xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ]SONDHI TALK : ความจริงมีหนึ่งเดียว! - “ชูวิทย์” แฉเพื่อประชาชน หรือ ประยุทธ์? - อาณาจักรพนันออนไลน์ในกำมือ “2ป.”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 10 มี.ค.66 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป "Sondhitalk" หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi Appโดยประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ได้แก่

-ขบวนการเว็บพนันออนไลน์ ภาพรวมทั้งหมดเบื้องหลังฝ่าย “ลุงตู่” และ ฝ่าย “ลุงป้อม” แต่ทำไมเพิ่งจะมาเป็นประเด็นเป็นข่าวดัง ถูกไล่จับ-ไล่ล่ากันในช่วงนี้ ไม่มีใครกล้าเปิด ไม่มีใครกล้าแตะ เพราะความจริงชนะทุกสิ่ง ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
-เกมแฉของ “ชูวิทย์” กับหมากการเมืองในมือ “ประยุทธ์”

-จับโกหก “ชูวิทย์” :ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว! กาลเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์

ติดตามได้ใน SONDHI TALK :ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.180



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 180 : อาณาจักรพนันออนไลน์ในกำมือ 2 ป. - ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 ขอสวัสดีแฟนๆ รายการที่รับชมสดทาง Sondhi App, Facebook, YouTube และ TikTok วันนี้ขออนุญาตพูดเรื่อง Sondhi App นิดหนึ่ง สัปดาห์นี้เป็นวาระครบรอบ 1 ปี ที่ทีมงานเราได้ทำ Sondhi App ขึ้นมา เพื่อที่จะให้เราสามารถนำข่าวสารต่างๆ ได้เที่ยงตรง เจาะลึกได้มากขึ้น โดยไม่ถูกแพลตฟอร์มต่างประเทศปิดกั้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องสมุนไพรไทย ปัญหาวัคซีน การครอบงำของสื่อต่างประเทศ ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ชมที่สนับสนุนสมัครเป็นสมาชิกของเรา บางคนแบบรายปี บางคนแบบรายเดือน


ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ท่านผู้ชมคงเห็นว่าเรามีรายการใหม่ๆ เช่น BIG STORY, ครั้ง ๑ ในสยาม ซึ่งหยิบเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์มาทำเป็นวิดีโอ และทีมต่างประเทศของเราที่แข็งมาก อาจจะแข็งที่สุดในประเทศไทยก็ได้ มีคุณโสภณ โองการณ์ อาจารย์สุดาทิพย์ อินทร จารุจินดา คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ คุณวารินทร์ สัจเดว คุณนงวดี ถนิมมาลย์ คุณอุษณีย์ เอกอุษณีย์ และตอนนี้ผมยังได้เชิญคุณทนง ขันทอง มาเสริมทีมอีกหนึ่งคนด้วย


ท่านผู้ชมที่ยังไม่ได้โหลดแอปฯ สามารถโหลดได้ทั้งผ่านระบบ iOS และ Android ได้ที่ App Store และ Google Play สมัครสมาชิกได้ ถูกมากครับ ช่วยเหลือกัน เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำรายการที่หนึ่งเดียวเท่านั้น ก็คือความจริง ความจริงคือหนึ่งเดียวเท่านั้น รายเดือน 99 บาท รายปีจ่ายเพียง 990 บาท 10 เดือน ฟรี 2 เดือน ถ้ามีปัญหาการใช้งานแอปฯ หรือการสมัครสมาชิก ติดต่อไลน์ไอดีได้ที่ @sondhitalk

วันนี้ขายของเล็กน้อยนะครับ สินค้า SUN PAN โอเลี้ยงโบราณของผมตอนนี้น่าจะพอเพียงแล้วสำหรับทุกคน เพราะว่าผมได้เตรียมไว้ให้แฟนๆ ที่จะเข้าไปซื้อในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทั้งร้าน SUN PAN ถนนวิภาวดี และร้าน "พอดีช้อป" ถนนพระอาทิตย์ มีพอเพียงอย่างแน่นอน รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่ขายดีในร้าน SUN PAN อีก ทั้งหมูแท่งอบกรอบ ปลาแท่งอบกรอบ ขนมปัง-สเปรดต่างๆ และไอศกรีมของคุณโสภณ โองการณ์ ที่ยังคงมีอยู่ที่ร้าน SUN PAN ถนนวิภาวดี ในปั๊ม ปตท. ตรงข้ามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และร้าน "พอดีช้อป" ถนนพระอาทิตย์ สามารถไปหาซื้อกันได้


อาทิตย์นี้มีเรื่องแค่ 3 เรื่อง เรื่องแรกเป็นภาพรวมทั้งหมด ท่านผู้ชมฟังแล้วจะเข้าใจดีเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าอาณาจักรการพนันออนไลน์ บ่อนดิจิทัล มันเกี่ยวข้องกับทั้ง 2 ป. ก็คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ประวิตร วงษ์สุวรรณ พอเขาแยกพรรคกันปั๊บ ใส่คอนเวิร์สเดินคนละทาง ปัญหาก็มีทันทีเลย ในทำนองว่าใครมีอำนาจก็ฟาดฝ่ายตรงข้าม อีกฝ่ายมีอำนาจก็ฟาดกลับเช่นกัน

เรื่องที่สอง ผมกำลังจะพูดถึงคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เพราะว่าผมยืนยันในหลักปรัชญาว่า ความจริงนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว และผมจะอธิบายถึงเรื่องที่คุณชูวิทย์ได้พูดแขวะผมมาตลอดบนเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว คือโกหกพกลม

ทีนี้ คุณชูวิทย์มาเกี่ยวข้องอะไรกับหมากการเมือง เกมการเมืองในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านผู้ชมตามมาแล้วท่านผู้ชมจะเข้าใจดีว่าปรากฏการณ์คุณชูวิทย์มาจากไหน แล้วทำไมถึงแฉแบบรัวๆ ถี่ๆ แล้วก็มีลักษณะพูดความจริงไม่หมด โกหกเสียส่วนใหญ่

เรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องของหลักการทำงานของผม ตั้งแต่มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จนกระทั่งมาถึงวันนี้ ผมจะพูดเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้ท่านผู้ชมเข้าใจทุกอย่าง และเป็นการฝากบอกไปยังท่านผู้ชมหลายท่านด้วยที่ยังไม่เข้าใจผม ซึ่งผมต้องอธิบายให้ฟัง

พนันออนไลน์ภายใต้บารมี "2ป."

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะเอาเรื่องของการพนันออนไลน์ บ่อนดิจิทัล และที่เกี่ยวพันกับพี่น้อง 2 ปี คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่าผมเคยพูดว่าผมมีชาร์ตอยู่อันหนึ่ง วันนี้ผมจะเอาชาร์ตตัวใหญ่ให้ท่านผู้ชมดู ผมทำเตรียมมาให้เรียบร้อยแล้ว ชาร์ตอันนี้ทีมงานผมใช้เวลาและแหล่งข่าว ใช้เวลาเป็นเดือนที่จะแกะชาร์ตอันนี้ออกมาให้เห็น


ท่านผู้ชมครับ ในรอบระยะเวลา 3 ปี ของสถานการณ์โควิด ช่วงสองปีแรกประเทศไทยต้องล็อกดาวน์ ปิดประเทศ เว้นระยะห่าง นักท่องเที่ยวลดลงจนแทบเป็นศูนย์ การจับจ่ายใช้สอยน้อยลงไปมาก ตกงานมากขึ้น มีหลายต่อหลายกิจการต้องปิดไป การทำมาหากินของประชาชนฝืดเคือง พลอยทำให้การทำมาหากินและการรีดไถของตำรวจฝืดเคืองไปด้วย แม้แต่ดาราหลายคนก็ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้


ถ้าจะให้เห็นภาพชัดขึ้นตามลำดับ ประการแรกการทำมาหากินในระบบฝืดเคือง ผู้คนตกงาน ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจบันเทิงไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ ประการที่สอง คนจำนวนหนึ่งที่หมดหวังในการทำมาหากิน จึงหันไปทำธุรกิจประเภทรวยเร็ว ลงทุนคริปโตฯ เล่น FOREX ลงทุนทอง เล่นการพนัน มีทั้งของจริงและหลอก ทยอยเจ๊งไปแล้วก็มาก อย่างที่เราได้ยินข่าวมาตลอด ในเรื่องของแชร์ลูกโซ่ แชร์อ้างว่าลงทุน FOREX แชร์อ้างเรื่องหุ้น

ท่านผู้ชมลองสังเกตดูนะครับ ช่วงโควิด-19 ดารานักร้อง รวมไปถึงคนในวงการธุรกิจบันเทิง ธุรกิจต่างๆ ตกงานเป็นจำนวนมาก แต่กลับมีดารา นักร้อง ดีเจบางกลุ่ม แม้จะไม่ค่อยมีงาน แต่ยังโชว์ความร่ำรวย ติดหรู ติดสบาย อย่างผิดปกติ สวนกระแสเศรษฐกิจอย่างสิ้นเชิง 


ส่วนใหญ่คนพวกนี้มีธุรกิจที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์และแชร์ลูกโซ่ทั้งสิ้น ตั้งแต่คุณอภิรักษ์ โกฎธิ FOREX-3D คุณพิ้งกี้ แม้กระทั่งคนที่ถูกกล่าวหาล่าสุด ก็คือคุณหยาดทิพย์ ราชปาล


เรื่องของคุณอั้ม ภูมิพัฒน์ และภรรยา แยม ธมลพรรณ์ เรื่องของคุณดิว อริสรา กับเบนซ์ เดม่อน แม้กระทั่งไฮโซแชมป์ อดีตสามีดารา เจนี่ เจนิลา ปริญา แสนเมือง ออกมาแฉว่าเว็บพนันของอดีตดาราพีท แก๊งเอ๊ดดี้ พนันออนไลน์รายใหญ่ ตอนนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติแม้จะมีข่าวฉาวมากมายเกี่ยวกับการปราบปรามการพนันออนไลน์ ไฮโซแชมป์ถึงกับเตือนภรรยาเก่าว่าอย่าเอาลูกไปยุ่งกับธุรกิจสีเทา หลังพบเกี่ยวโยงกับแก๊งเว็บพนันดารา พ.


ประการที่สาม เทคโนโลยีออนไลน์พัฒนาอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นมีแอปพลิเคชันระบบบริการสำหรับคนที่ต้องการเปิดเว็บพนันออนไลน์ คือพูดง่ายๆ ว่า เหมือนแฟรนไชส์ มีตัวแทนแฟรนไชส์ในประเทศไทย มีเอเยนต์ มีซับเอเยนต์ทั่วประเทศไทย ผมยกตัวอย่างให้ดู เอาภาพให้ดู โฆษณาบริการรับทำหน้าเว็บพนันอย่างโจ๋งครึ่ม ท่านเพียงเสิร์ชผ่านกูเกิล ระบุข้อความว่า เปิดเว็บสล็อต เปิดเว็บบาคาร่า เปิดเว็บพนันบอล เปิดเว็บหวย ก็มีเกมให้เลือกมากที่สุดในประเทศไทย ด้วย provider เกมชื่อดังระดับโลก มากกว่า 60+ ค่ายเกม ออกแบบหน้าเว็บไซต์ได้ตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ เพียงติดต่อมาเลยที่ไลน์ ...


นอกจากนั้น ยังระบุรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า ทางบริษัทดังกล่าวสามารถช่วยเปิดเว็บพนันโดยทำให้เป็นธุรกิจพนัน ประสบความสำเร็จ มีการบริการแบบครบวงจร ทั้งการยิงแอดโฆษณา สายขาว สายเทา บริการการตลาด ทุกๆ อย่างที่มี ทุกอย่างมีประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแผนงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมระบบออโต้ ท่านผู้ชมครับ ยิ่งกว่าการขายแฟรนไชส์เสียอีก มีระบบสมาชิก โอนเงินแบบอัตโนมัติที่ดีที่สุด ระบบหลังบ้านที่เข้าใจง่าย เป็นมิตรต่อผู้เล่นและเจ้าของ พร้อมด้วยทีมงานประสบการณ์สูงคอยดูแลระบบให้ตลอด 24 ชั่วโมง ท่านผู้ชมคงนึกไม่ถึงว่าขบวนการอุตสาหกรรมเว็บพนันออนไลน์มันได้พัฒนาก้าวไปจนถึงขนาดที่เรียกว่าเป็นแฟรนไชส์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดและมีบริการครบถ้วน


บรรดานักร้อง ดารา พริตตี้ ตกอับ ไม่ค่อยมีงานในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด แต่ก็ยังมีผู้ติดตามในโซเชียลอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือล่าสุดใน TikTok พอเห็นช่องทางสำเร็จรูปที่หาเงินใส่กระเป๋าได้แบบนี้ แค่ตัวเองมีช่องทางโปรโมต มีคนติดตามหลักหมื่นหลักแสน หรือหลักล้าน ก็แล้วแต่ ก็รีบพุ่งหลาวใส่โดยกระโจนใส่ผ่านญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง แฟน หรือสามี หรือคนใกล้ชิดก็แล้วแต่ ไม่คิดหน้าคิดหลังเลย เพราะลงทุนแป๊บเดียวไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี กำไรเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน หรืออาจจะเป็นหมื่นล้าน อย่างพี่น้อง 4 บ. แห่งบ่อนมาเก๊า 888 หรืออย่างนายแทนไท ณรงค์กูล หรือแม้แต่วัยรุ่นโนเนมอย่างไอ้ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ เจริญสุข

นอกจากนี้ ประกอบกับปัจจัยที่ในช่วงหลังเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนผ่าน เปิดช่องให้มีการฟอกเงิน มีการเปลี่ยนผ่านผ่านการซื้อขายเงินดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซี ทั่วโลก สามารถผ่านแอปพลิเคชันซื้อขายคริปโตต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Binance, Coinbase หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ทั้งในประเทศ ที่เจ้าหน้าที่ตามอายัดยึดได้ยาก หรือไม่มีทางที่จะตามได้เลย


ประการที่สี่ ทั้งหมดนี้ประจวบเหมาะกับปรากฏการณ์การหลอกลวงผ่านระบบออนไลน์ครั้งใหญ่ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งดูดเงิน แก๊งจีนเทา เจริญเติบโตในประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด

ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่า อาชญากรรมออนไลน์แบบนี้คุกคามสังคมไทยอย่างหนัก เบื้องต้นเขาบอกว่าความเสียหายมูลค่าสามหมื่นล้านบาท


22 กุมภาพันธ์ 2566 คุณอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2566 มีการแจ้งความอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจำนวนทั้งสิ้น 192,031 คดี มีสถิติการแจ้งความ 1,000 รายต่อวัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท ติดตามอายัดบัญชีได้ 65,872 บัญชี อายัดเงินได้ทันเพียง 445 ล้านบาท คิดเป็น 1.5 เปอร์เซ็นต์ ของความเสียหายเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ที่ได้รับแจ้งเท่านั้น

สถิติผู้เสียหายรายเดียวที่คิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงสุด มี 100 ล้านบาท รูปแบบการโกงของมิจฉาชีพ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) การหลอกลวงซื้อสินค้า 2) การโอนเงินหารายได้พิเศษ 3) การหลอกให้กู้เงิน 4) แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 5) หลอกให้ลงทุน

ผมมีข้อสังเกตอย่างนี้ครับท่านผู้ชม ความเสียหาย 3 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นแค่ความเสียหายขั้นต่ำเท่านั้น เพราะยังมีผู้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ไม่ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมาก ผมคาดการณ์ว่าน่าจะมากกว่าที่แจ้งหลายเท่าตัว ทำให้ความเสียหายนั้น ผมจะไม่ประหลาดใจเลยถ้ามันเสียหายทะลุกว่าแสนล้านบาท

ที่สำคัญ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าอาชญากรรมออนไลน์ที่อ้างว่ามีความเสียหายประมาณ 3 หมื่นล้านบาทนั้น ตามความหมายข้างต้นของรัฐบาล พิจารณาจาก 5 อันดับแรกของกลโกงมิจฉาชีพ ชัดเจน 5 อันดับแรก ที่ผมอธิบายให้ฟัง ไม่ได้รวมพนันออนไลน์เข้าไปด้วย ซึ่งผมชี้ให้เห็นแล้วว่าการพนันออนไลน์นั้นไม่เหมือนการเปิดวงไพ่ วงไฮโล เปิดบ่อนท้ายซอย เหมือนนิยามของ พ.ร.บ. การพนัน 2478 ที่เขียนขึ้น 90 ปีก่อน แต่จริงๆ มันเป็นการฉ้อโกงประชาชน เพราะระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมชุดคำสั่งที่เขาเรียกว่า อัลกอริทึม (Algorithm) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) นั้น เจ้าของบ่อนการพนันออนไลน์สามารถจะใช้ระบบนี้กำหนดได้เลยว่าเขาสามารถทำกำไรกี่เปอร์เซ็นต์ 50-60 เปอร์เซ็นต์ หรือ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ด้วยระบบและหลักการเช่นนี้ทำให้การพนันออนไลน์ไม่ได้เป็นการพนันธรรมดาไปแล้ว แต่มันคือการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผมบอกแล้วว่า การจะแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืนส่วนหนึ่งต้องทำให้การพนันออนไลน์นั้น ต้องแก้กฎหมายให้ผู้กระทำผิดมีความผิดไม่ใช่เฉพาะจัดให้มีการเล่นพนัน หรือฟอกเงินเท่านั้น แต่ต้องมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เหมือนกับการโกงแชร์ลูกโซ่

ท่านผู้ชมครับ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนโดยปกติศาลจะไม่รอลงอาญา แล้วคิดโทษเป็นกรรม อย่างแชร์ลูกโซ่ หรือกรณีฉ้อโกงออนไลน์นั้น มีคำพิพากษาจำคุกกันเป็นพันๆ ปี หรือหลายหมื่นปี แต่ว่าติดจริงคือ 20 ปี ไม่เกิน


จากข้อมูลที่ทีมงานศึกษามา ค้นพบว่า เอาเรื่องแรกดูง่ายๆ ก่อน ถ้าท่านผู้ชมเปิดกูเกิล ค้นคำว่า "เว็บพนันออนไลน์" ภาษาไทย วันนี้นอกจากเต็มไปด้วยเว็บพนันจำนวนมาก แบบนับไม่ถ้วนแล้ว ผลการค้นหามีมากถึง 10.6 ล้านรายการ ในขณะนี้ 


นอกจากนี้ จากรายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทยล่าสุด ปี 2565 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ยังพบว่ามีตัวเลขที่น่าสนใจและน่าตกใจ คนไทยที่เล่นการพนันปี 2564 มีมากถึง 15.1 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรผู้ใหญ่ จำนวนนี้ 60 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าประสบปัญหา หรือได้รับผลกระทบทางลบจากการเล่นการพนันอย่างน้อย 1 อย่าง นักพนันกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางการเงิน และหนี้พนัน เช่น ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นพนัน ต้องขายทรัพย์สินหรือสิ่งมีค่าเพื่อเล่นพนัน เพื่อใช้หนี้ เลือกที่จะทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อนำเงินเป็นทุนเล่นการพนัน ถูกเจ้าหนี้ข่มขู่และทำร้ายร่างกาย


นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญที่ตามมา คือหนี้สินที่เกิดจากการพนัน โดยรายงานฉบับดังกล่าวประมาณการไว้ว่า ในปี 2564 มีนักพนัน 1.127 ล้านคน มีหนี้สินจากการพนัน 15,307 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วคนหนึ่งมีหนี้การพนันเกือบๆ 1 หมื่น 4 พันล้านบาท นี่แค่ปัญหาหนี้สินจากการพนันนะ มีมากถึง 1 หมื่น 5 พันล้าน แล้วท่านผู้ชมคิดว่ายอดเงินที่หมุนเวียนในระบบการพนัน ปัจจุบันอยู่ในโลกออนไลน์หมดแล้ว จะมากมายกี่แสนล้านบาทกันแน่ คำนวณง่ายๆ เลยท่านผู้ชม 1 หมื่น 5 พันล้าน คูณสิบ เท่ากับ 1 แสน 5 หมื่นล้าน 1 หมื่น 5 พันล้าน คูณยี่สิบ เท่ากับ 3 แสนล้าน 1 หมื่น 5 พันล้าน คูณสามสิบ เท่ากับ 4 แสน 5 หมื่นล้าน

ข่าวล่าสุดที่เป็นข่าวตลกบัดซบมาก สร้างความฮือฮาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีคลิป "ครูยืม 3,000 แต่แม่หนูหนีทัน" ฉายาครูสล็อตติดพนัน ที่จังหวัดสระแก้ว นี่รายเล็กๆ และยังมีเพจเฟซบุ๊กอยู่เพจหนึ่ง ชื่อว่า "อีซ้อขยี้ข่าว" คือข่าวเมื่อกี้นี้ เปิดคลิปภาพเด็ก ป.3 พากันออกมาแฉพฤติกรรมครูคนหนึ่งในโรงเรียน ที่มักบุไปยืมเงินผู้ปกครองถึงบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งยามค่ำคืน จนเด็กๆ พากันตั้งฉายาว่า "คุณครูสล็อต" เด็กๆ เชื่อว่าครูที่ยืมเงินผู้ปกครองไป เพราะว่าติดการพนันออนไลน์ เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ออกมา แชร์กันเป็นวงกว้าง คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าครูคนนี้น่าจะติดไฮโล แต่ทางเพจชี้ว่าครูไม่ได้ติดไฮโล แต่ครูคนนี้ติดการพนันออนไลน์ มัวแต่ปั่นสล็อต จนเป็นที่มาของฉายาที่นักเรียนตั้งให้


ทั้งนี้ทั้งนั้น เว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งดูดเงิน ที่ระบาดไปทั่วทุกหัวระแหง จนเรียกได้ว่าคนไทยแทบจะทุกคน ทุกครัวเรือน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกวิชาชีพ เคยประสบพบเจอ บางคนเจอวันละหลายๆ ครั้ง อาชญากรรมออนไลน์เหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยถ้าตำรวจและนักการเมืองของไทยที่ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับขบวนการเหล่านี้ ซึ่งใหญ่โตมโหฬาร ครอบคลุมไปถึงองค์กรอาชญากรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขบวนการพนันออนไลน์ที่ผมได้เปิดเผยไปหลายตอนของรายการนี้ว่า การพนันในโลกนี้เสมือนจริง ได้กลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ แหล่งมหาสมบัติแห่งใหญ่ของตำรวจ แทนที่บ่อนเถื่อน ผับ บาร์ ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว อาชญากรรมไซเบอร์ได้กลายเป็นปัญหาวิกฤตที่ร้ายแรง ทำลายชาติบ้านเมือง ให้คนไทยต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ท่านผู้ชมเชื่อผมไหม แม้กระทั่งคนบางคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อการพนันออนไลน์ ตัวเองและลูกชายก็มีส่วนเกี่ยวพันกับการพนันออนไลน์เช่นกัน อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยครับ สักวันหนึ่งท่านผู้ชมคงจะรู้ เพราะสำหรับผมและทีมงานของผม ความจริงคือหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกต้อง นอกนั้นเป็นเรื่องโกหกหมด

ความรับผิดชอบของ "2 ป."

ท่านผู้ชมครับ คราวนี้มาพูดถึงเรื่องบทบาทของพี่น้อง 2 ป. ในการป้องกันปราบปรามการพนันออนไลน์ แน่นอนที่สุด ก็หนีไม่พ้น ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ประวิตร วงษ์สุวรรณ


พล.อ.ประยุทธ์ ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ประธาน ก.ตร. และคนที่สอง พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นประธานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ส่วนผู้นำอื่นๆ ระดับรองๆ ลงมาในรูปองค์กรซึ่งปฏิเสธไม่ได้ ก็มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์ ปปง. ดีเอสไอ (ในอดีต) กระทรวงดีอีเอส องค์กรเหล่านี้ได้ปล่อยปละละเลยจนทำให้ปัญหาบานปลายมาถึงวันนี้


ผมเคยเล่าให้ฟังมาแล้วว่า หน่วยงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้ส่วนแบ่ง โดยแบ่งเรตกันไปเลยว่าตั๋วราคาเหมา หรือตั๋วรายเดือน ตัวอย่างเช่น ตำรวจไซเบอร์ในยุคหนึ่ง หรือ สอท. อัตราค่าบริการจ่ายให้ตำรวจไซเบอร์แตกต่างออกไปตามประเภทเว็บไซต์ของธุรกิจ เช่น ถ้าเป็นเว็บลามก เว็บโป๊ มีราคาเหมาหลักแสนบาทขึ้นไป ส่วนจ่ายรายเดือนเริ่มต้นที่ 5 พัน ถึง 1 หมื่นบาทต่อเดือน เว็บพนันไม่มีราคาเหมา แต่รายเดือนเริ่มต้นที่ 2 หมื่น ถึง 5 หมื่นบาทต่อเดือน

นอกจากนี้ ยังมีโมเดลใหม่ คือไม่เก็บส่วย แต่ขอหุ้นด้วย หรือยกทรัพย์เอเยนต์ให้ตำรวจไปทำเงินทั้งเว็บเลยก็มี อย่างเช่น สมมุติเว็บชื่อว่า เว็บพนัน.com ซับเอเยนต์ก็จะมี "/" แล้วบอกว่า "กขค" ซึ่ง "กขค" นี้ คือซับเอเยนต์ที่ตำรวจหรือหน่วยงานรัฐเอามาลงทุนด้วย เมื่อตำรวจไซเบอร์มีการตั้งโต๊ะเก็บส่วยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แล้วท่านผู้ชมคิดว่า ปปง. ดีเอสไอ ในอดีต หรือกระทรวงดีอีเอสของคุณชัยวุฒิ จะไม่รู้เรื่องเชียวหรือ ผมไม่เชื่อ

ท่านผู้ชมดูง่ายๆ ตอนนี้ดูหนังออนไลน์ เล่นเกม มีข้อความโฆษณาพนันออนไลน์เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่เข้าถึงประชาชน เยาวชน ในวงกว้าง อย่างเช่น Facebook, TikTok, LINE, SMS ทั้งๆ ที่เวลาประชาชนพูดถึงเรื่องสิ่งที่เป็นประโยชน์ น่าเศร้ามาก กรณีสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หรือปัญหาวัคซีน เราจะถูกบล็อกหมด แสดงให้เห็นว่ารัฐมีการรู้เห็นเป็นใจกับผู้ประกอบการ Operator เหล่านี้ด้วย และมีการเลือกปฏิบัติ และละเว้นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ จริงหรือเปล่า


อย่างไรก็ดี ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร อยู่ร่วมกันในพรรคพลังประชารัฐ องคาพยพที่เกี่ยวกับพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งดูดเงิน แก๊งจีนเทา ก็ได้มาอาศัยกลุ่มผลประโยชน์ที่อาศัย แอบอิง พึ่งบารมีของพี่น้อง 2 ป. คนที่รอบล้อมพี่น้อง 2 ป. นั่นก็คือตัวการสำคัญที่สนับสนุนกลุ่มพนันออนไลน์ กลุ่มอาชญากรทางออนไลน์ พี่น้องสองคนนี้ก็เลยอยู่ได้โดยไม่ทะเลาะกัน เพราะอย่างน้อยผลประโยชน์ยังอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือลงในหีบสมบัติในบ้านเดียวกัน

แต่ท่านผู้ชมสังเกตหรือเปล่าว่า ทำไมพนันออนไลน์ ซึ่งมันมีมานานแล้วนะ แต่เพิ่งมาดังหรือถูกจับตา ไล่ล่ากันมากๆ ในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่มันระบาดมาหลายปีแล้ว มีคนตั้งข้อสังเกตหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าน่าสนใจมาก หรือมันเป็นเพราะรอยร้าวจากการแยกพรรคที่เกิดขึ้นระหว่างเครือข่ายของพี่น้อง 2 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ย้อนรอยอำนาจเปลี่ยนรักษาการนายกฯ ประวิตร ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร มารักษาการเป็นนายกรัฐมนตรีแทน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญห้ามปฏิบัติงานจนกว่าเรื่องราวจะมีการชี้ขาดออกจากศาลรัฐธรรมนูญ


