xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยว 4 เกาะทะเลตรัง ตื่นตา! “ดงซากุระใต้ทะเล”-สัมผัสเสน่ห์ “ถ้ำมรกต” อันซีนไทยแลนด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แนวปะการังอ่อนเกาะแหวนที่ถูกยกให้เป็นดงซากุระใต้ทะเล
ทริปนี้จะพาไปท่องโลกทะเลตรัง สัมผัสเสน่ห์ “ถ้ำมรกต” อันซีนไทยแลนด์อันลือลั่น ดำน้ำเกาะแหวนบริเวณ “โค้งแห่งความลับ” ชมความงามของ “ดงซากุระใต้ทะเล” อันน่าตื่นตาตื่นใจ

“ตรัง” นอกจากจะเป็นเมือง “คนช่างกิน” จนได้ฉายาว่าเป็นเมือง “ยุทธจักรความอร่อย” จากแคมเปญ “เมืองต้องห้าม...พลาด” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แล้ว จังหวัดนี้ยังมีทะเล (ฝั่งอันดามัน) อันสมบูรณ์งดงามและยังคงไว้ซึ่งธรรมชาติอยู่มาก รวมถึงมีสิ่งอันซีนทั้งในทะเลและใต้ทะเล ทั้งที่ค้นพบแล้วและรอการค้นพบ รอให้ผู้สนใจไปสัมผัสกันอยู่ไม่น้อย

สำหรับหนึ่งในกิจกรรมเที่ยวทะเลตรังยอดฮิตก็คือ โปรแกรมทัวร์ 4 เกาะ แบบวันเดย์ทริปในทะเลตรังตอนเหนือ โดยมีเกาะหลัก 2 เกาะที่เป็นเกาะตัวยืน คือ เกาะมุก (ถ้ำมรกต) และ เกาะกระดาน

โลกใต้ทะเลอันงดงาม อันซีนเมืองตรังที่สามารถดำน้ำตื้นชมได้ไม่ยาก
ส่วนที่เหลือจะเป็นเกาะตัวเลือกสำหรับดำน้ำตื้น ได้แก่ เกาะเชือก เกาะแหวน เกาะม้า หรือเกาะไหง (ทะเลกระบี่) ที่จะถูกคัดเลือกมาเป็นจุดดำน้ำตื้น 2 เกาะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้จัดอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพน้ำ คลื่น ลม หรือเพื่อลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในวันนั้น ๆ โดยแต่ละเกาะต่างก็มีเสน่ห์สีสันและจุดเด่นของโลกใต้ทะเลที่แตกต่างกันออกไป

และนี่ก็คือกิจกรรมเที่ยว 4 เกาะทะเลตรังคลายร้อน ที่ผมเพิ่งไปสัมผัสมาครั้งล่าสุดของไฮซีซั่นฤดูนี้ ที่ได้แก่ เกาะเชือก เกาะแหวน เกาะกระดาน และเกาะมุก (ถ้ำมรกต) ซึ่งผมขอสรุปภาพรวมและไฮไลท์ของแต่ละเกาะมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจจะล่องใต้ไปกินหมูย่าง กาแฟ ติ่มซำ และออกเที่ยวทะเลตรังกัน

หาดปากเมง


กิจกรรมเที่ยว 4 เกาะทะเลตรังแบบวันเดย์ทริป ทัวร์ส่วนใหญ่หลัก ๆ จะมาตั้งต้นกันที่ “ท่าเรือปากเมง” ที่หาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ที่วันนี้ปรับปรุงโฉมใหม่จากท่าเรือเดิมที่ทรุดโทรม จนมีความโอ่อ่าทันสมัย โดยได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2564

ท่าเรือปากเมงอีกหนึ่งประตูสู่อันดามัน
ที่ด้านหน้าท่าเรือปากเมงมีน้ำพุและประติมากรรม “ครอบครัวพะยูน” สัตว์หายากสัญลักษณ์ของจังหวัดตรังตั้งเด่นอวดโฉม ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเช็กอินกัน แม้ว่าพะยูนบางตัวสีจะลอกไวไปหน่อยก็ตาม

