สหภาพแรงงานต่างๆ ของฝรั่งเศสนัดผละงานและประท้วงทั่วประเทศรอบใหม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งตรงหมายกำหนดการเสด็จเยือนฝรั่งเศสของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรพอดี หลังจากประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ชุมนุมทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) บางส่วนเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงอีกครั้ง ในการแสดงพลังคัดค้านแผนปฏิรูปบำนาญที่ไม่ได้รับความนิยมของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง
กระทรวงมหาดไทยระบุว่า การเดินขบวนในปารีส ซึ่งแปดเปื้อนไปด้วยเหตุความรุนแรง มีประชาชนเข้าร่วม 119,000 คน ถือเป็นการประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูปบำนาญที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเมืองหลวง ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่าชาวฝรั่งเศสเกือบทั้งหมดคัดค้านร่างกฎหมายของประธานาธิบดีมาครง ที่จะปรับเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปี แม้เขาบอกว่ามันมีความจำเป็นเพื่อพยุงระบบให้อยู่รอดต่อไปได้
ในการสานต่อการประท้วงที่มีประชาชนออกมาร่วมเป็นจำนวนมาก บรรดาสหภาพแรงงานทั้งหลายได้เคลื่อนไหวทันที นัดผละงานประท้วงและชุมนุมรอบใหม่ในวันอังคารหน้า (28 มี.ค.) ครั้งที่กษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรมีกำหนดเสด็จพระราชดำเนินไปเมืองบอร์กโดซ์ ในหมายกำหนดการวันที่ 2 ของการเสด็จเยือนฝรั่งเศส ทั้งนี้ สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ประตูไม้อันหนาแน่นของศาลากลางเมืองบอร์กโดซ์ ถูกจุดไฟเผาและทำลายในเย็นวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) โดยสมาชิกส่วนหนึ่งของกลุ่มการประท้วงหนึ่งที่จัดขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุว่าทั่วประเทศมีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนเข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงที่จัดขึ้นตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส เดินทางเยือนกองบัญชาการตำรวจหลายแห่งในคืนวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ในขณะที่ไฟยังคงลุกไหม้ในย่านที่พักอาศัยบางแห่งในปารีส แม้การเดินขบวนยุติลงไปนานแล้ว
การเดินขบวนรอบล่าสุดถูกจัดขึ้น 1 วัน หลังจาก มาครง โหมกระพือความขุ่นเคืองแก่ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยการยืนกรานอย่างหนักแน่นต่อร่างกฎหมายเกษียณอายุ ที่รัฐบาลของเขาบังคับผ่านสภาโดยไม่มีการลงมติใดๆ
"ในขณะที่ประธานาธิบดีพยายามเดินหน้าต่อ ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมและสภาพแรงงานยืนยันถึงความมุ่งมั่นของโลกแห่งแรงงานและเยาวชน ในการให้ได้มาซึ่งการถอนแผนปฏิรูป" สภาพแรงงาน 8 แห่งที่จัดการประท้วงระบุในถ้อยแถลงร่วม พร้อมเรียกร้องให้ทำการชุมนุมระดับท้องถิ่นในช่วงสุดสัปดาห์ ตามด้วยการผละงานประท้วงและชุมนุมทั่วประเทศในวันอังคารหน้า (28 มี.ค.)
