วันที่ 24 ก.พ.66 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้เป็น
- ศาลออกหมายจับ “ทอม เครือโสภณ” หนีฟังคำพิพากษาคดีหมิ่น “สนธิ”
- เตือน "ชูวิทย์" บุกทำเนียบแฉทุจริต อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร
- 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจเยอรมนี-NATO
- ก้าวไกลไฟต์ “ปิยบุตร VS พิธา” นักการเมืองรุ่นใหม่ตกบ่อน้ำเน่า
- ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน?
ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.178
คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 178 [24ก.พ. 66] :ใครคือพ่อบุญธรรมกับปู่บุญธรรมฟลุ๊ค Mawinbetเจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ?
ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ 25 และวันอาทิตย์ที่ 26 ปรากฏว่าเขาบอกว่ามีวันหยุดยาว Long Weekend 3 วัน เขาบอกว่าวันหยุดยาวก็คือวันที่ 29-30-31 ท่านผู้ชมก็ไปวิสัชนากันเอาเองก็แล้วกันนะครับ
ท่านผู้ชมที่ชมรายการสดของผมอยู่ ผ่าน Sondhi App, Facebook, YouTube และ TikTok สวัสดีครับท่านผู้ชมทุกท่าน วันนี้เรามีหลายๆ เรื่อง แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องนั้นก็พูดเกริ่นกันหลายเรื่องของพวกเรากันก่อน ก็คือว่า ท่านผู้ชมอย่าลืมสั่ง "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ให้กับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ใครที่อายุเกิน 45 ขึ้นไป ทานได้หมด กินกันต่อเนื่อง มีคนซื้อไปถวายพระ มีฟีดแบ็กกลับมาว่าสุขภาพร่างกายดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้น นอนหลับได้ยาวถึงเช้าโดยไม่ตื่นกลางดึก "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" กินครบ 9 เดือนแล้วก็สามารถกินต่อไปได้ ไม่ต้องหยุด ผมทานมา 2 ปีแล้ว ท่านผู้ชม ถ้าใครสนใจให้ติดต่อสั่งซื้อได้เลย มีของพร้อมส่ง แอดไลน์ (LINE) เพิ่มเพื่อน @sunherb หรือ inbox ที่เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"
อาทิตย์ที่แล้วผมได้พูดถึงโอเลี้ยงโบราณสูตรของผม เมื่อเสาร์-อาทิตย์ ก็มีแฟนๆ เข้าไปซื้อมากมาย เยอะเลย ก็ปรากฏว่าหมดเช่นกัน ผมก็เลยสั่งเข้ามาอีก เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ไม่มาก แต่ตอนนี้เรามีโอเลี้ยงโบราณที่ร้าน SUN PAN และที่ร้าน "พอดีช้อป" เป็นจำนวนมาก ไม่ต้องห่วงว่าของจะหมด ผมเตรียมเอาไว้ให้พวกแฟนๆ ซื้อวันเสาร์-อาทิตย์อย่างเพียงพอ หลายๆ อย่างใน SUN PAN ก็มีของขายดี ที่ท่านผู้ชมชอบทานกันก็คือ หมูแท่งอบกรอบ ปลาแท่งอบกรอบ ขนมปังและสเปรดต่างๆ และอย่าลืมนะครับ ช่วยคุณโสภณ นิด มีไอศกรีมของคุณโสภณ โองการณ์ ตอนนี้ยังมีอยู่ที่ร้าน SUN PAN ถนนวิภาวดีฯ ในปั๊ม ปตท. ตรงข้ามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และที่ร้าน "พอดีช้อป" ถนนพระอาทิตย์ สามารถหาซื้อกันได้
ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้เรามีหลายๆ เรื่องที่สนุกสนานมาก เรื่องแรก ผมจะอัปเดตให้ฟัง ในเรื่องคดีความของผม ซึ่งผมเป็นจทก์ฟ้องคุณทอม เครือโสภณ หรือ คุณจุลภาส เครือโสภณ ข้อหาหมิ่นประมาท ที่พูดแต่ละเรื่องที่เป็นความเท็จหมด ซึ่งคุณทอม เครือโสภณ ก็ยอมรับ ในการสืบพยานครั้งแรก คุณทอม เครือโสภณ ได้ยื่นคำร้องว่า ขอสารภาพผิดว่าได้หมิ่นประมาทผมจริง แต่หลังจากนั้น คุณทอม ก็ไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ตกลงกันในศาล แล้ววันที่นัดเจอกันก็มีหมายจับคุณทอม และผมจะอัปเดตคดีที่ผมฟ้อง นายบุญเจริญ บุญมา
เรื่องที่สอง ผมเห็นคุณชูวิทย์ ไปที่ทำเนียบฯ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ผมดูเหตุการณ์แล้วผมก็มีความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยน้องนุ่งคนนี้ อัสสัมชัญศรีราชา รุ่นน้องผม ผมก็เลยถือโอกาสใช้รายการนี้พูดชมเชยคุณชูวิทย์ และผมจะเตือนเรื่องบางเรื่องคุณชูวิทย์เอาไว้ ถ้ารักกันจริงก็ต้องพูด ถ้าไม่รักกันจริงก็คงต้องปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไป คุณชูวิทย์เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมาก แต่หวังว่าคุณชูวิทย์คงจะรับฟังความคิดเห็นที่ในบางเรื่องผมเห็นว่าคุณชูวิทย์อาจจะต้องปรับตัวในการทำงานหน่อย
เรื่องที่สาม คือ ครบรอบ 1 ปี สงครามยูเครน ท่านผู้ชมรู้ใช่ไหมครับ อเมริกาตอนนี้แทงข้างหลังทะลุหัวใจเยอระมนี และนาโต (NATO) เรื่องราวเป็นอย่างไร เดี๋ยวคอยฟัง
เรื่องที่สี่ คือความขัดแย้งกันระหว่าง คุณปิยบุตร แสงกนกกุล กับ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลก็มีการเมืองน้ำเน่าเช่นกัน ที่เกิดขึ้นมาไม่ได้ต่างกว่าพรรคอื่นๆ เลย แต่ผมจะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังและมิติในการมองของผมต่อการทะเลาะกันครั้งนี้มาเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง
เรื่องสุดท้าย เรื่องที่ห้า คือ ปาฏิหาริย์ของ "ไอ้ฟลุ๊ค" หรือเกียรติศักดิ์ ลูกแม่ค้าขายข้าวแกง สู่เว็บพนันหมื่นล้าน และผมจะมีกลเม็ดอาชญากรซ่อนเงิน และผมจะเล่าให้ฟังถึง พ่อบุญธรรม และ ปู่บุญธรรม ทวดบุญธรรม ของ "ไอ้ฟลุ๊ค" ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บ Mawinbet
ศาลออกหมายจับ "ทอม เครือโสภณ" เบี้ยวฟงคำพากษาคดีหมิ่น "สนธิ"
-----------------------------------
ท่านผู้ชมครับ ผมจะขอพูดเรื่องของผมสักนิดหนึ่ง เมื่อสามปีก่อน (2563) ผมได้ฟ้องนายจุลภาส หรือ ทอม เครือโสภณ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ไลฟ์สดพาดพิง กล่าวหาว่าผมเสียผลประโยชน์ จึงรวมตัวเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อออกมาไล่รัฐบาลทักษิณเมื่อสิบปีก่อน ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากที่ผมออกรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ก็มีข่าวความคืบหน้าของคดีออกมา คือ ศาลได้ออกหมายจับ นายทอม เครือโสภณ กรณีนัดมาฟังคำพิพากษา แล้วนายทอม กลับไม่มาตามศาล นี่คือที่มาที่ไปของคดีดังกล่าว ทำไมผมต้องฟ้องนายทอม ?
ย้อนกลับไปสามปีที่แล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นายทอม ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของนายทอม จุลภาส เครือโสภณ ที่เปิดเป็นสาธารณะ ด้วยข้อความเท็จ มโนเรื่องของผมหลายเรื่อง ผมสรุปมาให้ฟัง 3-4 เรื่อง ก็แล้วกัน เรื่องแรก นายทอม บอกว่า ช่วงทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมโกรธที่ไม่ได้ใบอนุญาตสัมปทานช่องโทรทัศน์จากนายทักษิณ ก็เลยแก้แค้น ระดมคนออกมาไล่ทักษิณ ข้อที่สอง นายทอม พูดฉอดๆๆๆ มโนเป็นเรื่องเป็นราวเลยว่า ทักษิณเป็นคนที่ปลดหนี้ผมเป็นพันๆ ล้าน จากแบงก์กรุงไทย ซึ่งไม่มีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ข้อที่สาม บอกว่า ผม สนธิ เคยไปเลี้ยงฉลองแชมเปญที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ตรงสี่แยกราชดำริ ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมอนันตรา แล้วก็ยกแก้ว บอกว่าทักษิณจงเจริญๆ โดยนายทอมอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์
ท่านผู้ชมครับ ทั้งหมดที่นายทอมพูดนี้เป็นเรื่องมโน และจินตนาการสุดโต่ง ไม่มีมูลความจริง ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่มีพยานเลยแม้แต่คนเดียว ผมไม่เคยเป็นเพื่อนรักกับทักษิณ ครอบครัวก็ไม่ได้รู้จักกัน ตอนทำธุรกิจภรรยาก็ไม่ได้รู้จักคุณหญิงพจมาน ลูกผมก็ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับลูกของคุณทักษิณเลยแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ ผมยังไม่เคยไปกินเลี้ยงใดๆ หรือชนแก้วเชมเปญใดๆ ที๋โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไวน์ หรือแชมเปญ มาเป็นเวลานานแล้ว หลายสิบปี
อีกประการหนึ่งที่ผมต้องออกมาปลุกระดมคน แล้วสู้กับทักษิณนั้น ก็เพราะว่าทักษิณนั้นคอร์รัปชัน ทุจริต ไม่ใช่เรื่องที่ผมไปขอใบอนุญาต เพราะไม่เคยมีการให้ใบอนุญาตทีวีในยุคทักษิณ หรือมาจนกระทั่งยุคปัจจุบันนี้ ยกเว้นใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ซึ่งผ่านทาง กสทช.
