xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : ศึกยิว-ปาเลสไตน์ สงครามครูเสดแห่งศตวรรษที่ 21 - ตำรวจหน้าแหก! ศาลชี้ “ใบสั่งจราจร” ขัดกฎหมาย - ทวง 6 คดี อสส.-จีนประกาศอิสรภาพทางเทคโนโลยี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 13 ต.ค. 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ ได้แก่

- ศึกยิว-ปาเลสไตน์ สงครามครูเสดแห่งศตวรรษที่ 21
- “อัยการสูงสุด” ต้องทำความจริงให้ปรากฏ กรณี 6 คดีฉาว
- ตำรวจหน้าแหก! ศาลชี้ ”ใบสั่งจราจร“ ขัดกฎหมาย
- จีนประกาศอิสรภาพทางเทคโนโลยี
- หัวเว่ยเดินเกมหมากล้อมอเมริกา

ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.210



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 211 [13 ต.ค. 66]

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK

แอปพลิเคชัน :SONDHI APP

ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.

ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ

YouTube :Sondhitalk

เว็บไซต์:www.sondhitalk.com

Podcast หรือ podbean :SONDHI TALK



สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2566 และขอสวัสดีแฟนๆ รายการที่รับชมสดทาง Sondhi App, Facebook, YouTube และ TikTok วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม เป็นวันนวมินทรมหาราช วันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ 9

วันนี้เราจะมีรายการหลายเรื่อง เราจะเปิดเมดเลย์ด้วยการตีแสกหน้าตำรวจ ศาลชี้ "ใบสั่งจราจร" ขัดกฎหมาย ลิดรอนสิทธิ และผมจะเอาเรื่องเกี่ยวกับดรามา ส.ว. อุ้ม "อุปกิต ปาจรียางกูร" ออกมาพูดให้ฟัง อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องเก่าจากอาทิตย์ที่แล้ว แต่ก็มีเชื่อมโยงต่อเนื่องไป เรื่องที่เป็นดรามา ก็คือ อัยการสูงสุดคนปัจจุบันต้องทำความจริงให้ปรากฏ กรณี 6 คดีดังยุคคุณนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ซึ่งน่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ดีกว่า เพราะเที่ยวเก่งจัง

เรื่องที่สอง ผมจะเอาปี 2566 มาเล่าให้ฟังว่า เป็นปีที่สำคัญมากสำหรับจีน เพราะเป็นปีแห่งการประกาศอิสรภาพทางเทคโนโลยีของจีน ภูมิรัฐศาสตร์ทางไซเบอร์ กับเกมหมากล้อมของหัวเว่ย ซึ่งหัวเว่ยใช้เกมหมากล้อมในด้านเทคโนโลยีในบริบทของภูมิรัฐศาสตร์ได้อย่างไร

เรื่องสุดท้ายซึ่งท่านผู้ชมคงจะรอดูอย่างใจจดใจจ่อ คือ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สงครามครูเสดแห่งศตวรรษที่ 21


ท่านผู้ชมครับ เสาร์ที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เสาร์ที่แล้ว พอเราจัดงานรำลึกวีรชน 7 ตุลาฯ ได้เสร็จ เราก็เดินทางไปทำพิธีปั๊มเหรียญ เทโลหะมวลสารพระพุทธรูป "พระสยามพุทธาธิราช" ที่โรงหล่อใกล้วัดปรางค์หลวง บางใหญ่ นนทบุรี มีหลวงปู่ จังหวัดราชบุรี มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลวงปู่พูดแต่เช้าว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องฟ้าฝนนะ ไล่ไปหมดแล้ว ส่วนผมก็อธิษฐานจิตเหมือนเดิม ขอให้ฟ้าเปิด อย่าให้ฝนตก พอไปถึงสถานที่ทำพิธี ฟ้ามืดเลย เมฆครึ้ม ดูท่าฝนจะตกแน่ๆ ทางโรงหล่อ เจ้าหน้าที่ผู้จัดพิธีมาปรึกษาอาจารย์ปานเทพ กลัวว่าพิธีเทโลหะกลางแจ้ง หากเทไม่เสร็จแล้วเกิดฝนตก จะเกิดความเสียหายได้ จึงเสนอให้รีบเทโลหะก่อนฤกษ์ที่กำหนดไว้ คือ 12.29 น. แต่อาจารย์ปานเทพ ยืนยันว่าให้ยึดตามฤกษ์ที่วางเอาไว้ เพราะเชื่อมั่นในหลวงปู่บุญเรือง และผม


พอถึงเวลา 12.29 น. ฟ้าแจ้ง เกิดแดดออกแรงถึงขั้นอากาศร้อนทันที เป็นฟ้าเปิดในช่วงเวลานั้นจนเสร็จพิธี ไม่มีฝนตกเลยแม้แต่นิดเดียว

ท่านผู้ชมท่านใดที่สนใจจะจองพระ ให้รีบจองเข้ามา ยังพอจองได้อยู่ "พระสยามพุทธาธิราช" ให้เช่าบูชาองค์ละ 1 แสนบาท ส่วนเหรียญชุดละ 2,000 บาท สนใจเข้าไปที่ไลน์ (LINE) เพิ่มเพื่อน @tambun


เรากำลังจะกำหนดวันพุทธาภิเษกใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนจะมอบพระให้ผู้สั่งจอง ประมาณต้นเดือนธันวาคม แต่จะแจ้งวัน-เวลา และสถานที่อีกที จากนั้นจะเริ่มทยอยจัดส่งตามลำดับที่จองกันมา

อีกเรื่องหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ "2 ทศวรรษ เมืองไทยรายสัปดาห์" โดยผม สนธิ ลิ้มทองกุล และคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ เราจะจัดวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้น 7 ราคาบัตร 2,000 บาท กับ 1,500 บาท ตอนนี้แถวหน้าเกือบเต็มแล้ว ถ้าสนใจจองบัตรกันได้ สอบถามรายละเอียดการจองบัตรที่ไลน์ @sondhitalk


เรื่องสุดท้าย เรื่องของสุขภาพ ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าตอนนี้ไข้หวัดใหญ่ระบาดมาก และแรงมากๆ แรงกว่าไข้หวัดใหญ่ทุกๆ ครั้ง อาการค่อนข้างจะแรงกว่าโควิดเสียด้วยซ้ำ กราฟรายงานผู้ติดไข้หวัดใหญ่ของกรมควบคุมโรค จะเห็นได้ชัดเลยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อปีนี้พุ่งสูงขึ้นมาก เทียบกับปีที่แล้วคนละเรื่องกันเลย หลายเท่า


ช่วงเวลาแบบนี้ท่านผู้ชมจำเอาไว้เลย ขอให้เชื่อผม ถ้าเริ่มมีอาการคัดจมูก ไอ หรือจาม ไม่ต้องรอให้มีไข้ เอาฟ้าทะลายโจรของอาจารย์ปานเทพ รับประทานไปทันทีเลยสี่เม็ดต่อหนึ่งมื้อ สี่มื้อต่อหนึ่งวัน เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ห้าวันหายครับ คนที่รู้จัก ลูกหลานกัน โทรมาบอกว่าตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หนักหนาสาหัสมาก นอนกันทีสามวัน ห้าวัน เสียเงินเสียทองไปเยอะ ฟ้าทะลายโจรครับ ยิ่งกินเร็วยิ่งดี อย่าปล่อยให้มีไข้ แค่คัดจมูก ไอ จาม รู้สึกไอถี่เหลือเกิน กินทันทีเลย ถ้าปล่อยแล้วอาการจะรุนแรงขึ้น

อีกอันหนึ่งคือ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ของอาจารย์ปานเทพ ทำไมต้องเอามาพูด? ในช่วงหน้าฝน ถ้ายังไม่ป่วย ให้เจริญธาตุด้วยธาตุไฟเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะคนอายุมาก กินยาลมฯ คุ้มกัน เพราะตามคัมภีร์การแพทย์แผนไทย แม้แต่ในแผนผันสมุฏฐานวินิจฉัยจักรา ของอาจารย์ปานเทพ ก็ระบุว่า ถ้าเป็นผู้สูงวัย ในช่วงฤดูฝน ให้กินยารสร้อน ขม และของเย็น ทั้งหมดนี้อยู่ใน "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ตัวนี้ เหมือนเดิมครับ ถ้าท่านผู้ชมสั่งยาลมฯ 6 กล่อง จะได้แผนผังสมุฏฐานวินิจฉัยจักรา ของอาจารย์ปานเทพ แผนภูมินี้อาจารย์ปานเทพทำขึ้นมาเอง เอาความรู้ทางการแพทย์แผนไทยในพระคัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัยมาเรียบเรียงอยู่ในวงกลม เรียงไปตามจักรราศีของโหราศาสตร์ไทย ท่านผู้ชมซื้อยาลมฯ 6 กล่อง จะได้แผนผังสมุฏฐานวินิจฉัยจักรา ของอาจารย์ปานเทพ 1 ชุด แจกถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นนะครับ พ้นจากนี้จะไม่แจกแล้ว


ท่านผู้ชมที่สนใจทั้งฟ้าทะลายโจร และยาลมฯ ติดต่อไลน์ไอดี พิมพ์คำว่า @sunherb

สุดท้าย ท่านผู้ชมครับ เสาร์-อาทิตย์นี้ ถ้าไม่มีอะไรทำ หรือวันศุกร์ วันหยุดนี้ อาทิตย์หน้าจะเข้าเทศกาลเจแล้ว เทศกาลเจเริ่ม 15-23 ตุลาคม ร้าน SUN PAN มีเมนูใหม่มาเสนอ ขนมปังเจมันม่วงญี่ปุ่น และขนมปังเจฟักทองญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีโอเลี้ยงสูตรผม อันนี้ผมแนะนำครับ สำหรับผู้ทานเจสามารถทานได้


เชฟเพนนี อุตส่าห์คิดขนมเปี๊ยะเจวางขายที่ร้านด้วย สามารถซื้อได้ที่ร้าน SUN PAN อยู่ที่ปั๊ม ปตท. ราบ 1 ตรงข้ามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ใครที่ยังสนใจขนมเปี๊ยะเจของเชฟเพนนี ก็สามารถซื้อได้ นอกจากที่ SUN PAN แล้ว ก็สามารถซื้อได้ที่ร้านของเขา ที่สยามพารากอน ชั้นล่าง


และ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ แก้วที่ระลึกครบรอบ 4 ปีฯ สอบถามได้ทางกล่องข้อความรายการฯ มีจำนวนจำกัด สนใจ มาทาง inbox ได้เช่นกัน

ตำรวจหน้าแหก ศาลชี้ "ใบสั่งจราจร" ขัดกฎหมาย

ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ท่านผู้ชมหลายท่านที่เล่นโซเชียลมีเดีย หรืออ่านข่าว อาจจะเจอมาแล้วว่า ศาลปกครองชี้ "ใบสั่งจราจร" ขัดกฎหมาย ลิดรอนสิทธิ


วันที่ 27 กันยายน 2566 สองอาทิตย์ที่แล้ว มีผู้ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ที่ 1) ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ที่ 2) กรณีที่ออกประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร ปี 2563 และเรื่องการกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร พ.ศ. 2522 และ 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 โดยศาลฯ บอกว่า ออกมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย


ที่มาของเรื่องเป็นอย่างไร ? ที่มาของเรื่องคือการออกใบสั่งจราจรตามตัวบทกฎหมายปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดรูปแบบของใบสั่งใหม่ เหลือแค่ระบุวิธีการชำระค่าปรับเท่านั้น ไม่เหมือนรูปแบบใบสั่งจราจรเดิมที่ให้สิทธิโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ นอกจากนี้แล้ว ใบสั่งจราจรแบบใหม่ยังกำหนดด้วยว่า ถ้าเจ้าของรถไม่จ่ายค่าปรับตามกำหนด เมื่อไปชำระภาษีประจำปี จะได้รับเพียงเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีชั่วคราว 30 วัน เมื่อ 30 วันไปแล้วยังไม่จ่ายค่าปรับ นำรถไปใช้ จะมีความผิดฐานใช้รถที่ไม่ติดเครื่องหมายที่นายทะเบียนออกให้ ทำให้การไม่ติดเครื่องหมายเสียภาษีเป็นความผิดเพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้ออกให้เอง คือเครื่องหมายการชำระภาษี แม้ว่าคนจะชำระภาษีครบทั้งปีแล้วก็ตาม แต่กลับออกให้เป็นแบบ 30 วัน เท่านั้น


ประเด็นนี้ทำให้คุณสุภา โชติงาม ข้าราชการกรมการขนส่งทางบก ร้องไปที่ศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะคุณสุภา เห็นว่าการออกใบสั่งในระบบปัจจุบันนี้ไม่ชอบธรรม ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นการมัดมือชกประชาชนให้ชำระค่าปรับจราจร ทั้งๆ ที่อัตราค่าปรับจราจรเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานที่จับกุมผู้กระทำผิดจะต้องมาพิจารณาพฤติการณ์แห่งการกระทำ ซึ่งอาจจะจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ หรืออาจจะขาดเจตนาอะไรก็ได้ หรือบางทีอาจจะเป็นเรื่องเส้นทางจราจา เครื่องหมายจราจรที่ไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นแล้ว การประกาศให้กำหนดอัตราค่าปรับในลักษณะที่แน่นอนตายตัว ถือว่าเป็นการไม่ให้เจ้าหน้าที่รับคำชี้แจงในการต่อสู้คัดค้านของผู้ถูกกล่าวหา หรือให้ความเห็นขัดแย้งอะไรได้เลย

สุภา โชติงาม
ต่อมา วันที่ 27 กันยายน 2566 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีดำ เลขที่ 2443/2563 คดีหมายเลขแดง ที่ 1855/2563 ให้เพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งสองฉบับ เพราะเป็นกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วว่า คดีนี้มีเรื่องต้องพิจารณาอยู่ 2 ประเด็น หนึ่ง ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งพนักงานจราจรปี 2563 เป็นกฎที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลฯ ท่านอ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สรุปความได้ว่า การกำหนดแบบใบสั่งโดยทำให้ผู้ได้รับใบสั่งเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความผิดและต้องชำระค่าปรับโดยมิอาจจะโต้แย้งหรือดำเนินการประการอื่นใด และยังมีลักษณะยืนยันว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้กระทำความผิด ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 29 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกาศฯ ดังกล่าวจึงเป็นการออกกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อธิบายตามภาษาชาวบ้าน คือรัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่าให้ผู้ถูกกล่าวหาทางอาญายังคงจะได้รับการสันนิษฐานว่าไม่มีความผิด จนกว่าจะถูกพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริง อีกทั้งเจตนารมณ์ของกฎหมายจราจรนั้น ต้องการควบคุมการใช้รถให้เกิดความปลอดภัย ส่งเสริมการจราจรให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดตามพฤติกรรมแห่งการทำผิด ด้วยความเสมอภาค การที่ไปตัดสิทธิการโต้แย้งของผู้ถูกกล่าวหา จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ


ข้อที่สอง ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ปี 2522 และ 2563 นั้น เป็นกฎที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ?

ศาลฯ ท่านอ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สรุปใจความว่า การกำหนดค่าปรับตายตัวล่วงหน้าโดยเจ้าหน้าที่ มิอาจใช้ดุลพินิจในการเปรียบเทียบปรับให้เหมาะสม ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจร เช่น ดุลพินิจกำหนดค่าปรับตามความเหมาะสมแห่งพฤติการณ์ กรณีนี้จึงขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. จราจรทางบก ปี 2562 ก็เลยกลายเป็นออกกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ท่านผู้ชมครับ ตำรวจนี่มีแต่เรื่องสนุกๆ ทั้งนั้นเลยให้พวกเราดู ประเด็นอยู่ตรงไหน ? ประเด็นคือ คำพิพากษาดังกล่าวมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกประกาศ วันที่ 20 กรกฎาคม หรือสามปีกว่าที่แล้ว ทันทีที่คำพิพากษาศาลปกครองเผยแพร่ต่อสาธารณะ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องใบสั่ง ก็มีมากมายเต็มไปหมด ก็เลยตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วถามว่า ตำรวจจะเอาอย่างไรกับเงินค่าปรับที่ได้ชำระไปก่อนหน้านี้ ย้อนหลังไปจนถึงวันที่ศาลปกครองกำหนด คือวันที่ 20 กรกฎาคม 2563


ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวยังไม่ถือว่าสิ้นสุด เนื่องจากโดยกฎหมายระบุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีคำพิพากษา หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ดำเนินการอุทธรณ์ภายในระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าคดีสิ้นสุด ต้องบังคับตามที่ศาลปกครองกลางพิพากษามา ซึ่งเมื่อดูท่าทีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว คงใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์สู้คดีในชั้นศาลปกครองสูงสุดต่อไป ระหว่างนี้ก็ยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ตามเดิมทุกประการ


ประเด็นครับ เรื่องการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกใบสั่งโต้แย้งนั้น รูปแบบใบสั่งจราจรของเดิมเขาจะมีข้อความระบุว่า ให้ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด มีสิทธิโต้แย้งได้ สามารถเขียนบันทึกด้านหลังใบสั่ง ส่งไปยังที่อยู่เจ้าพนักงานได้ แต่รูปแบบใบสั่งจราจรที่เป็นของใหม่นั้น ได้ตัดข้อความตรงนี้ออกไปเลย แม้จะมีการแจ้งว่าถ้าประชาชนโต้แย้ง จะต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน ตาสีตาสาก็ไม่ได้ใช้เป็นกันทุกคน แล้วในกรณีที่ไม่ได้โต้แย้งผ่านแอปพลิเคชัน ก็ต้องไปโต้แย้งที่สถานีตำรวจที่ออกใบสั่ง ซึ่งยุ่งยากกว่ามาก เหมือนกับตั้งกฎไว้เพื่อไม่ให้มีการโต้แย้งใบสั่ง


