xs
xsm
sm
md
lg

เหม็นรุนแรง! รถขนถ่ายอาหารทะเลจากพม่าที่ช่องด่านสิงขร ปล่อยน้ำทิ้งเน่าเสียส่งกลิ่นไปทั่ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ประจวบคีรีขันธ์ - รถขนถ่ายอาหารทะเลจากเมืองมะริดเข้าด่านสิงขร ปล่อยน้ำทิ้งไหลเจิ่งนองเน่าเหม็นส่งกลิ่นไปทั่ว เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบริเวณด่าน และทหาร ฉก.จงอางศึก ที่มีฐานอยู่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน  ป้องกันจังหวัดประจวบฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 146 ด่านสิงขร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานประชุมร่วมระหว่างผู้ประกอบการขนส่งสินค้า (ชิปปิ้ง) และหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย ศุลกากร ตม. ประมง สาธารณสุข ด่านกักกันสัตว์ห้วยยาง ทหาร ฉก.จงอางศึก ตชด.146 ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสื่อมวลชน เพื่อหามาตรการรักษาความสะอาดที่ลานขนถ่ายสินค้า พรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ (No Man’s Land) จุดตรวจด่านสิงขร

โดยก่อนหน้านี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ว่า บริเวณดังกล่าวมีปริมาณรถขนถ่ายสินค้าวันละ 40-50 คัน ขนถ่ายสินค้าประมงซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบ ได้มีน้ำเสียจากซากสัตว์ไหลลงพื้นดิน น้ำขังเจิ่งนองเน่าเสีย มีแมลงวันหัวเขียวตัวใหญ่เกาะกินเศษอาหาร ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งรุนแรง รัศมีไปไกลกว่า 100 เมตร กระทบต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และทหาร ฉก.จงอางศึก ที่มีฐานปฏิบัติการใกล้เคียงกัน

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่มีอยู่จัดการเรื่องขยะ สิ่งเน่าเสีย และน้ำขังให้สะอาด จากที่เคยมีมาตรการที่เข้มงวดในช่วงการแพร่ระบาดโควิดปี 2563-2564 ที่มีคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการชายแดนไทย-พม่า ผ่อนผันให้มีการขนส่งสินค้าเฉพาะอาหารแห้งเท่านั้น เพื่อป้องกันเชื้อโรคมากับวัตถุดิบที่มีความชื้นแฉะ ซึ่งในปัจจุบันสามารถขนส่งวัตถุดิบอาหารทะเลได้ ส่วนใหญ่เป็นหอย ปู กุ้ง หมึก แมงกะพรุนดองเค็ม แมงดา และปลาชนิดต่างๆ โดยมีน้ำแข็งเป็นส่วนประกอบ

ส่งผลให้รถที่มาจากฝั่งพม่าที่จอดบริเวณโนแมนแลนด์ เพื่อทำการขนถ่ายสินค้ามารถบรรทุกไทยมีน้ำไหลจากภาชนะบรรจุอาหารทะเลไหลนองพื้น ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนชั่วคราว ไม่มีลานขนถ่ายสินค้าที่ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข ประกอบกับอาคาร CIQ ที่มีหน่วยงานศุลกากร ตม. และด่านตรวจกักกันพืชและสัตว์ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการ จึงต้องใช้พื้นที่ว่างพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศเป็นลานขนถ่ายสินค้าชั่วคราว จึงไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ปล่อยให้น้ำไหลลงพื้นอย่างอิสระ


ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายทำงานในลักษณะต่างคนต่างอยู่ ไม่มีความร่วมมือระหว่างกัน จึงไม่สามารถบริหารจัดการให้เป็นระเบียบได้ ซึ่งบางรายควบคุมรถขนส่งได้ดี แต่บางรายก็ปล่อยปละละเลย กระทบการค้าขายชายแดนทั้งระบบ สาเหตุจากช่วงที่ผ่านมา มีการจับกุมการแจ้งปริมาณการนำเข้าสินค้าของผู้ประกอบการไม่ตรงตามจริง เช่น แมงกะพรุนดองเกลือ ลักลอบส่งถังแก๊สหุงต้ม ทำให้รัฐเสียโอกาสจัดเก็บรายได้ไม่ถึงเป้า และสภาพแวดล้อมบริเวณดังกล่าวมีกลิ่นรุนแรง กระทบสุขอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งขอให้รถบรรทุกที่มาจากพม่านำขยะ เศษซากอาหารและน้ำกลับไปกำจัดที่ฝั่งของตนเอง ห้ามมิให้นำมาทิ้งบริเวณพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ

นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการร่วมมือกันจัดระเบียบการขนถ่ายสินค้า และความสะอาด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดและการค้าขายชายแดน หากผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการตามที่ตกลงได้ อาจมีคำสั่งระงับการนำเข้าส่งออกสินค้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการปฏิบัติตามมาตราการของจังหวัดให้เรียบร้อยเสียก่อน

โดยทางจังหวัดได้ออกมาตรการให้ผู้ประกอบการ 1.ให้ถุงบรรจุอาหารทะเลสดใส่ในถุง 2 ชั้น และผูกมัดปากให้สนิท 2.ถุงต้องบรรจุอยู่ในถังพลาสติก และมีถังพลาสติกรองรับน้ำระหว่างรถบรรทุกทั้ง 2 คัน ป้องกันไม่ให้น้ำไหลลงพื้น 3.ต้องแจ้งการเข้าออกสินค้าให้ถูกต้องตามพิกัดศุลกากรทุกประเภท ชนิด ปริมาณและน้ำหนัก 4.ต้องทำความสะอาดทุกวัน มีการโรยปูนขาวฆ่าเชื้ออาทิตย์ละ 2 ครั้ง เก็บเศษขยะที่แรงงานนำอาหารมารับประทานระหว่างขนส่งสินค้า


นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้าการลงทุนประจวบ-มะริด กล่าวว่า ตัวเลขการนำเข้าสินค้าจากประเทศพม่า ปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม มีมูลค่า 1,163 ล้านบาท ตัวเลขส่งออกมีมูลค่า 110 ล้านบาท โดยร้อยละ 90 ของสินค้านำเข้าเป็นอาหารทะเล ส่วนเดือนมกราคม 2566 มีมูลค่าการนำเข้า 201 ล้านบาท ส่งออก 14 ล้านบาท คาดการณ์มูลค่าการนำเข้าส่งออกปี 2566 ประมาณ 1,800 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันอาคารหลายจุดบริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรยังค้างชำระค่าบริการไฟฟ้าแก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกหลายแสนบาท ทำให้การบริหารจัดการที่ดีนั้นเป็นไปได้ยาก






กำลังโหลดความคิดเห็น