xs
xsm
sm
md
lg

ที่มาที่ไปของทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ที่มาที่ไปของทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)

โดยทนง ขันทอง

ทฤษฎีสมคบคิด เป็นการอธิบายเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง หรือสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่เชื่อว่าเกิดจากการกระทำของในรูปแบบสมคบคบคิดของกลุ่มคนที่มีอำนาจ หรือชั่วร้าย บ่อยคร้ังมีเจตนาการเมืองแอบแฝง ท้ังๆที่มีคำอธิบายอื่นที่น่าเชื่อถือกว่า

ผู้ที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับคำบอกเล่าที่เป็นทางการ (official narrative)

คนส่วนมากพูดถึงทฤษฎีสมคบคิดโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ข่าวสารหรือข้อมูลใดที่ขัดกับสิ่งที่รับรู้มาโดยคนหมู่มากตามคำบอกเล่าของสื่อ บทความ หนังสือ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกระแสหลักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องสมคบคิด

ความจริงแล้ว คำว่าสมคบคิดเป็นศัพท์ที่พวกซีไอเอบัญญัติขึ้นมาหลังจากการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้อย่างเหี้ยมโหดในปี คศ 1963

แก็งค์ที่ฆ่าเคเนดี้เป็นพวกซีไอเอ เอฟบีไอ หน่วยงานความมั่นคง วอลล์สตรีท และซิตี้ ออฟ ลอนดอน พวกองค์กรลับ รวมท้ังบทบาทของรองประธานาธิบดีลินดอน จอห์นสันก็ไม่อาจมองข้ามไปได้ เพราะว่าเขามาจากรัฐเท็กซัส และเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง เขาเป็นเจ้าพ่อคุมพื้นที่ เคเนดี้ถูกล่อไปฆ่าที่เมืองดัลลัสในรัฐเท็กซัส เพราะว่าจัดฉากได้ง่าย

ที่ต้องฆ่าเคเนดี้ เพราะว่าประธานาธิบดีคนนี้เป็นคนรักชาติ (patriot) ต้องการเห็นสันติภาพในโลก เขาต้องการปลดแอกสหรัฐจากการควบคุมของรัฐบาลเงา (shadow government)ที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญต้องการก่อสงครามเวียดนาม และต้องการก่อสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซีย

เคนเนดี้ตั้งใจที่จะยุบองค์กรซีไอเอ ล้มล้างอิทธิพลของวอลล์สตรีท ด้วยการยกเลิกเงินดอลล่าร์ หรือFederal Noteที่US Federal Reserveที่พวกวอลล์สตรีทเป็นเจ้าของ เพื่อให้กระทรวงการคลังกลับมาพิมพ์ดอลล่าร์เอง Treasury Note เคนเนดี้เซ็นคำสั่งของฝ่ายบริหารให้กระทรวงคลังพิมพ์ดอลล่าร์ที่มีเงิน หรือsilverหนุนหลัง

คำสั่งของฝ่ายบริหารที่ยกเลิกการพิมพ์เงินของเฟดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของวอลล์สตรีท และซิตี้ออฟลอนดอนเท่ากับเป็นใบมรณะบัตรของเคนเนดี้

เคนเนดี้เป็นนักการเมืองอเมริกันในอุดมคติ เขาต้องการให้สหรัฐเป็นผู้นำของโลกประชาธิปไตย ตามแนวความคิดเสรีภาพ อิสระภาพ การเคารพอำนาจอธิปไตยของกันและกัน และการอยู่ร่วมอย่างสันติ

เคเนดี้ต้องการเป็นมิตรกับรัสเซีย และประเทศอื่นๆเพื่อสร้างสันติภาพโลก เพราะว่าในตอนนั้นพวกรัฐบาลเงาต้องการก่อสมครามเย็นเพื่อให้ค่ายคอมมิวนิสต์และค่ายโลกเสรีขัดแย้งกันอันนำปสู่การแข่งกันสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ในสงครามเย็นเป้าหมายหลักคือทำสงครามเวียดนาม ฆ่าฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา และทำลายสหภาพโซเวียต และยุโรปตะวันออกเพื่อเข้าไปครอบครองทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของรัสเซีย

ทุกวันนี้โดนัลด์ ทรัมป์ถูกมองว่าเป็นพวกรักชาติPatriot เหมือนกับเคนเนดี้ ส่วนโจ ไบเดนเป็นพวกโลกบาลGlobalistที่เอาผลประโยชน์ของพวกนายธนาคารหรืออีลิทโลกเป็นที่ตั้ง แต่เอาเข้าจริงพวกรักชาติPatriotถูกทำลายตั้งแต่สมัยเคเนดี้แล้ว จนเหลือแต่ตัวปลอมๆให้เห็น ไม่มีความแตกต่างจากพวกโลกบาล

เคนเนดี้เป็นคนริเริ่มโครงการPeace Corp คือส่งอาสาสมัครไปทั้วโลก เพื่อให้คนหนุ่มสาวอเมริกันได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่น เพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจน หรือด้อยพัฒนา อันนำไปสู่สันติภาพโลก ตอนหลังพวกซีไอเอแฝงเข้ามาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่Peace Corpก็มาก

