สงครามคร้ังสุดท้าย: ยิวไซออนนิสต์ VS อิหร่าน
โดย ทนง ขันทอง
ในสงครามโลกคร้ังที่ 3 หรือสงครามคร้ังสุดท้ายจะเป็นการรบกันระหว่างยิวไซออนนิสต์กับอิหร่านเพื่อเปิดทางไปสู่วาระโลกใหม่ (New World Order) ของการตั้งรัฐบาลโลก (World Government)
แผนการใหญ่นี้มีการเตรียมการมานานหลายร้อยปีแล้ว โดยพวกฟรีเมสัน ซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกยิวไซออนนิสต์อีกต่อหนึ่ง
อัลเบิร์ต ไพค (คศ. 1809-1891) นายทหารยศพลโทในกองทัพฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ และสมาชิกองค์กรฟรีเมสันระดับสูงสุดเขียนจดหมายถึงเพื่อนสมาชิกเมสันลับด้วยกันชาวอิตาลี่ ชื่อว่า Giuseppe Mazzini ว่าจะมีความขัดแย้งระดับโลกเกิดขึ้น 3 ครั้ง ในระยะ 150 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะนำไปสู่การตั้งรัฐบาลโลก World Government ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกฟรีเมสัน
ในความขัดแย้งครั้งแรก สงครามโลกจะจะมีเป้าหมายเพื่อที่จะทำลายราชวงศ์ของเยอรมัน ออสเตรีย และรัสเซีย นำไปสู่การเกิดของลัทธิคอมมิวนิสต์
สงครามโลกครั้งที่ 2 จะได้เห็นพวกชาตินิยมต่อต้านพวกไซออนนิสท์ นำไปสู่การจัดตั้งรัฐยิวในปาเลสไตน์
สงครามโลกครั้งสุดท้าย หรือครั้งที่ 3 จะเป็นสงครามระหว่างพวกยิวไซออนนิสท์และโลกอิสลาม และจะนำไปสู่รัฐบาลโลก และเผด็จการคอมมิวนิสต์อย่างสมบูรณ์
สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสในเวลานี้เป็นเพียงหนังตัวอย่างของสงครามใหญ่ที่จะตามมา ซึ่งจะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างยิวไซออนนิสต์กับอิหร่าน รวมท้ังโลกเพื่อที่จะชี้ชะตาฉากสุดท้ายของสงครามครูเสดที่ยืดเยื้อกันมานานเกือบ 1,000 ปี
ยิวไซออนนิสต์คือขบวนการที่จะนำเอาชาวยิวในยุโรปเพื่อมาต้ังถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อที่จะช่วงชิงนครเยรูซาเลมคืนมาจากพวกมุสลิมในสงครามครูเสดยุคใหม่ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือสร้างมหาวิหารโซโลมอนแห่งที่ 3 เพื่อสถาปนาศาสนาโลกของพระเจ้าฝ่ายมืด
ยิวไซออนนิสต์ควบคุมระบบการเงินโลกผ่านซิตี้ ออฟ ลอนดอน และวอลล์สตรีท และอยู่เบื้องหลังสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป รวมท้ังนาโต้นโยบายแบ่งแยกและปกครอง และการก่อสงครามเพื่ออำนาจ เงินตราและการควบคุม
ส่วนอิหร่านจะมีตุรกี โลกอาหรับ และโลกมุสลิมหนุนหลัง รวมท้ังรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือที่พร้อมที่จะยาตราทัพเข้าช่วยในการทำสงครามคร้ังสุดท้าย
เมื่อเร็วๆนี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ออกมาแย้มแล้วว่า เรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงไปสู่วาระโลกใหม่ (New World Order) เพราะว่าระบบโลกในปัจจุบันมันล้าแล้ว และได้เวลาที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่อง
“โลกอยู่บนทางแยก และอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของคนรุ่นต่อๆ ไป” ไบเดนกล่าว “การเปลี่ยนแปลงคร้ังใหญ่นี้จะเกิดขึ้นทุกๆหกถึงแปดชั่วอายุคน... สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกสองหรือสามปีข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนดว่าโลกจะเป็นอย่างไรในอีกห้าหรือหกทศวรรษข้างหน้า"