ช่วง พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ นั้น ได้มีการจับเครือข่ายเอ๊ดดี้ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ ซึ่งถูกข้อหายาเสพติด ถูกโน่นถูกนี่ หนีไปอยู่อังกฤษ แล้วพาพรรคพวกไป แล้วจับ นายตุน มิน ลัต ซึ่งเป็นลูกเขยของมิน อ่อง หล่าย ของพม่า และรวมไปถึงลูกเขยของ ส.ว.อุปกิต ด้วย


หนึ่งเดือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เว้นวรรค พล.อ.ประวิตร นั่งรักษาการนายกฯ แบบคึกคัก เต็มกำลัง กระทั่ง 30 กันยายน 2565 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 6 ต่อ 3 เสียง ให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไปเป็นนายกฯ ต่อไปได้

เพราะฉะนั้นแล้ว ประเด็นอยู่ตรงไหน ? วงการเมืองก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมากว่า เบื้องหลังกระบวนการล็อบบี้นี้ ที่จะโค่นล้ม พล.อ.ประยุทธ์ นั้น หนักมาก โดยเฉพาะจาก ป.ที่ 4 ที่มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร แต่เครือข่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็แก้ไขสถานการณ์ได้ทัน

ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุด ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถไว้วางใจมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ คู่กับ พล.อ.ประวิตร ในพรรคพลังประชารัฐ อีกต่อไป และในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตัดสินใจอย่างแน่นอนที่จะทิ้งพรรคพลังประชารัฐ ไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตั้งสำรองมารอล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว


เค้าลางที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกตัวออกจากกันนั้นได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่การก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจน จนกระทั่งพรรครวมไทยสร้างชาติมีการย้ายที่ทำการจากย่านรัชดาภิเษก มาอยู่ซอยอารีย์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ซึ่งต่อมามีการอภิปรายทั่วไปในสภาผู้แทนราษฎร ครั้งล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ที่ดินที่้ตั้งใหม่ของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น อาจมีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกวุฒิสภา ชื่อ ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร หรือไม่

แล้วถ้าสมมุติว่าที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ เกี่ยวข้องกับ ส.ว. อุปกิต จริงๆ แล้ว ก็เป็นธรรดาจะต้องถูกตั้งข้อสงสัยในการเมืองได้ว่า ส.ว. อุปกิต มีฐานะระดับมหาเศรษฐี 1 พัน 7 ร้อยล้านบาท ผู้นี้ให้การสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ในทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่ ท่านผู้ชมต้องเข้าใจว่า ส.ว. ชุดนี้มาจากเครือข่ายของ คสช. ดังนั้น พี่น้อง 3 ป. ย่อมรู้อยู่แล้วว่าเบื้องหลัง ส.ว. แต่ละคนมีธุรกิจทำอะไรมา มีความใกล้ชิด ไว้วางใจกันแค่ไหน จึงถูกเลือกมาเป็น ส.ว. จริงหรือเปล่า


อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นทั้งประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เป็นประธาน ก.ตร. เท่ากับว่าได้คุมตำรวจแทน พล.อ.ประยุทธ์ ไปด้วย เพราะฉะนั้นในช่วง 38 วันของการดำรงตำแหน่งรักษาการนายกฯ ของ พล.อ.ประวิตร ระหว่าง 24 สิงหาคม ถึง 30 กันยายนนั้น ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายต่อหลายเรื่อง ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ โดยในช่วงรักษาการนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ก่อนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาประมาณ 24 วัน มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ผมจะเล่าให้ฟัง


เหตุการณ์แรก 17 กันยายน 2565 พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับผิดชอบนำชุดตำรวจขยายผลขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ได้ปิดล้อม ค้นหลายจุด จนนำไปสู่การจับกุมคน 4 คน เฉพาะ 2 คนที่สำคัญก็คือ นายตุน มิน ลัต ซึ่งเป็นลูกเขยของมิน อ่อง หล่าย และ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภาของไทย ตกเป็นข่าวดังเมื่อ 23 กันยายน โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นักธุรกิจชาวพม่าที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล ถูกจับกุมที่กรุงเทพฯ ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฟอกเงิน


เอาล่ะ เรามาดูเรื่องของนายตุน มิน ลัต กันบ้าง ตุน มิน ลัต อายุ 53 ปี เป็นคนใกล้ชิด พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย นายตุน มิน ลัต มีความใกล้ชิดและทำธุรกิจร่วมกับ ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร อีกด้วย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น มีการจับกุมนายดีน ยัง จุลธุระ ซึ่งเป็นลูกเขยของ ส.ว.อุปกิต อีกด้วย


ท่านผู้ชมครับ นายวรวัฒน์ เป็นผู้ที่นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปฟอกเงิน ทำธุรกิจขายน้ำมันส่งออกไปประเทศพม่า มูลค่ากว่าห้าร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นผลของการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจเครือข่ายอัลลัวร์ กรุ๊ป ก็เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพม่าเช่นกัน


ท่านผู้ชมครับ ผมจะเอาทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างนายอุปกิต กับ นายตุน มิน ลัต ระบุว่า นายตุน มิน ลัต กับ นายอุปกิต เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ควบคุมกลุ่มที่ชื่ออัลลัวร์ กรุ๊ป โดยอ้อม สั่งซื้อไฟฟ้าจากไทย โดยใช้เงินจากธุรกิจสีเทา


จากนั้นตำรวจก็เลยออกหมายจับเพิ่มเติมในเครือข่ายเดียวกัน คือ นายเอ๊ดดี้ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ คนทำเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศไทย แต่มีตำรวจใหญ่ให้การสนับสนุนพนันออนไลน์


ทำให้นายเอ๊ดดี้ กับพรรคพวก ประกอบไปด้วย นายไข่เจียว คมสัน รุกขพันธ์ หรือ พีท หรือปีเตอร์ นายวริศ ลิ่มอติบูลย์ สามารถหนีไปอยู่อังกฤษได้ หรือไม่ ซึ่งถ้าท่านผู้ชมพอจำได้ ที่ผมระบุว่า เครือข่ายของนายเอ๊ดดี้ ได้เชื่อมโยงกับนายนอท พันธ์ธวัช กองสลากพลัส ผมเคยพูดไปแล้ว เมื่อรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 174 แก๊งพนันออนไลน์ ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566


ซึ่งเรื่องนี้ต้องกลับไปถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าทำไมปล่อยให้เอ๊ดดี้ พันณรงค์ หลบหนีไปอยู่อังกฤษได้สำเร็จ แต่จุดที่เชื่อมโยงคือ เอ๊ดดี้ หรือ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ เจ้าพ่อพนันออนไลน์ระดับมาสเตอร์แฟรนไชส์ เป็นผู้ที่ซื้อธุรกิจโรงแรมกาสิโนท่าขี้เหล็ก คือ อัลลัวร์ กรุ๊ป ในพม่า ซึ่งว่ากันว่าเคยเป็นของ ส.ว.อุปกิต ปาจรียางกูร อีกด้วย โดย ส.ว.อุปกิต ระบุในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่าได้ขายหุ้นอัลลัวร์ กรุ๊ป ทั้งโรงแรมอัลลัวร์ รีสอร์ท ก็ได้ขายไปก่อนจะเป็น ส.ว. ในปี 2562 ให้กับชายคนหนึ่งที่ชื่อ นายชาคริส กาจกำจรเดช

ต่อมา เมษายน 2565 มีการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ยาเสพติด และการฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องไปถึงพนักงานของอัลลัวร์ กรุ๊ป โดยมีการเรียกนายชาคริส กาจกำจรเดช ไปให้การด้วย


นายชาคริส ให้การว่า ได้ทำการตกลงซื้อขายกิจการโรงแรมอัลลัวร์ รีสอร์ท จากนายอุปกิต ในราคา 8.15 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 252 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการซื้อขายกันจริงแต่อย่างใด คือนายชาคริสบอกว่ามีการตกลงซื้อขาย แต่ไม่ได้ซื้อจริง ซื้อทิพย์ ประเด็น ใครพูดจริง ใครพูดโกหก มีการฟอกเงินหรือไม่ มีนิติกรรมอำพรางหรือไม่ ส.ว.อุปกิต ได้รายงานเท็จในการแสดงทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. หรือไม่ มีความเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทา/สีดำ ของเครือข่ายเอ๊ดดี้หรือไม่ นี่คือประเด็นคำถาม ทั้งจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นักเคลื่อนไหวภาคประชาชน และ นายรังสิมันต์ โรม พรรคก้าวไกล นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นสถานภาพเป็นภาคประชาชน ส.ส. และสื่อมวลชน ได้ตั้งคำถาม และสื่อมวลชนทั่วไปก็ควรจะสงสัยและสอบถามความจริงนี้จากนายอุปกิต


ท่านผู้ชมเชื่อหรือเปล่า แทนที่ ส.ว.อุปกิต จะชี้แจงแถลงตอบข้อเท็จจริงเพื่อให้สื่อซักถาม ในฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชน ย่อมถูกตรวจสอบได้ กลับเลือกที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายไปทั่ว ฟ้องนายอัจฉริยะ 50 ล้านบาท ฟ้องแพ่งนายรังสิมันต์ โรม 100 ล้านบาท ฟ้องนายดนัย 50 ล้านบาท อันนี้ผมคิดว่าไม่สง่างาม เพราะดูแล้วเจตนาเหมือนจะปิดปากคนพวกนี้เอาไว้

ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้คืนเก้าอี้ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่คนรอบตัว ส.ว.อุปกิต ก็ยังเดินหน้าต่อไม่หยุด

30 กันยายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้มาเป็นนายกฯ ต่อได้ แต่คดีทั้งหลายที่ดำเนินไปก็ยังเดินหน้าต่อไป ระหว่างที่ท่านนายกฯ ต้องพัก ไม่ทำงาน

2 พฤศจิกายน 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งยังคงยึดโยงอยู่ตอนนั้นกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ย้ายไปพรรคอื่น ได้แถลงข่าวร่วมกับ ป.ป.ส. และตำรวจนครบาล ที่ร่วมกันยึดทรัพย์เครือข่ายตุน มิน ลัต เอ๊ดดี้ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์


นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้เราติดตามจับกุมมาตั้งแต่ปี 2562-2565 จำนวน 5 คดี ยึดยาเสพติด เป็นยาบ้า 3.5 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 87 กิโลกรัม คีตามีน 6 กิโลกรัม และเฮโรอีนอีก 308 กรัม จากนั้นได้มีการขยายผลได้อีก 2 เคส ในปี 2564 และ 2565 จับกุมอายัดทรัพย์สินของนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ กับพวก 4 คน ฐานความผิดสมคบ สนับสนุน ช่วยคดียาเสพติด ยึดอายัดทรัพย์มากว่า 500 ล้านบาท จากนั้นได้ขยายผลขออนุมัติสมคบฟอกเงิน จับกุมกลุ่มอัลลัวร์ กรุ๊ป 4 คน มี นายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา ดีน ยัง จุลธุระ ลูกเขย ส.ว.อุปกิต รวมทั้งยึดทรัพย์ได้มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และเงินสดในตู้นิรภัยอีก 8 ล้านบาท และยังได้อายัดทรัพย์นายเอ๊ดดี้ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ และพวก ซึ่งหลบหนีหมายจับ ยึดอายัดที่ดินได้ 71 แปลง มูลค่า 1,050 ล้านบาท ทั้งที่ดินเปล่า อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต โรงแรมขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ในพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา รวมกลุ่มเครือข่ายอัลลัวร์ กรุ๊ป และเอ๊ดดี้ ยึดอายัดทรัพย์ได้มากกว่า 1,850 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังยืนยันด้วยว่า ในขบวนการนี้ยังมีตัวการสำคัญ คือ นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ และนางกัลยาวีร์ ธีระประภาวงศ์ ชื่อเล่นว่า จอย ซึ่งเป็นเมียน้อยของเอ๊ดดี้ ที่ยังหลบหนีหมายจับ และเป็นผู้ยึดครองทรัพย์สินหลักของกลุ่มนิติบุคคลที่เป็นที่ดินและอสังหาริมทรัพย์


ท่านผู้ชมครับ ก่อนจะไปต่อ ผมขอย้อนกลับไปคดีแรก ราวหนึ่งปีที่แล้ว 5 มีนาคม 2565 ที่มีการจับกุมนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ ยึดทรัพย์ได้ถึง 500 ล้านบาท และผู้ต้องหา คือนายวรวัฒน์นั้น มีตำแหน่งเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวของสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่ง พล.อ.บุญธรรม โอริส ถูกจับเพราะตำรวจทลายคดียาบ้าของเครือข่ายยาเสพติดของคิงส์ นนทบุรี

นายวรวัฒน์เป็นคนที่นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปฟอกเงินทำธุรกิจขายน้ำมันส่งออกไปเมียนมา มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่มาของการขยายผลต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจเครือข่ายอัลลัวร์ กรุ๊ป ก็เกี่ยวข้องกับเมียนมาเช่นกัน

ต่อมา เดือนธันวาคม 2565 ศาลอาญาได้พิพากษาประหารชีวิตนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ คำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายวรวัฒน์ แสดงให้เห็นว่าชุด ป.ป.ส. และตำรวจ บช.น. ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ทำคดีด้วยหลักฐานอย่างแน่นหนา รัดกุม รอบคอบ แปลว่าเส้นทางเงินที่ปรากฏในการฟอกเงินเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีน้ำหนักมากจริง


ท่านผู้ชมครับ พวกเราต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และตำรวจชุดนี้ที่ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาในคดีนี้ ท่านผู้ชมเชื่อหรืเปล่า ตำรวจน้ำดีที่มีผลงานทำคดีอัลลัวร์ กรุ๊ป โยงคนใกล้ชิด ส.ว.อุปกิต ถูกย้ายกระจาย ทั้งๆ ที่ศาลยังพิจารณาคดีไม่แล้วเสร็จ และกำลังขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน

