xs
xsm
sm
md
lg

งามไส้อีกแล้วครับท่าน! "ทนายตั้ม" ปูดมหาดไทยของ "เสี่ยหนูตีสี่" ช่วย "บิ๊ก" รัฐวิสาหกิจยักษ์โกงอายุ **คดี“เป้รักผู้การฯ" "บิ๊กต่อ"ยกนายพลครึ่งกรมฯเป็นคณะสอบสวนชุดใหม่..จับตาจบเจ๊าไม่เล้าหลือ!!??

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**งามไส้อีกแล้วครับท่าน! "ทนายตั้ม" ปูดมหาดไทยของ "เสี่ยหนูตีสี่" ช่วย "บิ๊ก" รัฐวิสาหกิจยักษ์โกงอายุ!


เป็นเรื่องเป็นราวกันอีกแล้วสำหรับกระทรวงมหาดไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกูล" ที่ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าได้ฉายาเป็น "เสี่ยหนูตีสี่" เพราะนโยบายปิดสถานบันเทิงตีสี่ ซึ่งเจ้าตัวดูจะชื่นชอบขยันเข้าผับเข้าบาร์ตรวจงานไม่หลับไม่นอน

แต่เรื่องใหญ่กว่าผับปิดตีสี่ที่สังคมกังวลใจ เช่น เรื่องทุจริตปลอมแปลงบัตรประชาชนและทะเบียนราษฎร์ ของคนต่างด้าว จีนเทาหรือ แม้แต่คนไทยเทาๆกลับเงียบฉี่ ไม่มีแอ๊คชั่นอะไรออกมา

กรณีล่าสุดที่ปูดมาฟ้องว่า กระบวนการของข้าราชการมหาดไทยที่ทำมาหากินในเรื่องนี้ก็ยังดำเนินต่อไป ก็เรื่องที่ "ทนายตั๊ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายคนดัง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” เมื่อวานนี้(17ธ.ค.) รับว่า...

อนุทิน ชาญวีรกูล
"มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ช่วยผู้บริหารระดับสูง รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง สูติบัตร และบัตร ประชาชน เพื่อขยายระยะเวลาเกษียณของตัวเอง ทำทำไม? ทำเพื่ออะไร?"

พลันที่ทนายคนดังโพสต์ออกไปปรากฏมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย

ต่างก็เห็นว่า ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจยักย้ายรายนี้ต้องการที่จะยืดเกษียณอายุเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญต่อไป หรือ อยู่คุมงบประมาณได้อีกอย่างน้อยก็ 1 ปี

เรียกได้ว่า 1 ปีสำหรับงบประมาณในรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ก็มีความหมายคุ้มเกินคุ้มแค่จ้างข้าราชการกระทรวงมหาดไทยไม่กี่บาท

ไหนจะพรรคพวกที่สุ่มหัวกันเข้ามาสูบเลือดรัฐวิสาหกิจจัดซื้อจัดจ้างกินตามน้ำโครงการยักษ์ อิ่มหมีพีมันเอาเงินไว้ใช้เกษียณชิวๆ

ทนายตั๊ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด
ทนายตั้มยังได้เข้ามาเขียนในช่องความเห็นเพิ่มเติมว่า คนๆนี้กับข้าราชการมหาดไทย จัดการ ยื่นคำร้องแจ้งเกิดต่อนายทะเบียนมกราคม 2507 แต่บัตรประชาชนใหม่ระบุเกิดธันวาคม 2507 โอ้โหนี่แจ้งเกิดล่วงหน้าเกือบ 1 ปี!!

งานนี้ต้องติดตามกันอย่างกระพริบตา รอเฉลยจาก "ทนายตั๊ม" ว่า ผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่คือใคร? ทำไปเพื่ออะไร?