ปัจจุบันท่าเรือปากเมงเป็นหนึ่งใน “ประตูสู่อันดามัน” ที่ไม่เพียงเป็นจุดตั้งหลักออกทะเลไปสู่เกาะต่าง ๆ ใน ทะเลตรังและกระบี่เท่านั้น หากแต่ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ (จ.สตูล) เกาะลันตา เกาะพีพี (จ.กระบี่) และจังหวัดภูเก็ต ได้อีกด้วย

ท่าเรือปากเมงนอกจากจะมีทำเลที่ตั้งดีเยี่ยมแล้ว วิวทิวทัศน์ของแนวชายหาดปากเมงในบริเวณนี้ก็สวยงามมีเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งในภาพจำของท้องทะเลตรัง อีกทั้งยังมีความสำคัญเพราะเป็นส่วนหนึ่งของ “พื้นที่ชุ่มน้ำ” (แรมซาร์ไซต์) ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ของ “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง-ปากแม่น้ำตรัง”

หาดปากเมง
หาดปากเมงมีลักษณะชายหาดเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีความสวยงามไม่น้อยโดยเฉพาะกับจุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของหาดคือ “เขาเมง” ที่ตั้งตระหง่าน ที่มาพร้อมกับตำนานเรื่องเล่าปรัมปราของทะเลตรังที่ล้วนแต่เป็นชื่อเกาะสำคัญในทะเลอันดามันแถบนี้ทั้งนี้

เกาะเชือก


ดำน้ำตื้นเกาะเชือก
จากท่าเรือปากเมง เรามุ่งหน้าสู่เกาะแรก คือ “เกาะเชือก” เกาะเล็ก ๆ ที่มีลักษณะเป็นกองหิน 2 ลูก ขนาดใหญ่กลางทะเล ซึ่งเดิมคนเรียกว่า “เกาะ 2 พี่น้อง” โดยหินลูกใหญ่คือเกาะพี่ ลูกเล็กคือเกาะน้อง แต่ด้วยความที่บริเวณนี้ เป็นจุดที่มีกระแสน้ำเชี่ยว วันไหนที่กระแสน้ำแรงสตาฟฟ์ต้องนำเชือกผูกไว้กับเรือและหินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เกาะเชือกดำน้ำชมโลกใต้ทะเลกัน ทำให้ต่อมาเกาะ 2 พี่น้อง ได้ถูกเรียกชื่อใหม่เป็น “เกาะเชือก” แทน

ปลาการ์ตูน-ดอกไม้ทะเล เสน่ห์ทะเลตรังที่พบเจอได้ไม่ยาก
เกาะเชือกไม่มีหาดทรายแต่มีแนวหินน้ำตื้นที่เป็นแหล่งดำน้ำชั้นดี โลกใต้ทะเลที่นี่มีสิ่งน่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อน-กัลปังหาหลากสี ดอกไม้ทะเล ฝูงปลาจำนวนมาก และไฮไลท์คือแส้ทะเลที่หาชมไม่ได้ง่าย ๆ ในการดำน้ำตื้น รวมถึงปะการังโขดที่หลายก้อนมีขนาดใหญ่ชวนทึ่ง แถมมีอายุเกินกว่า 100 ปีขึ้นไป ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ อย่าไปแตะต้องทำให้มันชำรุดเสียหายเป็นอันขาด

เกาะแหวน


เกาะแหวนเป็นจุดเที่ยว 4 เกาะทะเลตรังลำดับที่ 2 (เกาะที่ 2) เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน มองด้านหนึ่งมียอดแหลมดูคล้ายหัวแหวน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “เกาะแหวน” ซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดงาน “วิวาห์ใต้สมุทร” และการจดทะเบียนสมรสใต้น้ำเป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี พ.ศ.2539