รัฐบาลเงาต้องฆ่าเคเนดี้ เพื่อก่อสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ได้ทำการสร้างตัวละครคือนายLee Harvey Oswaldที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์รัสเซีย และวางกลลวงให้เป็นคนลอบสังหารเคนเนดี้คนเดียว โดยไม่มีใครช่วย (lone assassin) ท้ังๆที่ความจริงแล้ว นายออสวัลด์เป็นเด็กที่ซีไอเอชุบเลี้ยง และถูกวางยาให้อยู่ในเหตุการณ์ เขาถูกกล่าวหาว่าใช้ปืนยาวยิงเคเนดี้ด้วยกระสุนนัดเดียว ความจริงเขาไม่ได้เป็นคนยิง มีคนอื่นยิงเคนเนดี้ อย่างน้อย2คนขึ้นไป

Oswaldถูกฆ่าปิดปากตามระเบียบ เพราะว่าคนตายพูดไม่ได้ คนที่ฆ่านายออสวอลด์ก็ถูกฆ่าปิดปากอีกต่อหนึ่ง

หลังจากฆ่าเคนเนดี้แล้ว มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน โดยมีEarl Warren ประธานศาลSupreme Court เป็นประธานเพื่อกลบเกลื่อนการฆาตกรรมแห่งศตวรรษ

สรุปแล้ว คำบอกเล่า หรือวาทะกรรม(Narrative)ของรัฐบาลสหรัฐในคดีฆาตกรรมเคนเนดี้ คือนายออสวัลด์ทำงานคนเดียว ในการใช้ฟืนไรเฟิ้ลซุ่มยิงประธานาธิบดีสหรัฐจากตึกสูง โดยไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ เพราะว่าเขาเป็นคนมีสติที่ไม่ปกติ

แต่การลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเรื่องที่คนวงในเท่านั้นที่จะทำได้ เพราะว่าใช้เครือข่ายและการวางแผนเป็นอย่างดี รวมท้ังการปกปิดร่องรอย การฆ่าตัดตอน และการทำลายหลักฐาน

ผู้ใดก็ตามที่ไม่เชื่อว่าออสวัลด์ฆ่าเคนเนดี้ แล้วพยายามหาข้อมูลมาแย้งว่า น่าจะเป็นฝีมือของรัฐบาลเงาที่ไม่พอใจกับนโยบายของเคนเนดี้จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกนักสมคบคิด นี่คือคำบัญญัติที่พวกซีไอเอสร้างขึ้นมา และเป็นที่มาที่ไปของคำว่าconspiracy theory

ผู้ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลจะโจมตีพวกที่ไม่เชื่อในคำบอกเล่า(narrative)กระแสหลักว่า เป็นพวกสมคบคิด ไม่มีความน่าเชื่อถือ มโนเอาเอง มีอคติ พยายามหาหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกับความจริงมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง หรือไม่ก็เป็นพวกคิดแผลงๆ อยากดัง

เพื่อที่จะทำลายพวกที่สงสัยในNarrativeของรัฐบาลสหรัฐ พวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเงาจึงมีการสร้างพวกนักทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมามากมาย บ้างก็มีมูลความจริง บ้างก็มีแต่ข้อมูลที่เป็นเท็จ ผสมปนเปไปหมดเพื่อกลบเกลื่อนความจริง ที่ถูกตีตราว่าเป็นทฤษำีสมคบคิด

ไปๆมาๆ คนทั่วไปแยกไม่ออกว่าจะเชื่อนักทฤษฎีสมคบคิดคนใด เพราะว่ามีการสร้างข้อมูลมากมายจนเกิดความสับสนไปหมด

เหมือนข้อมูลในอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ มีแต่ขยะ แต่ก็มีความจริงซ่อนอยู่มาก ต้องคนคุ้ยขยะเก่งถึงจะเห็นความจริง ข้อมูลที่เป็นจริงจะถูกข้อมูลที่เป็นขยะปล่อยออกมากลบเกลื่อนเพื่อพยายามดึงความจริงลงมาสู่ระดับความคลุมเคลือ หรือความเท็จเหมือนกัน

ความจริงเรื่องราวทั้งปวงบนโลกนี้ที่เราได้รับรู้ หรือเรียนรู้เป็นเรื่องของการอำพรางเกือบท้ังนั้น เพราะว่าเราอยู่ในยุคสงครามข่าวสาร เพื่อให้คนส่วนใหญ่เข้าใจไปตามคำบอกเล่าNarrativeของทางการ เพื่อว่าทางการจะได้มีอิทธิพลเหนือความคิดของสาธารระชน จะได้ควบคุมได้ แต่ว่าถ้าพลิกคำบอกเล่ากลับด้านจะกลายเป็นคนละเรื่อง เหมือนคนที่อ้างเป็นนักบุญ พอมองลึกลงไปกลายเป็นซาตาน

ซุน วูได้กล่าวเอาไว้แล้วว่า สงครามเป็นศิลปะของกลลวง เรื่องทฤษฎีสมคบคิดก็เป็นกลลวงชนิดหนึ่ง เพื่อทำลายเครดิตของผู้ที่ไม่เชื่อในคำบอกเล่าของทางการ
กำลังโหลดความคิดเห็น