ระเบียบโลกที่ควบคุมโดยสหรัฐฯกำลังหล้าและหมดเรี่ยวแรงแต่วอชิงตันจะกำหนดรูปแบบของระบบใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่
“ดังนั้น ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆ ถ้าเรากล้าพอและมีความมั่นใจในตัวเองเพียงพอ ที่จะรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” ไบเดนกล่าว “เราอยู่ในยุคหลังสงครามเป็นเวลา 50 ปี ซึ่งมันทำงานได้ดีทีเดียว แต่นั่นก็แทบจะหมดแรงแล้ว เราต้องการระเบียบโลกใหม่ในแง่หนึ่ง” เขากล่าว
แน่นอนเลยทีเดียวที่ระเบียบโลกใหม่ที่ไบเดนหมายถึงคือการตั้งรัฐบาลโลก ศาสนาโลก เงินสกุลโลกเดียวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ แต่รัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และประเทศที่กำลังพัฒนาแล้วไม่เห็นด้วยกับการผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จของสหรัฐ จึงมีการลุกขึ้นมาต่อต้าน
ด้วยเหตุนี้ ระเบียบโลกใหม่ หรือรัฐบาลโลกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อต้องมีสงครามใหญ่เกิดขึ้นก่อน สมรภูมิของการรบพุ่งกันจะอยู่ที่ตะวันออกกลาง โดยมียิวกับฮามาส+ฮิสบอเลาะห์ ซึ่งอิหร่านให้การสนับสนุนอยู่ข้างหลังออกหน้าไปก่อน ก่อนที่พันธมิตรของแต่ละฝ่ายจะกระโดดเข้าร่วมวงในสงครามอาร์มาเกดดอน
สหรัฐจึงมีท่าทีในสงครามอิสราเอล และสงครามยูเครนเหมือนกันคือไม่ให้มีเจรจาสันติภาพ เพราะว่าต้องการให้เกิดสงครามใหญ่เพื่อปรับระเบียบโลกใหม่ และปกป้องระบบดอลล่าร์ไปในตัว
นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐมองว่าอิหร่าน รัสเซีย และจีนเป็นแกนของความชั่วร้าย และส่งสัญญานว่าพร้อมที่จะช่วยเหลืออิสราเอลทำสงครามกับอิหร่าน โดยสภาผู้แทนสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ $14,500 ล้าน เพื่อช่วยอิสราเอลแล้ว แต่ไม่มีเม็ดเงินให้ยูเครนเลย เพราะว่ายูเครนกำลังจะถูกลอยแพ
วุฒิสมาชิกสหรัฐ ลินด์ซีย์ เกรแฮม จากรัฐเซาท์แคโรไลน่ากล่าวหาอิหร่านว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่อเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งก่อให้เกิดการโจมตีโต้ตอบในฉนวนกาซาโดยอิสราเอล และเตือนว่าสงครามที่ลุกลามขึ้นอาจทำให้เตหะรานต้องรับเคราะห์ด้วย
“เรามาที่นี่วันนี้เพื่อบอกอิหร่านว่า ‘เรากำลังจับตาดูคุณอยู่’ หากสงครามนี้ขยายวงกว้างขึ้น มันก็จะมาถึงสวนหลังบ้านของคุณ” เกรแฮมกล่าวระหว่างเยือนเทลอาวีฟเมื่อเร็วๆนี้ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่านั่นหมายความว่าอย่างไร
“ความคิดที่ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของอิหร่านนั้นน่าหัวเราะ” เขากล่าว
