xs
xsm
sm
md
lg

ซาอุดิอาระเบียจับมือรัสเซีย และจีนล้มเปโตรดอลล่าร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ซาอุดิอาระเบียจับมือรัสเซีย และจีนล้มเปโตรดอลล่าร์
โดย ทนง ขันทอง


ไม่เพียงแต่และจีนและรัสเซียเท่านั้นที่จับมือกันแน่นเพื่อล้มเปโตรดอลล่าร์ แต่ซาอุดิอาระเบียก็กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยอย่างเต็มตัว

ในวันอาทิตย์ (2 เมษายน) ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศโอเปกพลัส ซึ่งมีซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียเป็นแกนนำ ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก1.1ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อที่จะก่อสงครามน้ำมันกับสหรัฐและยุโรป เพราะว่าเมื่อซัพพลายน้ำมันลดลง ราคาจะสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้การจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อของตะวันตกยากมากยิ่งขึ้น

เมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้น ธนาคารกลางของสหรัฐและยุโรปต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ระบบธนาคาร และระบบเศรษฐกิจจะพังเร็วขึ้น เข้าทำนองหนีเสือปะจระเข้

การลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ของโอเปกพลัสในคร้ังนี้กระทำต่อเนื่องกับการประกาศลดกำลังการผลิตในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะมีผลไปถึงสิ้นปี 2023 นี้ ทำให้การลดกำลังการผลิตโดยรวมมาก3ล้านกว่าบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโอเปกพลัสตั้งเป้าหมายที่จะเห็นราคาน้ำมันที่ $100 ต่อบาร์เรลเป็นอย่างต่ำ จากที่เคยตั้งเป้าหมาย $135 ก่อนหน้านี้ แต่ว่าราคาน้ำมันไปไม่ถึงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ดีมานด์ลดไปด้วย

แน่นอนเลยทีเดียวที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐนั่งก้นร้อนที่ทำเนียบขาว เพราะว่าในปีที่แล้วเขาเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อขอร้องแกมบังคับให้ซาอุดิเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อของสหรัฐ แต่เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของราชวงศ์ซาอุไม่ยอมก้มหัวสหรัฐเหมือนในอดีต เนื่องจากได้ต่อสายสร้างสัมพันธ์กับรัสเซียและจีนอย่างแนบแน่นเพื่อถ่วงดุลมหาอำนาจ และปลดแอกการเป็นบริวารประเทศของสหรัฐ

ไบเดนต้องกลับบ้านมือเปล่าอย่างหัวเสีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางต้องคอยคอยอุ้มเปโตรดอลล่าร์ ด้วยการขายน้ำมันเป็นเงินสกุลดอลล่าร์เท่านั้น ทำให้ดอลล่าร์เป็นเงินรีเสิร์ฟของโลก เพราะว่าทุกประเทศต้องสำรองดอลล่าร์เพื่อซื้อน้ำมัน ทำให้มีดีมานด์สำหรับดอลล่าร์ ทำให้สหรัฐสามารถพิมพ์ดอลล่าร์ออกมาใช้จ่ายเกินตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไฟแนนซ์งบประมาณการทหารเกือบ$1ล้านล้านต่อปีเพื่อที่จะการรักษาความเป็นอำนาจโลกขั้วเดียว

ซาอุดิได้เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ การต่างประเทศ และนความมั่นคงโดยสิ้นเชิง โดยได้ตกลงที่จะขายน้ำมันเป็นเงินสกุลหยวนของจีน เพื่อออกจากกับดักของระบบดอลล่าร์ เพราะซาอุดิเกรงว่า สักวันหนึ่งอาจจะถูกแซงชั่นเงินทรัพย์สินเงินทองเหมือนอย่างที่รัสเซียถูกสหรัฐและยุโรปแซงชั่นทางการเงิน

นอกจากจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตแล้วตามแรงกดดันของสหรัฐ ซาอุดิยังจับมือกับรัสเซียเพื่อลดกำลังการผลิตอีก เพื่อเดินเกมรุก โดยมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าทำลายเปโตรดอลล่าร์ และระบบเศรษฐกิจของสหรัฐไปพร้อมๆกัน
ซาอุดิภายใต้วิสัยทัศน์ของเจ้าชายซัลมานได้สมัครเป็นประเทศคู่เจรจาขององค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) ซึ่งมีจีนและรัสเซียเป็นแกนนำในด้านความร่วมมือทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง จะบอกว่าองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้มีลักษณะคล้ายกับองค์กรความร่วมมือทางทหารของนาโต้ของยุโรปที่มีสหรัฐเป็นหัวหอกก็ว่าได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางต่อไปข้างหน้าขององค์กรแห่งนี้ที่ในปัจจุบันมีสมาชิกคือจีน อินเดีย คาซัคห์สถาน กีร์จีซสถาน ปากีสถาน รัสเซีย ทาจิกีสถาน และอุซเบกีสถาน

