนอฉากชีวิตอันโลดโผนของพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ซึ่งเป็นเสมือน ยมทูตผู้เปิดประตูนรกให้เพื่อนรักที่ดูเหมือนจะล้างมือจากวงการ ได้หวนกลับสู่ยุทธจักรนักฆ่าอีกครั้งหนึ่ง

เสธ.โต หรือ พลเรือตรีประกายพฤกษ์ เพื่อนคู่หูคู่บัดดี้ของเทวราช ในช่วงที่เป็นนายทหารหนุ่มออกปฏิบัติราชการ กับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน หรือ มชด. ก็มีคดีฆ่าคนตายจากเหตุทะเลาะวิวาทที่ร้านอาหาร ในช่วงที่เรือเข้าจอดบริเวณแหลมงอบจังหวัดตราด 

เรือเอกประกายพฤกษ์ ยศในขณะนั้น ซึ่งขึ้นจากเรือที่จอดเทียบท่า ไปดื่มกินที่ร้านอาหารและมีเหตุชุลมุนกับคู่กรณี ถึงขั้นใช้อาวุธปืนตัดสิน แต่กระสุนปืนของต้นเรือหนุ่มพลาดไปถูกหญิงสาวซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟเสียชีวิต

แต่ด้วยความที่เป็นคนมีสีและสามารถเยียวยาชดเชยให้กับครอบครัวของผู้สูญเสียได้จนเป็นที่พอใจ รวมทั้งเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ คู่หูของมนุษย์กบเทวราชจึงรอดพ้นจากคดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาในท้ายที่สุด และประกายพรึก ก็รับราชการต่อไปจนเป็นพลเรือตรี ตำแหน่งสุดท้ายคือ สังกัดศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ดูแลพื้นที่ทะเลน่านน้ำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กล่าวกันว่า การที่ น.อ.เทวราช และ พล.ร.ต.ประกายพฤกษ์ ผ่านการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ และวิทยาลัยการทัพเรือตามลำดับ ทำให้ทั้งคู่มีความรอบรู้ในศาสตร์และศิลป์ของการวางแผนยุทธการ และการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนมากขึ้น เพียงแต่หากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็จะเป็นอันตรายทั้งต่อผู้อื่นและตนเอง

โดยเฉพาะ น.อ.เทวราช หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยการทัพเรือ ได้หันไปทำธุรกิจสีเทาอย่างเต็มตัว ด้วยการนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายจากฝั่งพม่าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จนต้องไปสร้างบ้านพักส่วนตัวอยู่ในเขตพื้นที่ชายแดนตะวันตก และใช้จุดนั้นเป็นเสมือนสำนักงานที่ตนเองเป็นผู้จัดการ ก่อนที่บ้านหลังดังกล่าวจะกลายเป็นที่ตายของตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบวัตถุประสงค์แน่ชัดว่า เข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อสืบสวนหาข่าว หรือเพื่อเจรจาเก็บส่วยจากธุรกิจสีเทาที่มนุษย์กบคนดังดำเนินการอยู่

แต่กว่าตำรวจชะตาขาดคนดังกล่าวจะรู้ว่าเล่นผิดคน ร่างก็ขาดลมหายใจไปตลอดกาล ก่อนที่ในเวลาต่อมาตำรวจชุดจับกุมจะบุกเข้าค้นและใช้รถแมคโครขุดพื้นดินในเขตบ้านพักของนาวาเอกเทวราช จนพบศพตำรวจคนดังกล่าวซึ่งมีพยานให้การว่าได้เดินทางเข้าไปในบ้านแล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย

เมื่อเพื่อนรักตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ คู่บัดดี้อย่างประกายพฤกษ์ ย่อมไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ เขาช่วย วิ่งเต้นในการต่อสู้คดี โดยเชื่อว่าแม้จะพบศพในบ้านพัก แต่ไม่มีประจักษ์พยานว่า เทวราชเป็นคนลงมือฆ่า เพราะฆาตกรคือ คนเป็นลูกน้อง เจ้าของบ้านน่าจะเอาตัวรอด หรือได้รับโทษทัณฑ์น้อยกว่า

ประกายพฤกษ์จึงเสนอให้เทวราชจ่ายหนักตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้คำพิพากษาเป็นไปตามแนวทางที่เขาคิดไว้ แต่เทวราชไม่เห็นด้วย สุดท้ายเขาจึงถูกพิพากษาลงโทษประหารชีวิต และถูกถอดยศ ก่อนจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ในวาระต่างๆ ลดหย่อนโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต และลดหย่อนมาเป็นลำดับ จนกระทั่งได้รับอิสรภาพในปีที่ผ่านมา

อดีตผู้ต้องขังที่ชื่อเทวราช จึงหันเข้าหาวัดด้วยการบรรพชาเป็นพระภิกษุอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบ จนใครต่อใครคิดว่าช่วงสุดท้ายบั้นปลายชีวิตของเขาจะพบกับความสุขอย่างแท้จริง เมื่อเจ้าตัวขออโหสิกรรมจากทุกๆ คนที่เคยล่วงเกิน ทั้งที่ยังมีชีวิตและไม่มีชีวิต

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าที่ผ่าลงมาโดยปราศจากพยับฝน เมื่อมีข่าวตำรวจกองปราบปราม“บุกจับนายพลทหารเรือนอกราชการ กับอดีตนาวาเอกในข้อหารับงานจ้างวานฆ่าจากชาวไต้หวัน”

และเมื่อเปิดชื่อออกมา 2 ผู้ต้องหาคนสำคัญ ก็คือ ประกายพฤกษ์ กับเทวราช คู่หูทหารเรือ สายดาร์คที่กอดคอร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร

จึงเป็นที่จับตาดูด้วยใจระทึกของผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกับทั้งคู่ว่า ในรอบนี้ประกายพฤกษ์ กับเทวราช จะกอดคอกันเข้าเรือนจำ หรือทั้งคู่จะมีไม้เด็ดที่สามารถเอาตัวรอดในการต่อสู้ข้อกล่าวหาจากคดีนี้ได้หรือไม่? เพราะขณะนี้เขาทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่คดียังไม่มีคำพิพากษาศาลฎีกาลงมา
****
Sondhi X
กำลังโหลดความคิดเห็น