เกียวโดนิวส์รายงาน (27 มี.ค.) ผลการสำรวจทั่วประเทศที่ประกาศโดยทีมวิจัยของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เด็กกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในญี่ปุ่นที่เป็นกลุ่มอาการสมองเฉียบพลันหลังจากติดเชื้อโควิด-19 ได้เสียชีวิตแล้ว
การสำรวจระบุผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 34 ราย ที่เป็นโรคสมองอักเสบเฉียบพลันอันเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดือนมกราคม 2020 ถึงพฤษภาคม 2022 ทีมวิเคราะห์ในจำนวน 34 ราย พบผู้ป่วย 31 รายไม่มีโรคประจำตัวอื่นใดที่อาจเป็นสาเหตุของโรคสมอง
ในขณะที่เด็ก 19 คนจากทั้งหมด 31 คนหายดี แต่ 4 คนเสียชีวิต และ 8 คนได้รับการยืนยันว่ามีภาวะแทรกซ้อน ในจำนวน 8 รายนั้น มี 5 รายที่ได้รับรายงานว่ามีอาการรุนแรงตามมา ซึ่งรวมถึงการหมดสติ
อาการเบื้องต้น ได้แก่ อาการชัก ซึ่งผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งเคยประสบ มีสติสัมปชัญญะบกพร่อง และคำพูดหรือพฤติกรรมผิดปกติ
จุนอิจิ ทากานาชิ ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์วิทยา แห่งโตเกียว ยาชิโย เมดิคัลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นผู้นำคณะวิจัยฯกล่าวว่า "หากมีผู้ป่วยอาการชักไม่หยุดใน 10 นาที หมดสติต่อเนื่อง หรือสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ขอแนะนำให้ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว..."
ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยมีอาการสมองอักเสบเฉียบพลันส่วนใหญ่ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2565 หรือหลังจากนั้น อันเป็นช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด
แต่อัตราส่วนของผู้ที่มีอาการทางสมองในกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อโควิด ก่อนและหลังปี 2022 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าความต่างสายพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องทำให้โรคทางสมองพัฒนาได้ง่ายขึ้น
การพัฒนาโรคสมองอักเสบเฉียบพลันในเด็กไม่ได้จำกัดเฉพาะการติดเชื้อโควิดเท่านั้น และยังเป็นที่ทราบกันดีว่ามาจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ด้วย