เท่านั้นยังไม่พอ ซาอุดิอาระเบีย และอีกหลายประเทศได้สมัครการเป็นสมาชิกของกลุ่มบริกส์ ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้เพื่อสร้างระเบียบเศรษฐกิจ และระเบียบการเงินโลกใหม่ที่ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดอลล่าร์อีกต่อไป

กลุ่มบริกส์จะประชุมซัมมิทในเดือนสิงหาคมนี้ โดยแอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพ วาระที่สำคัญมี 3 เรื่องคือการรับสมัครสมาชิกใหม่ โดยที่ตุรกี เม็กซิโก อินโดเนเซีย อาร์เจนติน่า ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี อียิปต์แสดงความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกของบริกส์ ประเทศแอฟริกาอื่นๆก็ให้ความสนใจด้วย

เรื่องที่สองคือการตกลงกันที่จะค้าขาย หรือทำธุรกรรมทางการเงินด้วยเงินสกุลของประเทศในกลุ่ม เพื่อที่จะออกจากระบบระบบดอลล่าร์ หรือยูโร ในประเด็นนี้ เราได้เห็นจีนและรัสเซียค้าขายกันเองด้วยเงินหยวนและรูเบิล บราซิลและจีนเพิ่มประกาศว่าจะค้าขายด้วยกันด้วยเงินเรียลและเงินหยวน ซาอุดิ และกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางตกลงที่จะขายน้ำมันเป็นเงินหยวนเพิ่มมากขึ้น อินเดียและรัสเซียจะค้าขายกันด้วยเงินสกุลตัวเอง อินเดียและจีนก็มีข้อลงที่จะค้าขายด้วยเงินสกุลตัวเองแล้ว

เรื่องที่สาม คือกลุ่มบริกส์จะสร้างเงินสกุลร่วม (common currency) เพื่อค้าขายกันเอง โดยจะอิงกับตะกร้าเงินที่ประกอบด้วยเงินเรียล เงินรูเบิล เงินรูปี เงินหยวน และเงินแรนด์ ถ้าจะสร้างเงินสกุลร่วมจริง คงต้องใช้เวลา และต้องสร้างสถาบันการเงินที่จะทำหน้าที่คล้ายกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อดูแลเงินสกุลร่วม ซึ่งอาจจะเป็นเงินรีเสิร์ฟแทนดอลล่าร์ได้ในอนาคต

หลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศว่า รัสเซียจะใช้เงินหยวนเป็นหลักในการค้าขายกับเอเชีย แอฟริกาและลาตินอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางการเงินร่วมกันกับจีนในการสร้างทั้งเปโตรหยวน และให้หยวนเป็นเงินสกุลที่สำคัญของโลก ข่าวนี้ได้สร้างความหวั่นวิตกให้สหรัฐเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าการจับมือกันระหว่างรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของโลก และจีน ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกเพื่ออกจากระบบดอลล่าร์ต้องส่งผลกระทบต่อฐานะการเป็นเงินรีเสิร์ฟของดอลล่าร์ที่อยู่ได้ด้วยการสร้างหนี้ไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน

ยิ่งมีซาอุดิ ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกเข้ามาร่วมขย่มเปโตรดอลล่าร์อีก มีแนวโน้มสูงที่ความสำคัญของการเป็นเงินรีเสิร์ฟของดอลล่าร์จะลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อดอลล่าร์ไม่ได้เป็นรีเสิร์ฟ ไม่มีใครต้องการถือครองดอลล่าร์เหมือนเดิม เพราะว่ามีทางเลือกอื่น สหรัฐจะไม่สามารถก่อหนี้ได้เกินตัวอีกต่อไป เพราะว่าถ้าพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อช่วยในการก่อหนี้เงินเฟ้อในระดับไฮเปอร์จะถามหา จนทำให้เศรษฐกิจพัง ไม่สามารถรักษาการเป็นมหาอำนาจโลกได้อีกต่อไป

สื่อกระแสหลักของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น CNN และ FOX News ต่างให้ความสำคัญกับความไม่แน่นอนของอนาคตของดอลล่าร์ในฐานะเงินสกุลหลักของโลก ซึ่งตามปกติแล้ว จะไม่ให้ความสำคัญกับการรายงานข่าวร้ายในลักษณะนี้

สัปดาห์ที่ผ่านมา Fareed Zakaria พิธีกรของ CNN รายงานว่า ดอลล่าร์สหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทาย หลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินประกาศว่า รัสเซียจะใช้เงินหยวนในการค้าขายกับเอเชีย แอฟริกาและลาติน อเมริกา