ที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่น่าจับตา เมื่อเร็วๆ นี้ คือช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ชุดตำรวจนครบาลที่จับกุมและดำเนินคดีฟอกเงินนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ ผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกวุฒิสภา จนศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิต ก็คือชุดเดียวกันกับที่ดำเนินคดียาเสพติดและฟอกเงิน อัลลัวร์ กรุ๊ป ตุน มิน ลัต และ เอ๊ดดี้ พันณรงค์ ซึ่งมีผลงานในการจับกุมอายัดทรัพย์และกำลังขยายผลไปยังเครือข่ายอีกหลายคนมากกว่านี้ คดีนี้ ทั้งนายตุน มิน ลัต หุ้นส่วนของ ส.ว.อุปกิต นายดีน ยัง จุลธุระ ลูกเขย ส.ว.อุปกิต และผู้ต้องหาอีก 2 คน ได้ถูกสั่งฟ้องทั้งหมด อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลแล้ว ขณะที่เอ๊ดดี้ และพวก ได้หลบหนีหมายจับ แต่คดียังไม่แล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาล ตำรวจชุดทำคดีกลับถูกโยกย้ายกระจายไปหมด ซึ่งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล และโยกย้ายข้ามภาค ก็คือการล้างบางตำรวจนั่นเอง มึงเก่งนักมาจับคนของกู ก็ย้ายกระเด็นไปเลย


คนที่หนึ่ง พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผู้กำกับสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 หัวหน้าทีมตำรวจชุดจับกุมนายตุน มิน ลัต เดิมมีคำสั่งถูกย้ายไป สภ.บ้านเดื่อ จังหวัดชัยภูมิ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ตลกร้ายคือ ภายหลังจับกุมตุน มิน ลัต ในเดือนกันยายน 2565 ตลกมาก ตลกบัดซบจริงๆ กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณตามโครงการ "ทำดีมีรางวัล" ให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน 2 ยังได้รับการประกาศเกียรติคุณยกย่องด้วยว่าเป็นหน่วยงานที่มีผลงานในการปราบปรามยาเสพติดดีเด่นประจำเดือนตุลาคม 2565 ขนาดเพิ่งได้รางวัลว่ามีผลงานดีเด่น แต่กลับถูกคำสั่งย้ายกระเด็นกระดอนจากกรุงเทพฯ ไปลำบากไกลจนถึงชัยภูมิ

ต่อมา มีกระแสข่าวถึงประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนมาก เห็นความผิดปกตินี้ โดยต่างระบุว่าเป็นการกลั่นแกล้งตำรวจน้ำดีอย่าง พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ก็เลยมีการออกคำสั่งใหม่ย้อนหลังเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ให้ย้ายเป็นจเรตำรวจ ซึ่งในวงการตำรวจก็คึอการย้ายแบบลดขั้น นอกจากนั้นแล้ว หัวหน้าชุดจับกุมนายตำรวจนายอื่นๆ โดนย้ายกระเด็นกระดอนหมด


คนที่สอง คำสั่งวันที่ 31 มกราคม สองเดือนที่แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ย้าย พ.ต.ท.สุชาติ มงคลพิพัฒน์ ผู้กำกับสืบสวนสอบสวน 4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเคยเป็นรองหัวหน้าชุดจับกุมนายตุน มิน ลัต ย้ายไปรับตำแหน่งรองผู้กำกับปราบปราม สภ.ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นสถานีภูธร ติดชายแดน


คนที่สามที่ถูกเตะกระเด็นไปเลย คือ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตร กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถูกคำสั่งย้ายไปเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจพญาไท แม้จะเป็นตำแหน่งเดิม และ สน.พญาไท จะถือว่าเป็นโรงพักเกรด A แต่ได้พ้นจากการทำคดีของนายตุน มิน ลัต ทันที


คนที่สี่ พ.ต.ท.ชำนาญยุทธ ก้อนฆ้อง สารวัตร กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งถูกย้ายไปเป็นสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจดอนเมือง ถือว่าลดชั้น เพราะงานสอบสวนเป็นงานที่ตำรวจจำนวนไม่น้อยไม่อยากไปทำหน้าที่นั้น

ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อตรวจสอบเชิงลึกแล้ว ชุดจับกุมดังกล่าว นอกจากจะได้รับรางวัลการปราบปรามยาเสพติดแล้ว ยังไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเลย ทำงานได้รางวัล เช็กประวัติแล้วไม่เคยด่างพร้อย แต่ทั้งสี่คนถูกเตะกระจายไปหมดเลย เพราะไปจับลูกเขย ส.ว.อุปกิต ไปจับนายตุน มิน ลัต

ท่านผู้ชมสังเกตเหมือนผมไหมว่า การโยกย้ายครั้งนี้เหมือนถูกเด้งออกจากหน่วยงานเดิม ทำให้ไม่สามารถขยายผลคดีที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ เพราะพวกนี้กำลังจะขยายผลต่อไปแล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ผมเลยอยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งผมก็หวังว่าคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ น่าจะตั้งคำถามร่วมกับผมด้วยเหมือนกัน ว่า ที่อ้างว่าทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม จะตอบคำถามว่าคุณปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

เอาล่ะ เรามาถึงอีกประเด็นหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นว่ามีการบุกยึด ปราบปรามการพนันออนไลน์ ที่แอบอิงตำรวจสายพลังประชารัฐบ้าง

ผมว่าสื่อมวลชนต่างๆ ถ้ามีข้อมูลกลุ่มพนันออนไลน์มากเท่าไร ย่อมต้องช่วยกันเปิดโปงข้อมูลให้มากที่สุด เราไม่ได้สนใจว่าเป็นกลุ่มทุนของใคร เอ๊ดดี้ สารวัตรซัว ได้ถูกเปิดโปงออกมาว่าเป็นกลุ่มพนันออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุด 2 อันดับแรก นับหมื่นล้าน แต่ที่มีการพูดกันยังน้อย คือ ฟลุ๊ค Mawinbet หรือตี๋น้อย JETSADABET ซึ่งมีขนาดใหญ่นับหมื่นล้านเช่นกัน รองลงมาอีกนิดระดับพันล้าน คือกลุ่มแทนไท ซึ่งกลุ่มนี้่จะมีตำรวจที่เป็นขาใหญ่ เรียกว่า "ปู่" หรือ "ปู่บุญธรรม" มาดูแลด้วยหรือไม่ ผมไม่บอก แต่ปู่คนนี้มีเอี่ยวผลประโยชน์ไปหมดเลย

สมมุติว่าปู่คนนี้มีชื่อว่า นายพล … ในวงการไม่มีใครมายุ่งด้วย สื่อทั่วไปก็ไม่กล้ากล่าวถึงปู่คนนี้ เพราะปู่คนนี้มักสร้างภาพให้คนเกรงใจ เข้าใจผิดว่าใหญ่มาก ระดับตั๋วช้าง ไม่มีใครมาเอาผิดได้


ผมไม่รู้ว่าจะพึ่งพาใคร มีตำรวจที่เชื่อมั่นอยู่ 2 คน ที่จะปราปรามได้ คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.ท.จักรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ดูแลงานไซเบอร์ ช่วยกันจัดการเว็บพนันออนไลน์กลุ่มนี้ ขจัดตำรวจชั่วพวกนี้ออกไปให้หมด อย่ามาทำร้ายสังคมแบบนี้อีกต่อไป

ขณะที่เอ๊ดดี้ เป็นกลุ่มพนันออนไลน์ที่บังเอิญมีตำรวจแอบอ้างและแอบอิงบารมีของลุงตู่ปกป้องคุ้มครองอยู่ แต่ก็โดนรุกหนักมากในเวลานี้

ผมเล่ามาตลอดเลย ตอนนี้ สถานการณ์ก็ถึงกาลฟาดกลับแล้ว สารวัตรซัว คือกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งที่เติบโตมาได้ด้วยการดูแลของ นายพล จ. แต่มีการรวบผลประโยชน์หลัก คือ ผู้กอง ป. ที่ไม่เอี่ยวเฉพาะการพนันออนไลน์เท่านั้น แต่เกี่ยวไปทั่ว รวมทั้งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งดูดเงินผ่านแอปพลิเคชันมือถือต่างๆ แต่ผมเชื่อว่า นายพล จ. วันนี้ไม่ได้กุมอำนาจเหมือนเดิมแล้ว วันนี้น่าจะมีคนอื่นยื่นมือมาจัดการได้มากกว่าสถานภาพของ นายพล จ. ในวันนี้

กว่าเว็บพนันออนไลน์จะเจริญเติบโตมาวันนี้ได้ เว็บพนันออนไลน์เหล่านี้หลายรายเคยถูกตำรวจล่อซื้อ อายัดบัญชี เจรจาจ่ายหนักเพื่อเคลียร์เรื่องราว ให้ปล่อยบัญชี หรือให้ปล่อยตัว และตามด้วยการจ่ายเงินรายเดือน หลังจากนั้นก็กลายเป็นเครือข่ายส่วยประจำที่ได้รับการคุ้มครอง ดูแลเปิดบริการ โฆษณาอย่างโจ๋งครึ่มในวันนี้

ท่านผู้ชมครับ บางเครือข่ายจะแบ่งโซนพื้นที่ผลประโยชน์ไปยุ่งเกี่ยว เช่น ระยอง กับชลบุรี ตำรวจคนละกลุ่มจะดูแลกัน บางเครือข่ายจะใช้วิธีใช้เซิร์ฟเวอร์เฉพาะที่ตำรวจจัดให้ เพื่อเช็กยอดเงิน ใครไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่จัดให้จะถูกปิด ถูกอายัดทันที

ส่วนผู้กองแป้ง นี่ก็แอบอิงบารมี พล.อ.ประวิตร ทำให้รวบอำนาจเป็นมาเฟียคอยเคลียร์ในช่วงเวลามีอำนาจ ด้วยเหตุนี้ แม้ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นคนรุ่นเก่า จะไม่ได้รู้ทันเรื่องเทคโนโลยี แต่เชื่อเถอะครับท่านผู้ชม คนข้างๆ รอบด้าน จะคอยเอาอกเอาใจเพื่อให้มีการลักไก่แอบอิงในการปกป้องอำนาจและผลประโยชน์อาชญากรรมไซเบอร์ต่อไป


ส่วนนายนอท กองสลากพลัส ต้องถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นชุมทางปลายน้ำ ของห่วงโซ่กลุ่มพนันออนไลน์ แม้ไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน ก็ต้องมาใช้บริการการฟอกเงิน นายนอท อยู่ปลายน้ำเลย เผอิญมีหน้าที่เปิดร้านเพื่อรับฟอกเงินโดยเฉพาะ แต่อย่าเพิ่งลืมนะท่านผู้ชม ว่ามีแพลตฟอร์มสลากออนไลน์เจ้าอื่น บางรายมีเบื้องหลังทำพนันออนไลน์เช่นกัน แต่ต้องการทำลอตเตอรี่ออนไลน์บางหน้าเพื่อฟอกเงินของตัวเอง บางส่วนก็โหมกระหน่ำเพื่อโค่น นอท กองสลากพลัส ด้วย

ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดนี้ผมเห็นว่าสื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งจอมแฉอย่างเฟซบุ๊ก "เหยื่อ" คุณอัจฉริยะ ชูวิทย์ รวมทั้งสื่ออื่นๆ ต้องช่วยกันเปิดโปง เพื่อบีบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ ปปง. ดีเอสไอ ตำรวจไซเบอร์ กระทรวงดีอีเอส ต้องเร่งดำเนินการปิดเว็บอาชญากรรมออนไลน์พวกนี้ ไม่ให้ทำร้ายสังคมต่อไป

ท่านผู้ชมครับ ทุกวันมีความสำคัญ ยิ่งดำเนินการได้เร็วขึ้น 1 วัน ยิ่งช่วยเหลือประชาชนไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรออนไลน์ ฉ้อโกงประชาชน เหล่านี้ได้มากขึ้นอีกนับหมื่นนับแสนคน

"ชูวิทย์" โกหกรัวๆ กับเกมการเมืองในมือ "ประยุทธ์"

รายการตอนนี้เป็นเรื่องที่ผมจะพูดกับท่านผู้ชม และพูดกับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผมอยากจะจับโกหกคุณชูวิทย์อีก เพราะคุณชูวิทย์มีเรื่องให้ผมต้องจับโกหกตลอดเวลา ผมเสียดายความเป็นคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถ้าพูดจาไม่โกหกหลอกลวง และไม่รับงานใครมา คุณจะมีประโยชน์กับสังคมไทยมาก


เผอิญคุณชูวิทย์มากล่าวหาผมในเรื่องส่วนตัวของผม ซึ่งคุณชูวิทย์โกหกออกสื่ออยู่ทุกเมื่อทุกวัน คุณชูวิทย์ครับ คุณแสดงละครลิงหลอกคนไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างให้ฟัง คุณอ้าง คุณพูดกับนักข่าวว่า "ผมเคยทำอาบอบนวด ผมก็เห็นพี่ไปเที่ยวดีนี่ครับ" คุณชูวิทย์ครับ หลายสิบปีที่ผ่านมา ปีนี้ผม 76 ต้องมีอย่างน้อย 40 ปี หรือเผลอๆ อาจจะ 45 หรือ 50 ปี ผมไม่เคยไปเที่ยวอาบอบนวดเลย ผมโลดแล่นในยุทธจักรก่อนที่คุณชูวิทย์จะตั้งอาบอบนวดแห่งแรกของคุณเสียอีก และคุณชูวิทย์ครับ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมไม่เคยไปเหยียบอาบอบนวดคุณเลย ถึงผมจะไป ผมก็ไม่ไปอาบอบนวดของคุณ ไม่มีครับ นี่คือคำโกหกที่แท้จริง


เรื่องที่สอง ที่คุณโกหกอย่างหน้าตาเฉย ผมยังนึกไม่ออกว่า คุณชูวิทย์ คุณสามารถจะทำหน้าทำตาได้อย่างไร เมื่อคุณรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่ไม่เป็นไร คุณบอกว่ามีป้อมๆ หนึ่ง หรือว่ามีห้องทำงานห้องหนึ่งที่เขาสร้างให้ผม "ให้พี่อยู่กลางระหว่างคลองเปรมกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อยู่ตรงกลาง เป็นป้อมสำเร็จรูปแบบใหม่ มีลูกน้องผมเป็นคนสร้างให้พี่เอง ไอ้ลูกน้องที่ติดคุก ค่าแรงยังไม่ได้เลยนะครับ สองหมื่นกว่า มันติดแอร์"