ผมจำได้ว่าวันที่ผมฟ้องคุณทอม เครือโสภณ นั้น คุณทอมมาขึ้นศาล กำลังจะสืบพยานโจทก์ คือผม อยู่พอดี คุณทอมยื่นคำร้องว่าขอสารภาพผิดว่าได้หมิ่นฯ ผมจริง และพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ ซึ่งผมลดให้เหลือสามแสนบาท คุณทอมรับปากว่าจะจ่ายให้ผมเดือนละแสน สามเดือน เสร็จแล้วก็จะเอาข้อมูลต่างๆ ที่ผมร่างให้ ไปพูดในเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อชี้แจงว่าสิ่งที่คุณทอมพูดนั้นเป็นความเท็จ ไม่จริง ปรากฏว่าคุณทอมจ่ายมาสองเดือน เดือนที่สามจ่ายช้า ไม่ได้จ่าย แล้วข้อมูลที่จะต้องลงเพื่อชี้แจงว่าตัวเองพูดความเท็จนั้น ก็ไม่ยอมลง ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะให้ศาลท่านอ่านคำพิพากษาลงโทษนายทอมทันที ก็ปรากฏว่ามีการนัดหมายไว้เรียบร้อยแล้ว นายทอมไม่มา เมื่อไม่มาก็เลยโดนหมายจับ ทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับท่านผู้ชม ผมเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง เรื่องบางเรื่องอาจจะช้าหน่อย แต่ถึงที่สุดแล้วก็มีการพิสูจน์ว่าผมก็ยังเดินหน้าฟ้องศาลอยู่เหมือนเดิม
ผมวาร์ปมาเหตุการณ์ฟ้องคดีนายบุญเจริญ บุญมา หรือ นายตั้ม ท่านผู้ชมจำได้ไหม นายบุญเจริญ บุญมา ชื่อเล่นชื่อ ตั้ม ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "บุญเจริญ ตั้ม ทางด่วน บุญมา" โพสต์ด่าผมว่า "ไอสนธิ ด่าเสือกกับเขาทุกคน ตัวมึงเมื่อก่อนก็ไม่ใช่จะดี ค้าฝิ่นค้าผงขาวมาก่อนมีเงินก็มาฟอกตัว ด่าเรียกเรตติ้ง ไม่ตายดีเถอะมึง จริงบ้างไม่จริบ้างมาเล่ามั่วๆ" แล้วยังท้าทายให้ผมฟ้อง ผมก็เลยรับคำท้า ผมแจ้งไปแล้วว่าผมจะเอาคุณบุญเจริญไปถึงศาลฎีกาให้ได้ ไม่รับคำขอโทษและคำขอขมาใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุด ท่านผู้ชมรู้ไหม ทีมงานผมเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก "บุญเจริญ ตั้ม ทางด่วน บุญมา" ปรากฏว่า ที่เคยปากเก่ง ด่าผมฉอดๆๆ ท่านผู้ชมรู้ไหม ลบโพสต์ทุกโพสต์ ทุกอย่าง ออกหมด การลบโพสต์ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะข้อมูลทุกอย่างที่คุณเคยด่าผม ผมเก็บเอาไว้แล้ว และอยู่ในชั้นศาลแล้ว ตอนนี่ทนายยื่นฟ้องเรียบร้อย คดีดำหมายเลข อ. 262/2566 ศาลอาญา ความอาญา ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้อง 3 เมษายน ถ้าไม่มาครั้งแรก ศาลอาจจะเลื่อนไปอีกเดือนหนึ่ง ถ้าไม่มาครั้งที่สอง ผมคิดว่าเขาก็ไม่มาหรอก เพราะคนอย่างเขา เป็นคนที่ไม่กล้าสู้ความจริง ศาลก็จะออกหมายจับ
ท่านผู้ชมครับ ผมเคยเตือนแล้วว่า คุณบุญเจริญ คุณจะชอบใครก็ชอบไป จะออกมาปกป้องนายนอท พันธ์ธวัช กองสลากพลัส หรือนายแทนไท ก็ปกป้องไป ผมไม่ว่า มาถึงวันนี้แล้วผมอยากจะถามหน่อยว่า คนที่คุณออกมาปกป้อง แล้าด่าผมหยาบๆ คายๆ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จนั้น ไม่ทราบว่าคุณแทนไท กับคุณนอท พันธ์ธวัช จะออกมาช่วยคุณได้หรือเปล่า นี่คือการอัปเดตล่วงหน้า 3 เมษายน พนันกับผมได้ว่า นายบุญเจริญ ไม่มาศาล หนีศาลแน่นอน แล้วก็นัดครั้งที่สอง อยากให้มา เพราะคดีนี้อย่างไรก็ตามเมื่อไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ผมชนะแน่นอน คดีมีมูลแน่นอน คุณบุญเจริญ คุณตั้ม ถ้าคุณไม่เชื่อว่านรกมีจริง เดี๋ยวคุณรอต่อไป ผมจะเสกสรรค์ปั้นให้คุณรู้ว่านรกมันมีจริงสำหรับคุณนะ ที่เสือกมาทะลึ่งกับผม
เตือน “ชูวิทย์” บุกทำเนียบแฉรถไฟฟ้าสีส้ม
ท่านผู้ชมครับ เราต้องยอมรับกันว่าชั่วโมงนี้คงไม่มีใครฮอตไปกว่าคุณชูวิทย์ กมลวิษฎ์ รุ่นน้องอัสสัมชัญศรีราชา ของผม เขาเป็นเหมือนฮีโร่ผู้กล้า เดินหน้าแฉทุนจีนสีเทา แฉบ่อนการพนันออนไลน์ ออกมาต่อสู้กับตำรวจรีดทรัพย์ชาวต่างชาติ กระทั่งการทุจริตคอร์รัปชันในวงการราชการ เรื่องกรมอุทยานฯ จนกระทั่งมาถึงเรื่องการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เผอิญว่าวันที่ 21 ที่ผ่านมา คุณชูวิทย์เดินทางมาทำเนียบฯ ถือธงชาติกวัดแกว่ง แสดงจุดยืนของตัวเองว่าเป็นแค่ประชาชนคนหนึ่งที่รักชาติ รักความถูกต้อง เมื่อในระบบแก้ปัญหาโกงบ้านโกงเมืองไม่ได้ ก็ต้องเล่นนอกระบบ และประชาชนต้องไม่ยอมจำนน ต้องสู้ในรูปแบบใต้ดินและบนดิน
คุณชูวิทย์ ตั้งโต๊ะแถลงสามประเด็นด้วยกัน และในที่สุดแล้ว คนทำงานใกล้ชิด ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ คุณหิมาลัย ผิวพรรณ ได้ออกมาเชิญคุณชูวิทย์เข้าทำเนียบฯ ไป หลังจากนั้นคุณชูวิทย์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้ต่อสายคุยกับนายกฯ เรียบร้อย มีข้อสรุปว่าจะทำลายคอร์รัปชันให้ได้ วันนั้นคุณชูวิทย์ก็เลยมาบอกว่า ร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชัน ตั้งแต่เรื่องเล็ก ข้อแรกคือเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งวางขายและสูบก็เสียเงิน ข้อที่สอง การพนันออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบกับคนทุกวัย กรณีของนายซัว ที่พบแล้ว เซ่นเงินไปเป็นหมื่นล้าน จึงเป็นปัญหาว่าทำไมให้ตำรวจมาเป็นนายบ่อนได้ กรณีพนันออนไลน์ คุณชูวิทย์อธิบายว่ มันมีไซส์ S, M, L และ XL เรื่องที่สาม คุณชูวิทย์พูดถึงเรื่องกรมอุทยานแห่งชาติฯ คุณชูวิทย์อธิบายให้ฟังว่า มันมีปัญหา ต้องจัดการแก้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อผิดพลาดในเรื่องของการที่มีการคอร์รัปชันโดยอธิบดี ซึ่งได้ถูกพิสูจน์กันเรียบร้อยแล้ว และเรื่องส่งไปที่ ป.ป.ช. แล้ว ข้อที่สี่ คือการฮั้ว คุณชูวิทย์เข้ามาแตะในเรื่องซึ่งคุณชูวิทย์ไม่เคยพูดเลยแม้แต่นิดเดียว เพิ่งจะมาพูดครั้งนี้เป็นครั้งแรก คือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม และอ้างว่ามีเงินตกหล่นอยู่สามหมื่นล้าน ทั้งหมดเป็นเรื่องคอร์รัปชันที่คุณชูวิทย์อยากจะมาขอความชัดเจน เพราะคิดว่านายกฯ เป็นคนสุจริต อยากให้ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน โปร่งใส
ผมเห็นแนวทางการต่อสู้ วิ่งสู้ฟัดเกี่ยวกับประเด็นการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมแสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว ผ่านรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ไม่ว่าจะเป็นกรณีเสี่ยโป้ หลงจู๊สมชาย นายบอส อยู่วิทยา ผู้กำกับโจ้ถุงดำ ตู้ห่าว ทุนจีนสีเทา การทุจริตในกรมอุทยานฯ รวมถึงการพนันออนไลน์ ที่ในประเทศไทย ผมมองแล้วกวาดตาไปทั่วประเทศ ก็มีแค่ผม กับคุณชูวิทย์ และสื่อสังคมออนไลน์อีกบางส่วนเท่านั้น ที่กล้าออกมาเปิดโปงอาชญากรรมอย่างพนันออนไลน์ที่แผ่ขยายอิทธิพลไปทุกวงการ
แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนรุ่นพี่ และคนทำวิชาชีพสื่อมวลชนมากว่าห้าสิบปี ผมมีประเด็นที่อยากจะเตือน ให้ข้อคิดคุณชูวิทย์ในการแฉ เปิดโปงเรื่องเหล่านี้ ว่า มีเรื่องที่คุณชูวิทย์ต้องระวังให้มากๆ เพราะภาพรวมตอนนี้ คุณชูวิทย์ต้องรู้ว่าเป็นการฟาดฟันกันระหว่างกลุ่มคนรอบตัวลุงตู่ และกลุ่มคนรอบตัวลุงป้อม โดยใช้ลูกน้องออกมาฟาดฟันกัน ผมก็เลยจะเตือนคุณชูวิทย์ว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร
คุณชูวิทย์ไปหานายกฯ ทีไร ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ หรือที่ทำเนียบรัฐบาล ก็จะมี "เสธ.หิ" คุณหิมาลัย ผิวพรรณ หรือมีคนอย่างคุณวรัญชัย โชควัฒนะ ยืนอยู่ข้างๆ พอพูดเสร็จ คนโน้นคนนี้ลงมาจัดการ กรณีนี้คุณพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคฯ เลขาธิการนายกฯ ก็ลงมาจัดการ คุณชูวิทย์ต้องระวังว่า คนจะมองว่าคุณมีนอกมีในกับคนพวกนี้หรือเปล่า ที่สำคัญ คุณชูวิทย์ ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะยุบสภาฯ ภายในเดือนหน้า คือมีนาคมนี้ คงมีการจัดการให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม เรื่องเหล่านี้คุณชูวิทย์ต้องระวังให้มากๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะขณะนี้สายลุงตู่ กับสายลุงป้อม ฟาดฟันกันอย่างหนัก สายลุงป้อมก็มีเครือข่ายการพนันของสายลุงป้อม ลูกน้องลุงป้อมดูแลอยู่ สายลุงตู่ก็มีเครือข่ายการพนันที่สนับสนุนลุงตู่อยู่เช่นกัน
มีคนตั้งข้อสังเกตว่า "สารวัตรซัว" ซึ่งคุณชูวิทย์จะเอาให้ตาย ซึ่งผมเห็นด้วยว่าเอาให้ตายเลย คนอย่างนี้ไม่ควรจะเก็บไว้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่มีคนติงมาว่า ทำไมทีเรื่องของคุณอุปกิต ปาจรียางกูร ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่นั้น คุณชูวิทย์ ไม่พูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ผมก็แค่เอาคำพูดที่คนอื่นเขาฝากมาพูดให้คุณชูวิทย์ฟัง ไม่ได้หมายความว่าผมจะกล่าวหาอะไรคุณชูวิทย์นะครับ เป็นการเตือนสติ
ตอนนี้คุณชูวิทย์กำลังไปได้ดี เรื่องที่ออกมาแฉคนชั่ว คนเลว ทั้งทุนสีเทา พนันออนไลน์ รวมทั้งอุทยานฯ ทับลาน ที่เป็นการช่วยเหลือชาวบ้าน แบบนี้โอเค ผมเห็นด้วย สนับสนุน ผมปรบมือให้ แต่มีประเด็นหนึ่งที่คุณชูวิทย์หนีบเข้ามาแถลงด้วย มีอะไรผิดปกติมาก นั่นคือการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม
คุณชูวิทย์ครับ เรื่องนี้สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องเอกชน การพูดจาอะไรต้องระวัง เพราะว่าในการประมูลของภาครัฐทุกครั้ง ทุกรอบ ทุกยุค ทุกสมัย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีทั้งเอกชนที่สมหวังและผิดหวัง มีคนได้ มีคนเสีย ผมเกรงว่าจะมีคนกล่าวหาคุณชูวิทย์รับงานมา ว่า พอคุณชูวิทย์เริ่มดังขึ้นมา ก็เริ่มรับงานร้องเรียนที่เกี่ยวกับประเด็นปัญหาการประมูลที่เป็นคู่แข่งระหว่างเอกชนกับเอกชน
เอกชนกับเอกชนในการประมูลงานนั้น มันมีกรอบของการประมูลหลายๆ อย่าง ซึ่งจะต้องมีความโปร่งใส ถ้าไม่โปร่งใสก็จะต้องมีการร้องเรียนกัน มีการฟ้องศาลปกครอง แล้วคำพิพากษาของศาลปกครองเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามนั้น หรือบางเรื่อง ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อเอกชนคนไหนแล้วมีข้อผิดพลาด ก็จะมีการฟ้องร้อง ป.ป.ช. ไป นี่คือระบบที่เกิดขึ้น
แต่เผอิญคุณชูวิทย์พยายามอุปมาอุปไมยว่าปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นมีอยู่ 5 สถานี คือ สถานีโกง คือการปรับเปลี่ยน TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว รูปแบบคงเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้างเงินตอบแทนที่ รฟม. ต้องคืนให้เอกชน เอาทีละข้อดีกว่า ฝ่าย รฟม. เองก็ไม่สบายใจ ก็พยายามชี้แจงออกมา คือข้อกล่าวหาข้อที่หนึ่งที่คุณชูวิทย์บอกว่า สถานีโกง การเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่ขายซองไปแล้ว เป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง + คะแนนเทคนิค ทำให้จากที่ต้องจ่ายรัฐเจ็ดพันกว่าล้าน กลายเป็นรัฐต้องจ่ายเจ็ดหมื่นกว่าล้าน ข้อเท็จจริงนะครับ คุณชูวิทย์ รฟม. กับคณะกรรมการคัดเลือกเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประเมิน TOR เป็นตัดสินด้วยคะแนนรวมด้านเทคนิค + การเงิน คือ เทคนิค 30 เปอร์เซ็นต์ การเงิน 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เอกชนให้ความสำคัญกับเทคนิคการก่อสร้างและการเดินรถควบคู่กับเงินที่ขอรัฐสนับสนุน ไม่อย่างนั้นจะเกิดการฟันราคากันโดยไม่คำนึงถึงคุรภาพงาน ทำให้ก่อสร้างไม่ปลอดภัยกับประชาชน และทำให้สถานที่สำคัญในเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน เช่น ถนนราชดำเนิน สนามหลวง สะพานพระปิ่นเกล้า หรืออาจจะรวมถึงพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่สำคัญ มีโบราณสถานอายุนับหลายร้อยปี เกิดความเสียหายได้
