xs
xsm
sm
md
lg

“ปลัดจอมแฉ” มั่นใจหลักฐานคดี “ฌอน บูรณะหิรัญ” รับบริจาคเงินช่วยเหลือไฟป่าเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เชียงใหม่ - “ปลัดจอมแฉ” มั่นใจหลักฐานคดี “ฌอน บูรณะหิรัญ” รับบริจาคเงินช่วยเหลือ จนท.ดับไฟป่าดอยสุเทพ หลังมีอาสาดับไฟเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ แม่ริม 3 ปีก่อน


กรณี “ฌอน บูรณะหิรัญ” ถูกร้องเรียนและยื่นฟ้องข้อหาฉ้อโกงประชาชน ปมเงินบริจาคช่วยเหลืออาสาดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยผู้เสียหายที่รวมกลุ่มกันเมื่อ 3 ปีก่อนได้รับหนังสือจากศาลและพร้อมที่จะไปเป็นพยานทุกคน โดยเอกสารมีการระบุว่า ศาลได้นัดเรียกผู้เสียหายมาเป็นพยานในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เวลา 13.30 น.

เหตุการณ์ดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากวันที่ 23 มิถุนายน 2563 “ฌอน บูรณะหิรัญ” ได้โพสต์คลิปในเฟซบุ๊ก ระบุว่า..มาปลูกต้นไม้กับ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในคลิปฌอนได้พูดถึงพลเอก ประวิตรว่าพอเจอตัวจริงเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก อย่าเพิ่งตัดสินใครจนกว่าเราจะได้เจอตัวเขาจริงๆ และสัมผัสเขา ซึ่งคำพูดดังกล่าวทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความผิดหวัง เหตุมองว่าฌอนสนับสนุนเผด็จการทหาร เนื่องจากพลเอก ประวิตรเป็นหนึ่งในรัฐบาลรัฐประหาร ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อีกทั้งยังมีคดีนาฬิกายืมเพื่อนที่ยังทำให้สังคมคาใจ ส่งผลให้ชื่อของฌอนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งทันที

ก่อนเรื่องราวจะบานปลาย ลามไปเรื่องเงินบริจาคไฟป่า มีการขุดข้อมูลว่า เดือนมีนาคม 2020 ฌอนได้เปิดรับเงินบริจาค ให้คนโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองเพื่อจะนำเงินไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่สู้ไฟป่า และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าตัวจริงได้ออกมาตั้งคำถามว่า..แล้วเงินบริจาคอยู่ไหน ฌอนไม่เคยมีการเปิดเผยยอดบริจาค และไม่เคยได้รับสิ่งของจากฌอนเลย

ต่อมาฌอนก็ออกมาชี้แจง แต่ยิ่งทำให้เรื่องบานปลาย เพราะเงิน 1 ใน 3 ของยอดบริจาคถูกนำไปใช้เป็นค่าผลิตสื่อและโปรโมตโพสต์ รวมทั้งนำเงินไปช่วยโควิด-19 ซึ่งถูกมองว่าผิดวัตถุประสงค์ในการขอรับบริจาค


กระทั่งตัวแทนกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับไฟป่า ผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.แม่ริม ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม ในขณะนั้น และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้รวบรวมพยานหลักฐานประกอบด้วยข้อมูลในเพจเฟซบุ๊กต่างๆ และหลักฐานการโอนเงินของชาวบ้านที่บริจาคเงิน นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือสอบถามไปยังธนาคารซึ่งฌอนเป็นเจ้าของบัญชี และติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลว่าได้รับเงินบริจาคจากฌอนหรือไม่ ปรากฏว่าไม่ได้รับเงินบริจาคจากฌอนแต่อย่างใด

หลังจากนั้นมีผู้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริมให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย และจากการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและการให้ถ้อยคำของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เสียหาย, เจ้าหน้าที่และหน่วยงาน จนได้ข้อสรุปหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์, พระราชบัญญัติการเรี่ยไร และฉ้อโกงประชาชน

ด้านนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขา จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว เชื่อมั่นพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีการรวบรวมให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินบริจาคจากประชาชนเข้าบัญชีของฌอนทั้งสิ้นกว่า 1.45 ล้านบาท ก่อนมีการโอนต่อไปยังบัญชีส่วนตัวของฌอนและใช้จ่ายต่างๆ ที่ทำให้เกิดความน่าสงสัยว่าอาจจะมีการนำไปใช้ไม่ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล จนได้ข้อสรุปเป็นที่น่าเชื่อถือได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม




กำลังโหลดความคิดเห็น