ดราม่าค่าเข้าถ้ำหลวง ถูกหรือแพง ไม่สำคัญ ต้องโปร่งใส-ไร้ทุจริต

ดราม่าค่าเข้าถ้ำหลวง ถูกหรือแพง ไม่สำคัญ ต้องโปร่งใส-ไร้ทุจริต

ประเทศไทยมีเรื่องให้ดราม่าไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดกำลังมีดราม่าเรื่องตั๋วค่าชมถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โดยประกาศราคาไว้ที่คนละ 950 บาท แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติจะมีค่าใช้จ่าย 1500 บาทต่อคน

ราคา 950 บาท และ 1500 บาทดังกล่าวถือว่าเป็นราคาที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติอื่นๆ ที่มีค่าใช้จ่ายหลักร้อยต้นๆ หรืออย่างมากที่สุดแค่หลักร้อยกลางๆ ไม่ถึงหลักพันบาท

พอเรื่องนี้เกิดเสียงวิจารณ์มากขึ้นในโลกออนไลน์ ทำให้ผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไม่อาจอยู่เฉยได้ จนต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจงต่อสังคม โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ อธิบายแจกแจงอย่างละเอียดเพื่อยืนยันถึงความเหมาะสมในการกำหนดราคาดังกล่าว

ว่า ราคาที่กำหนดไว้เป็นค่าเข้าชมในถ้ำไม่ได้นำเข้าเป็นรายได้ของอุทยานทั้งหมด เพราะแบ่งเป็น 1. ให้บุคคลากรนำเที่ยว 500 บาท 2. นำเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของกรมอุทยานฯ 150 บาท และ 3.นำเข้ากองทุนสวัสดิการถ้ำหลวง 300 บาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ในถ้ำและบริเวณด้านนอกที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ค่าประกันชีวิตเจ้าหน้าที่และ บุคคลากรนำเที่ยว เป็นต้น

ทั้งนี้ ถ้ามองจากเหตุผลของกรมอุทยานแห่งชาติ ด้านหนึ่งก็พอยอมรับได้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าภายในพื้่นที่ถ้ำหลวงนั้นมีความสลับซับซ้อนทางธรณีวิทยาพอสมควร ดังจะเห็นได้จากความยากลำบากในการช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่าทั้ง 13 คนเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งย่อมเป็นราคาที่นักท่องเที่ยวที่เมื่อเดินทางไปถึงแล้ว พร้อมจะจ่ายเพื่อแลกกับการเปิดประสบการณ์ในสถานทีที่มีตำนานแห่งนี้ โดยเฉพาะบรรดานักสร้างคอนเท้นต์หรือผู้ชอบรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งถ้าใครไม่มีกำลังทรัพย์มากพอก็สามารถเข้าชมได้ฟรีเฉพาะโถงที่ 1 ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติจัดพื้นที่ไว้ให้ ส่วนที่โถงที่ 2 และ โถงที่3 ซึ่งจุดสำคัญที่เป็นเส้นทางลำเลียงผู้ประสบภัยออกมาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตามที่ปรากฏเป็นข่าว

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในภาพรวมของกรณีแล้ว ประเด็นของเรื่องไม่ได้อยู่ราคาถูกหรือราคาแพง แต่อยู่ความโปร่งใสของกระบวนการจัดเก็บค่าเข้าชมมากกว่า เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้กรมอุทยานแห่งชาติ เพิ่งยุติการจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติด้วยระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ไว้เป็นการชั่วคราว สร้างความสงสัยเป็นอย่างมากว่าเหตุใดในยุคที่เป็นสังคมดิจิทัลและการจับจ่ายใช้สอยได้ทำผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก

แต่กรมอุทยานแห่งชาติกลับยังหันไปใช้ระบบเดิมที่มีช่องให้เกิดการทุจริตมากมาย แบบที่แทบจะเรียกได้ว่าจับไปตรงไหนก็เจอแต่ความไม่โปร่งใสทั้งสิ้น โดยเฉพาะพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าเงินและผลประโยชน์ย่อมต้องมากตามไปด้วย

ตรงนี้ต่างหากที่กรมอุทยานแห่งชาติ ควรจะออกมาให้ข้อมูลและความกระจ่างว่าเงินค่าธรรมเนียมเข้าชมถ้ำหลวง จะมีมาตรการตรวจสอบอย่างไร และเมื่อไหรจะนำระบบดิจิทัลมาใช้อย่างสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลเหมือนกับพื่้นที่อุทยานแห่งชาติอื่นๆ มากกว่าที่จะให้ข้อมูลเรื่องรายละเอียดของค่าใช้จ่ายจำนวน 950 และ 1500 บาท

ดังนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ ควรต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น เพราะแน่นอนว่าถ้ำหลวง จะกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมทั้งจะสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมาอีกจำนวนมาก หรือแม้แต่การหาช่องทางการสร้างอิทธิพลในพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ การสร้างความโปร่งใสจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
*******
Sondhi X