คุณชูวิทย์ครับ นี่้เป็นการโกหกที่ลึกซึ้งมาก แล้วก็เป็นการโกหกที่ไม่รู้จะอธิบายให้ฟังได้อย่างไรว่า คนอย่างคุณนี่ยังโกหกได้ถึงขนาดนี้ แล้วคุณชูวิทย์ คุณจำได้หรือเปล่าว่า คุณโกหกว่าผมอยู่ในเรือนจำ ผมอยู่อย่างสบาย เพราะว่าห้องขังผมนั้นติดแอร์ และสูบบุหรี่ได้ ผมนี่แทบไม่ต้องตอบคุณเลย เพราะว่าในข้อเท็จจริงแล้ว คุณชูวิทย์ครับ คุณก็รู้ อย่าให้ผมบอกเลย คุณก็รู้ ว่าในเรือนจำทุกแห่งในประเทศไทย ไม่มีห้องไหนเลยที่เขาติดแอร์ให้นักโทษนอน แล้วนักโทษจะไปนอนสูบบุหรี่ในห้องติดแอร์ได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันไม่มี ถึงอย่างไรก็ตาม นักโทษก็สูบบุหรี่ไม่ได้


คำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ชัดเจนแล้ว ว่าสิ่งที่คุณกล่าวหาผมนั้น คุณโกหกจริงๆ ผมไม่รู้ แล้วคุณก็ชอบพูดด้วยว่า ไม่รู้พี่สนธิมาโกรธอะไรผม ผมไม่ได้โกรธคุณ แต่สิ่งที่คุณทำกับผม ผมรำคาญมากกว่า เพราะผมนึกไม่ถึง คุณอายุ 62 ผมพูดผิด คุณไม่ใช่ 68 หรอก คุณแค่ 62 คุณอายุอ่อนกว่าผมตั้ง 14 ปี ผมเป็นรุ่นพี่คุณที่อัสสัมชัญศรีราชา ตอนนั้นผมเรียนชั้นสูงแล้ว ชั้น ม.ปลาย แล้ว คุณก็ยังแก้ผ้าเล่นน้ำฝนอยู่ คุณอย่ามาพูดลอยๆ คุณชูวิทย์ แล้วทางกรมราชทัณฑ์เขาสอบสวนสืบสวนมาเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจะมาสร้างห้องให้ผมนั่งได้อย่างไร คุณชูวิทย์ คุณเอาสติปัญญาที่คุณอาจจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง คิดให้ดีๆ ผมไม่เหมือนคุณนะคุณชูวิทย์ ไหนๆ คุณพูดแล้ว ผมจะพูดให้ท่านผู้ชมได้ฟังบ้าง


อีกเรื่องหนึ่ง คุณชูวิทย์ คุณนี่สุดยอดเลย ผมไม่รู้ว่าจิตใจคุณทำด้วยอะไร ที่คุณสามารถพูดโกหกได้หน้าตาเฉย คุณบอก "ตอนติดคุกผมติดก่อน พี่มาใหม่ ผมยังดูแล จัดคิวหมอตาให้พี่ เพราะว่าพี่จิตตก เบาหวานขึ้นตา" โอ้โห คุณชูวิทย์ ด้วยความสัตย์จริง คุณชูวิทย์ ด้วยความสัตย์จริงเลยนะครับ ผมจะพูดอะไรบางอย่างได้ไหม ผมไม่เคยจิตตกเลย ให้ตาย ผมเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างมาก แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าคุก ผมเป็นคนสงบนิ่ง


คุณไปถามเจ้าหน้าที่ที่รู้จักผมที่คลองเปรม อ่อ ผมลืมเล่าไป ผมติดอยู่ที่คลองเปรม ผมไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผมอยู่แดน 7 มีแต่คุณที่วิ่งเต้นตีนขวิด จากพิเศษกรุงเทพ ไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จะได้นอนสบาย แล้วผมไม่ไป และคุณรู้หรือเปล่าว่าในที่สุดแล้ว ผมถูกบีบบังคับให้ไป เพราะว่ามีคนร้องเรียนไปว่าผมไม่สบาย แต่ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่ยอมรับผม เขามาเชิญผมนะ ผมเองปฏิเสธที่ไม่ไป คุณไม่เชื่อ คุณไปถาม ผมไม่รู้ว่าคุณจะมีปัญญาไปคุยกับเขาหรือเปล่า ท่านอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์


ท่านเป็นคนบอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าให้รับคุณสนธิเข้าไปดูแลสุขภาพหน่อย อายุมากแล้ว คุณหมอวีระกิตติ์ ซึ่งท่านเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ตอนนั้น ท่านอุตส่าห์เดินเข้ามาขอร้อง คุณสนธิ เข้าโรงพยาบาลเถอะ ท่านอธิบดีสั่ง คุณไปถามได้ คุณชูวิทย์ ผมไม่ไป ไม่เหมือนคุณ ผมอยู่ที่ไหนผมอยู่ได้ และผมไม่ต้องออกมามโน

กลับมาเรื่องนี้ คุณไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่าผมเป็นเบาหวาน ผมไม่เคยเป็นเบาหวานเลย จนวันนี้ผมก็ไม่เป็น คุณบอกเบาหวานขึ้นตา อย่าว่าขึ้นตาเลย เบาหวาน น้ำตาลในตัวผมนี่ปกติธรรมดาที่สุด แล้วคุณอยากรู้ใช่ไหมตาซ้ายผมเป็นเพราะอะไร ตาซ้ายผมมันฝ้าฟางหมดแล้ว เพราะว่าผมเป็นต้อหิน คุณรู้ใช่ไหมว่าต้อหินคืออะไร ภาษาหมอเขาเรียก Glaucoma แล้วผมไม่ได้รับการรักษาอย่างกะทันหัน หมอเคยวินิจฉัยแล้วว่ามาจากการที่ผมถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 แล้วยังมีเศษกระสุน ตอนนี้ยังฝังอยู่ในหัวผม เพราะฉะนั้นข้อมูลที่บอกว่าผมเป็นเบาหวานขึ้นตานั้น โกหกพกลมอีกแล้วคุณชูวิทย์ คุณไม่พูด ไม่มีใครเขาว่าหรอกว่าคุณเป็นใบ้ แต่คุณพูดออกมามีแต่เรื่องอัปมงคลทั้งนั้นเลย ไม่มีอะไรเป็นสิรมงคลเลยคุณชูวิทย์

ผมเดินเข้าเรือนจำ ผมเดินเข้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ วันแรก วันที่สองผมร้องขอให้ผมย้ายไปที่คลองเปรมเลย แต่คุณชูวิทย์ คุณไปติดคุกอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คุณไม่อยากอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพราะอะไร เพราะคุณเคยเป็นต้นเหตุทำให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ต้องถูกไล่ออกจากราชการ เพราะคุณไปกล่าวหาว่าเขาหาก๋วยเตี๋ยวราดหน้าให้คุณจานละ 500 บาท ผมยังจำได้แม่นเลย พอคุณกลับเข้าไปติดคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ คุณกลัว คุณชูวิทย์ คุณกลัวใช่ไหม คุณกลัวว่าจะมีการเช็กบิลคืน คุณก็เลยวิ่งเต้น ใช้เส้นสายเต็มที่ เพื่อขอไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แล้วคุณก็ไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล หรือผู้ช่วยหมอ ทำหน้าที่ของคุณ คุณไปโม้ว่าคุณเป็นคนเก็บศพ ไม่ใช่หรอกครับคุณชูวิทย์ หน้าที่ของคุณตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล คือคุณวัดความดันของนักโทษ เราทำความเข้าใจตรงกันนะครับคุณชูวิทย์ แล้วสิ่งที่ผมพูดนี้ ผมไม่ได้มโน เพราะว่ามีนักโทษอยู่หลายคนที่ติดคุกในรุ่นนั้นและตอนนี้ออกมาแล้ว ยืนยันคำพูดผมได้ เดี๋ยวผมจะเอาคำแถลงของกรมราชทัณฑ์มา


นอกจากผมไม่ได้เป็นเบาหวานแล้ว คุณยังอ้างว่ามีบุญคุณกับผมอีกเรื่องลัดคิวหมอ คุณชูวิทย์ คุณเข้าใจอะไรผิด หรือคุณจงใจจะให้ร้ายผม พี่ชายผม ศ.ดร. นพ.ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล อดีตรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นคนติดต่อท่านอาจารย์ปริญญ์ ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แผนกตา ว่าช่วยรับผมเป็นคนไข้หน่อย เพราะว่าท่านเชี่ยวชาญในเรื่องของต้อหิน ซึ่งก่อนหน้านั้นผมออกไปรักษาตาที่โรงพยาบาลตำรวจ หมอที่รักษาผมชื่อ คุณหมอเพ็ญผกา เป็นตำรวจ คุณหมอรักษาผมสักพักหนึ่ง คุณหมอบอกว่าต้อหินนั้นคุณหมอไม่ชำนาญ แต่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ มีแพทย์ที่ชำนาญ คืออาจารย์ปริญญ์ นั่นคือที่มาว่าผมขอร้องให้พี่ชายผมนัดอาจารย์ปริญญ์ให้ นี่คุณแทรกมาตรงไหน คุณลัดคิวให้ผม คุณจะโกหกพกลม คุณตั้งสติหน่อยได้ไหม สร้างเรื่องให้มันเป็นเรื่องที่เป็นข้อเท็จจริงสักนิดหนึ่ง อย่างน้อย แต่นี่ไม่มีข้อเท็จจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณเป็นใคร ที่ไหน อยู่ดีๆ ผมจะต้องไปไหว้วานให้คุณทำอะไรให้ผม ไม่มีความจำเป็นเลย ขนาดผมไม่ไปโรงพยาบาล ก็ยังจะมาขออุ้มผมไปโรงพยาบาล แล้วคุณคือใคร คุณไปถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือนจำ ทั้งคลองเปรม และทั้่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่า เมื่อผมอยู่ในนั้น ผมเป็นนักโทษที่ดีมาก อยู่ในระเบียบวินัย คุณชูวิทย์ครับ คุณพูดบอกว่า "มีสื่อบางสื่ออย่างเช่นนายสนธิ พี่สนธิ ไปทำกัญชา ไปทำกัญชาเพื่อโน่นเพื่อนี่ แล้วก็เชียร์กัญชาโดยตลอด แต่จากการผลการวิจัยทั่วโลก มีบอกเลยครับว่ากัญชาไม่ได้รักษาให้หาย มิหนำซ้ำยังมีผลร้ายด้วย" โอ้โห คุณชูวิทย์ แต่ละเรื่องๆ ที่คุณโกหกมานี่นะ มี FC คุณเท่านั้นเองที่เชื่อคุณ เพราะว่าคุณพูดว่าพรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้นทางตะะวันตก เขาก็เชื่อคุณ คุณชูวิทย์ครับ ตัวผมไม่เคยมีธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ไม่เคยปลูกกัญชาเพื่อการค้า ต้นหนึ่งก็ไม่เคย แม้แต่คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ออกมาสู้เรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์ กัญชาสักต้นก็ไม่มีปลูกเลย


คุณชูวิทย์ คุณยอมรับไหม ไม่เหมือนคุณ ตอหลดตอแหลออกมาบอกว่าต้านกัญชาเสรี พี้กัญชาเสรี แต่คุณชูวิทย์ยอมรับหรือเปล่า คุณเบี่ยงเบนเรื่องนี้มาตลอด ไม่ยอมตอบ พูดถึงเรื่องนี้ทีไร คุณอารมณ์เสียทุกที เพราะอะไร คุณชูวิทย์ เพราะครอบครัวคุณเอง ลูกตัวเอง กลับไปเปิดร้านกัญชาชื่อ CHUWEED ในโรงแรมของคุณเอง แต่พอถูกจับได้กลับกลับกลอกว่าเป็นร้านให้เช่าบ้าง ลูกอยากทำบ้าง แล้วก็ยังมโนว่าคุณไม่เห็นด้วย

คุณชูวิทย์ครับ ผมและอาจารย์ปานเทพยืนยันว่าไม่เคยมีธุรกิจการค้าอะไรเกี่ยวกับกัญชา ที่ออกมาต่อสู้เรื่องนี้เพื่อผู้ป่วยและประชาชนที่ได้ประโยชน์ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ในการดูแลสุขภาพ การรักษาโรคด้วยศาสตร์ของแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน เราเข้าใจตรงกันนะครับคุณชูวิทย์ คุณพูดจาออกมาแล้วทำให้คนเข้าใจผิด คือคุณนึกจะพูดก็พูด ผมถึงบอกไงคุณชูวิทย์ ถ้าคุณไม่พูด ไม่มีใครเขาว่าคุณเป็นใบ้หรอก แต่ไหนๆ จะพูดแล้ว พูดเรื่องที่เป็นสิริมงคลบ้างได้ไหม

เรื่องราวต่างๆ ที่คุณอ้างว่าผมเป็นเบาหวานถึงขึ้นตา โน่นนั่นนี่ คุณชูวิทย์ คุณล้ำเส้นมาก นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม คุณมีโรคภัยไข้เจ็บที่ร้ายแรงอยู่ ผมก็รู้ แต่ผมไม่เคยพูดเลยนะคุณชูวิทย์ ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ มิหนำซ้ำเลย รายการวันนี้ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับลูกชายคุณที่สนิทสนม ... ฟังให้ดีๆ คุณชูวิทย์ ผมไม่ได้ว่าลูกชายคุณ ที่สนิทสนมมากกับพวกที่ถูกหมายจับในเรื่องของบ่อนพนันออนไลน์หลายคน คุณรู้ไหมว่าผมพูดกับทีมงานว่าอย่างไร ผมบอก เฮ้ย อย่าไปเอามาพูดเลยดีกว่า ถึงแม้จะมีรูปให้ดู ว่าไปงานแต่งงานกัน อยู่ปาร์ตี้ด้วยกัน มีรูปลูกคุณ ผมว่านั่นเป็นลูกเขา เดี๋ยวจะหาว่าผมรังแกเด็ก ผมก็เลยไม่พูด แต่คุณนี่ไม่ได้นะ ทั้งๆ ที่ไม่จริง คุณก็เอาเรื่องส่วนตัวผมมาพูด