งานนี้ ผมอยากให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ลงมาดูด้วยตัวเอง เพราะเรื่องใบสั่งค่าปรับจราจรเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมาก ทุกวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำมันแพง ประชาชนเดือดร้อนมากอยู่แล้ว แล้วยังมาเจอความไม่เป็นธรรมกับค่าปรับจราจรอีกด้วย ปฏิเสธเลย ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า ตำรวจต้องการค่าปรับจราจรเพื่อเอาเงินส่วนแบ่งไปเป็นรายได้พิเศษ เพราะว่ามีการแบ่งส่วนค่าปรับจราจรเข้ากระเป๋าตำรวจ เรียกว่าใบสั่งแต่ละใบมีความหมายกับตำรวจจราจร ปรับมาก ได้เงินมาก ปรับน้อย ได้เงินน้อย โดยส่วนแบ่งใบสั่งแต่ละใบตาม พ.ร.บ. จราจร ระบุไว้ว่า จะคำนวณส่วนแบ่งให้เทศบาลจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ ของเงินค่าปรับ ซึ่งกรณีตำรวจนครบาล เงินส่วนนี้ตกเป็นของกรุงเทพมหานคร ส่วนที่เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ จะคำนวณเป็นเงินรางวัลจราจร 47.5 เปอร์เซ็นต์ ของเงินค่าปรับ เงินกองทุนเพื่อการสืบสวนฯ 2.48 เปอร์เซ็นต์ ของเงินค่าปรับ ท่านผู้ชมรู้ไหมครับรายได้แผ่นดิน ได้แค่ไหน ? 0.02 เปอร์เซ็นต์ ของเงินค่าปรับ

ยกตัวอย่างเช่น ค่าปรับ 2,200 บาท เข้าเทศบาล/กทม. 1,100 บาท เงินรางวัลจราจร 1,045 บาท เงินกองทุนเพื่อการสืบสวน 54.45 บาท เงินเข้ารายได้แผ่นดิน 55 สตางค์


แต่มีการแก้เกี้ยว กำหนดเพดานแก้เกี้ยวว่าตำรวจจราจรแต่ละนายจะได้เงินส่วนแบ่งจากใบสั่งไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท คำถาม ท่านผู้ชมครับ ตำรวจครับ ถ้าอย่างนั้นเงินส่วนที่เหลือไปอยู่ที่ไหน ? ส่วนแบ่งค่าปรับตามหลักการและเหตุผลเหมือนจะดี อ้างว่าเมื่อตำรวจจราจรมีรายได้ถูกกฎหมาย ก็จะลดศาลเตี้ยข้างถนน หรือการรีดไถผู้ขับขี่ยวดยานแลกกับการไม่ออกใบสั่ง เพราะการไถตามด่านเป็นโมเดลวิน-วิน อยู่คู่เมืองไทยมานาน เรียกว่า "เจอ จ่าย จบ" One Stop Service แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ขับขี่รถยนต์โดนมัดมือชกด้วยใบสั่งมหาโหดที่กำหนดราคาตายตัว ไม่สนใจพฤติการณ์แห่งการกระทำนั้นเป็นการจงใจ หรือสุดวิสัย หรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่อยากพูดว่าเรื่องใบสั่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความโลภของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อยากจะทำมาหารับประทาน (แถวบ้านผมเรียกว่าทำมาหาแดก) อย่างเดียว ส่วนประชาชนก็อยู่ด้วยความหวาดกลัวต่อไป


ผมจะเตือนสำนักงานตำรวจแห่งชาตินิดนะครับ การอุทธรณ์ อุทธรณ์ได้ แต่ถ้าศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนว่าคุณทำผิดกฎหมาย คราวนี้คุณต้องตั้งโจทย์ให้กับตัวคุณเองแล้ว เมื่อผิดกฎหมายแล้ว เด็ดขาดแล้ว ขณะนี้คุณยังบอกว่าให้ใช้กฎใหม่ต่อไปได้ ถ้าถึงวันนั้นแล้ว ประชาชนเขาฟ้องร้องคุณ เรียกเงินคืน เงินที่คุณแบ่งไปเรียบร้อยแล้ว เข้ากระเป๋าคุณไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเข้ากระเป๋าผู้ใหญ่เท่าไร เข้ากระเป๋าตำรวจชั้นผู้น้อยเท่าไร คุณต้องควักเอามาจ่ายคืนประชาชนเขานะ แล้วกรณีแบบนี้ถ้าศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าตำรวจทำไม่ได้ ยืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ก็อาจจะมีคนที่หัวหมอ ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกค่าเสียหาย ประชาชนที่โดนใบสั่งทุกคนสามารถที่จะเข้าชื่อกันแล้วฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ครับ อย่าให้วันนั้นเกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นแล้ว วันนั้นคุณไม่เป็นอันทำมาหากินเลย คุณต้องปากคอสั่นออกมาชี้แจงประชาชน แล้วถ้าเมื่อศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่าให้ยืนตามศาลปกครองกลางว่าใบสั่งคุณผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว คุณผิดแน่ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ คนที่อยู่ในกองคดี หรือผู้เชี่ยวชาญกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คิดให้ดีๆ คิดให้รอบคอบ คิดให้ดีๆ และคิดให้รอบคอบนะครับ

“สว.อุปกิต” ถึงอย่างไรก็ต้องไปพบอัยการ

ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ มีมติเสียงข้างมากที่การประชุมวุฒิสภา 174 ต่อ 7 เสียง ไม่เห็นชอบที่จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายเรียกนายอุปกิต ปาจรียางกูร หรือมีฉายาที่เรียกว่า "ส.ว.ทรงเอ" ไปสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามมาตรา 11/7 พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีความอาญา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่าถ้ายังอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ ก่อนลงมติ


นายอุปกิตอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนเป็น ส.ว. ได้ออกจากกรรมการหุ้นส่วนของอัลลัวร์ กรุ๊ป แล้ว ที่ผ่านมาเกือบ 15 ปี ตนเป็นตัวแทนซื้อขายไฟระหว่างไทยกับพม่า ที่ด่านท่าขี้เหล็ก แต่ปี 2563-2565 ด่านท่าขี้เหล็กปิดจากสถานการณ์โควิด นายทุนมินลัต นักธุรกิจเมียนมาเข้ามาทำธุรกิจไฟฟ้าต่อจากตน จำเป็นต้องชำระเงินผ่านแอปฯ ชื่อ มันนี่

นายอุปกิต กล่าวว่า แม้จะประกาศสละสิทธิ์ ไม่ขอรับเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ทำไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวุฒิสภา

ประเด็นครับ งานนี้สังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ส.ว. อย่างหนัก ทำนองว่า "ส.ว. อุ้มอุปกิต ปกป้องพวกพ้อง ศีลเสมอกันแล้วเลยต้องปกป้องกัน บ้างก็ว่า ส.ว. คนนี้มีปลอกคอ ส.ว. คนดีทั้งหลาย สุดท้ายสภาฯ คือที่หลบภัย ทำอะไรก็ไม่ผิด โตขึ้นมาอยากเป็น ส.ว." ฯลฯ นี่คือความเห็นที่ประชาชนออกมาถล่ม

แต่ความจริง ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. มักจะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้ว เพื่อให้ ส.ส. - ส.ว. สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งฟ้องคดีจนกระทบถึงการลงคะแนนเสียงในสภาฯ


ตามพระราชกฤษฎีกาการประชุมสภาฯ 2566 กำหนดว่า วันเริ่มประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 จะครบกำหนด 120 วัน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 นี้ ส่วนสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 จะเริ่มจาก 12 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2567

ท่านผู้ชมครับ ถ้าทุกคนยังจำได้ ผมเคยนำเสนอเรื่องนี้มาอย่างละเอียดเช่นกัน ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 181 ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 


ซึ่งนายอุปกิตถูกตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า "เครือข่ายอัลลัวร์" ของนายทุนมินลัต ชาวพม่า ซึ่งถูกจับกุมพร้อมนายดีน ยัง จุลธุระ ลูกเขยนายอุปกิต เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา โดยพบว่านายทุนมินลัต กับนายอุปกิต เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ควบคุมกลุ่มที่เรียกว่า "อัลลัวร์กรุ๊ป" โดยอ้อม สั่งซื้อไฟฟ้าจากไทยโดยใช้เงินธุรกิจสีเทา อีกทั้งผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือ เอ็ดดี้ เจ้าพ่อบ่อนการพนันออนไลน์ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ที่ซื้อธุรกิจโรงแรมกาสิโนท่าขี้เหล็ก อัลลัวร์ กรุ๊ป ในพม่า ซึ่งเคยเป็นของ ส.ว.อุปกิต อีกด้วย

เมื่อปี 2562 ส.ว.อุปกิต ระบุในบัญชีทรัพย์สินว่าได้ขายหุ้นอัลลัวร์ กรุ๊ป รวมทั้งโรงแรมอัลลัวร์รีสอร์ตก่อนจะเป็น ส.ว. ในปี 2562 ให้กับชายคนหนึ่งที่ชื่อ นายชาคริส กาจกำจรเดช แต่พอตำรวจเรียกนายชาคริสไปสอบปากคำ กลับพบว่าไม่ได้มีการซื้อขายจริง เลยมีการตั้งคำถามว่า มีการฟอกเงิน มีนิติกรรมอำพรางหรือไม่


ท่านผู้ชมครับ คดีนี้อำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน ในความผิดนอกราชอาณาจักร ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 20 จึงมอบหมายให้สำนักงานอัยการสูงสุดสอบสวนกับกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ร่วมกันเป็นพนักงานสอบสวน ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 นายอุปกิตเข้าไปรับข้อกล่าวหารวม 3 ข้อหา ได้แก่ สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ โดยในชั้นสอบสวน นายอุปกิตให้การปฏิเสธ

ต่อมา วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายอุปกิต ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะนำนายอุปกิต พร้อมสำนวนการสอบสวนมาส่งให้อัยการสำนักงานคดียาเสพติด เพื่อเสนอสั่งพิจารณาคดี โดยนัดเป็นวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 แต่พอถึงวันนั้นแล้ว พนักงานอัยการก็เลื่อนไปเป็นวันที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติม

แต่ก่อนวันนั้นจะมาถึง นายอุปกิตได้แจ้งขอเลื่อนนัดฟังคำสั่ง โดยอ้างว่าอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ จึงได้เอกสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย อัยการก็ให้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2566

โดยสรุปแล้ว ความเห็นผมเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดรามา เพราะคดีนี้เหลือแค่เพียงนัดฟังคำสั่งจากอัยการสูงสุดเท่านั้น ประการต่อมา นายอุปกิตเองแสดงเจตนาพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องรอปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกทั้งต่อให้นายอุปกิตจะอ้างเอกสิทธิ์การคุ้มครอง อีกไม่กี่วันจะหมดสมัยประชุมฯ แล้ว ไม่กี่วันเอง ไม่เกินสองอาทิตย์ จะหมดสมัยประชุมแล้ว ส.ว. ชุดปัจจุบันก็จะหมดวาระ 5 ปี ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ก็ขอฝากตำรวจ อัยการสูงสุด ดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ หนึ่งเดือนครึ่ง ต้องมีความคืบหน้า

สรุปง่ายๆ ว่า เอกสิทธิ์มีอยู่ ถ้าเขาใช้ก็ไม่ผิดอะไร ข้อเท็จจริง ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็คือว่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาปิดสมัยประชุมฯ แล้ว ถ้าใช้เอกสิทธิ์ก็คุ้มครองได้แค่ 10-20 วัน เท่านั้นเอง อย่าไปดรามาเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณรังสิมันต์ โรม โคตรจะดรามาเลย เรื่องของตั๋วปารีสผมไม่เห็นคุณดรามาเลยแม้แต่นิดเดียว

"อัยการสูงสุด" ต้องทำความจริงให้ปรากฏ กรณี 6 คดีฉาว

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่คิดว่าจะต้องมาพูดเรื่องนี้อีก เดี๋ยวท่านผู้ชมจะหาว่าผมเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ศุกร์ที่แล้วผมเอาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและข้อมูลการเดินทางของอดีตอัยการสูงสุด(หญิงคนแรก) ชื่อคุณนารี ตัณฑเสถียร ท่านเพิ่งเกษียณอายุไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนนี้ และผมบอกไปว่า ในรอบหนึ่งปีที่ท่านดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ขณะที่วันทำงานราชการมีอยู่ 240 วันต่อปี ท่านใช้เวลาเกินครึ่ง คือ 132 วัน เพื่อเดินทางไปราชการต่างประเทศ 90 วัน เดินทางในประเทศอีก 42 วัน รวมแล้ว 30 ทริป ใช้งบประมาณหลวงไปแล้วประมาณสี่สิบกว่าล้านบาท


หลังจากที่ผมนำเรื่องนี้เสนอไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการเดินทางและผลงานของท่านอดีตอัยการสูงสุด คุณนารี ตัณฑเสถียร เป็นจำนวนมาก ผมเอาตัวอย่างคอมเมนต์มาก็แล้วกันนะครับ

คุณพารา ธารทอง บอกว่า ข้าราชการรอถูกดัน ผลัดกันเป็นหัวหน้าใหญ่สุดปีเดียวก่อนเกษียณ ทำไม ไม่ว่าจะเป็นองค์กร สตช. ป.ป.ช. สำนักงานอัยการฯ อื่นๆ มากมาย ดู ผบ.ตร. ก็ได้ ส่วนมากคนจะมานั่งหัวสุดเพียงปีเดียวก่อนเกษียณ คิดว่าเขาจะคิดทำอะไร ? เขาไม่ใช่คนที่เพิ่งเข้ามาทำงานในองค์กรปีแรก แต่เผอิญเป็นปีสุดท้าย ดังนั้นแนวโน้มการคิดทำก็มองเพื่อการเกษียณ ไม่ใช่ทำเพื่อการเจริญเติบโตก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

การสั่งตั้งคณะกรรมการ ลองไปเช็กว่ามีเป้าหมายกำกับไหม เช่น กำหนดเวลา ความถี่ ให้รายงานติดตามความคืบหน้าไหม ถ้าไม่มี เมื่อลูกน้องเห็นหัวหน้าไม่อยู่บ่อย รู้ว่าไปไหน ก็คือไปเที่ยว หรือไปดูงาน ก็รู้ว่าหัวหน้าทำงานลักษณะแบบนี้ สุดท้ายงานนี้ตั้งกรรมการอะไรมา คิดว่าพวกลูกน้องพยายามทำงานให้ได้ผลอะไร ยิ่งคดียุ่งยาก ปีสุดท้ายก็เลยใช้ประโยชน์เบิกจ่ายเต็มที่อย่างไรก็เพียงไม่ผิดกฎหมาย จะมาห่วงอะไรกับคนบ่นนั่นนี่ ยังไงก็บ่นหลังหรือใกล้หมดเวลา ยังไงเขาก็เงียบเกษียณไปอยู่แล้ว เงินเกษียณอิงตามฐานเงินเดือนปีสุดท้ายอยู่แล้ว

ความซวยอาจจะมีก็คือ ถ้ารับตำแหน่งใหม่ไม่นานก็ดันมีเรื่องใหญ่ คดีใหญ่ในช่วงให้ความรู้สึกประมาณว่าเหลือไม่กี่เดือน แต่ยังไงซะ ข้าราชการไทยซะอย่าง ถ่วงพ้นเวลาได้เสมอ แต่ต้องวุ่นวายเพราะสังคมเพ่งเล็งช่วงข่าวร้อนเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น

อีกคนหนึ่งชื่อ PPSS2565 ออกความเห็นว่า เดี๋ยวนี้มันประชุมออนไลน์ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไปก็ไม่ใช่แค่สองคน แต่เป็นหมู่คณะ ทีละหลายๆ คน หลังจากกลับมาแล้วเอามาต่อยอดทำอะไรเพื่อประเทศชาติและองค์กรบ้างล่ะ

อีกคนชื่อ USEROS5 มีสื่อช่องนี้ช่องเดียวที่พูดความจริง นอกนั้นปิดหุปิดตาประชาชน


ท่านผู้ชมครับ นี่คือความเห็นส่วนน้อยนิดซึ่งมีอยู่มากมายเหลือเกิน

นอกจากนี้แล้ว ยังมีผู้ใหญ่ถึงขั้นอดีตประธานศาลฎีบางท่าน ก็ส่งข้อความมาหาผมว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ผมหยิบยกเรื่องนี้มาพูด ขนาดท่านผู้ฟังจำนวนมาก หลายคน inbox เข้ามาในเพจเฟซบุ๊ก SONDHI TALK บอกว่า อยากให้ผมช่วยติดตาม 6 คดีดังที่คุณนารีตั้งกรรมการสอบขึ้นมาหน่อยว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างไร

ที่จริงแลัวผมไม่ได้ว่าคนที่เดินทางเยอะเพื่อไปทำงานราชการ หรือจะใช้เวลาว่างเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เป็นของแถม แต่ คุณต้องมีผลงานที่สัมผัสได้ ซึ่งผมไม่เห็นว่าช่วงคุณนารีดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด มีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรมให้พวกเราเห็นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 คุณนารี มีคำสั่งที่ 420/2566 ให้ตั้งคณะทำงานหลายคณะขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวตามสื่อมวลชน และมีผู้มาร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่ประชาชนให้ความสนใจ และอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด มี 6 คดี ประกอบด้วย คดีที่หนึ่ง คดีเผาสวนงูภูเก็ต เชื่อมโยงกับกรณีตู้ห่าว และภรรยา สอง คดีซีพีเค อินเตอร์เนชันแนล จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นบริษัทเครือคุณเปรมชัย กรรณสูต ถูกกล่าวหาว่ารุกป่า สาม คดีนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง สี่ คดี MAWINBET.com ห้า คดียาเสพติดแอมเฟตามีน 4 แสนเม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี หก คดีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก ตามหนังสือร้องเรียนของคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงท่านประธาน ก.อ.


เกี่ยวกับ 6 คดี ที่คุณนารีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว โดยอ้างว่าต้องเร่งทำงานเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับอัยการสูงสุดคนถัดไป ซึ่งปัจจุบันก็คือ คุณอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ เมื่อผมกับทีมงานไปสืบเสาะค้นหาจากแหล่งข่าวดู พบเรื่องราวอย่างนี้ครับ ...

