xs
xsm
sm
md
lg

เจอ 3 รายป่วยใหม่ "ฝีดาษลิง" พบ 2 รายมีกิจกรรมแนบแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมควบคุมโรค เผยพบผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" ใหม่ 3 ราย ระบุ 2 รายมีกิจกรรมใกล้ชิดกัน ทั้งหมดรักษาที่สถาบันบำราศฯ อาการน้อย รอแผลหาย พ้นระยะแพร่เชื้อ 3 สัผดาห์งกลับบ้านได้ ไม่พบวงรอบแพร่กระจายเพิ่ม ย้ำเลี่ยงสัมผัสคนมีตุ่มหนอง มีเพศสัมพันธ์คนแปลกหน้า

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการกำหนดให้โรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง (monkey pox) เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 โดยมีการรายงานผู้ป่วยยืนยันรายแรกเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 ข้อมูลการพบผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปีที่แล้ว รวม 18 ราย ซึ่งรวมกับผู้ป่วยใหม่ 3 รายล่าสุด ขณะนี้รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งหมดเป็นเพศชาย อายุระหว่าง 21 - 40 ปี ซึ่งทยอยเข้ารับการรักษาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จำนวน 3 ราย มี 2 รายเป็นคนไทย ให้ประวัติมีกิจกรรมใกล้ชิดกันมากในสถานบริการ โดยทั้งหมดมีอาการน้อย อยู่ระหว่างการพักฟื้นรอจนกว่าแผลจะหาย ตกสะเก็ด ไม่แพร่เชื้อและพ้นระยะการติดต่อราว 3 สัปดาห์ ก็สามารถกลับบ้านได้

“จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นยังไม่มีวงรอบในการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น เนื่องจากลักษณะการติดเชื้อของโรคฝีดาษลิง เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดและสัมผัสบริเวณแผลที่มีสารคัดหลั่ง จึงขอเน้นย้ำในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และการสัมผัสใกล้ชิดรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค” นพ.ธเรศ กล่าว

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฝีดาษลิงยังคงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หากดูจากจำนวนผู้ป่วยยืนยันในไทยเฉลี่ยพบเดือนละ 1-3 ราย หรือบางเดือนก็ไม่พบผู้ป่วยเลย อย่างไรก็ตาม ยังขอเน้นย้ำเรื่องการหลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีตุ่มหนองตามร่างกาย ส่วนประชาชนทั่วไปหากไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฝีดาษลิง เพราะการป้องกันตัวเองด้านสุขอนามัยจะช่วยลดโอกาสติดเชื้อได้อย่างมาก

เมื่อถามถึงการจัดกิจกรรมความหลากหลายทางเพศที่จะเกิดขึ้น นพ.โสภณ กล่าวว่า เน้นย้ำเรื่อง การหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือหากพบว่าตัวเองมีอาการป่วยมีตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย ก็ไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น