ผมว่าคุณจะไปได้ไกลมากถ้าคุณมีหิริโอตัปปะ หิริโอตัปปะที่ผมพูดถึงคืออะไร ? ละอายในชั่ว กลัวในบาป บาปอะไรล่ะ ? บาปที่คุณทำอยู่ด้วยการโกหกพกลมไง แล้วคุณเคยพูดนะคุณชูวิทย์ ว่าเห็นข้างหลังมีรูปพระ นี่พ่อแม่ครูอาจารย์ผม หลวงตามหาบัว อาจารย์ผม บอกทำไมผมไม่สงบบ้าง คุณชูวิทย์ครับ เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณชูวิทย์ ผมจะพูดอะไรให้คุณฟัง ผมเป็นคนที่สงบ สงบมานานแล้ว นิ่ง คนที่ผ่านการถูกลอบสังหารมาด้วยปืน 200 นัด คนที่ติดคุกติดตะรางมา ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นคนปฏิบัติธรรม ผมไม่สงบอย่างนี้หรอก ต่างกับคุณ คุณชูวิทย์ คุณเป็นคนเร่าร้อน รุ่มร้อน ลุกลี้ลุกลน


คุณรู้หรือเปล่า ผมไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวของคุณมาพูด เป็น 10-20 ปีแล้ว คุณชูวิทย์ ผมสวดมนต์ไหว้พระและผมนั่งภาวนาวันละ 45 นาที ทุกวันนี้ที่ผมสงบและผมอดทนกับคำให้ร้ายที่คุณให้กับผม ก็เพราะการปฏิบัติธรรมของผม ผมแผ่เมตตาให้คุณทุกวันนะ ไม่หยุดเลยแม้แต่นิดเดียว ผมมีมุทิตาให้คุณตลอดเวลา คุณเข้าใจคำว่มุทิตาไหม ผมไม่รู้ว่าคุณเข้าใจหรือเปล่า มุทิตา ผมหวังให้คุณได้เป็นคนดี ที่สำคัญ คุณอย่าโกหก แต่ผมเมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว คุณก็ยังโกหกอยู่ตลอดเวลา ผมก็เลยจำเป็นต้องใช้อุเบกขา คือปล่อยมันไป

ไหนๆ คุณพูดเรื่องพระเรื่องเจ้าแล้ว ผมคงไม่ต้องถามคุณคำถามนี้นะ เดี๋ยวคุณจะหาว่าผมดูถูกคุณ คุณคงรู้จักรพระพุทธเจ้าใช่ไหม ผมก็เคารพ ผมกราบพระ ผมสวดคาถาพระปริตร วันละประมาณ 11 บท

เอาล่ะ ผมจะเอาอะไรให้คุณดูอย่างหนึ่ง ในบันทึกพระสุตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เล่มที่ 1 ผมสรุปแล้วกันว่าพระพุทธเจ้าพูดว่าอย่างไร คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณชูวิทย์ครับ ระบุสรุปเป็นคำสอนสั้นๆ ในพระสูตรนี้ พระองค์ท่านตรัสว่า "คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่วนั้น ไม่มี" นี่คือคำพูดของพระพุทธเจ้า ผมต้องเชื่อพระพุทธเจ้าสิ ในเมื่อพระพุทธเจ้าบอกว่า คนพูดเท็จไม่ทำชั้วนั้นไม่มี จบไหมครับ สมัยผมเรียนอัลจีบราอยู่ ผมจำได้ อาจารย์บอกพอเรียนธรรมจบแล้ว ก็คำว่า QED ซ.ต.พ. จบ

คุณชูวิทย์ อย่าโกรธ อย่าใช้อารมณ์ พอคุณใช้อารมณ์ทีไร สติคุณแตก พอสติคุณแตก สิ่งที่คุณพูดไป คุณโกหกไปตอนต้น คุณจำไม่ได้ หลายๆ เรื่องคุณจำไม่ได้


ทีนี้ หลายคนคงสงสัยว่าเกมแฉของคุณชูวิทย์ กับหมากการเมืองในมือ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น มันเกี่ยวพันกับได้อย่างไร หลายคนสงสัยว่าทำไมเกมแฉของคุณชูวิทย์ ไปเกี่ยวโยงอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ มันเป็ฯตลกร้ายครับ มีคนเกลียด พล.อ.ประยุทธ์ หลายคน ออกมาเชียร์ชูวิทย์ให้ออกมาแฉ แต่คนที่เป็น FC คุณเขาไม่รู้หรอกว่าการแฉของคุณ สุดท้ายก็เหมือนกับการเตะหมูเข้าปากหมา เพราะว่าสุดท้ายจะนำไปสู่ความปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง หรืออาจจะไปสู่สถานการณ์ที่ไม่มีการเลือกตั้งเลยก็ได้

ในรายการตอนที่แล้ว ผมเคยเกริ่นนำให้ท่านผู้ชมได้รับทราบไปแล้วถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เสธ.หิ หรือ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ ซึ่งปัจจุบันเป็นนายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ คนๆ นี้เป็นมือทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วก็สนิทสนมกับคุณชูวิทย์อย่างมาก


ผมจำได้ พอถูกเปิดออกมา คุณชูวิทย์ฉุนเฉียวออกมาเลย ไอ้หิน่ะเหรอ มันสั่งผมได้เหรอ อะไรที่คุณฉุนเฉียวออกมา สไตล์ของคุณ จากการวิเคราะห์ของผม มันจริงหมดทุกเรื่อง คุณต้องฉุนเฉียวก่อน เหมือนตอนที่เขาเข้าไปดูเรื่องร้านกัญชาของลูกชายคุณ คุณฉุนเฉียวเลย คุณเบี่ยงเบนประเด็น เอามือปัดของบนเคานต์เตอร์ตกให้หมดเลย แล้วเอาเท้ากระทืบ เหยียบๆๆๆ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ตอนนี้คุณเบี่ยงเบนประเด็นอีกแล้ว


นอกจากคุณหิมาลัยแล้ว ยังรวมถึงคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านผู้ชมคงสงสัยว่าทำไมการรับงานแฉแบบรัวๆ ของคุณชูวิทย์แบบไม่หยุดไม่หย่อน ไม่พักไม่ผ่อน จนมีคนโง่ๆ หลายคนหลงคารม หลงเชื่อลมปากของนายชูวิทย์แบบไม่ฟังข้อมูลจากที่อื่นเลย ถึงไปเกี่ยวอะไรกับการเมือง แล้วไปเกี่ยวอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมได้เรียนตอนต้นแล้วว่า ยิ่งคุณชูวิทย์แฉเท่าไร ยิ่งส่งผลดีต่อหมากเกมในกระดานการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ มากเท่านั้น ทำไมผมถึงพูดอย่างนั้น ? ผมมีเหตุผล


ข้อที่หนึ่ง ท่านผู้ชมต้องทราบว่าการถือกำเนิดของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. เป็นไปอย่างปัจจุบันทันด่วนมาก คือก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2565 จนถึงปัจจุบันอายุแค่ปีเดียว

ข้อที่สอง ท่ามกลางเกมการเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กต่างยืนอยู่ได้อย่างยากลำบาก เหลืออยู่พรรคขนาดใหญ่ หรือพรรคขนาดกลางอย่างพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก้าวไกล และอีกไม่กี่พรรคเท่านั้น ทำให้โอกาสในการแย่งชิง ส.ส. ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ริบหรี่อย่างยิ่ง ริบหรี่มาก

ด้วยเหตุนี้ ข้อที่สาม ในสถานการณ์เช่นนี้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยได้ แม้ว่าจะเหลือเวลาในการดำรงตำแหน่งเพียง 2 ปีเท่านั้น พรรครวมไทยสร้างชาติจำเป็นต้องมีเสียง ส.ส. ในการเลือกตั้งอย่างน้อยที่สุด 25 เสียง เพื่อพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ข่าวเชิงลึกที่ผมรับทราบมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการจะได้เสียง ส.ส. มากถึง 50 เสียง เพื่ออะไร ? เพื่อความสง่างาม คุณประยุทธ์ชอบมากเรื่องความสง่างาม ความเท่ ได้ 50 เสียง ในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ดีกว่าได้ 26 เสียง ปริ่มๆ น้ำ แล้วโดนคนนินทาหมาดูถูก


ด้วยเหตุนี้ ข้อที่สี่ ยิ่งมีข่าวสะพัดออกมาว่ามีข้อตกลงลับๆ ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง 2566 นี้แล้ว ยิ่งบั่นทอนโอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการกลับมานั่งเป็นนายกฯ ได้ยากยิ่งขึ้น อย่าว่าแต่พรรครวมไทยสร้างชาติที่พยายามจะกวาดคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ได้มากกว่า 25 เสียง หรือ 50 เสียง ด้วยเหตุนี้มันก็นำมาสู่ข้อที่ห้า


เป็นการเดินเกมไม้แรกเพื่อตกปลาในบ่อเพื่อน เพื่อดึง ส.ส. เข้า ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแต่ละพรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต่างออกมาโวยวาย แต่มีพรรคเดียวที่ยังมาแรงที่สุด ที่ผ่านมาหลายเดือน ส.ส. ยังไม่ถูกตัดออกไป นั่นคือพรรคภูมิใจไทย ที่ในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ จากการทำโพล และจากการทำข้อมูล เขายืนยันว่าเขาจะได้ ส.ส. มากกว่า 100 เสียง แน่นอน ท่านผู้ชมครับ ส.ส. ระดับ 100 เสียง ++ ย่อมเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอนที่สุด

ด้วยเหตุนี้ ข้อที่หก นี่จึงเป็นยุทธศาสตร์เกมไม้ที่สอง ที่มาของภารกิจเตะตัดขา ตัดไม้ข่มนาม ภูมิใจไทย คนที่อยู่เบื้องหลังใช้คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นหมากที่ออกมาแสดงละครหลอกคนดู ไล่มาตั้งแต่การจัดการแก๊งตู้ห่าว ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้กองธรรมนัส ก็คือพูดง่ายๆ ว่าเตะตัดขาล่ะ ตู้ห่าวอาจจะเป็นแหล่งเงินแหล่งทุนที่จะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ก็เตะตัดขาไปเลย เพื่อชงเรื่องให้เกิดหัวเชื้อ ไปสู่การยุบพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากตู้ห่าว หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นั้นมีหลักฐานการเป็นผู้บริจาคเงินให้กับพรรคพลังประชารัฐ


ถัดมาคือการจัดการกับแก๊งพนันออนไลน์ที่มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงไปถึงคนในสายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยง ที่ผมได้พูดไปแล้ว

ท่านผู้ชมได้รับทราบต่อไปเกี่ยวกับวาระซ่อนเร้นทางการเมืองของการจัดการกับแก๊งทุนสีเทา แก๊งพนันออนไลน์ ผมพูดไปแล้วเมื่อกี้นี้ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องการเมือง


แล้วการจัดการกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน และตระกูลชิดชอบ รวมไปถึงองคาพยพ ใช้ข้อกฎหมายจี้ไปที่จุดอ่อนทั้งหลาย เพื่อบีบให้ ส.ส. เข้ามารวมที่พรรครวมไทยสร้างชาติให้ได้มากที่สุด ด้อยค่า ข่มขวัญนายอนุทิน ว่าไม่มีทางเป็นนายกฯ ได้ แล้วก็จัดการกับกรณีรถไฟฟ้าสีส้ม กรณีนายศักดิ์สยาม เป้าหมายสุดท้ายที่นายชูวิทย์ยืนยันออกมาอย่างมั่นอย่างเหมาะว่าจะทำทุกอย่างเพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย นำหัวเชื้อทุกอย่างไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังจะปะทุออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า


ท่านผู้ชมครับ ถ้ามีการยุบพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทยถูกยุบ พรรคเพื่อไทย ซึ่งกรณีพรรคเพื่อไทยนั้น มีคดีค้างอยู่จากหลายๆ เรื่องที่มีการยื่นฟ้องร้องกันอยู่จากฝีมือของนักร้องทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุณศรีสุวรรณ จรรยา คุณเเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คุณสนธิญา สวัสดี หรือแม้กระทั่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจจะถูกยุบก็ได้ จากการปราศรัยของคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในการปราศรัยใหญ่ของพรรคที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่กล่าวอ้างถึงสถาบัน ดึงสถาบันเข้ามาเล่นการเมือง


ผมถามว่า ถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกยุบ พล.อ.ประยุทธ์ แคร์ไหม ? ไม่แคร์ครับ เพราะนั่นจะไปสู่สถานการณ์ที่ไม่มีการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะเกิดรัฐประหารขึ้นก็ได้

ท่านผู้ชมครับ ผมปีนี้ 76 ผมเห็นเกมการเมืองอย่างนี้มาตลอดชีวิตผม ทำข่าวสัมผัสกับนักการเมืองเหล่านี้ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำมาห้าสิบปีจริงๆ เรื่องคุณชูวิทย์นั้น เป็นแค่เรื่องละครโกหกฉากหนึ่งที่เป็นเป้าหลอก ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง

สาเหตุที่ผมต้องมาจับโกหกคุณชูวิทย์ และจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่าคนอย่างคุณชูวิทย์ เป็นอันตรายต่อสังคมไทยอย่างยิ่ง แม้วันนี้คุณจะเป็นฮีโร่ในสายตาประชาชนบางกลุ่ม แต่คุณชูวิทย์เชื่อผมอย่างหนึ่งสิ กาลเวลาพิสูจน์มาแล้วว่าใครเป็นของจริง ใครเป็นของปลอม ผมไม่รู้ คุณชูวิทย์ คุณคงไม่ได้ติดตามเรื่องราวของผม แต่ท่านผู้ชมหลายท่านติดตามเรื่องราวของผม ท่านผู้ชมจำได้ไหม ตอนที่ คสช. เข้ามายึดอำนาจ มีคนถามผมว่าแปลว่าอะไร ผมตอบไป 2 เรื่อง