แต่ที่แน่ๆ มหาดไทยในยุคของ "เสี่ยหนูตีสี่" ที่ เน้น "บันเทิง" เอาใจนักท่องราตรีหาแสงจากนักเที่ยวกินดื่ม แต่เรื่องใหญ่ๆกลับซุกไว้เป็นขยะใต้พรม

เรื่องใหญ่งามไส้แบบนี้ต้องลงมาดูกันได้แล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้..หอมกลิ่นความเจริญจริงๆพับผ่า

**คดี“เป้รักผู้การฯ" "บิ๊กต่อ"ยกนายพลครึ่งกรมฯเป็นคณะสอบสวนชุดใหม่..จับตาจบเจ๊าไม่เล้าหลือ!!??

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
ผ่านไปกว่าครึ่งปีแต่คดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”ยังไม่ไปถึงไหน

ล่าสุด "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นโดยมี “บิ๊กอ้อ” พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีลูกทีมเป็นตำรวจระดับนายพลอีกหมายสิบชีวิต

แถมรอบนี้บรรยากาศสุดคึกคักมีการร่อนหนังสือเชิญวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับกานรสอบสวนคดีตำรวจรีดทรัพย์เว็บพนัน 140 ล้านบาท หรือที่ทราบกันในนานาม “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้น่าจะมาจากรายละเอียดของคดีเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2535 แต่เดิมมีการนัดประชุมโดยฝ่ายอัยการเป็นเจ้าภาพ แต่เนื่องจากคณะทำงานชุดใหม่ของตำรวจมีมากถึง 50 นายและมาจากหลายกองบัญชาการจึงกำหนดขึ้นที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม เวลา 09.30 น.ของวันที่ 19 ธ.ค.66 นี้

 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
หายไปเกินครึ่งปี คดีรีดเงินเว็บพนัน 140 ล้านบาทอันมี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี กับพวกรวม 10 คนเป็นผู้ต้องหาเริ่มเขย่ากันอีกครั้งด้วยลีลาเร้าใจ เพราะ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เคยรับผิดชอบทำคดี ก่อนจะเงียบหายไปพร้อมกับตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 14 คือ”บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล

ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” หัวหอกต้นเรื่องเขย่าเก้าอี้ “ผู้การเมืองชลฯ” แต่สะท้อนถึงใครไม่ทราบได้ เริ่มเก็บเนื้อเก็บตัว บรรดาเบี้ยบนกระดาน บรรดาม้า เรือต่างๆหลังติดดาบปลายปืนปะทะกัน แจกคดีเป็นชนักติดหลังคนละคดีสองคดี

ก็ดูเหมือนว่า “ลูกพี่ใหญ่” เริ่มเข้าสู่บรรยากาศสมานฉันท์รอมชอม เพราะหากลุยต่ออาจจะล้มหายตายจากจนนับศพไม่ถ้วน

แม้ตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปหากประเมินว่าคณะสืบสวนสอบสวนชุดใหม่จะเอาจริง “เดินหน้าฆ่ามัน” หรือสอบสวนรายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาในทุกๆคดีที่เกิดจากความขัดแย้งของ 2 บิ๊กสีกากีและแม้จะมีการเร่งสอบสวนให้เสร็จก่อนปีใหม่นี้

แต่ เสือ สิงห์ กระทิง แรด ในแวดวงยุทธจักรรั้วปทุมวันต่างเห็นพ้องต้องกันว่าอัน “บิ๊กตำรวจ” นั้นหนาล้วนแต่มีแผลด้วยกันทั้งคู่!

 พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์
หากฝ่ายหนึ่งเจอเล่นงานอย่างสุดซอย หลักฐานต่างๆที่เบรกไว้จน “ทนายกระดูกเหล็ก” ต้อง “เสียรังวัด” ไปหลายกิโล อาจจะถูกทิ้งบอมบ์ เอาหลักฐานสำคัญออกมาแฉจนแหลกกันไปข้าง

ดังนั้นทางออกที่ดีสุดคือ “วิน-วิน” หรือ "ล้างใจ" กันไปคือไม่ออกทั้งหัวและก้อย แต่ออกกลาง เจ๊าๆกันไป

ข้างหนึ่งทำงานต่อไปอีกระยะแล้วเกษียณอายุราชการอย่างมีความสุข อีกข้างถ้าลงชิงชัยตำแหน่งท“ผู้นำสีกากี” ในปี 2567 แล้วสู้ไม่ได้ก็ทิ้งดาบ ทิ้งหอก ทิ้งทวนลงสนามการเมืองที่ “เมืองสงขลา” บ้านเกิด

สรุปคดี “เป้รักผู้การ” ที่แม้หลักฐานปากคำทนโท่ ประมาณว่า “สิงโตไม่ทะเลาะกับสิงโต” ไม่มีใครเจ็บสาหัส หรือล้มตาย มีแค่ถลอกเลือดซิบนิดหน่อย
กำลังโหลดความคิดเห็น