ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอปเปิล อิงค์ เดินทางไปร่วมงานเสวนา China Development Forum ที่กรุงปักกิ่ง โดยกล่าวชื่นชมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของจีนที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมย้ำความร่วมมืออันดีระหว่างจีนและแอปเปิลที่มีมาอย่างยาวนาน แม้บรรยากาศความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ จะตึงเครียดก็ตาม
นอกจากซีอีโอแอปเปิลแล้ว งานอีเวนต์ซึ่งจัดโดยรัฐบาลจีนครั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าระดับสูงและผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ เช่น ไฟเซอร์ (Pfizer) และ BHP เข้าร่วมด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างคำพูดของ คุก ซึ่งระบุว่า แอปเปิลและจีนได้ “เติบโตมาร่วมกัน” พร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และ augmented reality หรือ AR กำลังเฟื่องฟู
“นี่คือความสัมพันธ์เชิงพึ่งพาอาศัย (symbiotic) ที่ผมเชื่อว่าเราทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ได้รับประโยชน์” คุก กล่าว
คุก ประกาศว่า แอปเปิลมีแผนที่จะเพิ่มงบสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาในชนบทของจีนเป็น 100 ล้านหยวน เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กๆ จะต้องเพิ่มพูนทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking skills) ในโลกซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
คุก ระบุว่า นวัตกรรมจะได้รับการพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อยๆ และผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีจำเป็นต้อง “ใช้มันอย่างถูกต้อง” เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่ใช่บ่อนทำลาย
“ผมมองว่านั่นคือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีทุกคนที่จะทำ” เขากล่าว
คุก ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม Apple Store ในย่านซานหลี่ถุน (Sanlitun) ของกรุงปักกิ่งพร้อมกับ เดอีร์เดร โอไบรเอิน (Deirdre O’Brien) หัวหน้าแผนกค้าปลีกของแอปเปิลและผู้บริหารคนอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้เข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนด้วย
การเยือนจีนของ ทิม คุก ในครั้งนี้ถูกมองว่ามีนัยสำคัญ และสะท้อนเจตนารมณ์ของซีอีโอแอปเปิลที่จะรักษาความสัมพันธ์แบบ 2 ฝ่ายได้ประโยชน์กับรัฐบาลจีน
นับตั้งแต่ คุก เป็นผู้นำแอปเปิลรุกตลาดจีนเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในแดนมังกร โดยปัจจุบัน แอปเปิลมีสัดส่วนยอดขายในจีนแผ่นดินใหญ่สูงถึง 20% ของยอดขายทั่วโลก และสร้างรายได้จากตลาดจีนปีละกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2015 ก่อนจะพุ่งเฉียด 75,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแอปเปิลเริ่มที่จะสั่นคลอน ไม่รวมผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งทำให้สายการผลิตไอโฟนในจีนต้องหยุดชะงัก
ความเป็นหุ้นส่วนกับจีนยังทำให้แอปเปิลถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายเซ็นเซอร์ของจีน โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้แอปเปิลได้เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางอย่างในผลิตภัณฑ์เพื่อบรรเทาความกังวลของปักกิ่ง ตัวอย่างเช่น จำกัดการใช้ฟังก์ชัน AirDrop ได้เพียง 10 นาทีสำหรับการแชร์ไฟล์ให้คนไม่รู้จัก ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามปิดกั้นการประท้วง เป็นต้น
นโยบายของแอปเปิลที่จะย้ายฐานการผลิตออกนอกจีนไปประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย คาดว่าจะมีส่วนซ้ำเติมเศรษฐกิจแดนมังกรที่ประเมินกันว่าจะขยายตัวเพียงราวๆ 5% ในปีนี้
ที่มา : Bloomberg, รอยเตอร์