เรื่องแรก นี่คือสมบัติผลัดกันชม เรื่องที่สอง หนีจระเข้ปะเสือ ก็คือ บูรพาพยัคฆ์

ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ท่านผู้ชมอาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนนั้นก็ได้ ด่าผมเช็ดเลย เพราะตอนนั้นท่านกำลังภูมิใจ โอ๋กับพวกทหารทั้งหลาย ลุงตู่มีบุญคุญกับประเทศชาติมาก ทำไมต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ โน่นนี่นั่น วันนี้ทุกคนเงียบสนิท เพราะทุกคนเข้าใจดีแล้ว ผมยังพลาดอยู่เรื่องเดียว พลาดจริงๆ คือผมเป็นคนที่ดันเห็นอะไรล่วงหน้า และเห็นก่อนชาวบ้านเขา เหมือนกัน กรณีที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อกี้นี้ มันก็น่าจะออกมาในรูปแบบนั้น ละครรูดม่านเปิด ก็ต้องมีวันรูดม่านปิด อันนี้เป็นสัจธรรม เหมือนเช่นสัจธรรมที่ผมเกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว คุณชูวิทย์ "ความจริงมีหนึ่งเดียวเท่านั้น"

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นตอนสุดท้ายของรายการวันนี้ ผมอยากจะพูดอะไรให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่ง บางท่านที่ติดตามผมมาตลอด อาจจะไม่ใช่ของใหม่สำหรับท่าน แต่หลายๆ ท่าน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมมีเรื่องมีราวกับคุณชูวิทย์ เพิ่งจะเข้ามาฟัง เข้ามาดู แล้วก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผม เพราะว่าเหมือนกับผมไปเตะตัดขาคุณชูวิทย์ ไม่ใช่หรอกครับ ทำความเข้าใจกันก่อนว่า แต่ไหนแต่ไรมา ผมเป็นคนที่ชอบให้ปัญญาคน ให้มาตลอด ที่ผมต้องให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ผมออกมาจากเรือนจำ ปี 2562 ปลายปี ที่ผมตัดสินใจทำรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" นั้น


เพราะว่าผมต้องการเอาประสบการณ์ชีวิตของคนอายุเจ็ดสิบกว่า ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเป็น-ความตาย ผ่านหมดทุกอย่าง ตลอดจนองค์ความรู้ของตัวเอง ข้อมูลที่ผมให้ความสนใจในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่หนุ่มแน่นมาถึงปัจจุบัน ผมชอบให้ปัญญาคน

ขอประทานโทษท่านผู้ชมครับ สังคมไทยเป็นสังคมที่ด้อยปัญญามาก ยิ่งผมเห็นคนที่ลุ่มหลง หลงใหล คลั่งไคล้คุณชูวิทย์แล้ว ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าความเชื่อของผมนี้่ไม่ผิดเลย

การให้ปัญญาคนเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่การให้ปัญญาคน หัวใจสำคัญคือความจริงต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้น นี่คือการให้ปัญญาคน ถ้าให้ปัญญาคนด้วยการโกหกพกลม เหมือนคุณชูวิทย์ อันนั้นไม่ใช่ให้ปัญญาคน นั่นคือการให้ยาพิษกับสังคมไทย เพราะฉะนั้นแล้ว การให้ปัญญาคนต้องยืนหลักความจริงมีหนึ่งเดียวเท่านั้น ต้องไม่พูดจากลับกลอก ไม่มีวาระซ่อนเร้น


ท่านผู้ชมครับ แต่ละอาทิตย์ นอกจากส่วนตัวผมแล้วที่ผมต้องศึกษาหาข้อมูล ทีมงานที่เข้มแข็งของผม และเก่งในเรื่องการค้นหาข้อมูล ก็จะเอาข้อมูลที่เตรียมไว้ขึ้นมาวางบนโต๊ะให้ดูกันว่า ถ้ามีอะไรเป็นข้อสงสัย ก็ต้องกลับไปค้นคว้าเพิ่มเติม หรือสอบถามเพิ่มเติม เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ออกรายการตอนที่ 1 ในปลายปี 2562 จนถึงวันนี้ แล้วก็จะเป็นอย่างนั้นต่อไป จนกว่าผมจะหยุดทำหรือว่าผมหมดลมหายใจไป


ท่านผู้ชมครับ เพราะทุกอย่างในประเทศไทยจะไปได้ด้วยการที่ประชาชนต้องมีปัญญา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เพราะความหลากหลายทางสถานภาพของประชาชนแต่ละคน ตลอดจนการรับรู้พื้นฐานทางการศึกษาไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" จึงต้องเป็นรายการที่ใช้ภาษาพูดที่ชาวบ้านสามารถจะเข้าใจเรื่องที่สลับซับซ้อนได้ จากการอธิบายแบบภาษาชาวบ้านของผม แต่ท่านผู้ชมครับ จะทำวิธีไหนก็ตาม หัวใจสำคัญที่อยู่กับรายการนี้ และอยู่กับตัวผมตลอดเวลานี้ จากเมื่อวานมาถึงวันนี้ และต่อไปในอนาคต ก็คือ ความจริงต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้น ถ้าจะแปลเป็นหลักธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัวสอนผม ท่านพูดบอกว่า สนธิ เอาธรรมนำหน้านะ เพราะธรรมคือความจริง ไม่มีอะไรชนะความจริงหรือธรรมได้หรอก ไม่มี อาจจะดูเพลี่ยงพล้ำในตอนต้น เหน็ดเหนื่อยหน่อย แต่ในที่สุดแล้ว ธรรมจะพิสูจน์ให้ชัดว่าความจริงมีหนึ่งเดียว

ยิ่งในยุคโซเชียลมีเดียที่คนสามารถเข้าถึงหน้าเพจต่างๆ ได้ การทำความเข้าใจในข้อมูลเพจต่างๆ นั้น มันมีข้อจำกัด และยิ่งหากนำเสนอโดยคนที่หิวแสง หลงตัวเอง และต้องการให้คนมาอวยตัวเอง อยากเชิดชูตัวเองเป็นพระเอกของสังคมว่าต่อสู้เพื่อประชาชน ซึ่งร้อยทั้งร้อยก็จะจบลงด้วยการถูกจับได้ว่าโกหก เพียงแต่ว่าเมื่อไรเท่านั้นเองที่ถูกจับได้


ในกระบวนการขั้นตอนต่างๆ นั้น คนที่ลุ่มหลง หลงใหล คลั่งไคล้กับคนหิวแสง ก็จะถูกอารมณ์ร่วมในการเกลียดชังในเรื่องราวต่างๆ ที่ตัวเองประสบอยู่ เช่น กรณีความประพฤติ ความชั่วร้าย ที่วงการตำรวจมีอยู่ในสังคมนี้ ประชาชนเกลียดตำรวจมาก เผอิญคุณชูวิทย์จับจุดอ่อนของสังคมได้ ก็เลยสร้างกระแสตัวเองขึ้นมา จากประเด็นการโจมตีตำรวจ เจาะเข้าไปในเรื่องราวของกลุ่มอาชญากรสีเทาและสีดำ ทุกคนดีใจก็เห็นชูวิทย์เป็นดาวรุ่ง ผมก็ดีใจ เป็นคนที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพียงเพราะว่าได้มีการพูดถึงกลุ่มที่คนประชาชนเกลียดชังอยู่แล้ว อารมณ์ร่วมก็เลยปรี๊ดขึ้นมาอย่างสูง ต่อจากนั้นแล้ว พอชูวิทย์พูดอะไรก็ตาม จะจริงหรือไม่จริง ก็จะยึดถือคำพูดของชูวิทย์เป็นสรณะ

ท่านผู้ชมครับ เรื่องบางเรื่องถ้าหยุดคิดสักนิด ก็จะเห็นว่าบางเรื่องนั้นมันมีอะไรผิดปกติ แต่คนที่คิดอย่างนี้ได้ ต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการว่า ความจริงนั้นต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้น อย่างเช่นการที่ตำรวจที่ประชาชนเกลียดชัง โดยชูวิทย์เป็นคนนำหัวขบวนขึ้นมา ถ้าท่านผู้ชมคิดเป็น ก็จะรู้สึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หายไปไหน ทำไมคุณชูวิทย์ไม่ออกมาแจกแจงความผิดหรือความไม่รับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณชูวิทย์น่าจะต้องไปบีบคั้น พล.อ.ประยุทธ์ ว่าทำไมไม่จัดการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เด็ดขาด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. คนนี้ เข้ามาแค่ปีเดียว กลายเป็นหนังหน้าไฟ


คุณชูวิทย์เคยพูด บอกว่าเขาเคยตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ แต่หลังจากที่คุณหิมาลัย ผิวพรรณ พาคุณไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ 2 ครั้ง วันที่ 9 มกราคม และวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ท่าทีของคุณกับ พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนไปเลย การออกมาเจาะเรื่องราวของตู้ห่าว โดยเฉพาะเมื่อไปพัวพันกับกรณีของหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีรถทัวร์กว่า 400-500 คัน ของบริษัท M&M Transport Service จำกัด สุดท้ายเงียบหายไปกับการแสดงละครของคุณ น่าเสียดาย ถ้าคุณไม่มีวาระซ่อนเร้น คุณน่าจะลุยต่อไปเลย แต่พอคุณไปเจอ พล.อ.ประยุทธ์ 2 ครั้ง ทีท่าของคุณเปลี่ยนไปหมด คุณไม่แตะ พล.อ.ประยุทธ์ อีกเลยแม้แต่นิดเดียว


นอกจากนั้นแล้ว คนที่ชอบคุณชูวิทย์อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็จะไม่สนใจว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่น่าเสียใจและน่าเศร้า กลับยอมรับการโกหกของคุณชูวิทย์ ที่ถูกจับได้หลายต่อหลายกรณี โดยไม่ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมคนๆ หนึ่งที่ประชาชนลุ่มหลง หลงใหล ถึงพูดจากลับกลอกแบบนี้

ยกตัวอย่าง กรณีรถไฟฟ้าสีส้มที่คุณชูวิทย์สาบถสาบาน คุณชูวิทย์นี่สาบานเก่งมากๆ ไม่ได้รับงานใครมา แล้วท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่าว่า ที่คุณชูวิทย์บอกว่าส่งเอกสารร้องเรียนพร้อมกับข้อมูลต่างๆ ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี แล้ว ผมเป็นคนเปิดโปงเองว่าคุณชูวิทย์ มันตลกนะ เอกสารที่คุณส่งไปมันเป็นเอกสารชุดเดียวกับที่บีทีเอสเคยส่งไปร้องเรียนแล้ว รายละเอียดหน้าต่อหน้า ภาพต่อภาพ หนา 1 ปึก ตัวเลขเต็มไปหมด กราฟเต็มไปหมด มีอยู่ส่วนเดียวที่ไม่เหมือนกับที่บีทีเอสส่งไป ก็คือใบปะหน้า เปลี่ยนใบปะหน้า กลายเป็นคุณชูวิทย์เซ็น


คำถาม ผมก็เลยถาม ถ้าประชาชนคิดเป็น นี่มันเอกสารร้องเรียนของบีทีเอสนี่ แล้วทำไมคุณชูวิทย์ถึงบอกว่าไม่ได้รับงานใครมา คุณชูวิทย์ ถึงเวลาคุณต้องยอมรับ แล้วในที่สุดคุณก็ยอมรับเองไม่ใช่หรือ คุณยอมรับว่าอย่างไร นี่มันตลกร้าย คุณยอมรับ คุณเถียงไม่ออก คุณก็บอกว่าใช่ ผมรับงานมา มีอะไรหรือเปล่า แล้วคุณก็ใช้วิธีเดิมๆ ของคุณ ก็คือ ยกมือสาบาน แต่ผมไม่ได้รับเงินนะ อันนั้นผมไม่รู้ คุณรับหรือไม่รับ มีคุณคีรีรู้ คุณชูวิทย์รู้ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างบนรู้ แต่ผมไม่เข้าไปเจาะเรื่องนี้

แต่นี่มันเป็นตลกร้าย สะท้อนให้เห็นถึงความด้อยปัญญาของคนที่ลุ่มหลง มัวเมา หลงใหลในตัวคุณชูวิทย์อย่างมืดบอด ไม่ได้คิดเลยว่าในที่สุดแล้วเมื่อคุณชูวิทย์ออกมายอมรับทางหน้าเฟซบุ๊กตัวเองว่า ผมรับงานมา แล้วจะทำไม ด้วยวาทกรรมแบบนี้ทำให้คนหลงใหลคุณชูวิทย์ น้ำหูน้ำตาไหลพราก โดยลืมไปว่านี่คือการพูดจากลับกลอกตามภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าโกหกพกลม ตอหลดตอแหล

มันเกิดอะไรขึ้นกับ "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" มันหายไปไหนแล้ว กลายเป็นว่าสังคมไทยส่วนหนึ่งก็ชอบที่คุณชูวิทย์โกหกพกลม แล้วอีกเรื่องหนึ่งคุณชูวิทย์พูดชัดเจน ทุกคนรู้หมด วันที่อยู่หน้าทำเนียบฯ มันกำลังปรี๊ดอยู่


คุณชูวิทย์ก็พูดบอกว่า มีการโอนเงิน 3 หมื่นล้านบาท เข้าบัญชีธนาคาร HSBC ที่สิงคโปร์ คุณชูวิทย์บอกว่า ผมมีเบอร์บัญชีอยู่ แต่ต่อมาภายหลังคุณชูวิทย์ถูกจี้หนัก แล้วคนที่จี้คือพวกผม คนอื่นไม่จี้ พอคนอื่นเข้าไปจี้ปั๊บ คุณชูวิทย์ก็อาละวาดใหญ่ เล่นละคร โวยวาย แกล้งทำบ้า เพื่ออะไร ? เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่จะต้องตอบคำถามนี้ แต่ในที่สุด คุณชูวิทย์ก็ใช้ตรรกะที่หลอกเฉพาะคนโง่ๆ ได้ โดยพูดว่า โครงการยังไม่เสร็จ ยังไม่สามารถเข้า ครม. ได้ เพราะฉะนั้นเงินก็ยังไม่ได้โอน 

อ้าว! นี่มันตรรกะวิบัตินี่ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะรับได้ แต่คนที่มีสติ พร้อมที่จะใช้ความจริงที่มีหนึ่งเดียวเป็นหลักในการคิด ก็ย่อมรู้ว่าคุณชูวิทย์โกหกหลอกลวง ใช้ประโยชน์จากการที่ประชาชนเชื่อถือตัวเอง เพราะคนที่เชียร์คุณชูวิทย์นั้นก็เป็นเครื่องมือของคุณชูวิทย์ ทุกคนก็มารุมด่าผม ก็เหมือนที่คนเขาถามผมว่า คสช. ยึดอำนาจ มันหมายความว่าอย่างไร ที่ผมบอกหมายความว่า สมบัติผลัดกันชม แล้วหนีจระเข้มาปะเสือ ก็รุมด่าผมเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้สึกหรอกครับ เพราะว่าพ่อแม่ครูอาจารย์สอนผมว่า สนธิ ธรรมนั้นต้องใช้เวลา เพราะคนชอบอธรรมมากกว่าธรรม อดทนเอาไว้ แล้วในที่สุดธรรมก็ชนะ