คุณชูวิทย์ครับ เรื่องนี้ผมเคยพูดมาแล้วตั้งแต่ปี 2564 สองปีที่แล้ว รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 78 ออกอากาศในวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 แต่คุณชูวิทย์ไม่เคยสนใจ ไม่เคยมีข้อมูลมาก่อน จู่ๆ คุณก็เกิดการให้ความสนใจขึ้นมาทันที เรื่องหลักๆ มันเป็นอย่างนี้ครับ คุณชูวิทย์ มีภาคประชาชน NGO หลายคนเข้ามาหาผม แล้วก็บอกว่าเขาเป็นห่วงในเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ TOR แรกนั้น เน้นเรื่องใครให้รัฐได้มากที่สุด คนนั้นจะชนะไป เขาบอกว่า ถ้าเอาเงินเป็นตัวตั้งนำทางไป ในที่สุดแล้วเอกชนที่ไม่มีเทคนิคที่ดีก็จะชนะไป แล้วก็จะก่อให้เกิดความเสียหายได้ เมื่อเวลาก่อสร้างขึ้นมา แล้วทำให้โบราณสถานเสียหายหลายแห่ง ใครจะรับผิดชอบ ผมก็เลยบอกเขาว่าให้เขาไปร้องเรียนกับ รฟม. แล้วเขาก็ไปร้องเรียนกับ รฟม. และในที่สุด รฟม. ก็เห็นด้วย ก็เลยเอาเรื่องของเทคนิคนำหน้า ก็คือทุกคนต้องผ่านเงื่อนไขเทคนิคก่อน เมื่อผ่านไปแล้ว ก็สามารถที่จะมาต่อสู้กันในเรื่องของผลประโยชน์รายได้ที่ รฟม. จะได้ นั่นคือที่มาของการเปลี่ยน TOR เพราะ TOR สมัยก่อนหน้านั้นจะเป็น TOR ที่เน้นว่าใครให้รัฐมากที่สุด เทคนิคจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจ
อีกประการหนึ่ง คุณชูวิทย์ต้องรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การประเมิน ไม่ทำให้เอกชนรายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ไม่มีครับคุณชูวิทย์ เพราะว่าการเปลี่ยนวิธีประเมินผู้ชนะ ให้เอกชนทุกรายให้ความสำคัญกับทางด้านเทคนิค ก็คือพูดง่ายๆ ว่า เอกชนคนไหนถ้าไม่มีเทคนิค ก็ไปเอาคนข้างนอก หรือบริษัทข้างนอกที่มีเทคนิค เข้ามาร่วมประมูล เมื่อประมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขายังขยาย TOR ให้เพิ่มอีก 45 วัน เพื่อให้เอกชนมีเวลาที่จะไปเอาเจ้าต่างๆ มาร่วมทุนกัน มีบริษัท อินชอน จากเกาหลีใต้ มาร่วมกับอิตัลไทย นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ แล้วก็เข้าประมูล ก็คือว่าพอผ่านเทคนิคแล้ว จะเป็นใครก็ตาม ขอให้เทคนิคผ่านไปได้ ก็สามารถที่จะเจรจาในเรื่องของค่าตอบแทนให้ รฟม. แล้วก็ชี้ไปเลยว่าใครควรที่จะได้
ถ้าเอาราคาถูกอย่างเดียว เอกชนที่เอาเงินเป็นตัวตั้งว่าสามารถสร้างได้ในราคาถูก แต่สุดท้ายทำงานไม่สำเร็จ ขุดไป ก่อสร้างไป ทำให้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติเสียหาย ซึ่งเมื่อเสียหายแล้ว ไม่สามารถจะซ่อมแซมเอากลับคืนมาได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นแล้ว ข้อหนึ่งที่คุณชูวิทย์พูดมา นั่นคือคำชี้แจง ผมไม่ได้มีหน้าที่มาแก้ตัวให้ใคร แต่ผมคิดว่าสำคัญมากในเรื่องข้อเท็จจริง เพราะว่าเรื่อง ... อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ คุณชูวิทย์กล่าวหา 5 ข้อ แบบชกข้างเดียว ตอนนี้ทางเอกชนที่ได้เข้ารอบเขาก็ตอบโต้กลับมาบ้าง เพราะฉะนั้น "สถานีโกง" ข้อแรก การปรับเปลี่ยน TOR ผมชี้แจงไปแล้ว
ข้อที่สอง คุณชูวิทย์บอกว่า "สถานีทุจริต" มีการร้องศาลปกครองในขั้นต้น ไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ แต่จริงๆ แล้วได้มีการประชุมในศาลปกครอง มีการฟ้องศาลปกครองในเรื่องนี้ แล้วศาลปกครองประชุมชั้นสูงสุด ประชุมใหญ่เลย แล้วมีมติ 27 ต่อ 23 อนุญาตให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ เพราะฉะนั้นนี่เป็นข้อเท็จจริงอันหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้ว รฟม. ไม่ได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์โดยพลการ เมื่อมีคนที่สูญเสียผลประโยชน์ไปฟ้องศาลปกครอง ศาลปกครองก็อธิบายให้ฟัง คุณชูวิทย์ครับ การเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประเมิน ไม่ได้ทำให้เอกชนรายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะไม่ได้มีการเปลี่ยนคุณสมบัติประสบการณ์ผลงาน แต่เขาเปลี่ยนวิธีประเมินผู้ชนะ ให้เอกชนทุกรายให้ความสำคัญกับข้อเสนอด้านเทคนิคก่อน ว่ามีความสามารถทางเทคนิคสูง ที่จะทำให้การขุดเจาะอะไรก็ตาม ไม่ทำให้โบราณสถานเสียหาย แล้วก็รวมค่าการเงินอย่างเต็มที่ควบคู่กัน เพื่อป้องกันการฟันราคาที่เน้นเอาราคาถูกอย่างเดียว แต่สุดท้ายทำงานไม่สำเร็จ ขุดไป ก่อสร้างไป ทำให้เรื่องราวต่างๆ สถานที่ต่างๆ เสียหาย นี่ก็คือข้อที่สองของคุณชูวิทย์
ข้อที่สาม "สถานีฮั้ว" คุณชูวิทย์บอกว่า ในการกำหนด TOR รอบใหม่ หลังจากการประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้น มีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อให้บางบริษัทได้เข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว
คุณชูวิทย์ ต้องระวังหน่อยะนครับ ที่คุณชูวิทย์อ้างว่ามีการร้องศาลปกครองในข้อหาข้อที่สอง ชั้นต้น ไม่ให้เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ แต่คุณชูวิทย์รู้มาว่า เมื่อ รฟม. ได้ยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ไปที่ศาลปกครองสูงสุด คุณชูวิทย์ก็รู้มาว่ามีมติ 27 ต่อ 23 ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ เพราะคุณชูวิทย์บอกว่ามันมีการทุจริต จ่ายเงินกัน
เรื่องของเรื่องมันคืออย่างนี้ครับ คุณชูวิทย์ ด้วยความเคารพรุ่นน้อง BTS ฟ้องศาลปกครองชั้นต้นว่า การเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินใน TOR ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดต่อ BTS ศาลชั้นต้นตัดสินว่า การเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประเมินไม่ได้ละเมิดต่อ BTS แต่ทำผิดขั้นตอน ไม่ได้รับฟังความเห็นเอกชน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือก ได้อุทธรณ์ไปที่ศาลสูงว่า การเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประเมิน ชอบด้วยกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ต้องไปรับฟังความเห็นเอกชนก่อน ปัจจุบัน ตอนนี้รอคำพิพากษาอยู่
การที่คุณชูวิทย์บอกว่ารู้คำพิพากษาว่ามีมติ 27 ต่อ 23 และบอกว่ามีการทุจริต ทำท่าวิ่งว่าวิ่งศาล ก็ต้องถามว่า แล้วคุณชูวิทย์รู้ได้อย่างไร ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาเลย การเอาข้อมูลในศาลมาพูดแล้วบอกว่าทุจริต ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน น่าจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล คุณชูวิทย์ต้องระวังนะครับ ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเอง และศาลควรดำเนินคดี ไม่ปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่าง (นี่คนข้างนอกเขาพูดกันนะ ไม่ใช่ผมพูดนะ คุณชูวิทย์) ที่แปลกคือ การพูดลักษณะนี้น่าจะมีเจตนาแอบแฝงเพื่อกดดันศาลสูงไม่ให้กล้าตัดสินว่าการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประเมินชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการสมรประโยชน์ให้กับ BTS และข้อเท็จจริง BTS ไม่ได้ยื่นประมูล ทั้งที่เข้าประมูลได้ โดยอ้างว่าการประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับเอาตัวเลขที่อ้างว่าเสนอให้รัฐได้ดีกว่าผลประมูลมาเปิดเผย เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องนี้ต้องระวังให้ดีๆ นะครับ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ข้อกล่าวหาข้อที่สาม คุณชูวิทย์บอกว่า "สถานีฮั้ว" ในกระบวนการกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไป มีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์ได้เพียงบริษัทเดียว
ข้อกล่าวหาข้อที่สาม รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกได้ชี้แจงแล้วว่า การกำหนดคุณสมบัติใน TOR สำหรับการประมูลใหม่นั้น เป็นไปอย่างเหมาะสม เขาเปิดกว้างให้มีการแข่งขันอย่างเต็มที่ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งไทยและต่างประเทศ สามารถเข้าร่วมได้ ผู้เดินรถ Operator ทั้งและต่างประเทศก็สามารถเข้าร่วมได้ ต่างกับการประมูลครั้งแรกที่กำหนดให้ต้องเป็นผู้เดินรถในประเทศไทย ซึ่งมีแค่ BEM, BTS และบริษัท แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยถ้าเป็นผู้รับเหมาหรือผู้เดินรถต่างประเทศ ต้องร่วมกับบริษัทไทยในการยื่นประมูล เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยและเศรษฐกิจไทย
คุณชูวิทย์ครับ ในการประมูลครั้งใหม่นั้น บริษัท Incheon Transit Corporation ซึ่งเป็นผู้เดินรถจากประเทศเกาหลีใต้ เข้าร่วมประมูลด้วย โดยร่วมกับบริษัท อิตาเลียนไทย แสดงว่าอะไร ? TOR เปิดกว้างครับ ไม่ได้ปิด เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ TOR ในการประมูลครั้งใหม่ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะให้เข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว ตามที่คุณชูวิทย์กล่าวอ้าง แต่เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมแข่งขันได้ ส่วนการที่ BTS ไม่เข้าประมูลทั้งๆ ที่เข้าประมูลได้ ก็เป็นเรื่องของ BTS แล้วถ้า BTS เข้าร่วมประมูลไม่ได้แล้ว บริษัท Incheon Transit Corporation จะเข้าร่วมประมูลได้อย่างไร ชัดเจนไหมครับ
ข้อกล่าวหาข้อที่สี่ คุณชูวิทย์ บอกว่ามันมี "สถานีเงินทอน" พบว่าสามหมื่นล้านบาท ไม่รู้ว่าเข้ากระเป๋าใคร พบว่ามีการโอนเงินโอนทองไปสิงคโปร์ ผ่านธนาคาร HSBC คุณชูวิทย์บอกว่ามีเลขบัญชี แต่ไม่บอก คุณชูวิทย์ครับ เราอยู่ในวงการนี้กันมานานแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องเตือนคุณหรอก แต่การที่คุณพูดเช่นนี้ว่ามีเงินทอนสามหมื่นล้านบาทเข้าไปที่สิงคโปร์ คุณชูวิทย์ต้องเอามาเปิดเผย คุณอย่าไปพูดลอยๆ แบบนี้ เอาสนุก ปรักปรำไปเรื่อยว่าคนอื่นทุจริต คุณชูวิทย์ต้องรับผิดชอบนะ เพราะเดี๋ยวคนอื่นก็จะบอกว่าคุณชูวิทย์ก็รับเงินรับทองเขามาเหมือนกัน เพื่อมาหาทางล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม แล้วถ้าเกิดมีใครออกมาพูดว่าคุณชูวิทย์รับเงินไปแล้ว มีเงินโอนเข้าไปที่เคย์แมนไอส์แลน์ จำนวนหมื่นล้าน สองหมื่นล้าน คุณชูวิทย์ครับ อย่างนี้ใครๆ ก็พูดได้ ใครๆ ก็กล่าวหาใครๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งนี่ผมคิดว่าไม่ดี ถ้าคุณชูวิทย์มั่นใจในข้อมูล เอาตัวเลขมาเปิดกันเลย เอาชื่อ เอาเบอร์บัญชีมาเปิดให้เห็นชัดเจนกันเลยดีกว่า อย่าอมพะนำเอาไว้อย่างนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าอมพะนำไปอย่างนั้นแล้ว เป็นการตีกินข้างเดียว เดี๋ยวคนเขาจะว่าคุณชูวิทย์รับงานมา ซึ่งผมไม่เชื่อว่าคุณชูวิทย์รับงานมา แต่ผมเป็นห่วงคุณชูวิทย์
ข้อที่ห้า ก็คือข้อที่คุณชูวิทย์บอกว่าเป็น "สถานีปลิว" ประมูลครั้งใหม่ กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ เคยต้องเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลไทยเท่านั้น จึงเหลือแค่บริษัทเดียว
คุณชูวิทย์ครับ ข้อที่ห้า รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ TOR ในการประมูลครั้งใหม่ เปิดกว้างให้มีการแข่งขันอย่างเต็มที่ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้เดินรถ ทั้งไทยและต่างประเทศสามารถเข้าร่วมประมูลได้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมูลได้หลายราย แต่คุณชูวิทย์เอาข้อมูลมาจากไหนว่าเข้าได้แค่บริษัทเดียว น่จะเป็นข้อมูลที่คนให้คุณชูวิทย์มาพูดป้อนข้อมูลเพื่อทำให้ รฟม. ดูเสียหายไปหมดเลย
คุณชูวิทย์ครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณชูวิทย์พูด อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ Incheon Transit Corporation เข้าร่วมประมูลได้อย่างไร แล้วที่เป็นเหตุผลสนับสนุนชัดเจนคือ BTS ได้ฟ้องศาลปกครองชั้นต้นให้คุ้มครองชั่วคราวระงับการประมูลใหม่ ศาลปกครองฯ มีคำสั่งยกคำร้อง ไม่คุ้มครอง เพราะคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีอำนาจกำหนด TOR และ TOR การประมูลครั้งใหม่ก็เปิดกว้างให้เอกชนเข้าแข่งขันมากขึ้น โดยที่เอกชนที่ไม่มีคุณสมบัติครบทุกด้าน สามารถร่วมกันเพื่อเข้าร่วมประมูลได้ หรือไปเอาบริษัทต่างชาติที่มีเทคนิค สามารถเข้ามาร่วมกับเอกชนได้ เพราะฉะนั้น คุณชูวิทย์ครับ ไม่ได้เป็นการกีดกัน BTS ส่วน BTS ไม่ได้เข้าประมูลเพราะหาผู้รับเหมาก่อสร้างเข้าร่วมไม่ได้ ก็เป็นเรื่องของ BTS เพราะฉะนั้นคุณชูวิทย์อ้างว่ามีบริษัทเดียวที่เข้าเกณฑ์การประมูลครั้งใหม่ จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง ผมไม่อยากพูดว่านี่คือคำโกหก แต่มันไม่ใช่ไง คุณชูวิทย์
