เอเจนซีส์ - มีรายงานพลเมืองคิวบาอาศัยในรัสเซียเข้าร่วมกองกำลังมอสโกสู้ในสงครามยูเครน หลังประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน สัปดาห์ที่แล้วลงนามกฎหมายให้สัญชาติพร้อมกับเงินเดือนระหว่างสู้รบตกเดือนละ 2,545 ดอลลาร์เป็นอย่างน้อย ท่ามกลางความวิตกจากทูตยุโรป มองสถานการณ์ไม่เป็นบวกต่อทั้งนาโตและอียู
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์รายงานวันนี้ (28 พ.ค.) ว่า มีรายงานว่ามีพลเมืองคิวบาที่อาศัยอยู่ในรัสเซียพากันสมัครเข้าร่วมสู้รบให้กองกำลังรัสเซียในยูเครน หลังเครมลินออกกฎหมายให้สัญชาติจูงใจ พร้อมกับตบรางวัลเป็นเงินเดือนอย่างงาม พร้อมกันนี้ สวัสดิการยังสามารถตกไปถึงภรรยาและบุตร และบิดามารดาได้อีกต่อ
เกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายให้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติทุกรายที่เข้าร่วมกองทัพรัสเซียเพื่อสู้รบใน ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร ที่ "ยูเครน" ซึ่งเป็นภาษาที่รู้จักในรัสเซียที่อ้างอิงไปถึงสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ ในวันพุธ (24) พบมีชาวคิวบาจำนวนไม่มากนักถูกนำตัวไปยังพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษที่ยูเครน หลังคนเหล่านี้ลงนามในสัญญานาน 1 ปี เพื่อเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย อ้างอิงจากสื่อรัสเซีย Ryazan Gazette ในภูมิภาคเรียซัน (Ryazan) ที่อยู่ทางตอนกลางของรัสเซีย
ตามการรายงานระบุว่า ชาวคิวบาและชาวต่างชาติอื่นๆ ที่เข้าร่วมการสู้รบจะได้รับเงินที่จ่ายครั้งเดียวจากรัฐบาลกลางรัสเซีย จำนวน 2,433 ดอลลาร์ และจะได้รับเงินก้อนอีกจำนวน 2,500 ดอลลาร์จากเงินงบประมาณของภูมิภาคเรียซัน
ซึ่งตามการรายงาน ชาวคิวบา และชาวต่างชาติอื่นๆ จะยังได้รับเงินเดือนตกเดือนละ 2,545 ดอลลาร์
Ryazan Gazette รายงานว่า ชาวคิวบาที่อาศัยอยู่ในรัสเซียแสดงความปราถนาต้องการเข้าร่วมการสู้รบในสงครามยูเครน โดยชี้ไปที่การเป็นช่องทางได้สัญชาติรัสเซีย ซึ่งพลเมืองคิวบาที่อาศัยในรัสเซียที่ผ่านมาต่างบ่นว่า เป็นการยากมากที่จะได้รับสถานภาพทางการในการอาศัยอยู่ในรัสเซีย
นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ข่าวพลเมืองคิวบาอาสาร่วมรบในยูเครนให้มอสโกเกิดขึ้นหลังสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เบลารุสได้ออกมาประกาศว่า กำลังพิจารณาที่จะฝึกซ้อมรบให้เจ้าหน้าที่ทหารคิวบา
ทั้งนี้ วาเลอรี รีเวนโก (Valery Revenko) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมเบลารุสด้านความร่วมมือทางการทหารระหว่างประเทศ ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่คิวบา รวมถึง พ.อ.โมนิกา มิลลิแอน โกเมซ (Colonel Col. Mónica Milián Gómez) ทูตทางการทหารคิวบาประจำรัสเซียและเบลารุส
ซึ่งในเวลานี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเบลารุสจะฝึกซ้อมประเภทใดให้ทหารคิวบาเหล่านี้
