xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เปลี่ยน พงส.-ยันดูแลคดีตามจริง! คดีโซเชียลฯ แชร์ลูกจ้างสาวไทใหญ่โดนนายจ้างทำร้ายกะโหลกร้าว-แท้งลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



แม่ฮ่องสอน - ตำรวจเมืองสามหมอกเปลี่ยน พงส.-ดูแลคดีตามจริง..คดีโซเชียลฯ แชร์กระหึ่มลูกจ้างสาวไทใหญ่โดนลูกหลงระหว่างหย่าศึกนายจ้างทะเลาะเมีย ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว แท้งลูก

กรณีนายจ้างทำร้ายร่างกายลูกจ้างสาวอาการสาหัส จนหัวกะโหลกร้าวและแท้งลูก กระฉ่อนโซเชียลฯ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา จากเหตุที่ภรรยาของนาย ช.(นามสมมติ) ได้ชวนลูกจ้างสาวไปช่วยกันตามหาสามีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่แถวถนนเลี่ยงเมือง-สนามบินแม่ฮ่องสอน แล้วพบว่าสามีนั่งดื่มกินอยู่ที่ร้านนี้จนมีปากเสียงกัน ก่อนที่ภรรยานาย ช.จะไปขอพักอยู่กับที่พักของลูกจ้างสาว

เมื่อนาย ช.กลับมาแล้วไม่สามารถเข้าบ้านได้ จึงตามไปและพบว่าภรรยาอยู่ที่บ้านเช่าของลูกจ้าง จนเกิดปากเสียงและทะเลาะวิวาทลงไม้ลงมือกัน ทำให้ลูกจ้างที่ช่วยเข้าห้ามปรามโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย

ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม ลูกจ้างได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุมาดูแลค่ารักษาพยาบาลและเกรงว่าจะกระทบต่อลูกในครรภ์ที่มีอายุครรภ์ได้ 4 เดือนด้วย แต่กลับมีข่าวออกมาว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (26 พ.ค. 66) พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร รอง ผบก.ภ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอนด้วยตนเองและเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า นายจ้างผู้ก่อเหตุคือนาย ช.(นามสมมติ) ที่ทำร้ายร่างกายของลูกจ้างคือ น.ส.หอม (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ตั้งแต่คืนวันที่ 19 ที่ผ่านมานั้น ข่าวที่ออกมามีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงไปพอสมควร

เพราะตั้งแต่เกิดเหตุที่ภรรยานาย ช.ชวนลูกจ้างไปตามหาสามีแล้วเกิดการทะเลาะวิวาทกันและลูกจ้างบาดเจ็บนั้น ตอนนี้สำนวนอยู่ในมือของพนักงานสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุได้ตกลงจะจ่ายค่ารักษาและค่าทำขวัญให้จริง ซึ่งลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บนั้นอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ แม่ฮ่องสอน อยู่แล้ว

และเจ้าหน้าที่ก็ได้ยืนยันแล้วว่าได้รับบาดเจ็บจากการชุลมุนช่วงที่เข้าห้ามปรามสามีกับภรรยาทะเลาะกัน ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสถึงขั้นกะโหลกร้าวหรือแท้งลูกแต่อย่างใด ตอนนี้มีภาวะของความเครียด โดยเจ้าหน้าที่ก็ให้การดูแลตามอาการอย่างใกล้ชิด จากนี้ก็จะต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้งเพื่อประกอบกับสำนวนคดี

“ตอนนี้เพื่อความสบายใจของผู้เสียหาย ก็ได้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนคนใหม่ให้แล้ว และหากผลการตรวจของแพทย์ยืนยันมา ทางตำรวจก็จะได้เรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนของการเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป”

สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ทางตำรวจเองก็ยืนยันว่ารู้จักกันจริง เพราะแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองแคบๆ ไปทางไหนก็รู้จักกันหมด คนก่อเหตุเองก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี ส่วนกระแสข่าวที่ออกมานั้นทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หากได้รับผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์แล้ว ตำรวจจะสรุปสำนวนคดีได้ภายใน 7 วัน

ส่วนที่มีกระแสข่างพาดพิงหรือข้อวิตกกังวลของผู้เสียหายออกมานั้น น่าจะเป็นเพราะผู้เสียหายเองที่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนหนึ่งก็อาจจะเกิดจากผู้เสียหายเป็นลูกจ้างของผู้ก่อเหตุ รวมถึงผู้เสียหายเป็นคนงานเชื้อสายไทใหญ่ สัญชาติเมียนมาด้วย แต่ขณะนี้ทางบ้านพักเด็กฯ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ได้เข้ามาช่วยกันดูแลเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น