นี่ล่ะครับ คุณชูวิทย์ อย่างที่ผมบอกว่าคุณชูวิทย์เชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจสีเทา ตำรวจสีเทา ทหารสีเทา การพนัน บ่อน ซ่อง หรือการทุจริตอะไร ว่ากันไปเลย ผมสนับสนุนเต็มที่ ผมยังเอาข้อมูลหลายข้อมูลที่คุณโพสต์ในเฟซบุ๊กมา แล้วผมเอามาเจาะ ขุดคุ้ย ลงลึกไป แต่ต้นน้ำที่มา มันมาจากคุณ ผมต้องให้เครดิตคุณ คุณเป็นคนที่ใช้ได้เลย แต่พอมาเรื่องการประมูลงานของภาครัฐที่มันมีความซับซ้อน มีประวัติศาสตร์ มีที่มาที่ไป คนในสังคมเชื่อถือคุณชูวิทย์ว่าตอนนี้คุณเป็นวีรบุรุษ เป็นฮีโร่ จะพูดอะไร คุณชูวิทย์ต้องระวังแล้วนะ คุณต้องตั้งการ์ดให้สูง ข้อมูลต้องแม่นยำ อย่าปล่อยไก่ออกมา เปิดข้อมูลที่มีจุดบกพร่องเปิดช่องให้เขาชกกลับได้ จะเสียรังวัดเปล่าๆ
ท่านผู้ชมครับ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเตือนคุณชูวิทย์เอาไว้ คุณชูวิทย์ทำงานดีมาก ผมให้กำลังใจ สนับสนุนเต็มที่ แต่คุณชูวิทย์ไม่เคยพูดในเรื่องรถไฟฟ้าสีส้ม ไม่เคยสนใจ ไม่เคยให้อะไรทั้งสิ้น เรื่องการคอร์รัปชันในกรมอุทยานแห่งชาติฯ มันชัดเจน เพราะผู้ต้องหาถูกฟ้องไปที่ ป.ป.ช. แล้ว แต่เรื่องการประมูลมันเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชน มันมีกรอบของมัน แล้วที่ผมาเอาข้อเท็จจริงมาเปิดเผยนี้ ก็ตรงกันข้ามกับคุณชูวิทย์กล่าวหา รฟม. ผมไม่ได้เข้าข้าง รฟม. มิหนำซ้ำผมยังมีส่วนในการที่จะทำให้ รฟม. ต้องเปลี่ยน TOR เหตุผลก็เพราะว่า ผมยุยงส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่เป็นห่วงเป็นใย ว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มตาม TOR เก่านั้น เน้นว่าใครก่อสร้างได้ถูกี่สุด แล้วให้ผลตอบแทนกับรัฐบาลได้สูงที่สุด คนนั้นก็จะได้ไป มันก็เลยทำให้มีความเสี่ยงอย่างสูงที่จะทำให้ผู้ที่ไม่มีความสามารถในเรื่องเทคนิคนำหน้า สามารถที่จะได้งานไป แล้วในที่สุดความเสียหายจะเกิดขึ้น
และผมก็อธิบายให้ฟังแล้วว่า การเปิด TOR ใหม่นั้น เขาเปิดกว้าง เปิดกว้างจริงๆ คุณไปเอาใครก็มาก็ได ถ้าคุณไม่มีเทคนิค คุณไปเจรจาติดต่อเหมือน อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เทคนิคสู้ไม่ได้ก็เลยไปเอา Incheon Transit Corporation ของเกาหลีใต้ ซึ่งทำเกี่ยวกับรถรางพวกนี้ ใต้ดิน เช่นกัน ซึ่งเขามีเทคนิค เอามาร่วม หลายบริษัทก็เอาเข้ามาร่วม มันไม่ใช่มีแค่บริษัทเดียวที่เข้าไปประมูลได้ ไม่ใช่ นี่คือข้อมูลที่ผิดพลาดอย่างแรง คุณชูวิทย์ ผมเห็นใจคุณ คุณคงโดนป้อนข้อมูลที่ผิดมา เพราะเขาต้องการพึ่งคุณ ซึ่งคุณกำลังฮอตอยู่ คุณพูดไปก็เป็นเรื่องเป็นราวไป แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของการพนันออนไลน์ เป็นเรื่่องของนายทุนสีเทา คุณชูวิทย์ รู้ไหมว่าการที่คุณพูดถึงเรื่อง "ตู้ห่าว" ทุนจีนสีเทา นั้น ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐนั้นถูกยุบพรรคได้ เพราะว่าการบริจาคเงินเข้าพรรค ของสายตู้ห่าวนั้น มีหลักฐานชัดเจนว่าบริจาคไปสามล้านบาท ต้องระวัง คุณชูวิทย์ ผมไม่อยากให้น้องผมต้องมาถูกกล่าวหาว่ากำลังรับใช้พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุงตู่ อยู่ เพราะตอนนี้ลุงตู่ และ ลุงป้อม กำลังฟาดฟันกันหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงคนที่แวดล้อมลุงตู่ และคนที่แวดล้อมลุงป้อม
คุณชูวิทย์ เชื่อผมสิครับ เล่นเฉพาะอาชญากรรม เล่นเฉพาะตำรวจที่ชั่วๆ พอคุณมาแตะในเรื่องที่คุณไม่เคยแตะเลยแม้แต่นิดเดียว ร้อยวันพันปี จู่ๆ พอคุณฮอตขึ้นมา คุณเดินไปแล้วคุณกาง บอกว่ามีการทุจริตกันในเรื่องของการประมูลสายสีส้ม แล้วคุณให้ข้อมูลที่ผิดหมดทุกอย่าง เพราะว่าคุณรับข้อมูลอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งจงใจที่จะมาทำให้ภาพการประมูลนั้นดูเลวร้าย ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงผมอธิบายให้ฟังแล้ว มันตรงกันข้ามกับข้อมูลที่คุณพูดเลย คุณชูวิทย์ครับ ถ้าผมไม่รักคุณ ผมไม่พูดเรื่องนี้หรอก คุณเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก อย่าเพิ่งท้อใจเรื่องนี้ แต่ไปจัดการทำเรื่องทำราวที่คุณถนัด เจาะลงไป หรือโยนหินถามทาง แล้วผมก็เอาหินก้อนที่คุณโยน เอามาขุดคุ้ย เราทำงานเป็นทีมกันมาโดยที่ไม่ได้ตกลงกัน ดีพอสมควร แต่ว่าคุณชูวิทย์ เชื่อผมสิครับ จะรับงานอะไรที่คุณไม่เคยแตะมาก่อนเลย อย่าเพิ่งรับ ศึกษาเสียก่อนแล้วค่อยพูด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรทั้งสิ้น การทำลายชื่อเสียงของคนมันง่าย แต่การออกมาปกป้องนั้นมันยาก เพราะฉะนั้น จำเอาไว้อย่างนะครับ คุณชูวิทย์ การประมูล มีคนได้และคนไม่ได้ โดยหลักการแล้ว คนไม่ได้ก็หาทางโค่นล้มคนได้ โดยการปั้นข้อมูลข่าวสารต่างๆ ใส่เข้ามา คุณชูวิทย์ครับ กรุณาระวังตัวให้ดีๆ ในเรื่องพวกนี้ ผมเป็นห่วง และผมยังอยากให้คุณเป็นฮีโร่ของประชาชนคนไทยต่อไปอีกนานแสนนานครับ
1 ปี สงครามยูเครนมะกัน แทงข้างหลัง ทะลุงถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO
ท่านผู้ชมครับ วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการบุกเข้าไปทำสงครามใหญ่ของรัสเซียในประเทศยูเครน เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในยุโรปมีการประชุมด้านความมั่นคงที่สำคัญ คือการประชุมความมั่นคงมิวนิก ครั้งที่ 59 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางความกังวล ปัญหาความเสี่ยงต่อสงคราใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่รัสเซีย และยูเครน จะเริ่มปฏิบัติการเตรียมรบหลังจากครบรอบ 1 ปี ที่รัสเซียบุกยูเครน
หลังจากการประชุมเสร็จเพียงวันเดียว ปรากฏว่าในวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้แอบเดินทางไปเยือนโปแลนด์ และยูเครน แบบเซอร์ไพรส์ชาวสหรัฐฯ โดยไบเดน เดินทางไปยังกรุงเคียฟ เป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น เข้าถึงกรุงเคียฟโดยรถไฟ แต่เดินทางไปแบบกล้าๆ กลัวๆ ทำไมผมถึงบอกว่าเป็นการเดินทางไปแบบกล้าๆ กลัวๆ ? เนื่องจากก่อนเดินทางไปยูเครนนั้น นายไบเดน ซึ่งกลัวตายอย่างแน่นอนที่สุด แต่อยากจะที่จะไปโผล่หน้าเพื่อที่จะให้เซเลนสกี ต้องเป็นหน่วยกล้าตาย ยอมตายให้กับไบเดน และยอมตายให้กับอเมริกา โดยไม่สนใจว่าประชาชนชาวยูเครนจะล้มหายตายจากอย่างไร นายไบเดน ก็เลยให้เจ้าหน้าที่ต่อสายด่วนแจ้งมาทางกรุงเครมลิน โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่า เขาจะเดินทางไปเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ขอร้องรัสเซียอย่าโจมตี ยิงขีปนาวุธใส่ขบวนรถไฟ โอ้โห นี่ รังแกเขา ส่งอาวุธไปให้เขา แล้วยังจะไปโผล่หน้าให้กำลังใจ แล้วก็มาตอหลดตอแหลอีกว่าจะไปเพื่อหาทางลดความขัดแย้ง แต่จริงๆ แล้วไปเพื่อเพิ่มความขัดแย้งมากกว่า
เพราะฉะนั้นแล้ว รถไฟ รถยนต์ คณะผู้นำสหรัฐฯ จากโปแลนด์ เข้าพรมแดนยูเครน ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง อาจจะตกเป็นเป้าหรือลูกหลงได้ ถ้าไม่เคลียร์เรื่องนี้ก่อน ปรากฏว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เขายืนยันความปลอดภัยให้ไบเดน โดยเขาอ้างว่า ชายแก่ที่มาจากฝั่งตรงข้ามมหาสมุทร ขณะนำคณะไปขายอาวุธในยูเครน ที่สามารถทำกำไรให้กับอุตสาหกรรมทางทหารในบรรดาประเทศชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) อย่างมหาศาล จนเรียกได้ว่าผลิตกันไม่ทัน
ส่วนข่าว CBS ในอเมริกา ของอเมริกาเอง ก็ระบุว่า ทำเนียบขาวได้แจ้งกับทางรัสเซียก่อนการเดินทาง การไปยูเครนครั้งนี้ของนายโจ ไบเดน เพื่อจุดประสงค์ในการลดความขัดแย้ง ท่านผู้ชมครับ ความลับถูกเปิดออกมา ทำให้เราเห็นธาตุแท้ของอเมริกาเลย เสียทรงหมด ประธานาธิบดีอเมริกา อยากจะไปแต่ก็กลัวตาย ถ้าแน่จริงต้องไปโดยที่แจ้งว่าเราจะไปแล้วนะ ถ้าคุณจะยิง ก็ยิงมาเลย ผมไม่กลัวคุณ อะไรทำนองนี้ แต่ไม่ใช่ ก็คือจริงๆ แล้วนั่นคือสันดานที่แท้จริงของอเมริกา เอาตัวรอดก่อน แล้วหลังจากเขากลับไปให้ ก็ให้รัสเซียเข่นฆ่าเซเลนสกีต่อไป แล้วตัวเองก็กระพือโหมโรงให้เซเลนสกีสู้จนตัวตาย สู้จนคนยูเครนคนสุดท้ายต้องสูญหายไปจากโลกนี้
เมื่อผู้นำสหรัฐฯ ไปถึงกรุงเคียฟ มีไซเรนเตือนภัยโจมตีทางอากาศดังไปทั่วเลย ปรากฏว่า ผู้นำสหรัฐฯ ตรงกันข้ามกับสิ่งที่สำนักข่าว CBS รายงานว่า จุดประสงค์ที่ไปในครั้งนี้เพื่อลดความขัดแย้ง ผู้นำสหรัฐฯ ไปถึงแล้วกลับยืนยันว่าสหรัฐฯ จะยืนเคียงข้างชาวยูเครนเสมอ ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรอีก
นายไบเดน ยืนยันว่า อเมริกายืนเคียงข้างยูเครนนานตราบเท่าที่จำเป็น และเตรียมมอบเงินสนับสนุนทางทหารให้อีก 500 ล้านดอลลาร์ หรือ 17,200 ล้านบาท ปัจจุบันนี้ วอชิงตัน อเมริกา เป็นประเทศผู้นำสนับสนุนด้านอาวุธรายใหญ่ที่สุดของยูเครน
ไบเดน บอกว่า เขาจะประกาศการส่งมอบอุปกรณ์สำคัญเพิ่ม เช่น กระสุนปืนใหญ่ ระบบต่อต้านรถถัง เรดาร์สอดแนมทางอากาศ เพื่อช่วยปกป้องประชาชนชาวยูเครนจากการทิ้งระเบิดทางอากาศ
ท่านผู้ชมครับ เรามาดูตัวเลขนิดหนึ่ง ซึ่งท่านผู้ชมบางคนอาจจะไม่ได้ดู สงครามยูเครนผลาญงบชาติตะวันตกไปแล้วทั้งหมด 4.4 ล้านล้านบาท มันเป็นรายงานจากสถาบันคิวเพื่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในยุโรป ระบุว่า ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียไปแล้วกว่า 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 4.4 ล้านล้านบาท ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีของยูเครน ก็ เศษสองส่วนสาม ซึ่งยูเครนมีจีดีพีต่อปีประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.92 ล้านล้านบาท ในจำนวนเงินสนับสนุนเหล่านี้ สามในสี่เป็นการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งแน่นอนที่สุด เพื่อการรบ ยูเครนต้องเป็นหนี้ชาติตะวันตก นั่นคือการเซ็นสัญญาให้เป็นหนี้แล้วค่อยส่งอาวุธให้
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนยูเครนด้านอาวุธมากที่สุด ให้ไปประมาณ 55,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านล้านบาท รองลงมาคือสหภาพยุโรป ให้อาวุธสนับสนุนไปแล้ว 48,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.66 ล้านบาท
ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเหตุการณ์หนึ่งซึ่งมันเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์หรือสองอาทิตย์ที่แล้ว ท่านผู้ชมที่ไม่ได้ติดตามข่าวก็ให้รับทราบด้วย วิกฤตกระสุนปืนใหญ่หมด ชาติตะวันตกผลิตไม่ทันตามที่ยูเครนใช้ นายโจ ไบเดน มา เดินหน้าไปถึงขั้นปืนใหญ่ที่ยูเครนอาศัยปืนใหญ่วิถีโค้ง ที่เขาเรียกว่า Howitzer ของอเมริกา ลำกล้องประมาณ 155 มิลลิเมตร ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพสูงและมีความแม่นยำมากกว่าปืนใหญ่รัสเซีย แต่ยูเครนได้มาฟรี ยูเครนก็เลยใช้อย่างเต็มที่ ยิงกระสุนวันละ 4,000-7,000 นัด ทำให้อเมริกาต้องขยายกำลังผลิตกระสุนปืนใหญ่ให้ได้ระดับ 70,000 นัดต่อเดือน จึงจะเพียงพอ แต่การขยายกำลังการผลิตกระสุนดังกล่าวต้องใช้เวลาอีก 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะไม่ทันการณ์สำหรับการรับมือการบุกครั้งใหม่ของรัสเซีย
ขณะที่ฝั่งทางยุโรปนั้น พลเอก เย็นส์ สต็อลเตินบาร์ก (Jens Stoltenberg) เลขาธิการนาโต ก็ออกมายืนยัน ยอมรับว่ายูเครนใช้กระสุนหมดเร็วกว่าที่ชาติพันธมิตรจะสามารถผลิตได้ มีปืนแต่ไม่มีกระสุนแล้วตอนนี้
สต็อลเตินบาร์ก เลขาธิการนาโต บอกว่า สงครามยูเครนมีการใช้กระสุนจำนวนมหาสาล อัตราใช้กระสุนของยูเครนสูงกว่ากำลังการผลิตในปัจจุบันหลายเท่า แล้วทำให้อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของเราตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียด เราจำเป็นต้องเพิ่มการผลิต และเพิ่มการลงทุนในกำลังการผลิต ยังไม่พอ ยังกล่าวต่อคุยโวโอ้อวดว่า นาโตจะยืนหยัดร่วมกับยูเครนจนสุดทาง ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า NATO stands with Ukrain for as long as it takes.