โลกใต้ทะเลอันน่าตื่นตาตื่นใจที่เกาะแหวน
เกาะแหวนไม่มีแนวชายหาด บนเกาะมีการทำสัมปทานรังนก ส่วนรอบเกาะเป็นแนวหินน้ำตื้นที่มีโลกใต้ทะเลที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจมาก

บริเวณจุดดำน้ำเกาะแหวน ช่วงหนึ่งจะเป็นโค้งสันผามีกระแสน้ำเชี่ยว เหล่านักดำน้ำที่รู้จุดหรือเคยมาจะเรียกจุดนี้ว่า “โค้งแห่งความลับ” ซึ่งถือเป็นอันซีนแห่งใหม่ของจังหวัดตรัง เนื่องจากโลกใต้ทะเลบริเวณโค้งนี้มีดงปะการังอ่อนแสนสวยดงใหญ่ซ่อนตัวอยู่แบบไม่แคร์สื่อแต่อย่างใด

ปะการังอ่อนหรือดงซากุระใต้ทะเลบริเวณโค้งแห่งความลับ เกาะแหวน
ปะการังอ่อนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถ “บานได้-หุบได้” (คล้าย ๆ กับดอกไม้) วันไหนที่น้ำนิ่งพวกมันก็จะพากันหุบตัวเองลงดูคล้ายกำปั้นเป็นก้อน ๆ ส่วนถ้าวันไหนที่กระแสน้ำแรงมันก็จะบานเพื่อรอดักกินอาหาร-แพลงตอน ที่ลอยมากับกระแสน้ำ ยิ่งกระแสน้ำแรงมากมันยิ่งชอบ จะพร้อมใจกันเบ่งบานจนเต็มบริเวณ

สำหรับปะการังอ่อนที่เติบโตอยู่เป็นจำนวนมากใต้โค้งแห่งความลับนั้น มีหลากสีสัน ทั้ง สีแดง ขาว เหลือง ฟ้า ชมพู และขาวอมชมพูที่ถือเป็นกลุ่มสีดาวเด่นในบริเวณนี้ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

พบกัลปังหาพัดขึ้นแทรกแซมอยู่ทั่วไปในแนวปะการังอ่อนที่เกาะแหวน
ยามมันพร้อมใจกันเบ่งบานรับกระแสน้ำที่พัดพา เมื่อดำน้ำตื้นมองลงไป (พร้อมใส่จินตนาการ) จะดูคล้ายกับดอกซากุระเบ่งบานขาวอมชมพูไปทั่วบริเวณ ทำให้หลายคนยกให้บริเวณโค้งแห่งความลับเป็นจุดชม “ซากุระใต้ทะเล”
อันน่าตื่นตาตื่นใจที่หาชมไม่ได้ง่าย ๆ ในเมืองไทย

นอกจากนี้ใต้ทะเลที่นี่ยังเต็มไปด้วยฝูงปลาน้อยใหญ่ และกัลปังหาพัดขึ้นแทรกแซมกระจายอยู่ทั่วไปในดงซากุระใต้ทะเลและแนวปะการังอ่อน ช่วยเสริมส่งองค์ประกอบให้โลกใต้ทะเลที่นี่งดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก

ปะการังอ่อนหลากสีสันที่เกาะแหวน
อย่างไรก็ดีใช่ว่าเมื่อไปถึงเกาะแหวนแล้ว เราจะสามารถดำน้ำตื้นไปเจอซากุระใต้ทะเลได้ตลอดเวลา เพราะปะการังพวกนี้จะบานตามความแรงของกระแสน้ำ น้ำยิ่งแรงยิ่งบานเยอะ ตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่ว่าเมื่อน้ำแรงมากก็เป็นอุปสรรค ทำให้เราไม่สามารถดำน้ำตรงจุดนั้นได้ ส่วนถ้าน้ำนิ่งเกินไปพวกมันก็หุบดูเป็นก้อน ๆ ไม่เหมือนซากุระแต่อย่างใด