อีกอย่างหนึ่งก็เป็นเรื่อง อดีตผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. คุณชูวิทย์ก็ถล่มผู้พิพากษาคนนี้ กล่าวหาอย่างผิดๆ ไม่มีข้อมูล ข้อเท็จจริง วัตถุประสงค์ก็เพื่อจะโยงผู้พิพากษาคนนี้ให้เข้ากับเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังถูกส่งเข้าไปใน ป.ป.ช. รวมทั้งโยงว่าเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับคู่กรณีของคุณชูวิทย์ ก็เป็นิศิษย์เก่าสวนกุหลาบ คือคุณเนวิน ชิดชอบ แล้วตั้งข้อหาว่าเป็น สวนกุหลาบคอนเนกชัน ในที่สุดข้อมูลก็ออกมาชัดเจนว่า ผู้พิพากษาคนนี้ได้รับการโปรดเกล้าฯ มาแล้วจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีการตรวจสอบทุกอย่างถูกต้องหมด สิ่งที่คุณชูวิทย์พิพากษา กล่าวหาผู้พิพากษาคนนี้ก็กลายเป็นเรื่องโกหกอีกเรื่องหนึ่ง ผมสนใจเพียงแค่นี้ ผมไม่ได้สนใจเรื่องอื่น ว่าท่านผู้พิพากษาท่านจะมีที่ปรึกษาที่ไปวิ่งเต้น ผมไม่สนใจ ผมสนใจว่า คุณชูวิทย์ไปด้อยค่าเขา หาว่าเขาข้ามหัวคนไป แล้วก็ดำรงตำแหน่งอธิบดีแค่ 6 เดือน ในที่สุดก็พิสูจน์ชัดเจนว่า ในวงการผู้พิพากษาแล้ว การเป็นหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษานั้น ตำแหน่งเทียบเท่ากับการเป็นอธิบดี

แต่คุณชูวิทย์ รู้ว่าผิดทั้งผิด ไม่ยอมขอโทษ แม้กระทั่งเรืองกัญชา คุณชูวิทย์กระเหี้ยนกระหือมาก ไม่รู้มันเป็นอะไรถึงจงเกลียดจงชัง หรืออยากจะถล่มพรรคภูมิใจไทย เพียงพรรคเดียว อันนี้ผมไม่รู้นะ มันเป็นความอาฆาตแค้นกันตั้งแต่ชาติก่อนหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้


การเจาะเข้าไปหาประเด็นเรื่องการคอร์รัปชันก็เป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องทำ แต่การพูดจาดำเนินการเจาะเข้าประเด็นด้วยวิธีที่มันสะท้อนให้สงสัยว่าทำไมถึงกราดเกรี้ยวและอาฆาตแค้นมาก ผมไม่เข้าใจ พรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสถูก กกต. ยุบพรรค เพราะมีการครอบงำจากคนนอก คือคุณทักษิณ พลังประชารัฐก็มีโอกาสถูกยุบพรรคเพราะตู้ห่าว รวมไทยสร้างชาติก็มีโอกาสถูกยุบพรรค แต่คุณชูวิทย์กลับตาบอด หูดับ สนใจจะกระทืบแต่พรรคภูมิใจไทย ผมไม่ได้ยุ่งกับเขานะ พรรคภูมิใจไทย ปล่อยเขาไป ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่ามันอะไรกันแน่ ตรงนี้สิ ที่ประชาชนที่มีสติและมีปัญญาอยู่บ้าง ก็คงจะดูออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันผิดปกติเหลือเกิน

ท่านผู้ชมครับ คุณชูวิทย์ครับ ผมมีข้อคิดข้อหนึ่ง ท่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือท่านอาจจะตะแบงก็ได้ ไม่เป็นไร แฟนๆ ที่เชียร์คุณสุดยอดว่าเป็นคนดี แฉคนชั่ว ทำเพื่อบ้านเมือง บอกว่าเชื่อชูวิทย์ทุกอย่าง ผมมาคิดสักนิดหนึ่งว่า ประเทศไทยตั้งแต่สมัยคุณชูวิทย์ยังมั่วสุมอยู่กับการทำธุรกิจค้ามนุษย์ มันมีคนที่ทำงานเพื่อชาติเยอะเลยนะ ท่านผู้ชมครับ คุณรสนา โตสิตระกูล คุณสารี อ๋องสมหวัง


ซึ่งเป็นคนที่ต่อสู้ไม่ให้มีการแปรรูปสายส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทั้งๆ ที่รัฐบาลชุดทักษิณ ชินวัตร กำลังจะดำเนินการเรื่องนี้อยู่ จนในที่สุดศาลปกครองมีมติออกมาบอกว่า ไม่มี ไม่สามารถที่จะทำได้ในการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุณชูวิทย์ครับ นี่ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของประชาชนหรือเปล่า

หรือกรณีคนอย่างหม่อมกรกสิวัฒน์ เกษมศรี คนอย่างอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คุณรสนา ทุกคนที่ผมเอ่ยชื่อมานี้ และอีกหลายคนที่ผมขออนุญาตไม่เอ่ย ต่อสู้เรื่องพลังงาน พลังงานราคาแพง เพราะ ปตท. มีนอกมีในอยู่ข้างใน บอร์ด ปตท. หรือคณะกรรมการพลังงานใช้ไม่ได้ ขูดรีดประชาชน ทุนพลังงานรังแกประชาชน คนพวกนี้เขาสู้มาร่วมสิบปีแล้ว เขาไม่ใช่เพิ่งสู้ แต่ไม่มีใครเชิดชูและเทิดทูนเขา เพราะว่าเขาสู้กับสิ่งซึ่งประชาชนไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่คุณชูวิทย์สู้กับตำรวจซึ่งประชาชนเกลียด แต่ผมถามกลับว่า คนที่ผมเอ่ยชื่อ


แม้กระทั่งอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกไม่ได้สู้เฉพาะเรื่องนี้ แกสู้หลายเรื่องเหลือเกิน แกสู้เรื่องสมุนไพรไทยพร้อมกับผม เรื่องฟ้าทะลายโจร และแกทำเรื่องกัญชามาตั้งแต่ต้น กัญชาสักต้นก็ไม่ได้ปลูก ผมก็ไม่มีปลูก ไม่เหมือนคุณ คุณออกมาด่ากัญชา แต่คุณก็ให้ลูกคุณเปิดแหล่งนันทนาการกัญชา คุณเป็นห่วงเด็ก แต่คุณไม่เป็นห่วงเด็กที่จะมาใช้บริการของร้านนันทนาการของลูกชายคุณ


คุณชูวิทย์ครับ ท่านผู้ชมครับ คนที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้นี้ เขาไม่ใช่คนดีเหรอ เขาไม่ได้คิดถึงชาติบ้านเมืองเหรอ คนพวกนี้สู้เพื่อค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ เรื่องการปฏิวัติโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน

เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณชูวิทย์ครับ ผมจำได้ว่าคุณปานเทพเขาท้าคุณดีเบต คุณชอบท้าคนโน้นคนนี้ไม่ใช่เหรอ คุณเคยท้าผม เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ก่อนจะถึงผม คุณเจอคุณปานเทพก่อนได้ไหม เรื่องอะไร ? เรื่องกัญชาที่คุณย้ำแล้วย้ำอีก เอาเด็กเป็นตัวประกัน

คุณปานเทพเขาท้าคุณชูวิทย์ดีเบตนะ ประเด็นการโกหกหน้าด้านๆ ของคุณในประเด็นอื่นๆ ซึ่งเป็นประเด็นสาธารณะ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา ขณะเดียวกัน คุณและครอบครัวที่อ้างว่าห่วงเยาวชน กลับให้มีการเปิดร้านขายช่อดอกกัญชา นันทนาการ ในโรงแรมของคุณชูวิทย์เอง คุณชูวิทย์ครับ ผมคุยกับอาจารย์ปานเทพแล้ว พวกผมขอท้าคุณดีเบตกับอาจารย์ปานเทพตัวต่อตัวไหม เอาข้อมูลมากางกัน ประเด็นต่อประเด็น หน้าต่อหน้า จะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร อาจารย์ปานเทพเขาเหมาะที่จะสู้กับคุณอย่างเต็มที่ เพราะว่าเขาไม่ได้ปากว่าตาขยิบเหมือนคุณ เขาไม่ได้ปลูกแม้กระทั่งกัญชา 1 ต้น ไม่มีธุรกิจอะไรเกี่ยวข้องกับกัญชาเลยแม้แต่นิดเดียว เขามีแต่จิตที่บริสุทธิ์ ความรู้ทางวิชาการ ที่จะให้กัญชานั้นเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทย

คุณชูวิทย์ ฟังให้ดีๆ นะครับ อาจารย์ปานเทพบอกผมแล้ว พร้อมจะขึ้นทุกเวที ผมได้ติดต่อไปทางคุณหนุ่ม กรรชัย รายการ "โหนกระแส" คุณหนุ่มบอกว่า โอ้ ดีมากเลยคุณอา ผมพร้อมเสมอ แล้วคุณชูวิทย์จะมาเหรอ คุณชูวิทย์ครับ ขอให้คุณรับคำท้า และคุณสาบานก่อนเข้ารายการว่าคุณจะไม่โกหกกลับกลอกออกอากาศก็พอ เหมือนกับที่คุณโกหกในเรื่องของเงินทอน 3 หมื่นล้าน รถไฟสายสีส้ม


ผมไม่อยากให้คุณชูวิทย์ปฏิเสธคำท้าทายของอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ปานเทพตัวเล็กๆ สุภาพ นักวิชาการ ทำงานเรื่องกัญชา คุณชูวิทย์อย่าไปโยนนวมให้อาจารย์ปานเทพนะครับ แกไม่ชกอะไรกับคุณหรอก แกสู้คุณไม่ได้หรอก และอีกอย่าง แกไม่ได้มีนิสัยเป็นเกี๋ยวกุ๋ย แกไม่ชอบเบี่ยงเบนประเด็นอะไร คุณชูวิทย์ครับ สาธุ! รับคำท้าเถอะ อย่าเก่งแต่พูดอยู่คนเดียว แล้วแฟนพันธุ์แท้ของคุณชูวิทย์ช่วยเชียร์ลูกพี่คุณหน่อยสิ ช่วยเชียร์เขาหน่อยๆ ดีๆๆ ก็คุณเชื่อนักไม่ใช่หรือว่าคุณชูวิทย์มีข้อมูล มาเจอกันเลย ยังดีที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องรถไฟฟ้าสีส้ม คุณปานเทพเขาไม่เกี่ยว แต่คุณปานเทพ ถ้าจะหาเรื่องเขา เขายินดี อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพูดเรื่องรถไฟฟ้า คุณต้องไปถามเจ้านายคุณก่อนนะ ชื่อ คีรี กาญจนพาสน์

อ่อ คุณชูวิทย์ ไหนๆ คุณก็รับใช้คุณคีรีอยู่แล้ว คุณทำบุญทำคุณให้กับประชาชนคนไทยได้ไหม คนกรุงเทพมหานคร บอกคุณคีรีให้ช่วยลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวหน่อยได้ไหม ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เชื่อผมสิ คุณชูวิทย์ ไปเถอะ คุณไปบอกคุณคีรีเลย เอาน่ะ ทำให้ผมหน่อย สนธิมันอุตส่าห์พูดอย่างนี้มาแล้ว เดี๋ยวผมเสียชื่อ ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี ทำไปเลย ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ ช่วยพูดหน่อยได้ไหม แต่อย่าลืมนะคุณชูวิทย์ รีบๆ ซะ อย่าช้า รับคำท้าคุณปานเทพ รับคำท้าคุณปานเทพ รับคำท้าคุณปานเทพ


ท่านผู้ชมครับ รายการวันนี้ก็มีอย่างที่ท่านได้ฟังไปแล้ว มีเรื่องราวต่างๆ คั่งค้างอยู่หลายเรื่อง ผมจะทยอยเอามาออกในงวดต่อๆ ไป ส่วนรายการประจำที่คุณชูวิทย์ออกมาแขวะผม ตลอดเวลา แล้วก็กล่าวหาผมและสื่อในเครือผู้จัดการว่าเป็นดาวสยามในอดีต สร้างความปั่นป่วน ผมมีคำตอบนี้ครับคุณชูวิทย์ สื่อในเครือผมฟาดคนโกหกเท่านั้น ใครโกหกผมก็ฟาด คุณโกหกผมก็ฟาด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เหมือนคุณ เลือกที่จะไม่แตะต้องลุงตู่ แต่คุณไปแตะต้องคนอื่นเขา เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าเข้าใจอะไรผิดนะ เรื่องของคุณ 

คุณกระแนะกระแหนผมรายวัน ผมออกวันศุกร์ครั้งหนึ่ง ผมก็จะมีคนที่เก่งของผมระดับพระกาฬเหมือนกัน ที่เขียนคอลัมน์ ข่าวปนคน คนปนข่าว ของ NEWS1 ที่ทำเรื่องข่าวลึกปมลับ เขาก็จะตอบโต้คุณรายวันเหมือนกัน ก็ว่ากันไป สำหรับผมแล้ว ถ้าเรื่องไม่ใหญ่ผมไม่พูดกับคุณหรอก เพราะว่าของคุณคงต้องอีกสักพักหนึ่ง งานนี้ ท่านผู้ชมครับ ผมสู้ไม่ถอย ไม่ต้องห่วง ผมสู้ไม่ถอย ถ้าท่านผู้ชมคิดว่าท่านพอใจกับหลักการ "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" ซึ่งผมยึดถือ เข้ามาเลย ขอบพระคุณ แต่ถ้าท่านไม่เชื่อ "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" ท่านเชื่อคำโกหกพกลมของชูวิทย์ แล้วก็ด่าผม หรือกระแนะกระแหนผม อย่าเข้ามาเลยครับ เสียเวลา สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น