การประท้วงก่อผลกระทบต่อการเดินทาง เนื่องจากผู้ชุมนุมปิดกั้นสถานีรถไฟต่างๆ ท่าอากาศยานชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ในปารีส รวมถึงโรงกลั่นน้ำมัน และท่าเรืออีกหลายแห่ง
ในปารีส เกิดการปะทะกันบนท้องถนนระหว่างตำรวจและกลุ่มคนชุดดำสวมหน้ากาก ซึ่งก่อเหตุโจมตีร้านอาหารฟาสต์ฟูดอย่างน้อย 2 แห่ง ซูเปอร์มาร์เกต 1 แห่ง และธนาคาร 1 แห่ง สะท้อนสถานการณ์ความรุนแรงที่หนักหน่วงขึ้น และดึงดูดความสนใจไปจากการชุมนุมอย่างสันติของผู้ประท้วงนับแสนคน
ตำรวจเข้าชาร์จหลายต่อหลายรอบและใช้แก๊สน้ำตาสลายพวกก่อจลาจล หลังถูกขว้างปาด้วยวัตถุต่างๆ และพลุไฟ พบเห็นกลุ่มควันลอยพวงพุ่งปกคลุมพื้นที่บางส่วนของจัตุรัส Place de l'Opera บริเวณที่พวกผู้ชุมนุมรวมตัวกันในช่วงท้ายของการเดินขบวน โดยตำรวจประมาณการว่ามีพวกหัวรุนแรงอยู่ราว 1,000 คน
เหตุความรุนแรงยังได้ก่อความแปดเปื้อนแก่การเดินขบวนในที่อื่นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะในเมืองน็องต์ แรนส์ และลอริยองต์ ทางภาคตะวันตกของประเทศ บริเวณที่อาคารบริหารถูกโจมตี และสถานีตำรวจถูกวางเพลิงและบานกระจกของสถานีโดนทุบทำลาย เช่นเดียวกับในลียง เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในวันพุธ (22 มี.ค.) มาครง ไม่ยอมอ่อนข้อจากจุดยืนของตนเอง ยืนกรานว่ากฎหมายใหม่นี้มีความจำเป็นเพื่อรักษาไว้ซึ่งกองทุนเกษียณอายุ แม้ฝ่ายต่อต้านได้เสนอทางออกอื่นๆ ในนั้นรวมถึงปรับขึ้นภาษีคนรวยหรือบริษัทต่างๆ แต่ มาครง บอกว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เขายืนกรานว่าร่างกฎหมายปรับเพิ่มอายุเกษียณของรัฐบาลจะต้องบังคับใช้ในช่วงปลายปี
เวลานี้ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญว่าจะอนุมัติมาตรการดังกล่าวหรือไม่ แต่ถึงกระนั้นฝ่ายต่อต้านก็ปฏิเสธยอมจำนน
รถไฟความเร็วสูงและรถไฟขบวนท้องถิ่น ระบบรถไฟฟ้าปารีส และระบบขนส่งสาธารณะตามเมืองใหญ่อื่นๆ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความปั่นป่วนวุ่นวาย เช่นเดียวกับสนามบินออร์ลีในเมืองหลวง ที่มีการยกเลิกเที่ยวบินราว 30%
หอไอเฟล และพระราชวังแวร์ซาย สถานที่ที่ มาครง เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำกษัตริย์สหราชอาณาจักร ได้ปิดทำการในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) สืบเนื่องจากการประท้วง
ความรุนแรงระหว่างการประท้วงได้หนักหน่วงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีมหาดไทยเผยว่าได้จัดส่งกองกำลังความมั่นคง 12,000 นาย เข้าประจำการบนท้องถนนต่างๆ ทั่วฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ในนั้น 5,000 นาย อยู่ในปารีส
กระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่ามีครูระดับประถมและมัธยมต้นผละงานประท้วงราว 24% และครูมัธยมปลายผละงานประท้วง 15%
ที่สถานีรถไฟการ์ เดอ ลียง ของกรุงปารี ผู้ประท้วงหลายร้อยคนลงไปเดินบนรางรถไฟ เพื่อหยุดขวางไม่ให้รถไฟเคลื่อนตัว จุดพลุแฟร์และตะโกนว่า "เราจะเดินหน้าจนกว่าจะถอนร่าง" และ "มาครง ออกไป"
ในแถบชานเมืองทางเหนือของปารีส สมาชิกสภาพแรงงานหลายสิบคนเข้าปิดกั้นท่ารถบัสแห่งหนึ่งในเขต Pantin สกัดรถบัสราว 200 คัน จากการแล่นให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน
นาเดีย เบลฮูม คนขับรถบัสวัย 48 ปี ที่เข้าร่วมประท้วงเช่นกัน วิพาษ์วิจารณ์การตัดสินใจของมาครง ในการกดดันผ่านร่างกฎหมายเกษียณอายุ โดยไม่สนเสียงคัดค้านใดๆ "ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ไม่ใช่กษัตริย์ เขาควรฟังเสียงประชาชนของเขา" เธอกล่าว
(ที่มา : เอพี)