ดังนั้นจุดที่ลงตัวก็คือ วันที่กระแสน้ำแรงพอสมควร แสงแดดดีส่องถึงใต้น้ำ เพราะมันจะทำให้ปะการังอ่อนพวกนี้บานประมาณ 60-70 % ซึ่งเหมาะสมลงตัวต่อการดำน้ำชมความน่ามหัศจรรย์ของพวกมันเป็นอย่างยิ่ง

ฝูงปลาจำนวนมาก อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของเกาะแหวน
งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะผสมกับ “โชค” ของผู้ที่ต้องการมาชมซากุระใต้ทะเล ณ บริเวณโค้งแห่งความลับด้วย

เกาะกระดาน


หลังผมและคณะใช้พลังงานไปพอสมควรกับการดำน้ำใน 2 เกาะแรก เกาะที่ 3 ในจุดถัดมาเป็นการพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันกันอย่างสุดฟินบน “เกาะกระดาน” เกาะที่ได้ชื่อว่ามีแนวชายหาดและน้ำทะเลที่สวยใสที่สุดของทะเลตรัง

เกาะกระดาน หาดทรายสวย น้ำทะเลใสแจ๋ว
เกาะกระดาน มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่ พื้นที่บนเกาะส่วนหนึ่งเป็นของ “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม” ภายใต้การดูแลของ “หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หน่วยที่ 3 (เกาะกระดาน) ส่วนพื้นที่อีกส่วนหนึ่งเป็นของชาวบ้าน เอกชน ที่มีการตั้งถิ่นฐานมาก่อนการประกาศเป็นอุทยานฯ

บนเกาะกระดานจึงมีทั้งที่พักของเอกชนและที่พักของอุทยานฯให้เลือกพัก กับบรรยากาศสงบเงียบเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน กับที่พักทั้งแบบหรูหราและแบบดิบ ๆ ในสนนราคาที่หลากหลาย รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถไปกางเต็นท์ หรือนอนเต็นท์ในพื้นที่ของอุทยานฯ ได้

นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินบนเกาะกระดาน
บนเกาะกระดานมี “หาดเกาะกระดาน” หรือหน้าหาดทางฝั่งตะวันออกของเกาะที่ทอดตัวยาวหลายร้อยเมตร มีทรายละเอียดดุจดังแป้งเดินแน่นนุ่มเท้า มีน้ำทะเลหน้าหาดที่สวยใสแจ๋ว รวมถึงมีองค์ประกอบของทั้งต้นไม้ป่าชายหาดทั้งต้นไม้ต้นเป็น ๆ และซากต้นไม้ที่ตายแล้ว เป็นพร็อพถ่ายรูปบันทึกภาพความงามกันหลายจุดด้วยกัน

นอกจากนี้โปรแกรมทัวร์ส่วนใหญ่นิยมพานักท่องเที่ยวมาพักผ่อน เล่นน้ำ เดินชายหาด และรับประทานอาหารกลางวันบนเกาะแห่งนี้ในแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางบรรยากาศของหาดสวยน้ำใส กับอาหารรสเด็ดที่ชวนให้อร่อยฟินไม่น้อยเลย

เติมพลังด้วยมื้อกลางวันสุดฟินริมหาดบนเกาะกระดาน
เกาะมุก-ถ้ำมรกต

หลังกินมื้อกลางวันเติมพลังและพักผ่อนบนเกาะกระดานกันพอหอมปากหอมคอ พวกเราออกทะเลไปปิดท้ายกันที่เกาะที่ 4 สุดท้าย คือ “เกาะมุก” (เกาะมุกด์, เกาะมุกต์) ที่มีไฮไลท์สำคัญคือ “ถ้ำมรกต” ที่ถูกยกให้เป็น “อันซีนไทยแลนด์” อันลือลั่น