มีคดีเดียวจาก 6 คดี ที่มีการสอบเสร็จไปแล้ว แต่ยังไม่มีการเผยแพร่ผลการสอบต่อประชาชน ก็คือ อัยการสูงสุด นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน สั่งไม่ฟ้องคดีบ่อนออนไลน์ MAWINBET ซึ่งรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ได้เจาะเรื่องราวอย่างละเอียดไปแล้วตั้งแต่ตอนที่ 178 กุมภาพันธ์ 2566


แต่ประเด็นก็คือ เรื่องนี้สอบเสร็จไปตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2566 (สองเดือนที่แล้ว) ภายหลังที่คำสั่งคุณนารี สั่งให้ตรวจสอบประมาณ 5 เดือน ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำนักข่าวอิศราได้ระบุว่า ข้อสรุปของการสอบคือกระบวนการสั่งไม่ฟ้องในคดี MAWINBET.com นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ดี อัยการสูงสุดตอนที่คุณนารีได้มีคำสั่งให้ส่งรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไปให้คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) พิจารณาอีกครั้ง เรื่องก็หายไปในกลีบเมฆเลย จนกระทั่งคุณนารีเกษียณอายุไปแล้วเมื่อ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

คดีที่อัปเดตล่าสุด เดือนตุลาคม 2566 คดีที่คุณนารีสั่งสอบทั้งหมด 6 คดี ตอนนี้เสร็จแล้ว 5 คดี เหลือแค่คดีบริษัท ซีพีเค อินเตอร์เนชันแนล จำกัด กับพวก ถูกกล่าวหาว่ารุกป่าที่จังหวัดเลย

สี่คดีที่สอบเสร็จ ประกอบด้วย คดีเผาสวนงูภูเก็ต ซึ่งเชื่อมโยงกับกรณีตู้ห่าว และคดีของแทนไท ณรงค์กูล ที่ถูกสั่งไม่ฟ้อง คดียาเสพติด เมทแอมเฟตามีน 4 แสนเม็ด ที่จังหวัดนนทบุรี และ คดีนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก ทางคณะกรรมการได้สรุปผลการสอบสวนส่งให้คุณนารีไปเรียบร้อยแล้วเมื่อกลางเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ก่อนที่คุณนารีจะเกษียณอายุภายในอีก 2 สัปดาห์ และเข้าใจว่าในขณะนั้นคุณนารีอยู่ต่างประเทศ

เมื่อได้รับเรื่องจากคณะกรรมการแล้ว คุณนารีซึ่งมีทริปการเดินทางไปต่างประเทศต่อเนื่อง คือไปอังกฤษ ไปฝรั่งเศส จึงดึงเรื่องด้วยการส่งต่อเรื่องให้สำนักงานวิชาการ ก.อ. สรุปทำความเห็นอีกครั้ง แล้วตัวเองก็เกษียณอายุออกไปเลย นี่เป็นการถ่วง ยืดเวลา ไม่ต้องการให้ตัวเองรับผิดชอบอะไรอีกทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอร้องเรียนท่านอัยการสูงสุด คือ คุณอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ได้โปรดนำผลการสอบสวน 5 คดีที่คณะกรรมการสรุปส่งมาเรียบร้อยแล้ว มาเปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังให้กับสื่อมวลชนและสาธารณชนทราบโดยเร็ว แล้วเร่งสอบข้อเท็จจริงกรณีบริษัท ซีพีเค อินเตอร์เนชันแนล จำกัด กับพวก ที่รุกป่าจังหวัดเลย ให้เสร็จโดยเร็ว

ส่วนที่มีข่าวลือว่ามีคนพยายามจะเตะถ่วงยืดเวลาเรื่องเหล่านี้ ไม่ให้ความจริงปรากฏ วัตถุประสงค์คือ คนที่วิ่งเต้นยืดเวลาเพื่อให้คุณสิงห์ชัย ทนินซ้อน ซึ่งใกล้จะพ้นตำแหน่งไปครบ 2 ปี ถ้าพ้นตำแหน่งไปครบ 2 ปีแล้ว ไม่ต้องรับผิดชอบทางวินัย แต่ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง เพราะเห็นว่าไม่มีใครที่คิดจะทำชั่วแบบนั้น ถึงขั้นนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องประเด็นเดียวเวลานี้ที่จะกอบกู้ชื่อเสียงองค์กรสำคัญอย่างกระบวนการยุติธรรมอย่างอัยการสูงสุดเอาไว้ไงล่ะ

ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ คุณนารี ตัณฑเสถียร ท่านทิ้งทุกเรื่องไปเลย คดีสอบสวนเสร็จแล้ว แทนที่ท่านจะเรียกประชุมแล้วก็ให้โฆษกอัยการมาประกาศว่า ทั้งหมดทุกคดีนั้น ยกเว้นคดีของบริษัท ซีพีเค อินเตอร์เนชันแนล ที่รุกที่ป่าจังหวัดเลย ยังสอบสวนอยู่นั้น 5 คดีต้องมาแถลงให้ทราบว่าคณะกรรมการมีความเห็นเช่นนี้ก่อนที่จะส่งไปที่คณะกรรมการอัยการอีกทีหนึ่ง นี่คือความโปร่งใสในการทำงาน และนี่คือวิสัยทัศน์และบทพิสูจน์ความตั้งใจของคุณนารี ตัณฑเสถียร ที่จะทำงานในระยะเวลาที่ตัวเองมีเวลาแค่ 1 ปี และจริงๆ แล้วถ้าทำอย่างที่ผมบอก ถึงคุณนารีจะไปต่างประเทศมากแค่ไหน ก็ยังมีผลงานเป็นรูปธรรม สัมผัสได้นะครับ

"หางโจวเกมส์" เวทีประกาศอิสรภาพเทคโนโลยีจีน


ถ้าผมบอกว่าปี 2566 เป็นปีประกาศอิสรภาพทางเทคโนโลยีของจีน ท่านผู้ชมอย่าเพิ่งเบื่อนะครับ ในข้อเท็จจริงแล้วอาจจะดูว่าโปรจีน แต่ข้อเท็จจริงคือว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรก้าวได้เร็วไปกว่าจีนอีกแล้ว วันนี้เป็นหน้าที่ของผมที่จะเอาปัญญามาให้ท่านผู้ชมได้รับทราบก่อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศที่มีกำลังซื้อและมีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจของโลก และกำลังจะแซงอเมริกาเป็นอันดับหนึ่ง ใน 2-3 ปีที่แล้ว


ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์ที่ผ่านมามีพิธีปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ก่อนอื่นผมต้องขอชื่นชมนักกีฬาไทย สตาฟฟ์โค้ช รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการแข่งขัน แสดงสปิริตนักกีฬาทั้งในและนอกสนาม และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับเหรียญรางวัล ขอขอบคุณในความพยายามทุกอย่างให้มาถึงวันนี้ได้

จริงๆ แล้วมหกรรมเอเชียนเกมส์ที่เมืองหางโจว ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันกีฬาเท่านั้น ยังเป็นเวทีพิสูจน์นวัตกรรมของประเทศจีน เหมือนเป็นสปริงบอร์ด หรือกระดานกระโดดนั่นเอง ส่งให้จีนก้าวกระโดดสูงเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีที่เป็นผลผลิตของจีนเอง ที่สำคัญคือ เป็นผลผลิตของจีนเอง ซึ่งผมได้เกริ่นให้ท่านผู้ชมฟัง ได้รับทราบไปคร่าวๆ แล้วตั้งแต่รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว


ท่านผู้ชมทั้งหลายที่ติดตามรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" คงจะสังเกตว่าในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเอาเรื่องเทคโนโลยีจีนมาพูดบ่อยเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเปิดตัว เมท 60 โปร ของหัวเว่ย เรื่องเทคโนโลยีการผลิตไมโครชิป เรื่อยมาจนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนที่อยู่เบื้องหลังและถ่ายทอดออกมาทางมหกรรมกีฬาที่สำคัญที่สุดของชาวเอเชียอย่างเช่นเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้

ผมขอย้ำอีกทีนะครับว่าสาเหตุที่จีนเลือกจัดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว เพราะว่าเมืองนี้ถือว่าเป็นสวนหลังบ้านของเมืองเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากหลังๆ จีนใช้นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ เซี่ยงไฮ้ถือว่าเป็นมหานครอันดับหนึ่งที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า มีความเป็นสากลมากกว่าเมืองอื่นในประเทศจีน แต่ในสิบปีที่ผ่านมา ท่านผู้ชมรู้ไหมครับว่าหางโจวได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นเมืองเทคโนโลยี จากการปักหลักตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทนวัตกรรมมากมาย ยกตัวอย่างเฉพาะที่คนไทยรู้จัก เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป ANT Group โทรศัพท์มือถือ Oppo จีหลี (Geely) ผู้ผลิตรถยนต์และรถไฟฟ้าชั้นนำของจีน ยังถือหุ้นใหญ่ในรถยนต์แบรนด์ระดับโลก อย่างเช่น VOLVO และ LOTUS ด้วย HikVision และ Dahua ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดที่บริการพัฒนา AI ระบบไบโอเมตริกซ์ระดับโลก


นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆ และเป็นเหตุผลที่จีนเลือกหางโจวให้เป็นเมืองเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ จีนหวังจะใช้มหกรรมขนาดใหญ่นี้เป็นสนามทดสอบและเป็นโชว์รูมสำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จีนพัฒนาขึ้นมาเอง ท่ามกลางการปิดล้อมของชาติตะวันตก

เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จทางเทคโนโลยีทางด้านดิจิทัลและนวัตกรรมของประเทศจีน ไม่เพียงแต่ทัดเทียมหรือบางอย่างล้ำหน้ากว่าชาติตะวันตก ที่สำคัญคือ เป็นหมุดหมายที่ยืนยันว่าจีนสามารถพึ่งพาตัวเองทางเทคโนโลยีได้แล้ว

ประจักษ์พยานที่เห็นได้ชัดคืองานเอเชียนเกมส์ หางโจว มีสปอนเซอร์ที่บริษัทเทคโนโลยีมากกว่ามหกรรมกีฬาใดๆ ครั้งใด สปอนเซอร์หลัก 11 ราย มี 5 รายเป็นบริษัทเทคโนโลยี ได้แก่ China Moblile, Alibaba, Alipay, China Telecom และ DAS-Security นอกจากนั้น ยังมีบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จำนวนมาก บริษัทเทคโนโลยีสนับสนุนในด้านต่างๆ ในหางโจว เอเชียนเกมส์ มีมากกว่าเอเชียนเกมส์ที่เมืองกว่างโจว เมื่อปี 2553 หรือสิบสามปีที่แล้ว ถึงสองเท่าตัว


เทคโนโลยีทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artigicial Intelligence), Big Data, Internet of Things หรือการใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงกับทุกสิ่ง รวมทั้งโครงข่ายสื่อสารของจีนที่พัฒนาไปถึงระดับ 5.5G แล้ว ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ หลายอย่างเป็นเทคโนโลยีที่กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมา สำหรับเครือข่ายสื่อสาร 5.5G มีการพูดถึงกันไปแล้ว แต่หลายคนยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

เดี๋ยวผมจะเอาเทคโนโลยีที่น่าสนใจในงานหางโจว เอเชียนเกมส์ มาให้ดู ตอนนี้พวกเราใช้เครือข่ายสื่อสารรุ่นที่ 5 หรือ 5G มากันพักหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะไปถึงเครือข่ายสื่อสารรุ่น 6G ตอนนี้จีนได้เปิดตัวนำเครือข่ายสื่อสารรุ่น 5.5G มาใช้เรียบร้อยแล้ว ใช้หางโจวเป็น Showcase ในเทคโนโลยีนี้ โดยเครือข่าย 5.5G ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในช่วงการแพร่ระบาดโควิดที่เปลี่ยนไป พอมีโควิด ผู้คนไม่เพียงแต่เสพสื่อหรือดาวน์โหลดข้อมูล แต่ยังมีการประชุมออนไลน์ อัปโหลดข้อมูลจาก Smart Device ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด วิดีโอคอล เครื่องมือสื่อสารอื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล เพราะฉะนั้นแล้ว เครือข่าย 5.5G จึงเพิ่มศักยภาพในการส่งข้อมูลหรืออัปโหลดให้เพิ่มอย่างมหาศาล หลังจากเอเชียนเกมส์ที่หางโจวนี้แล้ว ในปีหน้า (2567) จะเห็นเทคโนโลยีสื่อสารในรุ่น 5.5 หรือ 5.5G ในเชิงพาณิชย์กันมากขึ้น

ทั้งนี้ เครือข่ายการสื่อสารไร้สาย 5.5G ที่มีความเร็วมากกว่า 5G ถึงสิบเท่าตัว ได้ถูกนำมาใช้ในพิธีเปิดการแข่งขันที่มีผู้เข้าชมและเจ้าหน้าที่มากกว่า 1 แสนคน ถ่ายทอดสดด้วยความคมชัดสูง เครือข่าย 5.5G ได้ทดลองใช้เป็นครั้งแรกบนถนนที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านนักกีฬาและสนามแข่งขัน วัดจากความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดได้มากกว่า 10 กิกะบิตต่อวินาที


เครือข่าย 5.5G ยังใช้ในการแข่งขันกีฬา e-Sport การจัดระบบโลจิสติกส์ ศูนย์โลจิสติกส์ประจำการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ สามารถรองรับและกระจายวัสดุอุปกรณ์สำหรับการแข่งขันกีฬาครั้งนี้มากกว่า 1 หมื่นชิ้นต่อวัน

นอกจากเครือข่าย 5.5G แล้ว ไฮไลต์สำคัญที่พูดถึงมากที่สุดคือพิธีจุดคบเพลิง ทางจีนได้ใช้เทคโนโลยีเหมือนจริง หรือที่เขาเรียกว่า AR (Augmented Reality) และโดรน ทำผู้วิ่งคบเพลิงเสมือนจริง และพลุดอกไม้ไฟแบบดิจิทัลที่สวยงามและตื่นตาตื่นใจอย่างมาก การสร้างภาพเสมือนด้วยโดรน และ AR ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า และการจุดพลุดอกไม้ไฟช่วยประหยัดพลังงาน และลดมลภาวะ

เทคโนโลยี Cloud ถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เป็นเอเชียนเกมส์บน Cloud ครั้งแรก บริการ Cloud ได้เข้ามาแทนที่ศูนย์ข้อมูลแบบเดิมๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราวสำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา ไม่ต้องมี Data Center ที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่และต้องบำรุงรักษา นอกจากนี้แล้ว เมื่อสิ้นสุดงาน ทรัพยากร Cloud ต่างๆ ที่ใช้จะถูกปลดออกจากระบบโดยที่แทบไม่มีขยะวัสดุหลงเหลือ ทำให้การแข่งขันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ระบบ DingTalk แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับบริหารจัดการมหกรรมกีฬาที่พัฒนาโดย Alibaba ถูกนำมาใช้เพื่อบริหารจัดการเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครหลายพันคน ระบบ DingTalk เป็นระบบบริหารการจัดงานกีฬาขนาดใหญ่แบบครบวงจรครั้งแรกของโลก สามารถประยุกต์ใช้กับงานอีเวนต์อื่นๆ ได้ด้วย เช่น คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า การประชุมขนาดใหญ่

ระบบควบคุมการจราจรอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Hytera ถูกนำมาใช้อำนวยความสะดวกในการจราจรระหว่างสนามแข่งและสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น สนามบิน ทางด่วน โดยทั้งหมดเป็นระบบควบคุมแบบไร้สาย พัฒนาโดยจีนเอง

ระบบ AI ที่พัฒนาระบบโดยบริษัท SenseTime ซึ่งบริษัทนี้ถูกอเมริกาขึ้นบัญชีดำตั้งแต่ปี 2562 หรือสี่ปีที่แล้ว ใช้ระบบนำทางและแผนที่ ทำให้ผู้เข้าชมการแข่งขันเดินทางถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการด้วยมุมมองที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน


ระบบ AI นี้ยังใช้ในรถบัสที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติในสนามแข่งขัน เป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4 (Level 4) คุณสมบัติอัตโนมัติระดับสูง หมายความว่ารถยนต์ขับเคลื่อนเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถควบคุมความเร็ว การเลี้ยวในทางที่คดเคี้ยว เร่งความเร็ว และสามารถรับรู้เหตุการณ์ไม่ปกติ และป้องกันได้อย่างทันท่วงที เช่น มีคนเดินตัดหน้ารถ หรือมีรถคันอื่นวิ่งย้อนศร รวมทั้งการเข้าจอดในที่ปลอดภัยได้เองโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องควบคุมรถอีกต่อไป

ทั้งนี้ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4 (Level 4) เป็นระดับรองจากระดับสูงสุด คือ Level 5 ซึ่งเขาเรียกว่า Full Automation อัตโนมัติ 100 เปอร์เซ็นต์ หมายถึงรถจะขับเคลื่อนอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องมีพวงมาลัยไว้ในการควบคุม


ระบบขับเคลื่อนระดับ 4 นี้ มีเพียงไม่กี่บริษัทในโลกที่ทำสำเร็จ บริษัท ไป่ตู้ (Baidu) ของจีน วอลโว่ (VOLVO) ของสวีเดน เวย์โม (Waymo) ของอัลฟาเบ็ท (Alphabet) หรือที่รู้จักในนามกูเกิล (Google) ในสหรัฐฯ เท่านั้น ขณะที่เทสล่า (Tesla) ยังใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 เท่านั้นเอง

ขณะเดียวกัน จอ LED ในสนามแข่ง และจอของระบบควบคุมต่างๆ ที่ผลิตโดยบริษัท ยูนิลูมิน (Unilumin) ของจีน จอภาพความคมชัดสูง ถูกใช้ในพื้นที่มากกว่า 4,200 ตารางเมตร


นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ที่เปิดตัวในช่วงเอเชียนเกมส์ ที่คนไทยได้ประโยชน์ชัดเจน เพราะทุกวันนี้การซื้อสินค้าและบริการในจีนแทบจะไม่ใช้เงินสดกันแล้ว แม้แต่ร้านค้าเล็กๆ ก็จ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น แต่ว่าที่ผ่านมาแอปพลิเคชันหลักของจีน คือ วีแชตเพย์ (WeChat Pay) และ Alipay เป็นปัญหาสำหรับชาวต่างชาติอย่างมาก เพราะต้องมีการยืนยันตัวตน ต้องมีโทรศัพท์ในประเทศจีน ต้องผูกกับบัญชีธนาคารของประเทศจีน แม้ว่าหลังจากจีนเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงต้นปี WeChat Pay, Alipay ก็จะเปิดให้ผูกกับบัตรเครดิตวีซ่า (VISA), มาสเตอร์การ์ด (Master Card) ได้ แต่ว่าชาวต่างชาติหลายคนยังกังวล ไม่อยากผูกบัตรเครดิต หรือไม่คุ้นเคยกับการใช้แอปพลิเคชันจีนเท่านั้นเอง

Pain point เหล่านี้ได้หมดไปแล้วในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เมื่อทรูมันนี่ (True Money) ร่วมกับ Alipay เปิดให้สามารถใช้แอปพลิเคชัน True Money สแกนชำระเงินสำหรับร้านค้าและบริการในจีนกว่า 10 ล้านแห่ง ได้โดยตรง นับจากนี้เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวไทยที่ไปเมืองจีนมากกว่า 7 แสนคนในแต่ละปี จะสามารถใช้เงินบาทที่อยู่ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ True Money ใช้จ่ายในประเทศจีนได้ทันที โดยไม่ต้องแลกเงินหยวน ไม่ต้องผูกกับบัตรเครดิต และไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันใดๆ เพิ่มเติม


นอกจากประเทศจีนแล้ว True Money ยังได้ใช้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านเครือข่ายของ Alipay+ ด้วย

นายอิลาริโอ คอร์นา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ออกมายอมรับว่า โลกได้เรียนรู้จากหางโจวว่าเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หางโจวได้ใช้เทคโนโลยีแบบครบวงจรในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ในสนามแข่งขันและหมู่บ้านนักกีฬา แต่เมืองหางโจวทั้งเมืองเป็นสนามทดสอบเทคโนโลยีล้ำสมัยในสเกลขนาดใหญ่ บริษัทเทคโนโลยีของจีนไม่ได้มีแค่ยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก อย่างเช่น หัวเว่ย, Alibaba, TenCent ที่เป็นเจ้าของ WeChat เท่านั้น ยังมีบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่ใช้มหกรรมเทคโนโลยีนี้เป็นสปริงบอร์ด หรือกระดานกระโดด

ท่านผู้ชมครับ เมืองหางโจว ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงาม มีทะเลสาบซีหู ทะเลสาบตะวันตกล้อมรอบเมือง ยกระดับเป็นเมืองเทคโนโลยีเคียงคู่กับสิ่งแวดล้อม บริษัทต่างๆ และประชาชนได้ประโยชน์อย่างมากจากงานเอเชียนเกมส์


ท่านผู้ชมครับ พูดถึงนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อ คือ หลิวเต๋อหัว เป็นตัวแทนประกาศชัยชนะของหัวเว่ย ไม่เพียงแค่มหกรรมเอเชียนเกมส์ ที่เป็นเวที หรือเป็น Showcase เกี่ยวกับการแสดงเทคโนโลยีล้ำหน้าของจีนในช่วงใกล้เคียงกัน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 หรือเมื่อสองสัปดาห์นี้เอง หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีน หลังจากสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดสมาร์ทโฟนโลก รวมทั้ง Apple ผู้ผลิตไอโฟน (iPhone) ด้วยการเปิดตัวหัวเว่ย เมท 60 โปร ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 แล้ว วันที่ 25 กันยายน 2566 หัวเว่ยได้จัดการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นดาราชาวฮ่องกง นั่นคือ "หลิวเต๋อหัว"


พร้อมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในซีรีส์ เมท 60 โปร รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของ HarmonyOS 4 เชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้าน อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ รถ EV กลายเป็น EcoSystem ที่ครบวงจร และอาจจะกล่าวได้ว่า หัวเว่ยกำลังเร่งความเร็วในการพัฒนาระบบปฏิบัติการดังกล่าวให้ไล่ตามทัดเทียมและก้าวล้ำหน้ากว่าระบบ iOS ของ Apple รวมทั้ง Android ของ Google ในเวลาอันใกล้นี้


ไม่เพียงแต่ฮาร์ดแวร์อย่างสมาร์ทโฟน ชิปประมวลผล ระบบปฏิบัติการที่หัวเว่ยทำการเปิดตัวออกมาแล้ว สร้างความฮือฮา เทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ระดับ NearLink

NearLink คืออะไร ? ชื่อภาษาจีนคือ ซิงเน่ย หัวเว่ยคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นระบบปฏิบัติการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ เพื่อมาทดแทนระบบที่เราใช้กันและเคยชิน คือ บลูทูธ (Bluetooth) ได้ถูกนำไปบรรจุในอุปกรณ์ใหม่ๆ ของหัวเว่ยด้วย


NearLink หรือ ซิงเน่ย ทำงานอย่างไร ? ดีกว่าบลูทูธอย่างไร ? หนึ่ง เชื่อมต่ออุปกรณ์และส่งข้อมูลได้เร็วกว่าบลูทูธ 6 เท่า สอง มีระยะการเชื่อมต่อมากกว่าบลูทูธ 2 เท่า สาม ใช้พลังงานน้อยกว่าบลูทูธ 50 เปอร์เซ็นต์ สี่ ตอบสนองเครือข่ายรวดเร็วกว่าบลูทูธ แค่ 1/30 ห้า สามารถเชื่อมอุปกรณ์บลูทูธได้พร้อมกันมากกว่าบลูทูธถึง 10 เท่า


ทั้งนี้ทั้งนั้น มีประโยคหนึ่งที่ หลิวเต๋อหัว กล่าวไว้สั้นๆ บนเวทีหัวเว่ย จนกลายเป็นไวรัล ผมคิดว่าเป็นนัยสำคัญมาก หลิวเต๋อหัว พูดว่า "ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยกำเนิด แต่ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจากความกล้าที่จะสร้างปาฏิหาริย์"


สรุป ท่านผู้ชมครับ ผมเล่าให้ฟังตอนที่แล้วว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศออกมาว่า จีนจะสร้างการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ ขับเคลื่อนพัฒนาด้วยนวัตกรรม พิสูจน์จากการทุ่มงบประมาณโฆษณา งบประมาณวิจัยและพัฒนา มากกว่า 3 ล้านล้านหยวน ในปีที่แล้ว (2565) เป้าหมายที่แท้จริงของจีนในการเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จึงไม่ใช่ตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ที่เขาเป็นแน่ๆ อยู่แล้ว เพราะศักยภาพนักกีฬาของเขาในกีฬาต่างๆ ถูกพัฒนามาท้าชิงในระดับโอลิมปิกมานานแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายของจีนในการเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเจ้าเหรียญทอง แต่เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี ที่สำคัญที่สุด การเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีที่พัฒนาและต่อยอดขึ้นได้ด้วยตนเอง เป็นบทพิสูจน์ว่า จีนได้ประกาศอิสรภาพ ปลดแอกโซ่ตรวนทางด้านเทคโนโลยี และใช้นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเอง ก้าวขึ้นมาคว้าชัยชนะต่อการกดขี่ข่มเหงของมหาอำนาจจากโลกตะวันตกได้เรียบร้อยแล้ว

“หัวเว่ย” เดินเกมหมากล้อมอเมริกา

ท่านผู้ชมครับ มีข่าวดีชิ้นหนึ่ง ก่อนที่ผมจะพูดต่อเรื่องหัวเว่ย ปีหน้าผมจะเอาหัวเว่ย เมท 60 โปร ที่จะเข้ามาเมืองไทย ผมจะเตรียมเอาไว้ 5 เครื่อง แจกฟรีให้กับแฟนรายการ เดี๋ยวผมจะกำหนดกติกาไว้ ต้นปีหน้า มกราคม ได้แน่นอน อย่างไรคอยติดตามรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตลอดก็แล้วกันนะครับ

วันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องชิปคิริน 9000S (Kirin 9000S) ที่หัวเว่ยช็อกอเมริกาและทั่วโลก ที่คิดค้นได้ เรามาพูดถึงยุทธศาสตร์ของหัวเว่ย มันเป็นภูมิรัฐศาสตร์ทางด้านไซเบอร์ หัวเว่ยอยู่ในเกมหมากล้อมที่จะล้อมประเทศทางตะวันตก ด้วยความสามารถของตัวเองในเรื่องระบบ 5G

ตอนนี้เป็นที่กล่าวขานทั่วโลกแล้วว่าอเมริกานั้นพ่ายแพ้หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี 5G ของจีน หนึ่งในสมรภูมิคือสงครามชิป ซึ่งหัวเว่ยได้ทำไปเรียบร้อยแล้วอย่างที่ผมได้เล่าให้ฟัง

ผมได้เล่าให้ฟังไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า เป้าหมายของการเล่นหมากล้อมของจีนนั้นไม่ใช่เล่นกินแบบหมากรุกฝรั่ง เรือกินม้า เด็ดม้าออก แต่หมากรุกของจีนคือหมากล้อม เป็นการล้อมพื้นที่ให้ได้มากกว่าฝ่ายตรงกันข้าม แล้วฝ่ายที่ล้อมพื้นที่นั้นได้มากกว่า จะเป็นฝ่ายชนะ ตามผมมาท่านผู้ชม


หลังมาตรการการคว่ำบาตรของอเมริกา ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย และบริษัทจีนกว่า 70 แห่ง อ้างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ด้วยความตั้งใจจะตัดขาดหัวเว่ยจากห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ ห้ามขายทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับหัวเว่ย เช่น ห้ามบริษัทส่งออกใช้ชิป 5G ของ Qualcomm สมาร์ทโฟนหัวเว่ยไม่สามารถใช้ระบบ Android ของ Google ห้ามใช้เครือข่าย Verizon และ AT&T ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่อันดับ 1-2 ของอเมริกา

นอกจากนี้แล้ว อเมริกายังกดดันพันธมิตรในยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน ให้เดินตามคำสั่งของวอชิงตัน แบนระบบเครือข่าย 5G หัวเว่ย


แผนหมากล้อมของหัวเว่ยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คือเขาหนีไปเลย คือเขาไปเน้นเป้าหมายตลาดเกิดใหม่ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลางแทน ผลที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้สหรัฐฯ กับพันธมิตรยุโรปยิ่งบีบคั้นหัวเว่ย ยิ่งบีบมากเท่าไร ยิ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก เหมือนทำปืนลั่นใส่ขาตัวเอง แล้วไม่ใช่ปืนธรรมดานะ ปืนลูกซองด้วย เท้าตัวเองพรุนไปหมดแล้ว เพราะว่าต้นทุนธุรกิจโดยที่ไม่มีเครือข่าย 5G นั้นสูงขึ้น และสูญเสียโอกาสในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ยกตัวอย่างเช่น เยอรมนี ที่โครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีของหัวเว่ยมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ บริษัทโทรคมนาคม อย่างเช่น Deutsche Telekom พึ่งพาหัวเว่ยสำหรับการเข้าถึงเครือข่าย 5G มากกว่าเครือข่าย 4G คือพูดง่ายๆ ว่าถ้าตัดหัวเว่ยออก Deutsche Telekom จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนมหาศาลในการรื้อถอนอุปกรณ์หัวเว่ย และ ZTE ออกไป ตามนโยบายความมั่นคงของรัฐบาล เพราะเยอรมนีได้ผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยด้านไอทีปี 2564 ส่งผลให้ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมต้องเผชิญกับต้นทุนการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ เครื่องมือ และอุปสรรคสูงมาก

เรื่องทั้งหมดนี้ จากการกีดกันหัวเว่ยดังกล่าวอาจจะทำให้ระยะยาว ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกา ยุโรป อาจจะจบลงในระยะยาวในการพัฒนาเทคโนโลยี และจะทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีของอเมริกาและยุโรปล้าหลังกว่าประเทศที่กำลังพัฒนาอื่นๆ รวมทั้งบริการเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็ว ท่านผู้ชมฟังแล้วอย่าตกใจนะ อย่างเช่น ไนจีเรีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชีย ที่มีหัวเว่ยสร้างโครงการสมาร์ทซิตี (Smart City) เมืองปลอดภัย ช่วยปรับปรุงระบบจราจร ลดปัญหาจราจรติดขัดบนท้องถนน รวมทั้งซอฟต์แวร์ระบบการบังคับใช้กฎหมายจราจรกับคนที่ละเมิด หากเลือกใช้โครงการ Smart City ของหัวเว่ย และธนาคารของจีน พร้อมที่จะให้เงินกู้ระยะยาวถึง 20 ปี


ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น หัวเว่ยได้นำพวกเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมเข้าไปใน Solution เชื่อมต่อกัน เข้าถึงชีวิตประชาชนทั่วโลก หัวเว่ยได้พัฒนานวัตกรรมอะไรบ้าง ? ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เครือข่ายบริการ Solution 5G การเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Cloud Computing ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ระบบประมวลผล และ Internet of Things ที่เขาเรียกว่า IoT รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ก่อเกิดเป็นบริการใหม่ที่สร้างมูลค่าได้เป็นอย่างมาก ก้าวกระโดดไปสู่การผลิตชิปเองของหัวเว่ย มีระบบปฏิบัติการ Harmony OS หรือภาษาจีนเรียกว่า หงเมิ่ง หรือซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นมาเอง สมาร์ทโฟนหัวเว่ย เมท 60 โปร ที่มีชิป Kirin 9000S ระดับ 7 นาโนมิเตอร์ และสามารถรองรับ 5G เป็นตัวชี้ขาดที่บุกทะลวงฝ่าการปิดล้อมคว่ำบาตรของอเมริกาในสงครามเทคโนโลยีได้สำเร็จ


ท่านผู้ชมครับ เมื่อเร็วๆ นี้ นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา เดินทางไปเยือนจีน 14 กันยายน ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้มอบของขวัญสมาร์ทโฟน หัวเว่ย เมท X3 รุ่นพับได้ พอกลับประเทศปั๊บ มาดูโร ร่วมรายการ Con Maduro ที่จัดโดยสถานีโทรทัศน์เวเนซุเอลา นายมาดูโร กล่าวว่า ผมมีหัวเว่ยเครื่องหนึ่ง ใช้ดีมาก อเมริกาไม่สามารถดักฟังผมได้เลย ทำให้หัวเว่ยถูกมองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้


ปัจจุบันนี้หัวเว่ยมีธุรกิจอะไรบ้าง ? เขามีอยู่ 6 ธุรกิจหลัก หนึ่ง โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สอง การสื่อสารโทรคมนาคม สาม เครื่องมือ/อุปกรณ์ปลายทาง ที่เขาเรียกว่า Terminal สี่ ธุรกิจพลังงานสะอาด แบตเตอรี Digital Power ห้า Cloud Solution ด้านรถยนต์อัจฉริยะ ก็หมายความว่าอีกหน่อยรถยนต์อัจฉริยะในโลกนี้ เกือบจะทั้งหมดต้องใช้ซอฟต์แวร์ของ Harmony ที่้เหนือกว่า Android หก ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอยู่ในลักษณะที่ไม่ได้มีการจัดตั้งโรงงานเอง แต่เขาร่วมมือกับ SMIC ใช้ชื่อแบรนด์ว่า ไฮซิลิคอน (HiSilocon)

ล่าสุด หัวเว่ยได้ร่วมลงนามเข้าร่วมเป็นพันธมิตรดิจิทัล หรือ P2C ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเป็นองค์กรชำนาญพิเศษของสหประชาชาติที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีข่าวสาร สารสนเทศ เทคโนโลยีสื่อสาร โทรคมนาคม ของประชาคมต่างๆ ทั่วโลกที่ด้อยโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อเครือข่ายบรอดแบนด์ในพื้นที่ต่างๆ ตั้งเป้าไว้ว่า 120 ล้านคน ในพื้นที่ห่างไกลกว่า 80 ประเทศ ในปี 2568


และปัจจุบันนี้ หัวเว่ยกำลังรุกตลาดประเทศกำลังพัฒนาด้วยเทคโนโลยีของหัวเว่ยเอง ประเทศที่เป็นตลาดใหญ่ อย่างเช่น อินโดนีเซีย บราซิล ไนจีเรีย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียกลาง แอฟริกา หมู่เกาะแปซิฟิก

ทั้งหมดนี้ หัวเว่ยได้กลายเป็น 1) ผู้ให้บริการด้านเซิร์ฟเวอร์ และ Data Center ของรัฐบาลเอธิโอเปีย 2) ระบบกล้องวงจรปิดในปากีสถาน 3) ศูนย์ข้อมูลในปาปัวนิวกินี 4) การตั้งสถานีฐานบริการเครือข่าย 5G ในอาร์กติกเซอร์เคิล ทะเลทรายซาฮารา ป่าฝน หรือที่เขาเรียกว่า Rain Forest ในอเมริกาใต้ แม้กระทั่งบนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์


ตัวอย่างที่หัวเว่ยรุกเข้าไปในประเทศต่างๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ตุลาคม 2564 สองปีที่แล้ว บริษัท หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ กิจการหนึ่งของหัวเว่ย เทคโนโลยี แถลงว่า บริษัทชนะการประกวดราคาโครงการจัดทำระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อสนองให้แก่โครงการทะเลแดง ซึ่งเป็นโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ขนาดมโหฬารที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย บริษัทบอกว่าจะบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลของตนเข้ากับพวกเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสง และเทคโนโลยีเก็บกักพลังงานในโครงการนี้