จีน และรัสเซีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลก และผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลกตามลำดับ กำลังจับมือกันเพื่อที่จะโค่นล้มอิทธิพลของดอลล่าร์ แต่จะทำสำเร็จหรือไม่

ที่ผ่านมา ดอลล่าร์เป็นส่วนสำคัญของการเป็นมหาอำนาจโลกของสหรัฐ โดยที่สหรัฐไม่มีประเทศใดเทียบเคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง และเศรษฐกิจ สหรัฐสามารถใช้ดอลล่าร์แซงชั่นประเทศใดก็ได้ บีบประเทศใดให้ออกจากระบบดอลล่าร์ก็ได้ นอกจากนี้สหรัฐยังใช้จ่ายได้อย่างเสรี โดยที่ประเทศต่างๆพร้อมที่จะซื้อหนี้ หรือพันธบัตรสหรัฐ

แต่ปัญหายูเครน และนโยบายเผชิญหน้าจีนของสหรัฐทำให้สหรัฐกำลังเผชิญกับ Perfect Storm ในเวลานี้ รัสเซียและจีนได้จับมือกันเพื่อที่จะทิ้งดอลล่าร์ ประเทศอื่นๆก็กำลังเข้าร่วมวงเป็นพันธมิตรด้วย

ในเวลาไล่เลี่ยกัน Monica Crowley อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox News ว่า รัสเซียหันหลังให้ดอลล่าร์ ไปใช้หยวนในการทำการค้า ซาอุดิอาระเบียจะใช้หยวนเหมือนกันในการขายน้ำมัน ถ้าหากซาอุ อิหร่าน รัสเซีย และจีนจับมือกันแน่น จะกลายเป็นพันธมิตรที่น่าเกรงขาม รวมท้ังกลุ่มบริกส์ที่กำลังขยับขยายเพิ่มบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก

ถ้าหากเศรษฐกิจของสหรัฐไม่มีดอลล่าร์เป็นเงินรีเสิร์ฟของโลกต่อไป โดยหันไปใช้หยวนมากยิ่งขึ้นจะเกิดหายนะทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ตั้งแต่หลังสงครามโลกคร้ังที่สองเป็นต้นมา ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก โดยผูกค่ากับทองคำ แต่ประธานาธิบดีนิกสันยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้ดอลล่าร์ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง ตั้งแต่นั้นมา ถือกันว่าดอลล่าร์หนุนโดยความเข้มแข็ง และพลังทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

แต่ที่สำคัญ การซื้อขายน้ำมันของโลกใช้เงินดอลล่าร์เป็นหลักท้ังนั้น ทำให้ดอลล่าร์ยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป

ดอลล่าร์ถือว่าเป็นเงินสกุลที่มีสิทธิพิเศษ เพราะว่าสหรัฐสามารถพิมพ์ออกมาใช้เองเพื่อซื้อสินค้าโดยตรงได้จากทั่วโลก แต่สหรัฐกลับไปละเมิดสิทธิพิเศษนั้นเสียเอง ด้วยการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ไม่รับผิดชอบ มีการพิมพ์เงินออกมามากมาย และรัฐบาลก็ใช้จ่ายเกินตัวผ่านงบประมาณขาดดุลมหาศาล

ทำให้ตอนนี้สหรัฐเจอกับ Perfect Storm ไล่ตั้งแต่ "โจ ไบเดน" คัดค้านการขุดเจาะน้ำมัน เกิดสงครามยูเครน จีนกำลังสร้างแนวร่วมทางเศรษฐกิจใหม่ ซาอุดิอาระเบียเตรียมเข้าพันธะมิตรใหม่นี้ และจะขายน้ำมันเป็นเงินหยวน

ถ้าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ สหรัฐจะเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ดอลล่าร์จะอ่อนค่า และจะเกิดเงินเฟ้อรุนแรง ระดับ Weimar Republic และจะทำให้สหรัฐสูญเสียความเป็นมหาอำนาจโลก ต่างจากในอดีตที่การเป็นเงินสกุลหลักของโลก ทำให้สหรัฐสามารถบริโภคซื้อสินค้าได้ราคาถูก และทำให้เศรษฐกิจมีเงินเฟ้อที่ต่ำ เพราะว่าดอลล่าร์มีความแข็งแกร่ง

แต่ให้ระวังทางการอาจจะออก CBDC เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการเงินก็ได้ แต่นั้นก็จะหมายถึงการสิ้นสุดของเสรีภาพของประชาชน เพราะว่ารัฐบาลสามารถสอดส่องการทำธุรกรรมทุกอย่างของเราผ่าน CBDC


กำลังโหลดความคิดเห็น