ขอออกนอกเรื่องนิดหนึ่ง เซเลนสกี ผมไม่รู้ว่าเป็นคนบาปมาจากชาติไหน มาจากโลกภพไหนก็ตาม เป็นคนบาปของยูเครนจริงๆ คนที่ตายในยูเครนเพราะความที่ตัวเองรับใช้อเมริกา และตัวเองต้องการเป็นเครื่องมือของอเมริกาในการทำลายรัสเซียนั้น เซ่นสังเวยการกระทำของเซเลนสกี ซึ่งเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของอเมริกาอย่างเต็มที่
ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้กองกำลังยูเครนใช้อาวุธปืนใหญ่วันละประมาณ 7,000 นัด รัสเซียยิงวันละประมาณ 20,000-70,000 นัด สิบเท่า
ในการประชุมความมั่นคงที่มิวนิก นายโอลัฟ ช็อลทซ์ (Olaf Scholz) ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญ ก็โวโอ้อวดอีก เยอรมนียอมรับความรับผิดชอบของตนต่อการรักษาความปลอดภัยของยุโรปและเขตพันธมิตรของนาโตโดยไม่มีข้อแม้
แม้ว่าผู้นำเยอรมนีจะต่อว่าชาติยุโรปอื่นที่กดดันให้เยอรมนีต้องส่งรถถังให้ยูเครน และเรียกร้องชาติอื่นๆ จัดหารถถังเลโอพาร์ด (Leopard) ให้กับยูเครน
โดยไม่ยอมพูดถึงการแทงข้างหลังของอเมริกาที่อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 (Nord Stream 2) ที่นายซีมัวร์ เฮิร์ช (Seymour Hersh) นักข่าวสืบสวนสอบสวน เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ไพรซ์ ระดับตำนาน กล้าเปิดโปงแผนชั่วร้ายของอเมริกา และนาโต ชี้ว่าอเมริกาโง่เง่า งี่เง่าที่สุดที่ระเบิดท่อก๊าซ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัสเซีย และเยอรมนี
ซีมัวร์ เฮิร์ช พูดว่า การก่อวินาศกรรมลักษณะนี้ดูเหมือนสื่อจะไม่ให้ความสนใจที่จะค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น และสภาคองเกรสก็ไม่มีใครหยิบยกประเด็นสำคัญนี้มาพูด ผมคิดว่าโลกนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แปลกประหลาดใจ ซีมัวร์ เฮิร์ช กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการสัมภาษณ์สื่อทางเลือกอย่าง Democracy Now เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ผมจะเอาไทม์ไลน์มาให้ท่านผู้ชมดู รายละเอียดแผนวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีม
ซีมัวร์ เฮิร์ช ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เส้นเวลา (ไทม์ไลน์) นัดได้ชัดเจนว่าแผนการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีมที่นำโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรนั้น ปรากฏอย่างเด่นชัดยิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้
ข้อที่หนึ่ง ธันวาคม 2564 เมื่อประมาณปีกว่าที่แล้ว ก่อนสงครามยูเครนจะเกิดขึ้น ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ราวๆ สองเดือนก่อนสงครามจะเกิดขึ้น รัฐบาลโจ ไบเดน วางแผนการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีมก่อนล่วงหน้าแล้ว ได้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นมาดูแลภารกิจนี้ ซึ่งคนที่เรียกประชุมลับสุดยอดนี้คือ นายเจก ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอเมริกา
ข้อที่สอง เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 มีการสรุปแผนการปฏิบัติการวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก่อนสงครามยูเครนจะเริ่มราวๆ 2 สัปดาห์ นายโจ ไบเดน ออกมาโม้เลย โดยลืมตัวไปว่าตัวเองกำลังเปิดเผยความลับให้คนทราบ โจ ไบเดน บอกว่า ถ้ารัสเซียบุกโจมตียูเครน ก็จะไม่มีนอร์ดสตรีม 2 อีกต่อไป แต่เมื่อผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ถามว่าจะทำอย่างไร ไบเดน ก็ยิ้มแล้วบอกว่า อเมริกาทำได้ก็แล้วกัน
ถ้อยแถลงแบบคำต่อคำของนายไบเดน ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายโอลัฟ ช็อลทซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระบุว่า "ถ้ารัสเซียบุกยูเครนโดยรถถังหรือกองกำลังทหารรุกล้ำเข้าสู่พรมแดนยูเครนอีกครั้ง ก็จะไม่มีนอร์ดสตรีม 2 อีกต่อไป เราจะยุติการใช้งานท่อส่งก๊าซดังกล่าว" ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า We will bring an end to it. ให้มันจบสิ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์มีผู้สื่อข่าวผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ Andrea Shalal พูดว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะยุติโครงการนอร์ดสตรีมได้อย่างไร ในเมื่อโครงการนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเยอรมนี ไบเดน ตอบว่า We will. I promise you we will be able to do it. แปลเป็นไทย คือ เราจัดการมันได้ ผมให้คำมั่นสัญญาว่าเราสามารถจะทำได้
ต่อมา มีนาคม ถัดไปอีกเดือนหนึ่ง หลังสงครามยูเครนเกิดขึ้น อเมริกาได้มีการแจ้งแผนการและจุดที่วางระเบิดท่อก๊าซให้กับทางการนอร์เวย์ทราบ และมีการฝึกซ้อมทีมปฏิบัติการลับ ที่ศูนย์การฝึก The Naval Dibing and Salvage Training Center ที่เมืองปานามาบีช มลรัฐฟลอริดา พร้อมคัดเลือกเจ้าหน้าที่จะร่วมปฏิบัติการ
ข้อที่ห้า ต่อมา เดือนมิถุนายน 2565 ราวสี่เดือนหลังสงครามยูเครนได้ปะทุขึ้น หน่วยนักรบประดาน้ำกองทัพเรืออเมริกาได้นำระเบิด C4 หลายลูกไปติดตั้งบนท่อก๊าซใต้ทะเล ระหว่างการซ้อมรบ "บัลท็อปส์ 22" (BALTOPS22) ขององค์การนาโต ในทะเลบอลติก ก็คือว่ามีการจัดการซ้อมรบเพื่อเป็นฉากกำลังในการไปวางระเบิด ซึ่งจัดการซ้อมรบในวันที่ 17 มิถุนายน 2565
ท่านผู้ชมครับ อีกสามเดือนต่อมา วันที่ 26 กันยายน 2565 ระเบิดได้ถูกจุดชนวนแบบไร้สายผ่านตัวส่งสัญญาณที่ติดอยู่กับทุ่นโซนาร์ที่หย่อนลงไปในทะเลโดยเครื่องบินลาดตระเวน รุ่น P8 ของกองทัพเรือนอร์เวย์
ข้อที่เจ็ด มี 4 ประเทศที่มีรับทราบและมีส่วนร่วมกับปฏิบัติการก่อการร้ายแบบนี้ ประกอบด้วย อเมริกา นอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ที่น่าสนใจคือ พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกนาโตทั้งนั้น
ท่านผู้ชมครับ ที่ผมเล่าให้ฟังในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมบอกแล้วว่ามีการก่อวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีมนี้ เป็นเรื่องที่ใหญ่ระดับโลก เพราะนี่คือการก่อการร้าย ที่สำคัญที่สุด เป็นการก่อการร้ายที่พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากอเมริกา และที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับชาวยุโรปและเยอรมนี ซึ่งคงรู้สึกแต่ไม่กล้าพูดอะไรที่โดนแทงข้างหลัง เพราะกลายเป็นว่าประเทศในนาโตร่วมกับอเมริกาเป็นคนระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมระหว่างเยอรมนี และรัสเซีย
ท่านผู้ชมไม่สังเกตหรือว่า เหตุการณ์หลายเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างเช่นบอลลูนของจีน ที่อเมริกาปั่นให้ผู้คนและสื่อทั่วไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์นั้น เขาปั่นเพื่ออะไร รวมทั้งวัตถุที่ไม่ปรากฏสัญชาติที่บินเข้าไปในอเมริกา และแคนาดา ปั่นกันจนกระทั่งคนอเมริกาตื่นตระหนกตกใจกันไปหมด ทั้งหมดนี้ทำเพื่อกลบกระแสรายงานข่าวเจาะเรื่องระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีมชิ้นนี้ของ ซีมัวร์ เฮิร์ช
ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่เชียร์อเมริกาอยู่ ท่านตื่นเสียทีเถอะ อเมริกาเป็นประเทศที่ก่อการร้ายเอง สนับสนุนให้คนอื่นก่อการร้าย แอบเอาเงินเอาทอง เอาอาวุธ สนับสนุนผู้ก่อการร้าย เพื่อให้แต่ละภูมิภาคมันวุ่นวาย ไม่มีอะไรน่าสงสัยอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ยืนยันได้ว่ากลุ่มไอซิสที่ปรากฏอยู่ในตะวันออกกลางนั้น คนที่หนุนหลังคือกลุ่มนาโต และอเมริกา เพื่อให้ตะวันออกกลางนั้นไม่มีความสงบ
ผลที่ตามมาของการวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีมของอเมริกา ด้วยความร่วมมือกับประเทศยุโรปอีก 3 ชาติ และพันธมิตรนาโต คืออะไร ? ซีมัวร์ เฮิร์ช เขาบอกว่า ผลที่ตามมาทางการเมืองสำหรับเรานั้นมหาศาลมาก และเขาบอกว่า สำหรับยุโรปนั้นน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง และโหมกระพือความคิดที่ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพิงอเมริกาได้สิ้นเชิงหรือไม่ แม้แต่ในยามวิกฤต ก็ยังให้อเมริกามาแทงข้างหลังเขา
ซีมัวร์ เฮิร์ช ชี้ว่า พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามองมาช้านานแล้วว่า ทางเลือกพลังงานราคาถูกสำหรับยุโรปนั้น เป็นภัยคุกคาม และวอชิงตันต้องการโดดเดี่ยวรัสเซียมาตลอด เพื่อขัดขวางไม่ให้มอสโกขายน้ำมันและก๊าซให้แก่อียู เพราะว่าโจ ไบเดน และรัฐบาลอเมริกา หวั่นเกรงว่ายุโรปจะตีตัวออกห่างจากความขัดแย้งทางยูเครน พวกเขาจึงจำเป็นต้องหาทางกดดันให้พันธมิตรไม่ให้หันเหไปรวมตัวกัน เพื่อจัดการรัสเซีย และนายวลาดิมีร์ ปูติน
มีบุคคลคนหนึ่งผมอยากแนะนำให้รู้จัก ชื่อ สกอตต์ ริตเตอร์ (Scott Ritter)
สกอตต์ ริตเตอร์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง และเป็นอดีตนาวิกโยธินอเมริกา เขาเคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ตรวจสอบอาวุธของสหประชาชาติในอิรัก และเป็นหนึ่งในผู้ตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีทำร้ายชาวซีเรียของรัฐบาลซีเรีย ซึ่งอเมริกาจัดฉาก เขาได้วิเคราะห์กับสื่อโดยระบุชัดเจนว่า สงครามยูเครนที่อเมริกาหนุนหลังนั้น ยูเครนไม่มีวันที่จะชนะได้ เพราะยูเครนไม่มีศักยภาพในการต่อสู้ต่อไปอีกยาวๆ กับรัสเซียด้วยกองทัพภาคพื้นดิน แม้ว่ายูเครนจะได้รับการเสริมกำลังเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์และปืนใหญ่จากตะวันตกจำนวนมาก แต่ก็ยังถูกรัสเซียถล่มเสียเละ
สกอตต์ ริตเตอร์ บอกว่า สงครามในยูเครนกำลังกินเวลาและกระสุนจำนวนมหาศาล ทำให้คลังอาวุธของฝ่ายสัมพันธมิตรหมดลง อัตราปัจจุบันของค่าใช้จ่ายด้านกระสุนของยูเครนสูงกว่าอัตราการผลิตปัจจุบันหลายเท่า ทำให้อุตสาหกรรมการป้องกันความมั่นคงของอเมริกาตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียด
นยอกจากนี้ นายสกอตต์ ริตเตอร์ ยังออกมาแสดงความสมเพชต่อ พลเอก มาร์ค มิลลีย์ (Mark Milley) ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ นายสกอตต์ ริตเตอร์ บอกว่า พลเอก มาร์ค มิลลีย์ พูดโกหกหน้าด้านๆ ด้วยการโกหกว่าไม่ต้องกังวลเพราะกองทัพยูเครนชนะแล้ว ส่วนรัสเซียนั้นแพ้แล้ว
สกอตต์ ริตเตอร์ ย้อนอดีตว่า นายพล มาร์ค มิลลีย์ พูดเหมือนกับเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ที่นายพลมาร์ค มิลลีย์ เคยกล่าวโกหกอย่างหน้าด้านๆ ต่อสภาคองเกรสว่า อเมริกาได้รับชัยชนะในอัฟกานิสถานแล้ว แต่ในที่สุดแล้ว อเมริกากลับต้องถอนกำลังหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนหมาที่ไร้เจ้าของ เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา
ท่านผู้ชมครับ ในส่วนของผลกระทบของการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ซึ่งเปรียบได้กับการกระชากหน้ากากอเมริกา ในฐานะอาชญากรสงคราม และผู้ก่อการร้าย นายสกอตต์ ริตเตอร์ ได้วิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุจงใจก่อวินาศกรรมระเบิดท่อก๊าซนี้ ว่า เมื่อมองดูอเมริกาแล้ว ต้องถามว่าเรากล้าแทงข้างหลังพันธมิตรได้อย่างไร และผลที่อาจจะตามมา คือ ในที่สุดแล้วจะต้องมีสักวันหนึ่ง เยอรมนีอาจจะไม่ยอมเป็นสมาชิกนาโตอีกต่อไป ในที่สุดคนเยอรมันอาจจะคิดออกว่า คุณจะอยู่ไปทำไมในกลุ่มสมาชิกที่แทงคุณข้างหลัง รวมทั้งสวีเดน และนอร์เวยด้วย ที่แทงข้างหลังเยอรมนี
ฐานทัพอเมริกาในเยอรมนีอาจจะถูกปิดลงเป็นจำนวนมาก การเคลื่อนไหวมากมายจะเกิดขึ้นภายใต้นักการเมืองเยอรมัน ซึ่งก็เริ่มมีแล้ว อาทิตย์ที่แล้วมีคนเยอรมันเกือบ 5-6 แสนคน เดินขบวนขับไล่เยอมนีไม่ให้อยู่ในนาโต แล้วบอกให้หยุดช่วยเหลือยูเครนต่อไป
ซึ่งถ้าประชาชนเยอรมันซึ่งเริ่มโกรธแค้นขึ้นมามากแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป คนในเยอรมนีรู้กันหมด มีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่น้ำท่วมปาก พูดไม่ได้ เพราะว่าตัวเองทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับเท้าของนายโจ ไบเดน และอเมริกา ที่มาเช็ดตัวเอง