อินโดนีเซีย ขณะที่ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอินโดนีเซีย ได้จัดทำโครงสร้างพื้นฐานอย่างมั่นคงขึ้นมา และดังนั้นจึงเป็นจังหวะดีสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อบูรณาการเทคโนโลยี 5G ในด้านปัญญาประดิษฐ์ให้กลายเป็นธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ในการเกษตร เรื่องการศึกษาผ่านออนไลน์ บริการทางการแพทย์ออนไลน์ เรื่องรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government)

นี่คือตัวอย่างของโอกาสดีๆ ทางธุรกิจสำหรับหัวเว่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ท่านผู้ชมครับ หัวเว่ยใช้เวลาหลายปีในการบุกตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2546 รัฐบาลอัฟกานิสถานที่อเมริกาตั้งขึ้นมา ได้ทำสัญญากับหัวเว่ย และบริษัท ZTE ของจีน ให้เป็นฝ่ายจัดหาอุปกรณ์เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เวลาต่อมา ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ให้เงินกู้แก่ Roshan บริษัทโทรศัพท์มือถือในอัฟกานิสถาน เพื่อซื้ออุปกรณ์หัวเว่ย

ความสามารถของหัวเว่ยในการเสนอโครงการแบบแพกเกจ ซึ่งประกอบด้วยการบริการดิจิทัล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เงินสนับสนุนของธนาคารจีน ทำให้หัวเว่ยสามารถชนะการประมูลงานในรัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลกมาแล้ว


กลยุทธ์การบุกตลาดของหัวเว่ยที่ถูกอเมริกาและชาติตะวันตกมองข้ามนั้น เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2530 หรือสามสิบหกปีที่แล้ว เมื่อเจ้าของหัวเว่ย ประธานเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย บอกพนักงานของเขาว่า ให้ออกไปที่ชนบท ที่ห่างไกล เพราะความสำเร็จมากมายกำลังรออยู่ที่นั่น ทุกวันนี้หัวเว่ยใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันนี้กับโลกทศวรรษที่ 21 บริษัทเทคโนโลยีของอเมริกาและยุโรปที่เน้นตลาดเกิดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง แต่หัวเว่ยเน้นตลาดชนบท กับประเทศยากจน เช่น แอฟริกา และลาตินอเมริกา

ทวีปแอฟริกา นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 หรืออีกสองปีข้างหน้า ทวีปแอฟริกาจะเดินหน้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีเงินหมุนเวียนถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จึงไม่น่าประหลาดใจว่าแอฟริกากลายเป็นจุดสนใจของนานาประเทศ


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เคยกล่าวว่า ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานคืออุปสรรคในการพัฒนาภูมิภาคแอฟริกา ทำให้จีนได้เข้าไปพัฒนาในแอฟริกาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประกาศเริ่มโครงการ Belt and Road Initiative หรือ "1 แถบ 1 เส้นทาง" ในปี 2556 เสียอีก เพราะนับตั้งแต่ปี 2492 ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ขึ้นครองอำนาจ ทางการจีนเริ่มให้ความสนใจในภูมิภาคแอฟริกามากกว่าส่วนอื่นในโลก จึงเริ่มเข้ามาก่อสร้างทางรถไฟ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยต่างๆ ในพื้นที่

หัวเว่ยได้ร่วมมือกับบริษัท Rain ผู้ให้บริการเครือข่าย Data ในประเทศแอฟริกาใต้ ใช้เครือข่ายพาณิชย์ 5G รายแรกในแอฟริกาใต้ ทำให้แอฟริกาใต้กลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่ใช้งาน 5G ทำให้บริษัท Rain สามารถผลักดันเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายด้วยความเร็วสูง สำหรับประชาชน และพัฒนาระบบโทรคมนาคมของแอฟริกาใต้


ลาตินอเมริกาล่ะ ? ขณะเดียวกับที่อิทธิพลของจีนในลาตินอเมริกา และคิวบา เติบโตอย่างรวดเร้ว จีนได้เพิ่มการลงทุนการค้าในประเทศลาตินอเมริกา จาก 12,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2543 มาถึงปัจจุบันนี้ ยี่สิบปีผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 40 เท่า เป็น 450,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2564 โดยเฉพาะในประเทศที่ถูกอเมริกาคว่ำบาตร เช่น เวเนซุเอลา และคิวบา ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ต้องประสบกับความยากลำบากและความวุ่นวายทางการเมืองจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการแทรกแซงทางการเมืองของอเมริกา

บริษัท หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้วางรากฐานธุรกิจในบราซิลอย่างมั่นคง ตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว และบริษัท หัวเว่ย ได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบ 5G กับผู้ใช้บริการหลักของบราซิล 4 ราย ยังได้ช่วยบริษัทดังกล่าวปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย

นอกจากนี้แล้ว สิงหาคม ปี 2563 บริษัท หัวเว่ย ได้ลงทุนมูลค่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่รัฐเซาเปาลูของบราซิลในปี 2565 เพื่อเตรียมขยายตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคลาตินอเมริกา แม้ว่าสหรัฐฯ จะคัดค้านก็ตาม

ปลายปีที่แล้ว (2565) บริษัท อีริคสัน (Ericsson) ได้ทำรายงานเสนอเรื่อง Future Value of Mobile in Emerging Markets ก็คือเป็นการศึกษาการใช้งาน 5G ใน 15 ประเทศที่เป็นเศรษฐกิจเกิดใหม่ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา การศึกษาทำใน 15 ประเทศ มีอะไรบ้าง ? บังกลาเทศ บราซิล ชิลี โคลัมเบีย อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เม็กซิโก โมร็อกโก ไนจีเรีย ปากีสถาน แอฟริกาใต้ ตุรกี และ ประเทศไทย


โดยศึกษาในผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งใช้งาน 5G เพื่อยกระดับการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทั้งในกลุ่มผู้บริโภค อุตสาหกรรม โลจิสติกส์ พื้นที่ห่างไกล และกลุ่มคลัสเตอร์งานบริการสาธารณะ

ผลการศึกษาของบริษัท อีริคสัน พบว่าเทคโนโลยีสื่อสาร 5G ส่งผลสูงมากต่อศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ นับจากปี 2560 เป็นต้นมา รายได้จากโลกดิจิทัลในประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นสองเท่า เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกับในประเทศเจริญแล้ว โดยประเทศที่มีรายได้สูงจากโลกดิจิทัลจำนวน 30 ประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งในโลกนี้ มาจากประเทศที่กำลังพัฒนา 16 ประเทศนี้

ด้วยเหตุนี้ความสำเร็จของหัวเว่ยคือการใช้กลยุทธ์พึ่งพาตลาดเกิดใหม่ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นตลาดที่มีคนมีรายได้ต่ำ ตลาดแบบนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง ทำให้บริษัทเทคโนโลยีในประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นอีริคสัน หรือ โนเกีย (Nokia) ไม่อยากเข้าไปลงทุน

ประเทศตะวันตกจะแข่งขันกับจีนได้ ต้องใช้เทคโนโลยีที่ประเทศยากจนสามารถลงทุนได้ ซึ่งบริษัทที่เทคโนโลยีสูงแต่ราคาเหมาะกับประเทศที่ยากจนนั้น ก็คือหัวเว่ยนั่นเอง

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีนจะเป็นผลดีอย่างมากแก่ประเทศกำลังพัฒนา เพราะโลกมีความต้องการมากมายในด้านเทคโนโลยีมากเกินกว่าจากการตอบสนองของประเทศๆ เดียว หรือจากบริษัทๆ เดียว แต่ทุกวันนี้อเมริกายังมีความหลงตัวเองว่าเป็นมหาอำนาจผูกขาด แต่กลัวจีน และกลัวหัวเว่ยมากที่สุด กังวลว่าการแจ้งเกิดอุตสาหกรรมผลิตเซมิคอนดักเตอร์แบบพึ่งตนเองของจีน อเมริกาถึงกับวางแผนจับกุมผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย เหมือนอย่างที่เคยใช้แคนาดาจับกุมนางเมิ่ง หว่านโจว CFO หัวเว่ย และบุตรสาวของนายเหริน เจิ้งเฟย มาแล้ว


นอกจากนี้ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ายุโรปก็เริ่มแล้วที่จะดื้อแพ่งต่ออเมริกา หลายประเทศกำลังพิจารณายกเลิกการแบนหัวเว่ย ประเทศในยุโรปบางประเทศเพิ่งยกเลิกการแบนอุปกรณ์หัวเว่ย การตัดสินใจยกเลิกห้าม มาจากปัจจัยเศรษฐกิจที่เดือดร้อน ต้นทุนที่สูงขึ้นในการผลิตอุปกรณ์หัวเว่ย และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับจีน

สรุป ท่านผู้ชมครับ ถ้าอเมริกาและชาติตะวันตก โดยเฉพาะประเทศยุโรป หรือแม้แต่ญี่ปุ่น ต้องการจะแข่งขันจริงจังกับจีนทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลเทคโนโลยี และทางยุทธศาสตร์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ อเมริกาและยุโรปต้องใช้เทคโนโลยีที่เหล่าประเทศกำลังพัฒนา ทั้งในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา สามารถลงทุนได้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเทคโนโลยีที่แตกต่างจากจีน และไล่ตามหลังหัวเว่ยที่บุกเบิกวางหมากล้อมทางเทคโนโลยีดักทางอเมริกา และชาติตะวันตก เรียบร้อยโรงเรียนจีน โรงเรียนหัวเว่ย ณ เวลานี้

ศึก "ยิว-ปาเลสไตน์" สงครามครูเสดแห่งศตวรรษที่ 21

ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์นี้จะเป็นการพูดเรื่องของสงครามระหว่างกลุ่มฮามาส กับประเทศอิสราเอล ซึ่งท่านผู้ชมเยอะมากเลยขอร้องให้ผมพูด ผมสรุปอย่างนี้ดีกว่า ว่า ปัจจุบันนี้ งานที่จะพูดวันนี้พูดถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของสงครามครูเสด


สงครามครูเสด คือสงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์ กับชาวมุสลิม แต่เป็นในศตวรรษที่ 21

ครั้งนี้นักรบปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสโจมตีประเทศอิสราเอล การจู่โจมเริ่มอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อเช้าตรู่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้งในอิสราเอล-ปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 3,000 ราย ในจำนวนนี้มีคนไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานไทยในจำนวนประมาณ 30,000 คน ที่ไปทำงานอยู่ในอิสราเอล ถูกลูกหลง ได้รับผลกระทบ


วันเสาร์ วันเดียวกัน นายเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ประกาศว่าตอนนี้อิสราเอลได้เข้าสู่สงครามแล้ว เมื่อข่าวสะพัดไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย พร้อมกับมีข่าวว่ามีแรงงานไทยได้รับผลกระทบ บ้างเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ ถูกจับเป็นตัวประกัน ในช่วงดึกวันเสาร์ประมาณสี่ทุ่ม ตามเวลาประเทศไทย ท่านนายกรัฐมนตรีออกมาเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์ ท่านได้ประณามกลุ่มฮามาสทันที คือท่านกล่าวหากลุ่มฮามาสว่าเป็นการโจมตีที่ไร้มนุษยธรรม ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และท่านบอกว่าท่านได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมแอร์บัส 340, C-130 เพื่ออพยพแรงงานไทยกลับมา

นอกจากคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ซึ่งท่านพูดเร็วเกินไป ก่อนที่ท่านจะเข้าใจที่มาที่ไปของปัญหาความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์ กับอิสราเอล และกลุ่มฮามาส กับอิสราเอลนั้น คุณปานปรีย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า ท่านได้มีโอกาสคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ได้กล่าวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ให้ใช้ความพยายามสูงสุดเพื่อให้มีการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกกักตัวโดยเร็วที่สุด


เผอิญประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผมอยากจะพูด ท่านนายกฯ เศรษฐา ท่านปากไว ท่านไปประณามฮามาสโดยที่ ... เผอิญผมเข้าใจว่าท่านเป็นนักธุรกิจ CEO ไม่เข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปของความขัดแย้ง มองปัญหาแค่ real time แต่ว่าท่านรัฐมนตรีฯ ปานปรีย์ ผมต้องขออนุญาตวิพากษ์วิจารณ์ท่านหนักหน่อย เพราะว่าท่านทำเหมือนคนที่ไม่รู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศเลย

จริงๆ แล้ว คุณปานปรีย์ ท่านได้ติดต่อกับรัฐมนตรีฯ ต่างประเทศอิสราเอลแล้ว ผมถามกลับว่า รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศอิสราเอลจะช่วยได้อย่างไร ? เพราะตัวประกันถูกกลุ่มฮามาสจับ คุณคิดว่ารัฐมนตรีฯ ต่างประเทศอิสราเอลสามารถจะคุยกับกลุ่มฮามาสได้หรือ ? ไม่มีทางที่จะคุยกันได้หรอกครับ


หลักการง่ายๆ วิธีแก้ปัญหานี้ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณปานปรีย์ครับ ท่านต้องเชิญเอกอัครราชทูตอิหร่าน หรือท่านอยากแสดงความจริงใจ ท่านแวะไปหาท่านทูตอิหร่าน ไปขอร้องให้อิหร่านช่วยพูดกับฮามาส เพราะว่ากลุ่มฮามาสนั้น แน่นอนที่สุด เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าได้รับการสนับสนุนในเรื่องของยุทธวิธี ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ขีปนาวุธ จากอิหร่าน เพราะฉะนั้นแล้วอิหร่านจะมีอิทธิพลเหนือฮามาสมาก

แต่เผอิญ คุณปานปรีย์ครับ ผมจะเตือนสติคุณนิด เป็นข้อผิดพลาดของรัฐบาลไทยมานานแล้วที่ไม่เคยให้ความสนใจอิหร่านเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่อิหร่านพร้อมที่จะเป็นเพื่อนกับประเทศไทย กลั่นแกล้งเขาสารพัด เรารับนโยบายจากทางตะวันตก คืออเมริกา ให้แซงก์ชันอิหร่านด้วย ซึ่งเราไม่ได้มีเรื่องมีราวทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับอิหร่าน ทำไมต้องไปแซงก์ชันเขา เครื่องบินอิหร่านจะมาลงประเทศไทย สายการบินอิหร่านมา บินตรงระหว่างกรุงเทพฯ กับเตหะราน ก็ไม่ให้เขาลง เขาเสนอขนาดจะขายน้ำมันอิหร่านราคาถูกให้กับเรา เป็นการยื่นมือเพื่อให้เราจับ แสดงมิตรภาพของเขา เราก็ไม่สนใจ เราก็ยังทะลึ่งไปซื้อน้ำมันราคาแพงจากทางตะวันตก อะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณปานปรีย์ พูดจาแล้วผมหัวเราะไม่ออก เพราะว่าเป็นเรื่องชีวิตของแรงงานไทย

มีอิหร่านประเทศเดียวเท่านั้นเองที่เราจะคุยกับเขาได้ ขอร้องเขาจริงๆ ว่าเราขอให้เขาช่วยเราจริงๆ เพราะว่ากลุ่มฮามาสนั้น ผมไม่อยากจะพูดว่าอยู่ภายใต้อาณัติของอิหร่าน แต่ว่าอิหร่านมีอิทธิพลสูงที่สุดในกลุ่มฮามาส แล้วถ้าเราต้องการแสดงความจริงใจกับอิหร่าน เราปรับทัศนคติเราเสียใหม่ในการคบหาสมาคมกับเขา ผมอยากให้จุดยืนท่านมีความเป็นอิสระมาก ท่านรัฐมนตรีฯ ปานปรีย์ ท่านคงไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ หรือไม่ได้ศึกษาภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันว่าโลกกำลังเปลี่ยนขั้วแล้ว ถ้าท่านศึกษาให้ดีๆ ผมคิดว่า ณ วันนี้ เราต้องไม่ไปทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับประเทศที่อเมริกาแซงก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน หรือแม้กระทั่งเกาหลีเหนือ เพราะว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ศัตรูของเรา


ผมถามท่านรัฐมนตรีฯ ปานปรีย์ ซิ วันนี้เมื่อประเทศไทย รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ เดินตามก้นของสหรัฐอเมริกาทุกเรื่อง ทำไมคุณไม่คุยทูตอเมริกาบ้าง หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา แอนโทนี บลิงเคน ให้ช่วยแรงงานไทย อเมริกายังเอาตัวเองไม่รอดเลย เพราะคนอเมริกาก็ถูกจับอยู่ประมาณ 11 คน

คุณปานปรีย์ครับ พ่อแม่พี่น้องที่มีญาติพี่น้องทำงานอยู่ที่อิสราเอล ให้รับทราบด้วย เนื่องจากตอนนี้อิสราเอลกำลังถล่มอาคารในฉนวนกาซา ฮามาสก็เลยเอาพวกตัวประกันพวกนี้ขึ้นไปอยู่บนตึกที่เครื่องบินของอิสราเอลจะถล่มตึก โดยไม่สนใจว่ามีตัวประกันอยู่หรือเปล่า ผมจะเล่าเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ให้ฟังนิดหนึ่งครับ คุณปานปรีย์

สมัยหนึ่งนานมาแล้ว ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคุณอาจจะเป็นเด็กๆ มีการจับตัวประกันชาวยิวที่เมืองเอนเทบเบ ประเทศยูกันดา อิสราเอลส่งทีมเฉพาะกิจไป มือโหด เพื่อไปปราบพวกที่ลักตัวชาวยิว โดยอ้างว่าจะไปแย่งชิงตัวประกันออกมา ปรากฏว่าฆ่าตัวประกันตายหมดเลย แล้วอ้างว่าช่วยไม่ได้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Collateral Damage มันคือความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยที่ช่วยไม่ได้ หรือว่าที่การแข่งโอลิมปิกที่มิวนิก ที่กลุ่มนักรบอาหรับเข้าไปยึดพวกตัวประกัน และนักกีฬาชาวอิสราเอล ก็เข้าไปช่วยเหลือกัน ส่งทหารจากอิสราเอลไป ก็ฆ่าตายหมดเหมือนกัน

