xs
xsm
sm
md
lg

"พิธา" เล็งเปลี่ยน หน.คณะคุย จชต.เป็นพลเรือน ยันค่าแรง 450 เหมาะสม ไม่กังวลย้ายฐานผลิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หัวหน้าก้าวไกล เผยตั้งใจเปลี่ยนหัวหน้าคณะพูดคุยชายแดนใต้ฯ จากทหารเป็นพลเรือน ย้ำขึ้นค่าแรง 450 บาทเป็นตัวเลขเหมาะสม ต้องดูทั้งองคาพยพ ไม่กังวลทำผู้ประกอบการย้ายฐานผลิต เพราะยังมีอีกหลายปัจจัย

วันนี้ (26 พ.ค. 2566) ภายหลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส.ปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล พบเครือข่ายแรงงาน ประกอบด้วยสหภาพแรงงาน กลุ่มแรงงาน สภาองค์การลูกจ้าง รวมถึงสหพันธ์ผู้ค้าจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ เหล็ก อาหารและยา ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ สิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ พลาสติก รัฐวิสาหกิจ แรงงานนอกระบบ ภาคบริการ และอีกหลายส่วน


หลังการพบปะหารือภายใน ก่อนที่จะขึ้นปราศรัยขอบคุณ นายพิธา ได้ตอบให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับความกังวลของผู้ประกอบการต่อการขึ้นค่าแรง 450 บาท ตามแนวนโยบายของก้าวไกล โดยระบุว่า เรื่องค่าแรง ต้องไม่ดูที่เหรียญด้านเดียว แต่ต้องดูมิติของการช่วยเหลือเยียวยา SME ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีจาก 20% เหลือ 15% หากมีผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง ทำให้สามารถหักภาษีได้ 2 เท่าภายใน 2 ปีแรก รวมถึงศึกษามาตรการหลังการขึ้นค่าแรงเมื่อปี 2556

นายพิธา ยืนยันหากพิจารณาตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราค่าเงินเฟ้อ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของพี่น้องแรงงานในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขของค่าแรงที่เหมาะสมคือ 450 บาท โดยหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมเยาวชน จะเดินสายหารือกับหอการค้าและสภานายจ้าง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของเหรียญทั้งสองด้าน

"หากเราแก้ไข พ.ร.บ แรงงาน ค่าแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอัตโนมัติ การขึ้นค่าแรงต้องขึ้นน้อยๆ ขึ้นบ่อยๆ ถ้านานๆ ขึ้นที ไม่สามารถที่จะบริหารจัดการได้"


ขณะที่สภาหอการค้าแสดงความกังวลว่า ผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง อาจทำให้มีการพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปประเทศเวียดนาม นายพิธา ระบุว่า ได้รับฟังจากในข่าว แต่ยังไม่ได้หารือจริง จึงยังไม่รู้ข้อกังวล การย้ายฐานการผลิตไปประเทศใดนั้น ต้องดูที่ค่าแรงเป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่ส่วนเดียว ต้องดูทั้งบุคลากร อัตราการคอรัปชั่น ระบบภาษี อัตราการส่งออก และตลาดในประเทศด้วย มีมากถึง 8-9 ปัจจัย ค่าแรงอาจจะเป็นเพียงปัจจัยเดียว ต้องดูทั้งองคาพยพ

พร้อมมั่นใจว่ายังจะสามารถผลักดันนโยบายเพิ่มค่าแรงได้ภายใน 100 วันแรกหลังจากได้เป็นรัฐบาล และหลังจากได้หารือรับฟังข้อมูลจากเครือข่ายแรงงานหลายส่วน ทั้งในและต่างประเทศ


ส่วนกรณีการแถลงข่าวของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่าพร้อมส่งมอบงานให้รัฐบาลใหม่ ทางพรรคก้าวไกลได้วางบทบาทไว้พรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ และมีแนวทางอย่างไร นายพิธา ตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยอย่างลงรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ทางพรรคก้าวไกลมี รอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20 ของพรรคก้าวไกล

รวมถึงว่าที่ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ชายแดนใต้ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ นโยบายของพรรคก็มีความชัดเจน ต้องดูว่าแผนที่จะส่งมอบเป็นอย่างไร ต้องเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงได้ และคงไม่ใช่แค่ชายแดนใต้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจ

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาหัวหน้าคณะพูดคุยฯ เป็นทหารมาโดยตลอด มีโอกาสที่จะเปลี่ยนให้เป็นพลเรือนหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า เป็นสิ่งที่ตั้งใจอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น