xs
xsm
sm
md
lg

นัยซ่อนเร้น‘ศิธา-ชลน่าน’ปมแค้น และตีกันแยกขั้ว?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว - น.ต.ศิธา ทิวารี
สมการการเมือง

ควันหลงจากเหตุการณ์ลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาล กลับมีเหตุ ‘แทงกันเอง’ กลางงาน หลัง ‘ผู้พันปุ่น’ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย ถามกลางงานไปบนเวทีให้ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ตอบ

แต่งานนี้มองกันว่า เป้าลึกๆคือพุ่งไปที่ ‘เพื่อไทย’ ที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคฯ อยู่บนเวที นั่งข้างๆ ‘คุณหญิงหน่อย’ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

โดย น.ต.ศิธา ได้เสนอหลังตั้งรัฐบาล เสนอทำ Advance MOU เพื่อยกระดับประชาธิปไตย ขอให้พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะบทบาทฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล เพื่อไม่ไปอยู่ในเกมคนทำรัฐประหาร

พร้อมถามว่าจะอยู่จนสภาฯ ครบวาระ หรือจะแก้รธน. แล้วยุบสภาฯ เพื่อดึงมาสู่เกมฝ่ายประชาธิปไตย

ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่า Advance MOU เพราะคำถามที่ถาม อธิบายคำตอบอยู่ในตัวเองแล้ว เราเชื่อมั่นในฝ่ายประชาธิปไตย เราได้เสียงจากประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย เราต้องทำตามจุดประสงค์ประชาชน แม้จะมีความบิดเบี้ยวจากรธน. แต่เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

จริงอยู่ว่า ส.ว.ในบทเฉพาะกาล ส.ว.จะหมดวาระ พ.ค. 2567 ถ้าจะแก้รธน. เชื่อว่าจะทำได้ทันเวลา โดยการทำประชามติถามประชาชน จากนั้นทำการยกร่างผ่าน ส.ส.ร. และทำประชามติอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าเราจะยึดมั่นทำ รธน. ของประชาชนที่สมดุล และคำนึงถึงการมีส่วนร่วม

แต่สีหน้าของ นพ.ชลน่าน ไม่ยินดีกับคำถามนัก แม้ต่างฝ่ายจะนิ่งเงียบกันไป แต่เต็มไปด้วย ‘บรรยากาศมาคุ’ ก่อนจะระเบิดออกมาในวันต่อมา หลัง นพ.ชลน่าน ไปออกรายการออนไลน์ช่องหนึ่ง ที่มี คุณหญิงสุดารัตน์ ร่วมรายการว่า ไม่สบายใจเท่าไหร่ สำหรับคำถามของน.ต.ศิธา เพราะไม่ได้เป็นสื่อ แต่ไปคาดคั้นอย่างนี้ อีกทั้งตัวเองเป็นพรรคร่วม คิดว่า “เสียมารยาทอย่างยิ่ง” ฝากคุณหญิงสุดารัตน์ ด้วย

ต่อมา ‘ศิธา’ ทวิตเตอร์ตอบกลับตอนหนึ่งว่า “คุณหมอโดนใครตำหนิ หรือไปรับบรีฟจากใครมา อยู่ๆ วันนี้จึงงัวเงีย ออกมาพูดกับสาธารณชนว่า เป็นการเสียมารยาท และฝากหัวหน้าพรรคฯ มาอบรมผมด้วย”

วันต่อมา นพ.ชลน่าน กล่าวตอบโต้ว่า น.ต.ศิธา คือผู้ที่อยู่ในวงที่ร่วมร่างเอ็มโอยูด้วยกัน และอยู่ในคณะทำงานพรรคไทยสร้างไทย และเขามีส่วนในการเสนอแก้ไข และปรับปรุงตัวร่างเอ็มโอยู เยอะมาก อีกทั้งการที่มาใส่ร้ายว่า ตนไปรับบรีฟ เป็นเรื่องใส่ร้าย ถ้ายังมีพฤติกรรมเช่นนี้ คิดว่าการทำงานร่วมกับตน คงลำบาก

พร้อมขอให้พรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปพูดคุยกับทางพรรคไทยสร้างไทยด้วยว่า พฤติกรรมแบบนี้จะเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคก้าวไกลพูดก็จบ ส่วนตัวก็จบ ไม่มีประเด็น แต่ถ้าหากพรรคก้าวไกล ไม่พูด ยังปล่อยปละละเลย ตนก็ไม่สบายใจ

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ได้ทิ้งปริศนาในช่วงหนึ่งการให้สัมภาษณ์ว่า ฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา แต่ถ้าเห็น 6 เสียง มากกว่า 141 เสียง

นอกจากนี้ขณะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ นพ.ชลน่าน สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ก่อนจะพูดว่า “ถ้าชกได้ ผมชกไปแล้ว”

น.ต.ศิธา ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง โดยระบุว่า “พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอดว่า เรายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตัวผม ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที ยืนยันว่าเราไม่ใช่เงื่อนไข ที่จะทำให้ประชาธิปไตยต้องหยุดชะงัก”

ทั้งหมดนี้ในทางการเมืองเต็มไปด้วย ‘สัญญาณ’ ที่ส่งถึงกัน สัมพันธ์ระหว่าง ‘เพื่อไทย’ กับ ‘ขั้วสุดารัตน์’ ยังคงตรงข้ามกัน หลัง ‘สุดารัตน์’ เคยถูกตะเพิดพ้นพรรคเพื่อไทย เมื่อราว 2 ปีก่อน ก่อนการเข้ามาคุมพรรคเบ็ดเสร็จจากฝั่ง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’

ทำให้ ‘สุดารัตน์’ ต้องมาสร้างรังใหม่พรรคไทยสร้างไทย แน่นอนว่าความบาดหมางใจยังคงมีอยู่ แต่ต่างฝ่ายต่างสงวนท่าที ไม่พูดถึงกัน จึงคาดกันว่า คงยากที่จะทำงานร่วมกัน

ท่ามกลางกระแสข่าว สุดท้ายแล้วพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมีระเบิดเวลารออยู่หลายลูกในอนาคต โดยเฉพาะชนวนเหตุเก้าอี้ ประธานสภาฯที่พรรคเพื่อไทย หวังได้เก้าอี้ตัวนี้ แต่พรรคก้าวไกลแสดงท่าทีไม่ยอมง่ายๆ

จุดนี้เองจึงมีการมองว่าอาจเป็น ‘ชนวนเหตุ’ ที่ทำให้ทั้งพรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลด้วยกันได้ หากเป็นเช่นนั้น โอกาสการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะตกมายังพรรคเพื่อไทย ที่จะไปจับมือซีก ‘พรรคร่วมรัฐบาลเดิม’ เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า เป็นต้น

แน่นอนว่ามีโอกาสที่ทั้ง ‘พรรคก้าวไกล’ กับ ‘พรรคไทยสร้างไทย’ ของคุณหญิงสุดารัตน์ จะถูก ‘ลอยแพ’ ไปเป็นฝ่ายค้านนั่นเอง

ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการ ‘สร้างสถานการณ์’ ขึ้นมาของแต่ละฝ่าย เพื่อทำการ ‘ล็อกคอ’ รวมทั้ง ‘สร้างเหตุผล’ เพื่อใช้อ้างในอนาคต

เรียกได้ว่าทั้งฝั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยสร้างไทย ต่างมี ‘วาระซ่อนเร้น’ ในทุกการกระทำที่ปรากฏออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น