คุณปานปรีย์ครับ คุณจะให้อิสราเอลมาช่วยได้อย่างไร ผมไม่อยากจะพูดว่าท่านไร้เดียงสา แต่ผมคิดว่าท่านจะต้องศึกษาประวัติศาสตร์ ยิ่งช่วงนี้ท่านยิ่งต้องศึกษาประวัติศาสตร์มากขึ้น ทุกอย่างมีที่มาที่ไป

ผมขอไม่นอกเรื่องนะ เป็นเรื่องเกี่ยวพันกัน เหมือนกรณียูเครนกับรัสเซีย สื่อมวลชนสื่อหลักทั่วโลกทางตะวันตกก็บอกว่ารัสเซียบุกยูเครนเกิดสงครามก่อน แต่ถ้ามองย้อนหลังไปตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เราจะรู้ว่ารัสเซียได้เตือนตะวันตก อียู และยูเครนแล้วว่า อย่านะ เตือนมากี่ปีแล้ว ? 14 ปี ว่าถ้านาโตขยายตัวเองเข้าไปยังประเทศที่ชิดพรมแดนรัสเซีย มันจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซีย 14 ปี แต่ไม่ฟัง จนกระทั่งรัสเซียก็เลยส่งทหารเข้าไป งวดแรกแค่ 90,000 คนเอง ไม่ได้ต้องการไปฟาดฟันอะไร แต่ต้องการไปบีบให้ยูเครนมานั่งบนโต๊ะเจรจา แล้วยูเครนก็ยอมนั่งบนโต๊ะเจรจาเรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะมีสัญญาณออกมา คุณปานปรีย์ครับ ใครเป็นคนล้มโต๊ะเจรจานี้ รู้ไหม ? อเมริกา ล้มอย่างไร ? ส่งไอ้หัวยุ่ง บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เข้าไปที่โต๊ะเจรจาแล้วเรียกเซเลนสกี ขอทานระดับสากล มาบอกว่าไม่ให้เซ็นสัญญาอะไรกับยูเครน กับรัสเซีย จะให้รบกับรัสเซีย ต้องการอะไรบอกมา เราจะจ่ายให้ คุณปานปรีย์ครับ นี่คือข้อเท็จจริง

เพราะฉะนั้นแล้ว ย้อนกลับมา ฉายหนังกลับมาที่ปาเลสไตน์กับอิสราเอล เดี๋ยวผมจะเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง แต่ผมคงจะไม่เล่าอะไรมาก แต่ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ


อีกคนหนึ่ง คุณพิธา คุณพิธาครับ ผมเข้าใจความปรารถนาดีของคุณ เข้าใจมาก แต่เนื่องจากว่าคุณไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวตอนนี้ ผู้นำฝ่ายค้านคุณก็ไม่ได้เป็น คุณจะทำให้ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เขามีญาติมิตรอยู่ที่อิสราเอล แล้วเขากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นห่วงญาติพี่น้องของเขา กำลังสับสน คุณบอกเลยถ้ามีอะไรให้ติดต่ออีเมลทางคุณ แล้วคุณจะสรุปรวบรวมทุกอย่างและเอาไปให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง หลักๆ ก็คือกระทรวงการต่างประเทศ ก็ทำไมไม่บอกว่า ถ้ามีอะไรก็ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง คุณมากั๊กอีกขั้นหนึ่งเพื่อหิวแสง เอาแสงออกมา นี่ก็อีกประการหนึ่ง


ท่านผู้ชมครับ ผมจะเตือนไว้อย่างนะ ตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าท่านผู้ชมดูรายการผมมาตลอด ท่านผู้ชมจำได้ไหมผมบอกมาตั้งนานแล้วว่าวันที่สหประชาชาติรวบรวมเสียงเพื่อประณามรัสเซีย ประเทศไทยเข้าไปประณามกับเขาด้วย ผมเคยเตือนแล้วใช่ไหม ตอนหลังพอโดนผมเตือนหนักเข้า ก็เลยเริ่มอ่อน เริ่มถอยออกมา ถ้ามีกรณีการแซงก์ชันในรัสเซีย ประเทศไทยไม่ยุ่งด้วย ก็ถูกต้องแล้วนะครับท่านผู้ชม

คุณปานปรีย์ครับ ผมต้องตำหนิคุณอย่างแรง คุณเป็นหลานเขยของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ พล.อ.ชาติชาย ท่านดำเนินนโยบายการต่างประเทศได้สุดยอด ถ้าผมจำไม่ผิด มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีการจับตัวประกัน คุณชาติชายบอกว่าเขาจะขึ้นไปเป็นตัวประกันให้ ขอให้ปล่อยพวกนี้ออก แล้วคุณชาติชายก็เป็นตัวประกันให้เลยเพื่อรับรองการเดินทางบนเครื่องบินออกจากประเทศไทยอย่างปลอดภัย คุณปานปรีย์ คุณไม่ได้หนึ่งในล้านของคุณชาติชาย ชุณหะวัณ ทั้งๆ ที่คุณเป็นหลานเขยท่าน นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ ทีหลังไม่รู้แจ้ง ไม่รู้ชัด ไม่รู้ที่มาที่ไป ให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเป็นคนพูดดีกว่า เพราะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศนั้นค่อนข้างที่จะมีเหลี่ยมคูทางการเมืองระหว่างประเทศสูงกว่าคุณเยอะ คุณต้องการเอาคะแนนเสียงเข้าหาตัวคุณเองใช่ไหมครับ ว่า คุณได้ติดต่อรัฐมนตรีฯ กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลแล้วว่าให้เขาช่วย คุณตลกน่ะ ท่านผู้ชมที่มีสติปัญญา ที่ไม่โง่เขลาจนเกินไปนัก ก็จะเข้าใจว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลจะช่วยได้อย่างไร จะให้มันจะบอก เฮ้ย ฮามาส ช่วยปล่อยคนไทยมาหน่อยได้ไหม แล้วคุณไม่คิดหรือว่าชาวเยอรมันที่ถูกจับไป ชาวอาร์เจนตินา ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นตัวประกัน ถ้าทุกคนให้รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศอิสราเอลช่วย เฮ้ย คุณปล่อยตัวประกันทุกคนได้ไหม ชาตินู้น ชาตินี้ แล้วคุณคิดว่ามันจะปล่อยเหรอ ไม่มีทาง วันนี้มันไม่อยู่ร่วมโลกกันแล้ว

คุณปานปรีย์ครับ ผมรู้จักคุณดี กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงดีกว่า แก้ปัญหาในทางหลัก

ท่านผู้ชมครับ เพื่อให้ภาพสถานการณ์ชัดเจนขึ้น เรามาลองดูแผนที่กันก่อน ผมเอาแผนที่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อิสราเอลอยู่ตรงนี้ ทางเหนือของอิสราเอลติดกับซีเรีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ติดกับอียิปต์ แล้วก็ทางใต้ติดกับจอร์แดน ข้างบนติดกับตุรกี ถัดมาคืออิรัก แล้วก็อิหร่าน


เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าอิสราเอลอยู่ในวงล้อมของประเทศทางอาหรับมาตลอด แล้วเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมอิสราเอลถึงจะอยู่ในวงล้อม และชาตินี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของฝั่งตะวันตก และเป็นฝีมือของพวกยิวไซออนิสต์ (Zionist)

พวกยิวไซออนิสต์ คือคนที่ครองโลกอยู่ทุกวันนี้ เรามีคนไทย ประเทศทุกประเทศ หลายคนเป็นเอเยนต์ของยิวไซออนิสต์ เรื่องนี้เป็นเรื่องยาว วันหลังผมจะพูดให้ฟังก็แล้วกัน

เอาล่ะ เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ก็คือเกิดที่ฉนวนกาซา ตรงฉนวนกาซาตรงนี้คือที่พักของคนปาเลสไตน์ ตรงนี้ก็เป็นปาเลสไตน์เหมือนกัน แต่เป็นปาเลสไตน์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งยิวปกครอง ส่วนหนึ่งเป็นส่วนอิสระ และอีกส่วนเป็นส่วนปาเลสไตน์


สั้นๆ เรากลับมาย้อนประวัติศาสตร์หน่อย พ.ศ. 2460 (ค.ศ. 1917) ที่ๆ ปาเลสไตน์อยู่ ที่ๆ ที่มีความขัดแย้งกันและเป็นประเทศอิสราเอล มันเป็นพื้นที่ของประเทศปาเลสไตน์มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น มันเกิดอะไรขึ้น ? มันเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ที่นี้มีชาวอิสราเอลพักอาศัยอยู่ คิดแล้วเป็นจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด น้อยมาก


พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (1948) หรือปี พ.ศ. 2492 ประเทศอิสราเอลเกิดขึ้นโดยใคร ? โดยท่านลอร์ดบัลโฟร์ ของอังกฤษ ตอนนั้นโลกพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีทหารยิวเข้าไปร่วมรบด้วย แล้วหัวหน้าไซออนิสต์ของยิวที่ชื่อ รอธส์ไชลด์ (Rothchild) ซึ่งมีอิทธิพลเหนืออังกฤษ ก็ให้สินบนลอร์ดบัลโฟร์ แล้วบอกว่าอิสราเอลต้องการประเทศ ก็เลยตั้ง ขยายให้อิสราเอลเป็นประเทศขึ้นมา แล้วก็ให้ชาวปาเลสไตน์เหลือพื้นที่เพียงแค่นี้ กับฉนวนกาซา นี่คือ 2491

2510 (1967) มีสงครามขึ้นมาระหว่างจอร์แดน-อียิปต์ มีอิรัก จอร์แดน อียิปต์ และซีเรีย รบกันมา เขาเรียกว่า "สงคราม 6 วัน" หมายความว่า 6 วัน ประเทศอิสราเอลปราบปราม ทำลายกองทัพของ 4 ประเทศนี้หมดเลย อิสราเอลก็เลยถือโอกาส (1967)

เดิมที (1948) ชาวอิสราเอล ทหารอิสราเอล ไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ของตัวเอง 750,000 คน

พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว พอหลังสงคราม 6 วัน (2510) ไล่ออกอีก 300,000 คน เพื่ออะไร ? เพื่อยึดพื้นที่ นี่คือหลังสงคราม 6 วัน

มาปี 1995 (2538) จะเห็นว่าปริมาณพื้นที่ที่ชาวปาเลสไตน์อยู่ ถูกทหารอิสราเอลขับไล่ ลดลงเหลือประมาณแค่นี้ แล้วมาล่าสุด 2020 (2563) ทั้งหมดนี้ สีฟ้า จะเห็นว่าเป็นของอิสราเอลหมดเลย สีเขียว จากตรงนี้ ลดมาเหลือเพียงแค่นี้ เราต้องทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน เราถึงจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ดินแดนปาเลสไตน์ถูกยึดครองโดยอิสราเอลมาแล้ว 70-80 ปี เนื้อที่ทั้งหมด 27,555 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 3 พื้นที่ใหญ่ๆ พื้นที่อิสราเอลตอนนี้ ปี 2020 มีขนาดใหญ่ที่สุด 21,600 ตารางกิโลเมตร พื้นที่เวสต์แบงก์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 5,500 ตารางกิโลเมตร เป็นของปาเลสไตน์ แต่พื้นที่ตรงนี้เขาก็จัดให้ปาเลสไตน์อยู่ เนื้อที่ 5,500 กว่าตารางกิโลเมตร แต่ชาวยิว รัฐบาลยิว รัฐบาลอิสราเอล ยุยงส่งเสริมให้ชาวบ้านชาวอิสราเอลเข้ามายึดครองพื้นที่ มาสร้างบ้าน มายึดพื้นที่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นพื้นที่ปาเลสไตน์เหลืออยู่ 5,500 ตารางกิโลเมตร แต่โดนชาวอิสราเอลยึดไปแล้วครึ่งกว่า เกือบๆ 70 เปอร์เซ็นต์


ตรงนี้เขาเรียก "ฉนวนกาซา" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Gaza Strip พวกนักรบฮามาสอยู่ตรงนี้ นักรบฮามาสคือใคร ? คือพวกชาวปาเลสไตน์นั่นเอง ที่ต้องการต่อสู้เพื่อเอกราช

เพราะฉะนั้นแล้ว ร้อยกว่าปีที่แล้ว 2460 ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งบ้านเกิดของเขา บรรพบุรุษของเขามีพื้นที่ 27,000 สามสิบปีต่อมา มาถึงปี 2491 หรือ 75 ปีที่แล้ว กองกำลังไซออนิสต์ของยิวขับไล่ชาวปาเลสไตน์ 750,000 คน ออกไปเลย แล้วมายึดครอง จากสีเขียวเลยกลายเป็นสีฟ้าไปหมด สีฟ้าคือชาวยิวเข้ามายึดครอง สีเขียวนี่บีบให้ชาวปาเลสไตน์ลงมาตรงนี้

ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ก็คือส่วนฉนวนกาซาตรงนี้ กับที่เวสต์แบงก์ สงคราม 6 วัน ก็เลยทำให้ทุกอย่าง แผนที่มันเปลี่ยนไปหมด

ฉนวนกาซาที่เราพูดถึง ตรงนี้คือที่เกิดเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เกิดเหตุการณ์ตรงนี้ อิสราเอลยึดครองไปแบบเบ็ดเสร็จ 30-40 ปี แล้วตอนหลังถูกความกดดันจากนานาชาติ ทำให้อิสราเอลต้องค่อยๆ ถอนทหารของตัวเองออกจากฉนวนกาซา แต่ยังมีการสู้รบอยู่

เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่าถ้ามองดูประวัติศาสตร์แล้ว จะเข้าใจดีว่าชาวปาเลสไตน์ถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง อิสราเอล ใครสนับสนุนล่ะ ? กลุ่มทุนไซออนิสต์ รอธส์ไชลด์ ก็ใช่ ร็อกเกอะเฟลเลอร์ (Rockefeller) ก็ใช่ จอร์จ โซรอส ก็ใช่ พวกนี้เป็นพวกไซออนิสต์ทั้งนั้น อีลอน มัสก์ ก็ใช่ ก็เป็นคนยิว อเมริกาเลยบอยคอตกลุ่มฮามาส อ้างว่ากลุ่มฮามาส พวกปาเลสไตน์มีการเลือกตั้งเสรีนะ แต่ปรากฏว่าใครชนะการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด รู้ไหม ? กลุ่มฮามาส อเมริกาไม่ยอมรับ อเมริกาบอกว่าพวกนี้เป็นพวกผู้ก่อการร้าย


ท่านผู้ชมครับ เวลาเรามีน้อย ผมขอร้องท่านผู้ชมที่ไม่มีพื้นความรู้ ไม่ทราบปูมหลัง ไม่ทราบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ความขัดแย้งในเรื่องนี้ ไปไล่ดูรายการย้อนหลัง จากรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนเก่าๆ เสียก่อน ผมเล่าเรื่องนี้มาหลายครั้งหลายตอนเป็นปีๆ แล้ว เพราะเรื่องนี้ ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล กับปาเลสไตน์ เป็นมหากาพย์ เล่าย้อนได้เป็นร้อยๆ ปี สรุปภาพรวมคือการแย่งดินแดนระหวางชนสองกลุ่มที่นับถือต่างความเชื่อและต่างศาสนากัน

นอกจากนี้ ท่านผู้ชมไปดูเรื่องเก่าๆ ที่ผมพูด สองปีก่อนผมเคยทำนายไว้ด้วยว่าให้เตรียมตัวรับมือกับผลกระทบทางสงครามศาสนา ผมเรียกมันว่า "สงครามครูเสดแห่งศตวรรษที่ 21" ซึ่งปัจจุบันนี้คำทำนายเมื่อสองปีที่แล้วก็เป็นจริง แต่ผมไม่ได้ดีใจนะว่าคำทำนายเป็นจริง เพราะว่ามีคนตายเยอะมาก รวมทั้งพี่น้องชาวไทย มีอยู่สองตอนครับ ตอน 86 วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 และวันที่ 11 มิถุนายน 2564

ท่านผู้ชมครับ ผมเคยเล่าให้ฟังอย่างละเอียดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชนเผ่าคานาอัน เผ่าพันธุ์แห่งปาเลสไตน์ ที่เคยอยู่ในปาเลสไตน์ กลุ่มนี้เป็นชนที่มาจากคาบสมุทรอาหรับ 4,500 ปีแล้ว ความสำคัญของปาเลสไตน์ในมุมมองศาสนาอิสลาม ผมพูดไปแล้ว มันมีมัสยิดที่ชาวอิสลามนับถือมาก รองจากเมกกะ ก็คืออัล-อักซอ (Al-Aqsa) ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศาสนาอิสลาม


ขบวนการไซออนิสต์ ผมพูดถึงคำประกาศของบัลโฟร์ เป็นหลักฐานซึ่งรัฐบาลอังกฤษ ตัวดีเลย ได้รับรองการก่อตั้งรัฐสำหรับชาวยิวในปี 2460 และการละเมิดมติของสหประชาชาติของอิสราเอล และการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พูดอีกนัยหนึ่งคือการรู้เห็นเป็นใจกับมหาอำนาจอย่างอเมริกาและพวกผิวขาว ที่เปิดโอกาสให้อิสราเอลฉวยโอกาสรุกดินแดนเกินกว่าเส้นที่สหประชาชาติกำหนดเอาไว้

ระหว่างที่อิสราเอลยึดพื้นที่กาซา และเวสต์แบงก์อยู่นั้น ผมเล่าให้ฟังแล้วนะว่าอิสราเอลสนับสนุนประชาชนยึดครองพื้นที่ปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อิสราเอลส่งกองกำลังเข้ายึดครองพื้นที่ในฉนวนกาซา และเวสต์แบงก์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อขับไล่ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่เดิม ปูทางให้ชาวยิวเข้าไปก่อตั้งชุมชนตนเอง มีการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ มากมาย ถนน ไฟฟ้า ประปา บ้านจัดสรรราคาถูก จากเงินสนับสนุนของรัฐบาลอิสราเอล เพื่อจูงใจให้ชาวยิวขยับเข้ามาในพื้นที่ของปาเลสไตน์ มีกำแพงสูง หอคอยสังเกตการณ์ยาวหลายร้อยกิโลเมตร ป้องกันการก่อการร้าย และการใช้ระเบิดพลีชีพของชาวปาเลสไตน์


ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะพูดต่อไป ผมจะเอาแผนที่ให้ดู นี่คือแผนที่เก่าที่ผมแสดงให้ดูแล้ว แต่ขยายใหญ่ขึ้นมา นี่คือเดิมที แล้วต่อมา พออิสราเอลได้รับการตั้งประเทศ พวกปาเลสไตน์ก็ถูกบีบเข้าไปอยู่ในพื้นที่สีเขียวนี้ จากการที่เป็นเจ้าของอยู่ตรงนี้ แล้วชาวยิวมีติ่งอยู่นิดหน่อย แล้วพอมาถึงปี 2492 ก็จะเห็นได้ชัดว่าฉนวนกาซาถูกตัดออกเหลือเพียงแค่นี้เอง ตรงนี้มันแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งของชาวยิว ส่วนหนึ่งของอาหรับ และอีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนกลาง ที่คนจะเข้าไปบูชาได้ สหประชาชาติเขาเคยวางกรอบพรมแดนเอาไว้ไม่ให้ใครเข้ามา เขาเรียกว่า เวสต์แบงก์ แต่ตอนหลังยิวโดยการสนับสนุนของรัฐบาลอิสราเอล ยุยงให้ประชาชนเข้ามาตั้ง และสร้างกำแพงล้อมรอบเอาไว้ ปัจจุบันนี้เป็นอย่างนี้แล้ว นี่คือพื้นที่เก่า ตอนนี้จากที่เคยแน่น กลายเป็นชาวปาเลสไตน์อยู่กันกระจัดกระจาย ที่เคยมืดเป็นสีเขียวหายไปหมดแล้ว ชาวยิวอยู่ เราทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนนะครับ

การบุกโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องถือว่าเป็นหายนะครั้งใหญ่เลย อิสราเอลระบุว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุด ตั้งแต่เกิดอิสราเอลขึ้นมา ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อปี 2491 หรือ 75 ปีก่อน เขาเปรียบเทียบได้กรณีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ที่ญี่ปุ่นโจมตีอเมริกาในปี 2484 หรือเหตุการณ์กันยายนทมิฬ วันที่ 11 เดือน 9 โดยที่กลุ่มอัลกออิดะห์โจมตีอเมริกา 11 กันยายน 2544


คำถามที่สำคัญที่สุดคือ การบุกโจมตีแบบฉับพลันครั้งล่าสุดของฮามาส ก่อให้เกิดหายนะครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอลอย่างไร ? ท่านผู้ชมอย่าลืมนะ อิสราเอลยอมรับเลยว่าการโจมตีเมื่ออาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมา เป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล ตั้งแต่ตั้งประเทศมา

หลายสิบปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่สงคราม 6 วัน ปี 2550 เป็นต้นมา อิสราเอลได้รับการยอมรับทั่วโลก เป็นกองกำลังที่เข้มแข็งที่สุด ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเขามีเครื่องบินขนาดไหน ? อิสราเอลมี F-15 จำนวนร้อยกว่าลำ F-16 จำนวน 175 ลำ และมีเครื่องบิน F-35 ที่ผมเรียกว่าเครื่องบินดั้งหัก (ดั้งหักคือ เจอนกแล้วตกทุกที) ที่ ทอ. ยังมะงุมมะงาหรา โง่เง่าเต่าตุ่น เชิดชูว่าเครื่องบิน F-35 เป็นเครื่องบินที่สุดยอด เป็นเครื่องบินเทพ มหาเทพ


ข่าวกรองของอิสราเอลต้องถือว่าอันดับหนึ่งของโลก ท่านผู้ชมเคยดูภาพยนตร์มาบ่อยแล้วจะรู้ว่าหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ คือ MI5, MI6 ของอเมริกาคือ CIA ของอิสราเอลก็คือ มอสสาด (Mossad) ซึ่งมีเครือข่ายข่าวกรองไกลมาก แม่นยำมาก

อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของอิสราเอล ผลิตอาวุธเฟื่องฟู อิสราเอลกลายเป็นประเทศที่ส่งออกอาวุธรายใหญ่ของโลก ปีที่แล้วส่งออกอาวุธในประเทศต่างๆ ทั่วโลก คิดเป็นมูลค่า 12,500 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณเกือบ 5 แสนล้านบาท


ปีที่แล้ว นิตยสาร US News World Report ประกาศให้อิสราเอลมีกองกำลังความมั่นคงที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเป็นอันดับ 4 รองจากรัสเซีย อเมริกา และจีน เท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง BBC ยังยอมรับว่าอิสราเอลถือว่าเป็นประเทศที่มีหน่วยข่าวกรองที่ครอบคลุม ได้ทุนสนับสนุนมากที่สุดในตะวันออกกลาง อิสราเอลนั้น หน่วยงานมอสสาดลอบสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธได้ในเวลาอันแม่นยำ รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง แล้วการที่นายพลกอเซ้ม สุไลมานี ที่ถูกสังหารระหว่างเดินทางมาอิรักเพื่อประชุมหาสันติภาพในอิรักกับ 3-4 กลุ่มนั้น ใช้โดรนของอเมริกา แต่ข้อมูลข่าวกรองนั้น มอสสาด เป็นคนป้อนให้


รั้วสูงที่ล้อมเวสต์แบงก์ หรือกาซานั้น เป็นลวดหนาม ออกแบบเพื่อเป็นแนวกั้นอัจฉริยะ การก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่และซับซ้อนเช่นนี้ กลุ่มฮามาสต้องสะสมอาวุธ จรวด หลายพันลูก เก็บความลับขั้นสูงในหมู่ผู้ปฏิบัติการทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้จมูกมอสสาดของอิสราเอล ซึ่งได้รับฉายาว่า เป็นหน่วยข่าวกรองที่ดีที่สุดในโลก


เป็นการยอมรับกันแล้วตอนนี้ว่าการวางแผนจู่โจมแบบฉับพลันเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 ของกลุ่มฮามาส มีการวางแผนอย่างละเอียดลออ ที่สำคัญที่สุด มีการจู่โจมทางบก ใช้ระเบิดพลีชีพ ใช้รถแทร็กเตอร์พุ่งทำลายรั้วกำแพงที่กั้นไว้


พารามอเตอร์ทางอากาศ ก็คือว่ามีเหมือนกับเป็นพลร่ม แต่ไม่ช่พลร่ม ใช้เครื่อง ออกมา ติดลมแล้วก็ลอยตัวออกไป การจู่โจมทางน้ำ ทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่สำคัญ จู่โจมอิสราเอลด้วยขีปนาวุธจรวดยิงต่อเนื่องกัน 5,000 ลูก ท่านผู้ชมทายซิว่ากี่นาที ข้อมูลผมบอก 20 นาที ยิงจนกระทั่งโดมเหล็ก หรือ ไอออนโดม (Iron Dome) ซึ่งอิสราเอลภูมิใจนักหนา รวมทั้งทั่วโลกอยากจะเอาไปใช้ ทางตะวันตกอยากจะใช้โดมเหล็ก เซเลนสกี ก็อยากจะเอาโดมเหล็กไปติดไว้ที่ยูเครน โดมเหล็ก เดี้ยง!


กลุ่มฮามาสใช้นักรบเข้าร่วมปฏิบัติการ 2,000 คน แต่เขายังเหลืออีก 40,000 คน ฝังตัวอยู่ในนี้

นี่คือเหตุผลว่าทำไมประเทศอิสราเอล รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และนายเนทันยาฮู บอกว่าจะระดมกำลังทหาร 300,000 คน รุกเข้าไปกวาดล้างหมดเลย และตอนนี้อิสราเอลสั่งปิดน้ำ ปิดไฟ ไม่ให้ใช้ โรงพยาบาลใน Gaza Strip ไม่สามารถที่จะใช้ไฟได้แล้ว คือพูดง่ายๆ ว่า บีบบังคับเกินหลักสากลในการทำสงคราม

ท่านผู้ชมครับ จรวดที่กลุ่มฮามาสยิงไป ตกใส่อาคารสูง ถนน รถยนต์ โรงงาน ตึกใดที่โดนจังๆ ถึงกับถล่มลงมา ถึงกับสร้างความตกตะลึง สับสนอลหม่านให้กับฝ่ายอิสราเอล โดยในช่วงชุลมุนนั้น นักรบส่วนหนึ่งใช้เครื่องจักรรื้อทำลายรั้วกั้นชายแดนออกเป็นช่องโหว่ พรุนไปตลอดแนวพรมแดน หน่วยรบพิเศษฮามาสชั้นยอดที่ฝึกฝนเป็นอย่างดี ใช้ขบวนรถมอเตอร์ไซค์ลอยตัวขึ้นเข้ามา เครื่องพารามอเตอร์บินข้ามชายแดนเหมือนกองทัพมด กองกำลังแต่ละชุดมีไม่มาก ชุดละราวไม่เกิน 10 คน แต่ซอยออกบุกจู่โจมจากหลายจุดช่องโหว่ ก็เลยสามารถข้ามพรมแดนได้ในคราวเดียวกัน บางจุดโจมตีเบี่ยงเบนความสนใจจากทางชายทะเลอีก


นักรบที่ใช้พารามอเตอร์เหมือนพลร่ม บินร่อนทางอากาศไปลงจอดหลายๆ จุดในดินแดนอิสราเอล ไม่ใช่เฉพาะกาซา จุดสีแดงในแผนที่นี้เป็นจุดที่ฮามาสบุกเข้ามา ตอนนี้ที่สำคัญที่สุด ที่ทราบมา ตอนนี้เริ่มเข้ามาทางเหนือของอิสราเอลแล้ว สงครามยังไม่จบนะท่านผู้ชม

การโจมตีที่มากที่สุดเกิดขึ้นที่ด่าน ฐานทัพ จุดตรวจอิสราเอล 2 แห่ง บริเวณชายแดนติดฉนวนกาซา คือฐานทัพเอเรซ (Erez) และ เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) คือใช้หน่วยกล้าตายวิ่งเข้าไปโจมตีดื้อๆ เลย นักรบฮามาสพวกนี้สามารถยึดฐานทัพได้ในพริบตา ยึดรถถังหุ้มเกราะเป็นจำนวนมาก บางส่วนถูกทำลาย บางส่วนใช้งานเป็นพาหนะไปบุกพื้นที่อื่น


รั่วนอกรั่วใน ฮามาสเจาะทะลวงอิสราเอลง่ายดาย ทหารอิสราเอลส่วนใหญ่ไม่มีเวลาตั้งหลัก จึงแทบไม่มีการต่อต้าน สูญเสียมาก ถูกจับเป็นเชลย หลังจากฝ่าด่านกั้นแรกฐานทัพหลักแล้ว นักรบฮามาสก็บุกเจาะลึกเข้าไปในดินแดนอิสราเอล กระจายไปเป็นกลุ่มเล็ก 5 คนบ้าง 10 คนบ้าง ใช้รถมอเตอร์ไซค์ รถตู้ รถกระบะ วิ่งเพ่นพ่านไปทั่วอิสราเอล ยึดได้หลายเมือง เช่น เบียร์ชีบา โอฟาคิม คฟาร์ ดารอม สเดโรต์ และ เนติวอต

หนึ่งในเป้าหมายแรกของการโจมตีคือเมืองสเดโรต์ โจมตีสนามบิน โจมตีสถานีตำรวจ เพราะฉะนั้นแล้ว ประชาชนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ไม่มีการต่อต้านเมืองนี้


นอกจากนี้แล้ว ในคืนวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม ถึงวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม เผอิญโชคร้ายมีเทศกาลดนตรี ซูเปอร์โนวา (Supernova) สุคคต (Sukkot) จัดขึ้นในเขตกิบบุตซ์ บริเวณชายแดนฉนวนกาซา โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2,000 คน ทำให้กองทัพอิสราเอลห่วงหน้าพะวงหลัง ก็เลยทำให้เกิดการสูญเสียอย่างหนัก มีคนตายถึง 250 คน


มอสสาด (Mossad) หน่วยข่าวกรองอิสราเอล กองทัพอิสราเอล ไม่ได้ระแคะระคายแผนการลับครั้งนี้เลย ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีใหญ่ขนาดนี้ เมื่อเวลาไปถึง 09.00 น. เช้าวันเสาร์ นักรบฮามาสสามารถบุกรุกไปไกลถึงบ้านพักของผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษที่ดีที่สุดของกองทัพอิสราเอล และจับตัวผู้บัญชาการคนนี้เป็นเชลย แสดงว่าอะไร ? วันนี้ชาวอาหรับที่อิสราเอลเคยปราบในสงคราม 6 วัน วันนี้กับเมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่เหมือนกันแล้ว

ท่านผู้ชมครับ สงครามใหญ่ครั้งนี้ระหว่างนักรบฮามาส กับอิสราเอลนั้น สถานการณ์มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสงคราม 6 วัน ปี 2510 หรือเมื่อ 56 ปีที่แล้ว อีกต่อไป

นักรบฮามาสแม้จะไม่มีรถถัง หรือไม่มีเครื่องบิน แต่เขามีกลยุทธ์ที่เหนือกว่า ใช้ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานคอยสอยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินจากระยะใกล้เผาขน นอกจากนั้นแล้ว นักรบฮามาสก็ใช้โดรนบรรทุกระเบิด ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจ คงได้มาจากอิหร่าน คอยทิ้งระเบิดลงมาใส่รถถัง รถหุ้มเกราะของทหารอิสราเอล ปล่อยให้โดรนพลีชีพุ่งชนเป้าหมายทหารอยางแม่นยำ ซึ่งกองทัพอิสราเอลยังไม่มีปัญญาที่จะรับมือต่ออาวุธไฮเทคนี้


รายงานข่าวทางผมมีว่า มีการสังหารสายลับอเมริกันอย่างน้อย 4 ราย ชาวต่างชาติถูกจับเป็นเชลย เป็นตัวประกันจำนวนมาก มากที่สุดคือคนไทยนั่นเอง ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องด้วยนะครับ ไทยเสียชีวิตไปแล้ว 20 คน ยังมีตัวประกันอีก 14 อเมริกาเสียชีวิตไปแล้ว 14 เนปาล 10 อาร์เจนตินา 7 สูญหาย 15 ยูเครน 2 ฝรั่งเศส 2 รัสเซีย 1 อังกฤษเสียชีวิต 1 แคนาดาเสียชีวิต 1 กัมพูชา 1 เยอรมนีถูกจับเป็นตัวประกันหลายคน บราซิลสูญหาย 3 ชิลีสูญหาย 2 อิตาลีสูญหาย 2 มีแม้กระทั่งปานามา ไอร์แลนด์ เปรู เม็กซิโก โคลัมเบีย

การกระทำของฮามาสในสายตาของชาวโลกนั้น ไร้มนุษยธรรม เพราะการจู่โจมครั้งล่าสุดมีคนเสียชีวิตไปแล้ว 1,200 คน มีคนบาดเจ็บอีกหลายพันคน ยังไม่รวมกับคนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

ด้วยเหตุนี้ สื่อมวลชนทั่วโลก โดยเฉพาะสื่อตะวันตก และสื่อไทย ซึ่งอาจารย์ปฐมพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านตะวันออก รัสเซีย และตะวันออกกลาง ให้ฉายาสื่อไทยว่า สื่อสากกะเบือ สื่ออังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, รอยเตอร์, CNN, CNBC, BBC เราก็เลยได้ยินคำว่า "กลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาส" แม้กระทั่งคำแถลงขาวของรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนท์ เปรียบเปรยนักรบฮามาสเหมือนกับสัตว์ในคราบมนุษย์


แต่ท่านผู้ชมครับ เรามาดูข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์กันนิด สิ่งที่ไซออนิสต์ คืออิสราเอล ทำกับชาวปาเลสไตน์มาตลอด 70-80 ปี มันเป็นพฤติกรรมที่เรียกได้เหมือนกันหรือเปล่าว่าสัตว์ในคราบมนุษย์

ตั้งแต่ปี 2491 (ช่วยไม่ได้จะต้องเอาแผนที่เก่ามาให้ดู) 75 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ผมอายุได้แค่ขวบเดียว อิสราเอลเข้าไปยึดครอง ขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านเขา ดินแดนของเขา ทำร้ายทำลายเข่นฆ่าคนของเขาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร อ้างว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาตัวเองที่พระเจ้ามอบให้มา ท่านผู้ชมจำเพลง The Exodus ได้ไหม ที่ป๊อปปูลาร์มาก ทั่วโลก แต่หารู้ไม่ว่าเพลงนี้คือเพลงของผู้ที่รุกราน ขับไล่ชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ชนชาติตัวเอง นับถือพระเจ้าคนละองค์ ออกไป ที่มันบอกว่า This land in mine ดินแดนนี้เป็นของข้าพเจ้า God gave this land to me พระผู้เป็นเจ้าของเขาเองได้มอบดินแดนนี้ให้เขา


ขนเอาชาวยิวมาจากทั่วโลกเพื่อมาแย่งดินแดนถิ่นเกิดชาวปาเลสไตน์ด้วยความรู้เห็นเป็นใจของฝรั่งผิวขาว อังกฤษ อเมริกา ยุโรป จนวันนี้ประชากรเท่ากันแล้ว

ท่านผู้ชมครับ นับตั้งแต่ยิวตั้งประเทศมา โดยการสนับสนุนของอเมริกา ตั้งแต่ 2491 ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาถูกโจมตีนับพันครั้ง ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่เคยมีใครสนใจเลย ยุโรป อเมริกา แม้กระทั่งไทยก็ไม่สนใจ ชาวยิวตั้งประเทศบนคราบเลือดเนื้อและน้ำตาของชาวปาเลสไตน์ แย่งชิงพื้นที่ ใช้กำลังทหาร ใช้รถถังเข้าไปขับไล่เจ้าของพื้นที่อย่างโหดร้ายและป่าเถื่อน