ในขณะที่สงครามอิสราเอลรุนแรงขึ้น โดยกองทัพอิสราเอลต้องรับมือกับพวกฮามาสในฉนวนกาซา ฮิสบอเลาะห์เลบานอน และฮูติในเยเมน ที่ร่วมมือกันยิงจรวดและขีปนาวุธเข้ามาถล่มอิสราเอล สหรัฐและนาโต้ส่งกองเรือรบหลายร้อยลำ รวมท้ังเรือดำน้ำเข้าประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลแดงเพื่อข่มขู่อิหร่าน ว่าถ้าหากยังคงให้การสนับสนุนฮามาส ฮิสบอเลาะห์ และฮูติจะต้องถูกตอบโต้อย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกันนายแอนโทนี บลิงเคน รมว ต่างประเทศสหรัฐเดินสายทั่วท้ังตะวันออกกลางเพื่อล็อบบี้ไม่ให้ประเทศอาหรับให้การสนับสนุนฮามาส และอิหร่าน ผลก็คือยูเออี ซาอุดิ อาราเบีย และจอร์แดนต่างก็ยอมอ่อนข้อ ท้ังซาอุ และจอร์แดนห้ามไม่ให้เยเมนยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าของทั้งสองประเทศไปยังอิสราเอล แต่ฮูติไม่สน ยังคงเดินหน้ายิงขีปนาวุธเหมือนเดิม
นอกจากอิหร่านแล้ว ตัวแปรที่สำคัญที่สุดของสงครามอิสราเอลคือตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชาชน90ล้านคน มีกองทัพที่เข้มแข็งที่สุดในนาโต้ รองจากสหรัฐ ถ้าหากตุรกีเข้าร่วมวงสงครามเพื่อช่วยปาเลสไตน์ อิสราเอลจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ ไม่มีทางสู้ได้
ถ้าดูตามข่าวกระแสรายวันจะเห็นได้ว่า อิสราเอลกำลังได้เปรียบการรบ เพราะว่าใช้กองทัพอากาศในการถล่มกาซาตอนเหนือจยเละ ประชาชนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10,000 คน ขาดเจ็บ 30,000-40,000 คน ส่วนเด็กเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 4,000 คน ทำให้ทั่วโลกออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลอิสราเอลว่ากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กระแสต่อต้านอิสราเอลกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และมีการเรียกร้องให้มีการหยุดยิง
แต่สื่อกระแสหลักแทบที่จะไม่มีการรายงานของความคืบหน้าของสงครามภาคพื้นดินระหว่างทหารอิสราเอล และอามาสในฉนวนกาซา เนื่องจากกองทัพอิสราเอลเสียหายอย่างหนัก รวมท้ังรถถังและยานหุ้มเกาะโดนระเบิดจากฮามาสที่ทำสงครามกองโจร ทำให้ทหารอิสราเอลต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริง
มีการเปรียบเทียบว่า กองทัพอิสราเอลกำลังติดกับดักในสงครามที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในสมภูมิในกาซา เปรียบเหมือนยูเครนที่ติดกับดักในเมืองบักห์มุด (Bakhmut) ต้องเสียหายอย่างหนักในสงครามกับรัสเซีย และเหมือนกับที่กองทัพนาซีเยอรมันติดกับดักในสงครามที่เลนินกราด ถูกกองทัพคอมมิวนิสต์รัสเซียตีโต้กลับจนทำให้พ่ายแพ้ในสงครามโลกคร้ังที่ 2
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Hassan Nasrallah ผู้นำของกลุ่มฮิสบอลเลาะห์พูดถึงสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจนว่า:
“อเมริกาส่งข้อความถึงเราว่าพวกเขาจะทิ้งระเบิดใส่อิหร่านหากเราดำเนินต่อไป คุณกล้าดียังไงมาคุกคามการต่อต้านของเรา? เรือรบของคุณในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไม่ทำให้เราหวาดกลัวแม้แต่น้อย และรู้ไว้ด้วยว่าเราสามารถกำหนดเป้าหมายได้”
“เราได้ 'จัดเตรียม' สำหรับเรือรบอเมริกันแล้ว และเราขอให้อเมริกาจดจำความพ่ายแพ้ของพวกเขาในอัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรีย และเลบานอน หากอเมริกาต้องการป้องกันสงครามในภูมิภาคไม่ให้เกิดขึ้น การรุกรานฉนวนกาซาจะต้องยุติลง