ข่าวจากวอชิงตันโพสต์ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 รายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงสงครามเป็นหมื่นๆ ราย เรียกร้องให้เยอรมนีกลับมาฟื้นสัมพันธ์กับรัสเซีย และดำเนินการซ่อมแซมท่อก๊าซนอร์ดสตรีมด้วย จริงๆ แล้วจำนวนคนเดินขบวนประมาณ 5 แสนคน แต่ว่าสื่ออเมริกาบอกว่าเป็นหมื่นๆ คน วอชิงตันโพสต์
นอกจากนี้แล้ว นายสกอตต์ ริตเตอร์ ยังมอไปข้างหน้าถึงการสิ้นสุดของสหภาพยุโรป (อียู) จากเหตุวินาศกรรมท่อก๊าซนี้ว่า เยอรมนีไม่เพียงแต่ถูกแทงโดยอเมริกา แต่โดนนอร์เวย์ เดนมาร์ก สวีเดน และโปแลนด์ ร่วมกันแทงข้างหลังด้วย ทุกคนรู้ดีในเรื่องนี้ แต่ในฐานะที่เยอรมนีมีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป พวกเขาอาจจะกลับไปที่เงินดอยช์มาร์ค (Deutschmark) และนั่นคือจุดจบของยุโรป ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ในที่สุดแล้วเยอรมนีอาจจะตื่นขึ้นมา แล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่มานานแล้ว ถอนตัวจากอียู ไม่ใช้เงินยูโร และใช้เงินดอยช์มาร์คต่อไป เพราะว่าเยอรมนีคือจักรกลที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนอียู ถ้าเยอรมนีถอนตัวออกไป ซึ่งไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ประชาชนชาวเยอรมันเริ่มมีปฏิกิริยาที่ไม่พอใจการบริหารงานของนายโอลัฟ ช็อลทซ์ ที่ทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับนาโต และอเมริกา และมิหนำซ้ำ ยังโดนสมาชิกกลุ่มนาโตหลายคน เช่น สวีเดน เดนมาร์ก ซึ่งกำลังจะขอเข้า และนอร์เวย์ แทงข้างหลังอีกต่างหาก
การก่อวินาศกรรมนี้ ในที่สุดแล้วอาจจะทำให้นายโจ ไบเดน และที่ปรึกษาของเขา เช่น เจก ซัลลิแวน นางวิคตอเรีย นูแลนด์ (Victoria Nuland) ซึ่งเป็นสายเหยี่ยว ในการที่จะล้มรัสเซียให้ได้ และนางวิคตอเรีย นูแลนด์ ในอดีตเป็นคนที่พูดออกสัมภาษณ์สื่อเลยว่า อเมริกาอยู่เบื้องหลังในการปฏิวัติในยูเครน แล้วตั้งคนของอเมริกาขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทนคนเก่าซึ่งโปรรัสเซีย นางนูแลนด์ ยอมรับเลย พูดเลยว่าใช่ การเปลี่ยนแปลงในยูเครนนั้นเพราะอเมริกาอยู่เบื้องหลัง ให้การสนับสนุนทั้งอาวุธ ให้การสนับสนุนทั้งเงินทอง เพราะฉะนั้นแล้ว นายโจ ไบเดน นายเจก เซอลิแวน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาสภาความมั่นคง นางวิคตอเรีย นูแลนด์ นายวิลเลียม เบิร์นส (William Burns) กับ แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา อาจจะต้องตกเป็นอาชญากรสงครามที่แท้จริง
นอกจากนี้ ปฏิบัติการนี้ยังถือว่าละเมิดรัฐธรรมนูญของอเมริกาด้วย เพราะเจตนาไม่รายงานเรื่องนี้ให้รัฐสภาเลย นี่คือปฏิบัติการลับที่สภาคองเกรสไม่ได้รับแจ้ง
สกอตต์ ริตเตอร์ พูดต่อว่า นี่คือความชั่วร้าย เป็นการบริหารที่ชั่วร้าย เพราะนั่นคือสิ่งที่ชั่วร้าย เมื่อคุณฝ่าฝืน ละเมิดกฎหมาย สร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น โดยไม่มีใครที่จะรับผิดชอบ โดยปราศจากความชอบธรรม ความถูกต้องทางกฎหมาย และเป้าหมายที่นี้คือการรนำภัยอันตรายมาสู่คนอเมริกา
ท่านผู้ชมครับ ที่น่าสนใจก็ตามมาตรา 5 ของนาโต สนธิสัญญานาโตระบุชัดเจน เมื่อสมาชิกนาโตชาติใดชาติหนึ่งถูกโจมตี ก็เหมือนว่าสมาชิกนาโตทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมี 26 ประเทศ ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว การระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม จากความร่วมมือของ 4 ชาติที่นำโดยอเมริกานี้ เยอรมนีไม่เคยคิด ตีให้ตายก็ไม่คิด ตื่นมาก็ไม่เคยคิด หลับฝันก็ไม่เคยคิด แต่ความจริงก็คือว่า เป็นการโจมตีภายในหมู่สมาชิกนาโตเอง นายโอลัฟ ช็อลทซ์ ไม่มีจุดยืน สู้นางอังเกลา แมร์เคิล ไม่ได้เลย
สกอตต์ ริตเตอร์ บอกว่า ผมจะพูดตรงๆ ว่าภัยคุกคามอันดับหนึ่งต่อนาโต คือ อเมริกา เพราะอเมริกาต้องการโจมตีรัสเซีย ต้องการโจมตีเยอรมนีที่ต้องการก๊าซรัสเซียราคาถูก อเมริกาก็เลยแทงเยอรมนีด้านหลัง และนาโตจะไม่ช่วยเรื่องนี้ นี่คือความจริงที่เปิดเผยว่า นาโตนั้น ในที่สุด ข้อเท็จจริงก็คือ เป็นเครื่องมือของอเมริกา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านาโตไม่มีเหตุผลที่แท้จริงที่จะดำรงอยู่ต่อไปอีกแล้ว มันไม่มีเหตุผลที่จะมีอยู่ ตั้งแต่สงครามเย็นสิ้นสุดลง นั่นคือคำพูดของ สกอตต์ ริตเตอร์
ท่านผู้ชมครับ ประเด็นเรื่องอนาคตนาโตนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนของการประชุมด้านความมั่นคงมิวนิก ครั้งที่ 59 ทั้งประเด็นความสามารถของนาโตที่ธำรงความสาม้คคี หรือสร้างความแตกแยกระหว่างตะวันออก กับตะวันตก รวมทั้งการขยายตัวของนาโตที่จะให้สวีเดน และฟินแลนด์ เข้าร่วมเป็นชาติสมาชิก แต่ไม่มีเรื่องพิจารณาการขอสมัครเข้าร่วมนาโตของยูเครน ซึ่งขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมรอบใหม่จากชาติพันธมิตรและอเมริกาอีก
หนังสือพิมพ์เยอรมนี DW วิเคราะห์ว่า ในบรรดาผู้นำโลกอาจไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น แต่แน่นอน ส่วนใหญ่จะตกลงกันว่าโลกกำลังก้าวย่างไปสู่ทศวรรษที่สำคัญในการปรับปรุงและเปลี่ยนระเบียบโลกใหม่แล้ว
ท่านผู้ชมครับ ณ วันนี้ ความสัมพันธ์นาโตมีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งว่าจะกลายเป็นแก้วร้าวที่กำลังจะแตกละเอียด เพราะสุดท้ายกลายเป็นว่า สหรัฐอเมริกากลับเป็นผู้ที่ประพฤติตัวเป็นภัยคุกคามความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติที่ขัดแย้ง ไม่ลงตัวนั่นเอง โดยประเด็นที่สำคัญคือความกลัวของอเมริกาที่ว่า ชาติยุโรปจะละทิ้งสถานะของการเป็นหุ่นเชิด ไม่ยอมเป็นเบี้ยให้อเมริกาอีกต่อไป แล้วก็จะเป็นเป้าหมายของอเมริกาที่จะทำให้ยุโรปวุ่นวาย และให้ยุโรปแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ จากการขาดความสามัคคี และทำให้อเมริกาสามารถจะครอบงำยุโรป เรียกว่า สั่งให้หันซ้ายก็หันซ้าย สั่งให้หันขวา ก็หันขวา
ท่านผู้ชม ก่อนผมจะจบเรื่องนี้ ผมจะมีข้อคิดนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ในยุคที่พวกม็อบสามนิ้วละเมิดมาตรา 112 แล้วถูกดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นคุณธนาธร ก็ตาม หรือคุณปิยบุตร ก็ตาม ท่านผู้ชมจำได้ไหม มีฝรั่งตาน้ำขาว หัวสีทอง ที่อ้างตัวเองว่าเป็นทูตมาจากสถานทูตของอียู เดินทางไปที่โรงพักแต่ละโรงพักแล้วไปกดดันตำรวจ ท่านผู้ชมครับ ยุคนั้น ทั้งพรรคก้าวไกล ทั้งธนาธร ทั้งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทั้งช่อ พรรณิการ์ วานิช โน่นนี่นั่น พากันเชียร์นาโต พวกที่เชียร์นาโตพวกคุณรู้หรือยังว่า ทูตอียู สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ มันคือผู้ก่อการร้าย ระเบิดท่อส่งก๊าซ ซึ่งเป็นสมบัติของรัสเซีย และของเยอรมนี คุณเห็นหรือเปล่า ว่าพวกนี้ดูเหมือนเป็นผู้ดี รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้ก็คือผู้ก่อการร้ายนั่นเอง วันนี้พิสูจน์กันชัดเจนแล้ว คุณจะรัก จะชอบรัสเซีย จะรักหรือจะชอบยูเครน ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือว่า การระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 เป็นการกระทำของผู้กอ่การร้าย ซึ่งพิสูจน์ออกมาแล้วโดยซีมัวร์ เฮิร์ช ว่าเป็นการกระทำของอเมริกา เดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์ ให้รู้ไว้ด้วย คนที่เทิดทูนยุโรป หรือคนที่อยู่ในยุโรป มีสามีเป็นคนนอร์เวย์บ้าง สวีเดนบ้าง เดนมาร์กบ้าง ให้รู้ไว้ด้วยว่าประเทศพวกนี้ล่ะก็คือผู้ก่อการร้ายที่แท้จริง โดยหัวหน้าผู้ก่อการร้ายก็คือสหรัฐอเมริกา
ก้าวไกลไฟต์ ปิยบุตร VS พิธา
ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านผู้ชมคงได้ข่าวเรื่องของความขัดแย้งระหว่างหัวหน้าพรรคก้าวไกล คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ คุณปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่
ผมจะเล่าปูมหลังให้ฟังนิดหนึ่งนะครับ ถึงแม้คุณปิยบุตรจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ แต่คุณปิยบุตรก็ยังร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกล ที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เดิมย้ายสังกัด ปิยบุตรเคลื่อนไหวในนามคณะก้าวหน้า ร่วมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา คุณปิยบุตรโพสต์ข้อความถึงข้อเสนอและข้อวิจารณ์ต่อพรรคก้าวไกลบ่อยครั้ง เช่น ตำหนิพรรคก้าวไกลไม่มีความจริงใจแก้มาตรา 112 ย้อนถามว่า อยากแก้จริงหรืออยากเอาออกมาหาเสียง ทำให้ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลไม่พอใจ มองว่าอาจารย์ปิยบุตรแซะพรรคก้าวไกล เข้าทางผู้สนับสนุนพรรคอื่น ไม่คิดถึงหัวอกหัวใจคนในพรรค
8 ธันวาคม 2565 นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความชี้แจงความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกล ระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีบทบาท ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ ไม่มีอำนาจชี้นำใดๆ กับพรรคก้าวไกล การแสดงความเห็นเป็นเรื่องของตน ไม่เกี่ยวกับพรรค การกระทำทั้งหมดของพรรคเป็นเรื่องของพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส., ส.ก., ผู้สมัคร ส.ส. หรือสมาชิกพรรค ไม่เกี่ยวกับตน แม้มีความเห็นไม่ตรงกัน แต่จะไม่ไปออกสื่อ ไม่ไปสัมภาษณ์สื่อเพื่อขยายความขัดแย้งจนส่งผลกระทบต่อพรรค
หลังจากนั้นแล้ว คุณปิยบุตรก็ยังโพสต์ข้อความเตือนพรรคก้าวไกลบ่อยครั้ง เช่น เตือนกระแสไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนจะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย แลนด์สไลด์ หรือการเรียกร้องให้นายพิธา อุทิศตน เดินสายทั่วประเทศเหมือนธนาธร เมื่อปี 2562
ศึกล่าสุด วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 อาทิตย์ที่แล้ว นายปิยบุตร โพสต์บทความหัวข้อ "แลนด์สไลด์ที่พรรคก้าวไกลแก้ไม่ออก" โดยยกผลโพลว่าประชาชนจำนวนมากต้องการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งปี 66 และกล่าวถึงยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่ามีคะแนนนิยมสูงมาก แม้แต่ภาคใต้ แต่พรรคก้าวไกลคะแนนนิยมอยู่นิ่งมาปีเศษ ผู้อำนวยการนิด้าโพลวิเคราะห์ว่า คะแนนนิยมพรรคก้าวไกลเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่เพิ่มและไม่ลด หากต้องการคะแนนมากกว่านี้ ต้องแสวงหาคะแนนจากลุ่มผู้ที่ไม่ตัดสินใจ หรือตัดสินใจเลือกพรรคอื่น โดยต้องแก้ปัญหาแลนด์สไลด์ ได้แก่ หนึ่ง ต้องทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะในเขตเลือกตั้งสูง ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย สอง ต้องขีดเส้นแบ่งใหม่ ไม่ใช่ฝ่ายเอาประยุทธ์ กับไม่เอาประยุทธ์ ฝ่ายประชาธิปไตย หรือเผด็จการ แต่ต้องเป็น พลังเก่า กับ พลังใหม่ สร้างความแตกต่างออกจากทุกพรรค ทุกขั้ว เชื่อมั่นว่าเทคะแนนให้พรรคพลังใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลง ใฝ่ฝันถึงสังคมใหม่ในอนาคต ไม่ใช่วนเวียนอยู่กับเรื่องเอาทักษิณ ไม่เอาทักษิณ เอาประยุทธ์ หรือไม่เอาประยุทธ์
นายปิยบุตร กล่าวว่า การเมืองอยู่ที่ความเชื่อ เชื่อก่อนว่าจริง เราทำได้จริง ต่อให้แคมเปญเลอเลิศขนาดไหน ถ้าคนไม่เชื่อก็เป็นเพียงแค่บันทึกเก็บไว้ คุณปิยบุตร บอกว่า ปัญหาอยู่ที่ว่าผู้นำพรรคก้าวไกล คือนายพิธา มีศักยภาพเพียงพอจะทำให้คนเชื่อว่าจะชนะในเขตเลือกตั้งได้หรือไม่ และมีความสามารถพอเพียงหรือเปล่าที่จะเชื่อว่าต้องมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนของพลังใหม่ได้หรือไม่ ยังเหลือเวลาอีกสามเดือน
ต่อมา วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นายพิธาก็เลยโพสต์บทความเรื่อง "ครบรอบ 3 ปี ยุบอนาคตใหม่ ความในใจของหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์" รวมทั้งคุณปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุถึงความสำเร็จของตัวเอง ทั้งได้รับเงินบริจาคจากผู้เสียภาษีอันดับหนึ่ง 4 ปีซ้อน สมาชิกกว่า 70,000 ราย และเขาเดินทางมากกว่า 50,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศ
พิธา ย้อนกลับไปว่า เมื่อสามปีที่แล้วถูกปิยบุตรเรียกไปคุยเรื่องพรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ ตอนนั้นไม่มีใครพร้อมรับการนำธง ส่วนตัวเองก็ติดที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลูกสาวเพิ่งจะ 2 ขวบ ละทิ้งไม่ได้ ถ้าไม่มีใครยอมรับตำแหน่งจริงๆ จะรับให้ แต่โครงสร้างบริหารพรรคก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามข้อบังคับพรรคใหม่ ตามความปรารถนาของสมาชิกพรรคใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง
นอกจากนี้ คุณพิธายังอ้างคำพูดคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยว่า อีกหน่อยเราอาจจะต้องทะเลาะกันหนักมากนะ แต่อย่างไรขอให้จบกันภายในพวกเราเอง เป็นมืออาชีพ ไม่ปล่อยความขัดแย้งออกไปข้างนอก แต่น่าเสียดายที่ตนกับปิยบุตรต้องมาสื่อสารกันทางนี้ ปิยบุตรพูดถูกว่า การเมืองคือความเชื่อ ศัตรูพูดร้อยครั้ง ไม่เท่ากับปิยบุตรพูดซ้ำๆ แล้วความฝันคนหลายร้อยคนที่ทำงานอย่างหนักต้องมาสูญเปล่า
อีกสามเดือนก่อนการเลือกตั้ง ขณะนี้พรรคค่อยๆ วางแผนทีละเขต อาสาสมัครกำลังหาสมาชิกเพิ่ม ทีมจังหวัดทำพื้นที่ล่วงหน้า ทุกคนเดินทางด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด ส.ส. อภิปรายตามมาตรา 152 โดนคดีเป็นร้ยอล้าน นายปิยบุตรกลับโพสต์ข้อความซัดพวกตนที่ทำงานกันเหน็ดเหนื่อย จนลืมไปว่าศัตรูตัวจริงคือใคร และกำลังสู้กับใคร เพื่ออะไร
คุณพิธา พูดต่อ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค เชื่อว่าทุกคนรับการวิจารณ์ได้ ตัวเองนั้นโดนมาสามปี ตลอด เข้าใจถึงอิสรภาพในการแสดงออก ผมเป็นคนฟัง แต่ยังไม่เชื่อ แต่ถ้าถึงขนาดมาจากคนที่เคยขอร้องให้ผมมารับตำแหน่ง คงต้องมาทบทวนกันใหม่ ทั้งการทำงานของกองอำนวยการการเลือกตั้ง และบทบาทของตัวผมเอง
นายพิธา อยากจะให้ปิยบุตรทบทวนว่า หนึ่ง ปิยบุตรต้องเลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามนายธนาธรขอไว้ กลับมาช่วยกันเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทำให้คนที่เคยปรามาสพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล คิดผิด อนุญาตให้ตนและอีกหลายร้อยชีวิตที่พรรคมีสมาธิในการทำงานโค้งสุดท้าย
ข้อที่สอง ปล่อยให้ตนเสียสมาธิจนลืมไปว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร ทิ้งโอกาสในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ปล่อยให้ 3 ป. ยังสืบทอดอำนาจต่อไป ไม่แน่ใจว่าปิยบุตรจะทำแบบนี้ไปอีกเท่าไร ผมว่าพอได้แล้ว มาเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยกัน ถึงแม้ว่าต่างคนต่างทำก็ตาม
พอโดนกล่าวหาว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นายปิยบุตรฉุนขาด ซัดกลับ ระบุว่า ที่ผ่านมาพยายามวิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างตรงไปตรงมา ไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่พิธากลับโพสต์ถึงตนโดยตรง จึงจำเป็นต้องตอบโดยละเอียด จะได้รู้เสียทีว่า พิธา เอารัดเอาเปรียบพวกผม ทีมงาน พนักงาน ทีมจังหวัดทั่วประเทศ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. เพียงใด ใครกันแน่ที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ใครกันแน่ที่จับเสือมือเปล่า เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
ท่านผู้ชมครับ ขณะที่นายคริส โปตระนันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และมูลนิธิเส้นด้าย อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่เพิ่งลาออกจากพรรคเพื่อก่อตั้งพรรคการเมืองของตัวเองเมื่อก่อนหน้านี้ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล (ผมคิดว่าคุณคริสกำลังมุ่งเป้าไปที่นายพิธา) ต้องเลิกคิดว่าคนที่วิจารณ์ทั้งหมดคือศัตรู ต้องเลิก มาทำการเมืองต้องน้อมรับคำวิจารณ์ แก้ไขหรือไม่แก้ไข เป็นเรื่องของทีมบริหาร คนส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับทีมบริหารสามารถรอได้ ถ้าพรรคปล่อยให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหาร คนส่วนน้อยที่คิดไม่เหมือนกับคุณคริสเรียกกรรมการบริหารของคุณพิธา ว่า โปลิตบูโร (Politburo) จะได้มีช่องหายใจบ้าง แต่กลับไม่มี ประชาธิปไตยที่แท้จริงเลยไม่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายคริส ออกมาระบุว่า ได้ลาออกจากพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไม่กี่วันมานี้เอง เพราะอยากทำงานการเมืองในพรรคที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นัยก็อาจจะหมายความว่า พรรคก้าวไกลที่นายพิธาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย มีแต่ความเป็นเผด็จการ แต่การประชุมสามัญ การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. นโยบายหาเสียง การจัดลำดับ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ล้วนเป็นเรื่องของการตัดสินใจของคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งตนเรียกว่า โปลิตบูโร โดยหากกรรมการบริหารพรรคเป็นแบบนี้ ถ้าได้อำนาจจะบริหารประเทศอย่างไร คงอยู่ที่คนกลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่ที่สมาชิกพรรค
ท่านผู้ชมครับ เหมือนการเมืองน้ำเน่าของพรรคทั่วๆ ไป ในที่สุด พิธา กับปิยบุตร จู่ๆ ก็กลับมากอดคอกัน จูบปากกันเฉย ในที่สุดคุณปิยบุตรก็บอกว่า ผมได้คุยกับคุณทิม (คุณพิธา) เรียบร้อยแล้วครับ ปรับความเข้าใจกันได้ดี ผมยืนยันว่าในสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองเช่นนี้จำเป็นต้องมีพรรคก้าวไกล ผมสนับสนุนให้พิธา และผู้บริหารพรรค นำพาพรรคก้าวไกลสู้ต่อไปในสนามการเลือกตั้ง
ท่านผู้ชมครับ ผมจะวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างนี้ สาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในพรรคก้าวไกล หรืออดีตอนาคตใหม่ เกิดขึ้นจากอะไร ? ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างจริงจัง ผลสำรวจในโพลต่างๆ มักจะออกมาว่า พรรคเพื่อไทย กับอุ๊งอิ๊ง จะมาที่หนึ่ง ตามมาด้วยพรรตคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นเต็งสอง จากนั้นก็จะเป็นรวมไทยสร้างชาติ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เต็งสาม แต่เมื่อเวลาใกล้เลือกตั้งเข้ามา แม้เพื่อไทย-อุ๊งอิ๊ง จะยังมีคะแนนนำ แต่คนที่หายใจรดต้นคอ กลับเป็นลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ โพลบางสำนักถึงกับบอกว่าเป็นเสี่ยหนู คุณอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย ที่มาแรง ส่วนนายพิธา และพรรคก้าวไกล คะแนนเสียงเริ่มตกวูบ ถูกทิ้งห่างออกไป
อาจจะเป็นเพราะเเหตุนี้มั้ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เห็นแล้วอดรนทนไม่ได้ ก็เลยโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน การบริหารพรรคก้าวไกล ยุคคุณพิธา ว่าเปรียบเสมือนน้ำเต็มแก้ว คืออยู่กับที่ ไม่โตไปกว่านี้อีกแล้ว ตราบใดที่ไม่คิดเปลี่ยนแปลง สร้างพลังใหม่ของตัวเอง อาจจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ สัก 30 ที่นั่ง จากนั้นก็รอความเมตตาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อดึงไปร่วมรัฐบาล แลกกับเก้าอี้่รัฐมนตรี 2-3 ตำแหน่ง นายปิยบุตร บอกว่ากระแสประชาชนตอนนี้ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนตัวนายกฯ จะใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลง แต่พรรคก้าวไกลกลับทิ้่งจุดเดิม ทิ้งแฟนพันธุ์แท้ตัวเอง แม้ปิยบุตรจะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่คนวงในรู้ว่าที่พูดหมายถึงอะไร เพราะระยะหลังมานี้ ก้าวไกลทำตัวห่างเหินจากกลุ่มสามนิ้ว ไม่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับมาตรา 112 เหมือนเมื่อก่อน จึงเป็นที่ขัดอกขัดใจของพวกฮาร์ดคอร์ ทั้งที่เป็น ส.ส. ในพรรค และที่เป็นแฟนคลับด้านนอก
พอเจอปิยบุตร คนคุ้นเคยกัน ตีแสกหน้าเข้าแบบนี้ นายพิธาก็เลยถือโอกาสในวาระครบรอบ 3 ปี การยุบพรรคอนาคตใหม่ แก้ตัว ระบุว่า ตัวเองยอมทุ่มเททั้งตัว จิตวิญญาณ จนกระทั่งพรรคเติบโตอย่างไม่น่าเชื่อ มีสมาชิกพรรค 70,000 คน มากกว่าตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่เสียอีก นอกจากนั้นแล้ว นายพิธา ยังบอกอีกว่า อีกสามเดือนก่อนเลือกตั้ง พลพรรคก้าวไกลกำลังเข็นครกขึ้นภูเขา สู้กับอำนาจรัฐ อำนาจทุน แต่นายปิยบุตรกลับปล่อยเขื่อนออกมาทีละโพสต์ๆ ให้น้ำไหลออก ซัดครกที่พวกเราเข็นกันเหน็ดเหนื่อยไล่ลงมากองใหม่ จนบางทีเราลืมไปแล้วว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร เรากำลังสู้กับใคร เพื่ออะไร
ศึกไฟต์ของก้าวไกลครั้งนี้ คนกันเองซัดกันนัว กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล สร้างความระส่ำระสายในหมู่พรรคก้าวไกล และม็อบสามนิ้ว เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบสามนิ้ว ถึงกับออกมาโพสต์รำพึงรำพันว่า "จะตีกันก็ให้คิดถึงน้องๆ ที่ออกมาสู้ด้วยนะครับ พี่ๆ นักการเมืองทั้งหลาย"
กระแสดังกล่าวไม่พ้น ทำให้คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต้องออกหย่าศึก โพสต์บอกว่า ครบ 3 ปียุบพรรคอนาคตใหม่ ผู้มีอำนาจทำลาย Political Project ของเราไม่ได้ ชาวอนาคตใหม่ ผม ปิยบุตร พร้อมสนับสนุนก้าวไกล ส่งพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จนกระทั่งมาถึงช่วงเย็น จึงมีภาพของปิยบุตร กับ พิธา ยืนกอดคอกัน
ประเด็น ท่านผู้ชมเห็นเขาด่ากันสาดเสียเทเสีย เสร็จกลับมากอดคอจูบปากกันดูดดื่ม รู้สึกอย่างไร ? ผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ ครับท่านผู้ชม ที่ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ อนาคตของชาติ อนาคตใหม่ หรือก้าวไกล จริงๆ แล้วมันก็หนีความน้ำเน่าทางการเมืองไม่ได้ แตกต่างจากนักการเมืองรุ่นเก่า ยุคเก่า เพียงแค่ว่ามีหน้าตาดี ดูมีการศึกษา จบเมืองนอกเมืองนา เล่นโซเชียลเป็น เล่นกระแสเก่ง แต่ในที่สุดความเหม็นเน่าของการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น มันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากนักการเมืองรุ่นเก่าเลย ในบางครั้งอาจจะชั่วร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ
ท่านผู้ชมครับ ผมเคยบอกเสมอว่า ดูการเมืองให้ดูที่คน ดูประวัติความเป็นมา พ่อแม่ วงศ์ตระกูลด้วย เพราะอย่าลืมว่าพิธาคือหลานของคุณผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ คนหัวขาวซึ่งเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร พิธารับหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งรับไม้ต่อจากพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว พิธาคงทราบสัญญาณดีว่า ถ้าผลักดันเรื่อง 112 มาก ก็จะถูกทุกพรรคโดดเดี่ยว รวมทั้งพรรคเพื่อไทยด้วย จึงต้องวางตัวให้สงบเสงี่ยมเอาไว้ เพราะตัวเองไม่อยากจะเสี่ยง ต้องไปติดคุกติดตะรางเหมือนแกนนำม็อบทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ พอจับสัญญาณได้ว่าพิธาอาจจะเอนเอียงทางเพื่อไทยมากไป ก็เลยไม่ถูกใจคนอย่างปิยบุตร นักวิชาการจบจากฝรั่งเศส ที่มีแนวความคิดปฏิวัติซ้ายสุดโต่ง ไม่พอใจ บอกว่าก้าวไกลหวังเกาะแลนด์สไลด์ เพื่อไทยเป็นรัฐบาลด้วยเสียงปาร์ตี้ลิสต์ 30 เสียงเท่านั้น ไม่หวัง ส.ส. เขต
ท่านผู้ชมครับ เราต้องยอมรับว่าทักษิณมีการต่อสายเพื่อขอจับมือกับพรรคพลังประชารัฐจริง เพื่อหวังจะได้เป็นรัฐบาล และเป็นการปูทางให้ได้กลับบ้าน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางฝั่งคณะก้าวหน้า-ก้าวไกล ก็โจมตีทักษิณในเรื่องนี้ตลอด และต้องแตกหักกับพรรคฝั่งเพื่อไทย รวมทั้งสื่ออย่างเช่น วอยซ์ทีวี
ก่อนหน้านี้ความเป็นเผด็จการในพรรคก้าวไกล คุณพิธา ก็มีกรณีของคุณคริส โปตระนันทน์ ที่ลาออกมาก่อน และกล่าวหาว่าในพรรคก้าวไกลมีระบบเหมือนโปลิตบูโร
ท่านผู้ชมครับ รอยปริแตกในพรรคก้าวไกล หรืออีกนัยหนึ่ง คืออดีตพรรคอนาคตใหม่นั้น เริ่มปรากฏว่าชัดเจนว่าเป็นรอยร้าวที่ชัดเจน ทั้งนี้ ไม่มีวันที่รอยร้าวจะสมานกลับไปเป็นแก้วใบเดียวกันเหมือนเดิม รอเวลาเท่านั้นว่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อไรเท่านั้น ขอให้เชื่อผมเถอะครับ
ใครคือพ่อบุญธรรม กับ ปู่บุญธรรม ฟลุ๊ค Mawinbet เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ?