ผมจะเอาภาพหนึ่งให้ดู ภาพนี้เป็นภาพเด็ด ชาวปาเลสไตน์ใช้ก้อนหินปารถถังเพื่อตอบโต้ แต่บางครั้งก็ถูกอาวุธหนักถล่ม และในที่สุดแล้วทหารอิสราเอลก็ยิงเด็กคนนี้ตาย ไม่มีสื่อทางตะวันตก หรือสื่อประเทศไทย ออกมาตีพิมพ์หรือให้ความเห็นใจแก่เด็ก


มกราคม 2549 ได้มีการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ จัดตั้งโดยรัฐบาลปาเลสไตน์ที่นำโดยกลุ่มฮามาส อเมริกาไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย

มิถุนายน 2550 หลังจากการยึดครองฉนวนกาซาของฮามาส อิสราเอลได้กำหนดการปิดล้อมทางบก ทางอากาศ ทางทะเล จำกัดการนำเข้าอาหารการกิน ยารักษาโรค วัสดุก่อสร้าง และสิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต นักการทูตอิสราเอลพูดเลยว่า ทำให้เศรษฐกิจของฉนวนกาซาล่มสลาย

พฤศจิกายน 2551 อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีทางทหารข้ามพรมแดน ชื่อ Operation Double Challenge เข้าไปในย่านที่อยู่อาศัยของกาซา

ธันวาคม 2551 อิสราเอลเปิดฉากการใช้กำลังทหารครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮามาส ชื่อว่า Operation Cast Lead โจมตีทางอากาศ ใช้เครื่องบิน F-16 เฮลิคอปเตอร์โจมตี AX-64 อาปาเช่ ปืนใหญ่ ระเบิด การสู้รบสิ้นสุดในวันที่ 18 เดือนมกราคม 2552 มีชาวปาเลสไตน์ 1,440 คน ตายไป ทหารอิสราเอลตายไป 14 คน ท่านผู้ชม เขาฆ่าคนปาเลสไตน์ไป 1,440 คน แต่สื่อสากกะเบือทั้งหลายไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้ให้เขาเลยแม้แต่นิดเดียว

พฤศจิกายน 2555 อิสราเอลสังหารอาห์มัด จาบารี ผู้นำกลุ่มฮามาส โจมตีด้วยขีปนาวุธ

กรกฎาคม 2557 อเมริกาไฟเขียวให้อิสราเอลโจมตีภาคพื้นดินไปยังฉนวนกาซา เผยแพร่สุดสะเทือนใจที่เด็กปาเลสไตน์ขว้างก้อนหินใส่รถถังยิวที่ขับมา เด็กพวกนี้ถูกตอบโต้ด้วยกระสุนจริง ตายในสภาพศพที่สุดจะอนาถ


พฤษภาคม 2564 ตำรวจอิสราเอลบุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอ ในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับ 3 ของโลกมุสลิม ในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ชาวมุสลิมถือว่าเป็นการดูหมิ่น การบุกมัสยิดครั้งนี้เป็นการจุดชนวนความขัดแย้งอย่างเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลและฮามาสในเวลา 11 วัน

เมษายน 2565 ตำรวจอิสราเอลเข้าปะทะรอบใหม่ที่มัสยิดอัล-อักซอ ในเมืองเยรูซาเล็ม ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงปาเลสไตน์

สิงหาคม 2565 อิสราเอลโจมตีทางอากาศ มุ่งเป้าที่ผู้บัญชาการอาวุโสและคลังอาวุธกลุ่มฮามาส

มกราคม ปีนี้ (2566) อิสราเอลเปิดฉากโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยเมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์


เมษายน 2566 ตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลบุกเข้าไปมัสยิดอัล-อักซอ ในช่วง 4 กันยายน ยิงระเบิดแสง ระเบิดแก๊สน้ำตา ระหว่างปะทะกับชาวปาเลสไตน์ ผู้แสวงบุญ กวาดจับคนไป 350 คน ตายนับสิบ

ท่านผู้ชมครับ กรกฎาคม ที่ผ่านมา อิสราเอลส่งทหารประมาณพันคน ได้รับการสนับสนุนการโจมตีด้วยโดรนไปยังเจนิน เพื่อทำลายสิ่งที่อิสราเอลเรียกว่า ศูนย์บัญชาการ ท่านผู้ชมครับ นี่คือแค่ส่วนเสี้ยวเดียวนะ ท่านผู้ชมลองดูกราฟ สหประชาชาติสรุปตัวเลขในช่วงสงครามความขัดแย้ง 12 ปี ระหว่างปี 2551-2563 แต่ละฝ่ายสูญเสียบาดเจ็บไปเท่าไร ท่านผู้ชมดูดีๆ แล้วท่านผู้ชมจะรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ และใครเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่ ปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้ว 5,590 คน อิสราเอลแค่ 251 คน


อิสราเอลพร้อมแล้วตอนนี้ ต้องการทำสงครามที่เรียกว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งๆ ที่ตัวเองไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่สื่อสากกะเบือทั้งหลาย ทั้งสื่อตะวันตก รวมทั้งสื่อสากกะเบือในประเทศไทย ซึ่งเดินตามรอยเท้าของสื่อสากกะเบือของตะวันตก ไม่เคยพูดถึง ไม่เคยลุกขึ้นมาประณามอิสราเอลเลยแม้แต่นิดเดียว

ท่านผู้ชมครับ สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ เข้ามาข่มขู่ การปฏิบัติการของฮามาสครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมไว้ก็รับกรรมนั้นไป รัฐบาลอิสราเอลก่ออาชญากรรมไว้มาก แถมรัฐบาลอเมริกาสนับสนุนทางอาวุธ เงินทอง และการทูตตลอดเวลา ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าอเมริกาสนับสนุนอิสราเอลเป็นประจำทุกปี ปีละเกือบ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 140,000 ล้านบาท ทุกปี

กรรมยังเป็นกรรม ช้าหรือเร็ว กรรมจะตามไปให้ผลอยู่ดี


นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นผู้ปล่อยข้อมูลเท็จ ดึงสหรัฐฯ อังกฤษ ชักนำชาติสมาชิกนาโต 1 ไปบุกอิรัก สังหารซัดดัม ฮุสเซน และสังหารประชาชนในอิรักจำนวนมากมาย และยังปล้นทองคำอิรักไปจนเกลี้ยงคลัง นอกจากนั้น ยังก่ออาชญากรรมอื่นๆ เอาไว้มาก ส่งเครื่องบินไปละเมิดน่านฟ้าเลบานอน รุกรานซีเรีย เป็นกองทัพอากาศ ให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเป็นประจำ

ท่านผู้ชมครับ นี่คือข้อเท็จจริง เมื่อผมเห็นฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอล ผมนึกในใจก่อนว่าเวรกรรมมีจริง เคยทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมนั้นไป อ๋อ แน่นอนที่สุด ผมเสียใจที่มีคนเสียชีวิตมาก ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนไทย คนไทยที่ต้องไปทำงานที่อิสราเอล ถึงแม้รู้ว่าอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งก็จำเป็นต้องไป เพื่อเงิน จะได้ส่งกลับมาที่บ้าน ให้ที่บ้านใช้


เห็นได้ชัด คนไทยที่พร้อมจะกลับมาแล้ว จำนวนเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ส่วนใหญ่จาก 30,000 คน มีต้องการกลับมาไม่เท่าไร ส่วนใหญ่เก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ยังต้องการอยู่ต่อไป เพราะต้องการทำงาน ทำเงินส่งมา

แล้วก็เวรรกรรมเหมือนกัน ของอเมริกา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นางมาร์จอรี กรีน ได้บอกให้เหตุผลว่า ได้มีการค้นพบว่ากลุ่มฮามาสใช้อาวุธที่อเมริกาเคยให้ยูเครนไป ไปปรากฏอยู่ในสงครามครั้งนี้กับอิสราเอล


ท่านผู้ชมครับ สงครามครั้งนี้อาจจะขยายวง ให้กองกำลังอื่นๆ เข้ามาร่วม เช่น ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งพลเรือนกึ่งทหารของเลบานอน กองทัพฮูติของเยเมน นักรบตอลิบาน ซึ่งประกาศชัดเจนแล้วว่าจะส่งนักรบตอลิบานมาร่วมรบกับกลุ่มฮามาส อาจจะต้องถึงขั้นดึงอิหร่านเข้ามาร่วมด้วย ช่วยกลุ่มฮามาสเต็มพิกัด ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ก็คือยูเครน 2 ล่ะตอนนี้ แต่มันจะต่างกว่ายูเครน เพราะยูเครนนั้นเซเลนสกี ทำตัวเป็นขอทาน ขอเงินตะวันตกมาเพื่อหยุดยั้งรัสเซีย ในนามของสันติภาพในยุโรป ทั้งๆ ที่นาโต และอเมริกา เป็นคนสร้างสงครามขึ้นมาแต่ผู้เดียว

สงครามที่จะเกิดขึ้นใหม่เต็มรูปแบบนี้จะไม่เหมือนสงคราม 6 วัน อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้อิสราเอลรู้แล้ว อิสราเอลได้เครื่องบินรบทันสมัยลอบโจมตีก่อนในยุคนั้น สงคราม 6 วัน ได้เปรียบโลกอาหรับ แต่วันนี้ไม่ใช่วันนั้นแล้ว อิสราเอล และอเมริกา ไม่ชำนาญในการรบกับคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันแล้ว ผมเคยพูดมาตั้งนานแล้วท่านผู้ชม อเมริการุกเข้าไปในอิรัก รุกเข้าไปในซีเรีย รุกเข้าไปในอัฟกานิสถาน ไปต่อสู้กับคนที่ไม่มีอาวุธ หรืออาวุธทัดเทียมไม่ได้ แต่พออเมริกาหนุนหลังยูเครนไปปะทะกับรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางด้านอาวุธ และเป็นเทพแห่งสงคราม ปรากฏว่ากินรัสเซียไม่ลง และตัวเองอยู่ในสภาวะที่้ตกหลุมพรางกับดัก


ท่านผู้ชมครับ อิสราเอล-ปาเลสไตน์มีความขัดแย้งกันมายาวนาน ทั้งสองฝ่ายก่อกรรมกันไปมา อิสราเอลแย่งชิงดินแดนปาเลสไตน์ บุกรุกที่อยู่ในปาเลสไตน์ สังหารคนบริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก อเมริกาเป็นคนที่ให้ท้าย สนับสนุนมาหลายปีก่อนจะมีเหตุการณ์ในวันนี้ สื่อกระแสหลักของไทยไม่เคยรายงานข่าวช่วงที่อิสราเอลก่อกรรมทำเข็ญกับชาวปาเลสไตน์ รายงานแต่ตอนที่ชาวปาเลสไตน์แก้แค้น เพราะสื่อทางตะวันตก และประเทศทางตะวันตก มีเจตนาให้สังคมโลกมองแค่มุมเดียวว่าอิสราเอลเป็นเหยื่อ กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์เป็นผู้ร้าย เพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ถูกกระทำอย่างไรก็ได้ และนี่ก็เป็นปัญหาหลักของสื่อสากกะเบือในประเทศไทยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ต่างๆ หรือผู้อ่านข่าว วิเคราะห์ข่าวทางทีวี

ท่านผู้ชมครับ เหมือนอย่างที่ผมเคยทำนองไว้เมื่อสองปีที่แล้ว และผมจะพูดต่ออีกว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์รอบนี้จะไม่จบเร็ว มีแนวโน้มจะพัฒนาสู่สงครามครั้งใหญ่ของตะวันออกกลาง อาจจะเป็นสงครามครูเสด สงครามศาสนาแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คู่ขัดแย้งไม่ใช่ชาวคริสต์ตอกกลับอิสลาม แต่กลายเป็นยิวและอิสลาม โดยที่มีชาวคริสต์หนุนหลัง


เป็นสงครามครูเสดที่ไม่ใช้ดาบ ใช้หอก ใช้ธนู พลทหาร หรือกองทัพ มาเป็นหลักในการสู้รบ เป็นการสู้รบด้วยอาวุธสมัยใหม่ ขีปนาวุธ เครื่องบินรบ โดรน

ท่านผู้ชมที่ติดตามรายการของผม และข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ไม่ตกเป็นทาสฝรั่งมาตลอด รู้กันดีว่า อเมริกา และอิสราเอลนั้น เป็นรัฐบาลจอมรุกรานโหดเหี้ยมอำมหิตต่อประเทศอื่น แต่ถนัดในการสร้างภาพว่าตัวเองนั้นตกเป็นเหยื่อ เป็นผู้ถูกกระทำ อเมริการุกรานซีเรีย ปล้นน้ำมันซีเรีย ทำลายพืชพรรณธัญญาหารของซีเรีย คว่ำบาตรซีเรียสารพัด พอชาวซีเรียใช้ก้อนหินขับไล่ ขว้างกองทัพอเมริกาออกไป เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง อเมริกาก็เลยประกาศว่าประชาชนชาวซีเรียดำเนินการก่อการร้ายใส่พวกตนด้วยก้อนหิน ตัวเองกลับรุกรานซีเรียอย่างหน้าด้านหน้าทน สร้างภาพว่าเป็นชาติประชาธิปไตย ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน


อิสราเอลก็เช่นกัน รุกราน ยึดบ้านชาวปาเลสไตน์มา 70-80 ปี ส่งทหารไล่ที่ชาวปาเลสไตน์ เข่นฆ่าสังหารชาวปาเลสไตน์ ทำลายโรงเรียนปาเลสไตน์ สังหารสื่อชาวปาเลสไตน์ สังหารนักสิทธิมนุษยชน บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก ให้ท้ายชาวยิวที่อพยพมาใหม่ไล่ที่ชาวปาเลสไตน์สารพัด ทำมาหลายสิบปีก่อนที่กลุ่มฮามาสจะตัดสินใจบุกในวันนี้ พอฮามาสบุกก็สร้างภาพว่าตัวเองเป็นเหยื่อทันที แล้วโจมตีกลุ่มฮามาสว่าก่อการร้าย ตัวเองก่อการร้ายหลายทศวรรษแล้ว แต่ไม่ยอมพูดถึง


ท่านผู้ชมครับ กลุ่มฮามาสเขาต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของเขา ที่ต้นตระกูลของเขาอยู่ในปาเลสไตน์ กฎบัตรสหประชาชาติรับรองสิทธิการต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของประชาชนในทุกประเทศ อิสราเอลและทหารอิสราเอลต่างหากคือกองทัพผู้รุกราน แต่บังเอิญรัฐบาลจักรวรรดินิยม อเมริกา ให้ท้าย จึงไม่มีชาติไหนเอาผิดได้

สงครามระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ครั้งนี้น่าจะถูกชะตาลิขิตบีบ เพื่อเร่งให้จักรวรรดินิยมอเมริกาล่มสลายโดยเร็วยิ่งขึ้น


ท่านผู้ชมครับ วันนี้พอเพียงแค่นี้ก่อนนะครับ ความจริงแล้วเรื่องปาเลสไตน์กับอิสราเอลนั้นพูดกันได้เป็นชั่วโมงๆ แต่อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ ถ้าต้องการเข้าใจอย่างลึกซึ้ง กลับไปดูคลิปเก่าที่ผมพูดไปตอนต้นแล้วว่าสองต้นนั้นจะบอกข้อความทุกอย่างให้หมด

อีกหน่อย ... ผมกำลังมีปัญหามาก เพราะขณะนี้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและในโลกนี้ ถ้าเราใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ เวลานี้ วัน ว. เวลา น. ขณะนี้ แล้วมาวิพากษ์วิจารณ์ โดยไม่ย้อนหลังกลับไปพูดถึงที่มาที่ไปของมันนั้น เราจะกลายเป็นคนที่โง่ เหมือนสื่อมวชนต่างๆ พอสมควรในประเทศไทย สื่อหลัก ซึ่งอาจารย์ปฐมพงษ์ เรียกว่าเป็นสื่อสากกะเบือ

ทำไมรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ถึงต้องเอาเรื่องเก่าๆ มาเล่าให้ฟัง ก่อนจะโยงเรื่องเก่ามาถึงเรื่องใหม่ เพราะทุกอย่างในชีวิตคนเรา ในโลกนี้ มันมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น อะไรที่เกิดขึ้นวันนี้ มันไม่ใช่เพียงเพราะมันเกิดขึ้นทันที มันต้องมีเหตุการณ์มาก่อนถึงจะเกิดขึ้นวันนี้ แต่เราดันทะลึ่งมาตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ณ วันนี้ ณ เวลานี้ เหมือนที่ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องปาเลสไตน์ กับอิสราเอล เราไม่ได้รู้เลยใช่ไหมว่าอิสราเอลได้ทำความพินาศฉิบหาย ขมขื่น โหดเหี้ยมอำมหิตกับชาวปาเลสไตน์มา 70-80 ปีแล้ว เรามาตัดสินเขาในวันนี้ว่าเขา ฮามาส เป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิต ไม่ใช่ สำหรับผมแล้ว ฮามาสคือนักต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิด ผมเสียใจครับที่คนไทยต้องรับเคราะห์กรรมไป แต่อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าคนไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศนั้น ต้องดูให้ดีๆ ถ้ามันมีความขัดแย้งสูง มีโอกาสเกิดสงคราม ถ้าตัดสินใจจะไป ก็ต้องยอมรับชะตากรรมเหมือนกันนะครับ ผมหวังว่าคนไทยจะอยู่รอดปลอดภัย และผมหวังว่าจะมีคนไปคุยกับอิหร่านได้ ให้อิหร่านแอบช่วยคนไทยโดยบอกว่าฮามาสว่า ถ้าใครเป็นคนไทย ช่วยปล่อยตัวเขาหน่อยได้ไหม หวังว่าเช่นนั้นครับ วันนี้แค่นี้พอก่อน สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น