ผมขอรับรองกับชาวอเมริกันว่าในกรณีของสงครามในภูมิภาค เรือรบของพวกเขาและกองทัพอากาศจะต้องชดใช้ราคาแพง”
พันเอกดักลาส แมคเกรเกอร์ อดีตที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ออกมาเตือนว่า สหรัฐฯ จะนำอิสราเอลไปสู่หายนะ หากยังคงเพิ่มเดิมพันในตะวันออกกลาง ทางการอเมริกันไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก รัฐอาหรับซึ่งเข้มแข็งขึ้นและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กำลังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างสูงที่จะเข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งในปาเลสไตน์-อิสราเอล
แม็คเกรเกอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับช่อง Redacted YouTube ว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเข้าร่วมสงครามที่เทลอาวีฟกำลังทำสงครามอยู่ในฉนวนกาซา เพราะว่ามีความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญหน้าโดยตรงไม่เพียงแต่กับอิหร่านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตุรกีและรัสเซียด้วย
“เรากำลังยกระดับสถานการณ์ในทุกทิศทาง ดูเหมือนว่าเราคิดว่าการเพิ่มอัตรากำลังได้ผล เราลองสิ่งนี้ในยูเครน เราทวีความรุนแรง ทวีความรุนแรง และทำให้สถานการณ์บานปลาย และวันนี้ยูเครนก็อยู่ในซากปรักหักพัง ผมกลัวมากว่าหากสงครามในภูมิภาคนี้เกิดขึ้นอย่างที่ผมนึกคิด สุดท้ายแล้วอาจไม่เหลืออิสราเอลเลย” แมคเกรเกอร์ยอมรับ
เอกสารรั่วไหลจากกระทรวงข่าวกรองอิสราเอล (โดย Mekomit ผู้จัดพิมพ์ชาวอิสราเอล) แสดงให้เห็นแผนการของกระทรวงข่าวกรองของอิสราเอลที่จะผลักดันชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2 ล้านคนออกจากฉนวนกาซาไปยังทะเลทรายซีนาย ผ่านการระดมค์ทิ้งระเบิดครั้งล่าสุดนี้
คำสั่งเนรเทศกระทรวงข่าวกรองของอิสราเอลสรุปขั้นตอนสี่ขั้นตอน:
1. การเรียกร้องให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากฉนวนกาซาตอนเหนือและอนุญาตให้ปฏิบัติการทหารทางภาคพื้นดินได้
2. ปฏิบัติการภาคพื้นดินตามลำดับจากเหนือจรดใต้ฉนวนกาซา
3. เปิดเส้นทางข้ามราฟาห์
4. การตั้ง "เมืองกระโจม" ทางตอนเหนือของไซนาย และการก่อสร้างเมืองเพื่อตั้งถิ่นฐานใหม่ของชาวปาเลสไตน์ในอียิปต์ โดยอิสราเอลจะให้เงินชดเชยให้อิยิปต์
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเข้ารับผิดชอบงานด้านความมั่นคงทั้งหมดในฉนวนกาซ่าอย่างไม่มีกำหนด โดยคำประกาศนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่า รัฐบาลอิสราเอลวางแผนที่จะควบคุมพื้นที่ซึ่งเป็นเขตปกครองของชาวปาเลสไตน์ให้ได้
ท่าทีที่แข็งกร้าวเช่นนี้ของเนทันยาฮูในการฮุบดินแดนทั้งหมดของปาเลสไตน์ทำให้ฮามาสไม่มีทางเลือกต้องฮึดสู้ตายเพื่อปกป้องปาเลสไตน์ให้ถึงที่สุด ซึ่งจะเป็นการจุดชนวนให้เกิดสงครามใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านและโลกมุสลิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สหรัฐและรัสเซีย จีนก็จะเลี่ยงไม่ได้เช่นกันในการเผชิญหน้ากันในสงครามครูเสดคร้ังสุดท้ายนี้