ขบวนนักท่องเที่ยวลอยคอเข้า-ออก ถ้ำมรกต
ถ้ำมรกตเป็นส่วนหนึ่งของ “เกาะมุก” ตั้งอยู่ใต้หน้าผาทางฝั่งตะวันตกของเกาะ การเข้าไปเที่ยวชมในถ้ำมรกต เมื่อเรือนำเที่ยวมาจอดอยู่บริเวณหน้าปากอุโมงค์เข้าถ้ำ เราต้องลอยคอเกาะไหล่คนข้างหน้าเป็นแถวเป็นขบวนเข้าไปในถ้ำ (คนหน้าสุดหัวขบวนเป็นไกด์หรือสตาฟฟ์นำ)

จากนั้นนักท่องเที่ยวต่างค่อย ๆ ตีขา ปั่นจักรยานน้ำลอยตัวผ่านช่องโพรงถ้ำน้ำลอดยาวประมาณ 80 เมตร โดยช่วงกลาง ๆ จะมืดสนิท ก่อนจะค่อย ๆ ปรากฏแสงราง ๆ แล้วเด่นชัดขึ้นเมื่อถึงภายในตัวถ้ำมรกต ที่ซุกซ่อนความงดงามกึ่งมหัศจรรย์แห่งนี้ให้เรา ๆ ท่าน ๆ ได้สัมผัสกัน

หาดทรายภายในถ้ำมรกต
ถ้ำมรกตมีลักษณะเป็นปล่องขนาดยักษ์ที่เกิดจากการยุบตัวในอดีต เกิดเป็นแอ่งน้ำ (ขึ้นอยู่กับน้ำขึ้น-น้ำลง) หาดทราย ชายหาดขนาดย่อมอยู่ภายใน ดุจดัง “สระมรกต“ หรือสระว่ายน้ำธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำกลางทะเล โดยมีปล่องเขาหรือหุบเขาที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเขียวครึ้มปิดล้อมพื้นที่ทำให้เกิดบรรยากาศเป็นดังสระน้ำในท่ามกลางผนังธรรมชาติของภูผาหิน

สำหรับเสน่ห์ความสวยงามที่ถือเป็นไฮไลท์ของถ้ำมรกตนั้นอยู่ในช่วงที่ ยามเมื่อแสงแดดส่องลงพื้นน้ำใกล้กับปากทางถ้ำในเวลาที่ประจวบเหมาะ จะทำให้มองเห็นพื้นน้ำเป็นสีมรกตเขียวใส

ช่วงปากถ้ำมรกต (ด้านใน)
ขณะที่ภายในถ้ำนั้นยามแสงแดดสาดส่องลงมาทำมุมก็จะสะท้อนเงาเกิดเป็นแผ่นน้ำสีเขียวมรกตอันงดงามมลังเมลืองสมดังชื่อถ้ำ

นับเป็นความงามปิดท้ายทริปเที่ยว 4 เกาะทะเลตรัง ซึ่งหลาย ๆ คนไม่รู้ว่าท้องทะเลของเมืองหมูย่างแห่งนี้มีของดีซ่อนกายอยู่หลากหลาย แถมยังอวลไปด้วยธรรมชาติอันพิสุทธิ์ ถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งทะเลไทยที่คนรักทะเลไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สระว่ายน้ำธรรมชาติในถ้ำมรกต
#######################################

นอกจากกิจกรรมเที่ยว 4 เกาะแล้ว วันนี้ทะเลตรังมีกิจกรรมท่องเที่ยวรักษ์โลกควบคู่ไปกับการเที่ยว 4 เกาะ คือการฟื้นฟูปะการัง และการปล่อยปลาการ์ตูนแบบถูกต้องตามหลักวิชาการ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้กับบริษัทนำเที่ยวทะเลในจังหวัดตรัง

นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ในจังหวัดตรัง ได้ที่ ททท.สำนักงานตรัง โทร. 075 215 867

มนต์เสน่ห์โลกใต้ทะเลตรัง


กำลังโหลดความคิดเห็น