โฆษกหญิงคนดังของรัฐบาลไต้หวัน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกแฉว่าเธอมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเจ้าหน้าที่คุ้มกันที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล
ทำเนียบประธานาธิบดีเปิดเผยว่า โคลัส โยตากะ ยื่นใบลาออกในวันพุธ (28 มิ.ย.) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบต่อการงานของทำเนียบประธานาธิบดี ในขณะที่ทางประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ได้อนุมัติใบลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โยตากะ มีพื้นเพเป็นชนกลุ่มน้อยอาเหม่ย และเป็นที่ทราบกันว่าเธอเป็นชนพื้นเมืองคนแรก ที่ได้ดำรงตำแหน่งในฐานะโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน หรือคณะมนตรีไต้หวัน
มิรเรอร์ มีเดีย สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในไทเป อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชายรายหนึ่งซึ่งแต่งงานแล้ว ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่เป็นบอดีการ์ดของเธอ ระหว่างการณรงค์หาเสียงในเดือนพฤศจิกายน 2022 และนั่นเอง มันคือที่มาที่ไปของการคบชู้ระหว่างเธอกับเขา
โคลัส โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กชี้แจงว่า เธอไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริงว่าเขาแต่งงานแล้ว และไม่เคยมีพฤติกรรมแนบชิดเกินเลยกับเขา พร้อมอ้างว่ารายงานของมิร์เรอร์ มีเดีย ให้รายละเอียดเกินจริง และหยิบยกข้อมูลอื่นๆ บางอย่างขึ้นมาลอยๆ
เธออ้างว่าไม่ได้ติดต่อใดๆ กับชายคนนี้แล้ว และบอกว่าความเป็นจริงจะถูกเปิดเผยออกมา
ชายคนดังกล่าว ซึ่งสื่อมวลชนท้องถิ่นระบุว่าชื่อนายหลี่ ได้เขียนขอโทษครอบครัวเช่นกันบนเฟซบุ๊ก และเผยว่าเขามีชีวิตที่ไม่ลงรอยกับภรรยามานานหลายปี ในขณะที่มีข่าวว่าฝ่ายภรรยาได้ยื่นฟ้องเอาผิดกับโคลัส โดยใช้บันทึกการแชตเป็นหลักฐาน
นายหลี่ ซึ่งมีข่าวว่าอายุน้อยกว่าโคลัส 6 ปี ยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้สึกถึงความผูกพันในสถานภาพสมรสกับภรรยาอีกต่อไปแล้ว
เรื่องราวข่าวฉาวนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งการชิงชัยได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดจากสหรัฐฯ ซึ่งจัดหาอาวุธให้แก่ไต้หวัน สำหรับป้องกันตนเองจากความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะถูกจีนรุกราน
จีน มองว่า ไต้หวัน เป็นดินแดนแยกตัวของพวกเขาที่ต้องรวมชาติให้สำเร็จ และไม่ตัดความเป็นไปได้ของการใช้กำลัง ทั้งนี้ปักกิ่งได้ทำการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไปแล้ว 2 รอบ นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เคยประกาศหลายต่อหลายครั้งว่าจะปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตี แต่ในทุกๆ ครั้งหลังจากนั้น บรรดาผู้ช่วยของเขามักออกมากลับลำคำพูดดังกล่าว
จุดยืนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครัฐบาลไต้หวัน คือไต้หวันเป็นประเทศเอกราช ในขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง มีแนวทางในนโยบายที่เป็นมิตรกับจีนมากกว่า
หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ด เดลี ซึ่งสนับสนุนพรรคก๊กมินตั๋ง แสดงความคิดเห็นว่าเรื่องอื้อฉาวของโคลัส อาจส่งผลกระทบกับรองประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ ตัวแทนของพรรคพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
(ที่มา : บลูมเบิร์ก/สเตรทไทม์ส)