หนังสือพิมพ์ไมอามีเฮอรัลด์รายงานเพิ่มเติมว่า ซึ่งในทางสาธารณะคิวบาแสดงจุดยืนเข้าข้างรัสเซียในปฏิบัติการยึดยูเครนของปูตินและยังงดออกเสียงในการประณามผู้นำรัสเซียในการประชุมสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้ที่องค์การอนามัยโลก
รายงานพลเมืองคิวบาร่วมกองทัพรัสเซียเกิดขึ้นตามหลังการพัฒนาความสัมพันธ์ 2 ชาติที่มีความใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งในการพบปะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิตรี เชอร์นีเชนโก (Dmitry Chernyshenko) และประธานาธิบดีคิวบาคนปัจจุบัน มิเกล ดิอัซ-กาเนล (Miguel Díaz-Canel) ซึ่งฝ่ายคิวบาออกมายืนยันว่า คิวบาสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไขให้รัสเซียในความขัดแย้งกับฝ่ายตะวันตก
ทั้งนี้ อีวาน เอลลีส (Evan Ellis) ศาสตราจารย์การศึกษาละตินอเมริกาประจำวิทยาลัยการสงครามสหรัฐฯ (U.S.Army War College) กล่าวในเชิงวิเคราะห์ว่า หนึ่งในความเป็นไปได้คือ "เบลารุส" อาจกลายเป็นสถานที่ถูกใช้เพื่อให้คิวบาหรือคนอื่นๆ ได้พบกับรัสเซียและอาจรวมไปถึง “ผู้เล่นรายอื่น”
เอลลีส กล่าวต่อว่า และอีกความเป็นไปได้ที่อาจห่างไกลมากที่สุดคือ รัสเซียต้องการให้กองทัพคิวบาเข้าร่วมอยู่บนโต๊ะเมื่อรัสเซียฝึกซ้อมให้เบลารุสสามาถใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี
ในวันพฤหัสบดี (25) ประธานาธิบดีเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ที่มีข่าวปัญหาสุขภาพได้แถลงว่า รัสเซียเริ่มต้นเคลื่อนย้ายหัวรบนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีมาเก็บไว้ที่ประเทศของเขา และยังกล่าวเป็นนัยต่อว่า บางทีพวกมันอาจจะอยู่ภายในดินแดนเบลารุสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไมอามีเฮอรัลด์รายงานว่า แหล่งข่าวนักการทูตยุโรปคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า มุมมองสถานการณ์นี้ดูไม่ค่อยดีสำหรับคิวบา โดยชี้ไปว่า
“ข่าวการร่วมมืออย่างหนักทางการทหารของคิวบาและเบลารุสระหว่างสงครามยูเครนที่เบลารุสแสดงตัวอย่างเด่นชัดว่า เข้าข้างรัสเซียและกำลังอยู่ในกระบวนการเป็นที่เก็บอาวุธนิวเคลียร์ให้รัสเซียภายในดินแดนเบลารุสนั้นไม่เป็นที่น่ายินดีต่อทั้งนาโต สหภาพยุโป กลุ่ม G7 และไม่ต่อทั้งชาติสมาชิกยูเอ็น 141/143 ชาติที่ออกเสียงโหวตในมีนาคมและตุลาคมของปี 2022 เพื่อประณามรัสเซีย” แหล่งข่าวนักการทูตที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อกล่าว
มาจนถึงเวลานี้ในทางสาธารณะรัฐบาลคิวบายังไม่มีการประกาศเข้าร่วมทางการทหารกับรัสเซียในความขัดแย้ง แต่สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ข่าวที่พลเมืองคิวบายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อแลกกับได้สัญชาติรัสเซียยิ่งทำให้สถานการณ์บนเกาะคิวบาวิกฤตหนักขึ้นที่เห็นพลเมืองตัวเองเกือบ 300,000 คน พยายามหลบหนีความยากจน และการกดขี่เพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ในสหรัฐฯ
ไมอามีเฮอรัลรายงานว่า พลเมืองคิวบาไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้ารัสเซียทำให้กรุงมอสโกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่โด่งดังเมื่อไม่กี่ปีมานี้สำหรับเป็นทางผ่านไปยุโรป