วันนี้ผมจะพูดถึงคนๆ หนึ่งที่ผมทิ้งท้ายเอาไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ว่านอกจากนายแทนไท ณรงค์กูล เจ้าของเว็บพนัน sagame1688 ซึ่งได้รับความเมตตากรุณาอย่างมากมายผิดปกติจากอัยการสูงสุดคนที่แล้ว นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อดีตอัยการสูงสุดคนที่ 16 เป็นอัยการสูงสุดต่อจากนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อ 30 กันยายน 2565 ได้รับความเมตตาอย่างสูงสุดจากคุณสิงห์ชัย ทนินซ้อน มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง แต่จริงๆ แล้วมันยังมีคำสั่งเด็ดขาดอีกคนหนึ่ง ในยุคสิงห์ชัย ที่สั่งไม่ฟ้องเช่นกัน
เครือข่ายระดับเว็บพนันรายใหญ่รายนี้ ต้องบอกว่าเป็น "ซูเปอร์บิ๊ก" คือทำให้เว็บพนันของนายแทนไท หรือ "มาเก๊า 888" นั้น เป็นเว็บพนันของเด็กอนุบาลไปเลย นี่คือของจริง
ถ้านายแทนไท บอกว่าตัวเองรวยพันล้าน นายคนนี้ก็บอกว่ากูรวยกว่ามึง เพราะเครือข่ายเด็กหนุ่มคนนี้สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน ผมจะเอารูปของคนที่คนในวงการเขาเรียกว่า "ไอ้ฟลุ๊ค" ชื่อ นายเกียรติศักดิ์ เจริญสุข และภรรยา เอามาให้ดู
เขาเป็นเจ้าของเครือข่าย Mawinbet ปัจจุบันนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Movewinbet ไปแล้ว ฐานที่มั่นของ Mawinbet นั้นอยู่ภาคตะวันออก ใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง แถวๆ ชลบุรี "ไอ้ฟลุ๊ค" หรือ เกียรติศักดิ์ เจริญสุข เกิดกรกฎาคม 2536 ปัจจุบันอายุแค่ 28 ปีเอง เกิดที่บุรีรัมย์ มาโตที่จังหวัดชลบุรี มีแฟนชื่อ "ไก่" ชลิตา พิทักษากูลเกษม
เนื่องจากครอบครัวของฟลุ๊คเดิมทีฐานะไม่ดี แม่เปิดร้านขายข้าวแกง ทำให้ทางบ้านของไก่ ชลิตา เป็นคนส่งเสียฟลุ๊คให้ร่ำเรียนหนังสือจนจบ ต่อมาฟลุ๊คได้เข้าแก๊งของนายเบ้ หรือ นายณัฐธนัช อัตนาถ ซึ่งทำอาชีพสีเทาหลายอย่าง และก็เป็นนายเบ้นี่เอง ที่เป็นคนพานายฟลุ๊คเข้าวงการพนันออนไลน์ ไปรู้จักกับขาใหญ่ของประเทศไทย ชื่อ "เฮียตี๋น้อย" ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนัน ชื่อ "เจษฎาเบท" (JETSADABET) เจ้าของสโลแกนว่า "เว็บหวยออนไลน์อันดับหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์บนเส้นทางสีเทาของออนไลน์มาร่วมสิบปี"
การจดทะเบียนของเว็บไซต์ jetsadabet.com เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2556 (เก้าปีที่แล้ว) เว็บของนายตี๋น้อย เป็นเว็บพนันออนไลน์อันดับต้นๆ เลย
ฟลุ๊ค เริ่มก้าวเดินบนเส้นทางพนันออนไลน์ภายใต้ร่มธงของตี๋น้อย หรือชื่อนายพรชัย ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนัน JETSADABET และเป็นเจ้าของตัวจริง นี่คือเจ้าของตัวจริงของแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ที่ชื่อ "มังกรฟ้า" ผู้บุกเบิกเส้นทางหวยออนไลน์มาก่อนนอท พันธ์ธวัช แห่งกองสลากพลัส หลายปีเลย
ส่วนนายพชรล์ เมสสิยาห์พร หรือ แทมป์ ที่สื่อรู้จัก อ้างว่าเป็นผู้บริหารมังกรฟ้าลอตเตอรี่นั้น เป็นแค่หุ่นเชิด หรือตัวหลอกเท่านั้นเอง เพราะตี๋น้อย หรือพรชัย เจ้าของ JETSADABET วางตัว "ไอ้ฟลุ๊ค" ให้อยู่ใต้สายเอเยนต์ของคนที่ชื่อ โภชน์ หรือ สมโภชน์ เพื่อสนิทของตี๋น้อย
โภชน์ เป็นเจ้าของสายเว็บพนันชื่อ Allnew999 url ก็คือ jetsadabet.com/allnew999 ขณะที่ฟลุ๊คได้รับสัมปทานให้ทำเว็บไซต์หวยออนไลน์เถื่อนที่ชื่อว่า Theonelotto ก็คือ jetsadabet.com/theonelotto และ poipet9999.com
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมได้เคยเกริ่นให้ท่านผู้ชมรับทราบแล้วว่าวงการพนันออนไลน์เขาแบ่งเป็นสายหลักๆ 4 สาย หนึ่ง สายกาสิโน คือพวกบัคคาร่า ไพ่ต่างๆ สอง สายสล็อต สาม สายกีฬา พนันฟุตบอลลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกอังกฤษ บอลอิตาลี สเปน เยอรมนี หรือบอลไทย และสายที่สี่ คือสายหวย หรือสายล็อตโต้ ในประเทศไทยนั้นสายที่สี่ คือ สายหวย/สายล็อตโต้ เป็นสายที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบโปรแกรมหรือการโปรโมตจากแพลตฟอร์มต่างประเทศมากมายนัก ประกอบกับความนิยมของคนไทยที่ชอบเล่นหวย เล่นพนัน ทำให้ประเทศไทย สายหวยหรือสายล็อตโต้สามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำมากที่สุด
ท่านผู้ชมลองฟังแล้วคิดตามผมมานะ อย่าตกใจ สายหวยมีให้เล่นทุกรูปแบบ เล่นได้ทุกวัน เช้าถึงกลางคืน เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ บางตัวให้เล่นหลายรอบ เช่น หวยรัฐบาล หวยยี่กี หวยฮานอย หวยลาว หวยมาเลย์ หวยหุ้นไทย หวยหุ้นเกาหลี หุ้นฮั่งเส้ง หุ้นจีน หุ้นนิกเกอิ หุ้นดาวโจนส์ หุ้นไต้หวัน หุ้นเยอรมัน หุ้นรัสเซีย หุ้นอังกฤษ หุ้นอินเดีย มีทั้งแบบ 3 ตัวบน 2 ตัวล่าง ประกอบกับนิสัยคนไทย และการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบการพนันที่เปลี่ยนจากระบบออฟไลน์ เข้าไป join ตามบ่อนต่างๆ ไปเป็นออนไลน์ ระบบการโอนเงินที่ง่ายดาย โดยเฉพาะ Mobile Banking โอนเงินบนมือถือ ระบบการติดต่อสื่อสารผ่านแอปฯ ไลน์ (LINE) ระบบสมัครเป็นสมาชิกเข้าเล่นได้ง่ายดาย ทุกอย่างเอื้ออำนวยให้กระบวนการทั้งหมดทำได้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวบนมือถือ สมาร์ทโฟน ส่งผลให้เวลาไม่นาน พวกเจ้ามือพนันออนไลน์เหล่านี้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ มีเงินร่ำรวยมหาศาล
ว่ากันว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตี๋น้อย พรชัย มีเงินสะสมเป็นหมื่นๆ ล้าน ขยายธุรกิจไปทำสลากกินแบ่งออนไลน์ มังกรฟ้า ผ่องถ่ายเอาเงินใต้ดินจากพนันออนไลน์มาขยายสู่เครือข่ายธุรกิจบนดินหลายอย่าง ซึ่งถ้าท่านผู้ชมทราบแล้วจะอ้าปากค้างเลย
วิธีการเคลียร์เงินระหว่าง ฟลุ๊ค กับตี๋น้อย พรชัย เขาเคลียร์กันอย่างไร ? ในส่วนของฟลุ๊ค เมื่อเข้าไปเป็นเอเยนต์ของ JETSADABET แล้ว ทุกสัปดาห์ ตี๋น้อย พรชัย กำหนดกติการชัดเจนที่ฟลุ๊คต้องเดินตาม คือ ต้องเอาเงินสดที่เป็นส่วนแบ่ง เข้าไปให้ตี๋น้อย พรชัย ดังนี้ หนึ่ง ต้องนำส่งทุกสัปดาห์ สอง หากยอดเดิมมีลูกค้าถึง 20 ล้านบาท แต่ระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็ให้เอาเข้าไปก่อน พฤติกรรมส่งเงินให้ตี๋น้อยของฟลุ๊ค คือจะเอาเมียที่ชื่อ กุ๊กไก่ ชลิตา ไปด้วย แต่ต่อมาพอตี๋น้อย พรชัย เริ่มไหวตัวทัน ก็เริ่มปรับวิธีการเรียกเก็บเงินจากเอเยนต์ โดยใช้วิธีการโอนเงินเข้าไปเติมเครดิตในส่วนของเอเยนต์แทนการขนเงินสด
ทั้งนี้ การเติมเงินเครดิตของเอเยนต์ เมื่อ log in เข้าไปสู่ระบบเว็บไซต์ JETSADABET ระบบจะมีการสุ่มเลขบัญชีของบัญชีม้าขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเอเยนต์ต้องการเติมเงิน 1 ล้านบาท ระบบจะสุ่มธนาคาร เลขบัญชี พร้อมชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชี มาให้โอนเงินเข้าไป 5 บัญชี บัญชีละ 2 แสนบาท เป็นต้น
ท่านผู้ชมครับ ที่ว่าบัญชีม้าในเครือข่าย JETSADABET เมื่อสามปีที่แล้วนั้น ท่านผู้ชมรู้ไหมมีจำนวนร่วม 200-300 บัญชี อย่างที่ผมพูดไปแล้ว ข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ "เหยื่อ" ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ทำงานเป็นดาวน์ไลน์ ลูกข่ายเว็บพนันเครือข่าย JETSADABET ไอ้ฟลุ๊คได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ด้วยยอดการแทงที่มหาศาลต่อเดือน ทำให้ฟลุ๊คมีรายได้จากตรงนี้เดือนละหลายล้านบาท ต่อมาตี๋น้อย กับไอ้ฟลุ๊ค ก็มีปัญหากัน ทำให้ฟลุ๊ครู้ว่ามีโอกาสโดนเขี่ยออกจากทีมได้ทุกเมื่อ จึงขยับขยายแยกตัวออกมาทำเว็บไซต์หวยออนไลน์ของตัวเอง ใช้ฐานลูกค้าเดิมที่ตัวเองทำการตลาดมาก่อน จาก Theonelotto ซึ่งตัวเองปั้นมา และสะสมลูกค้า คนที่เข้ามาเล่นการพนันได้หลายหมื่นคน
ท่านผู้ชมครับ ทำไมฟลุ๊คถึงตัดสินใจแยกตัวออกจาก JETSADABET ของตี๋น้อย พรชัย ? ลึกๆ แล้ว ตี่น้อย พรชัย นั้นเป็นคนที่ชำนาญในเรื่องนี้ และระมัดระวังตัวมาก เขาคร่ำหวอดในวงการหวยใต้ดินมาพอสมควร และทราบดีว่าการหาเงินหาทองจากธุรกิจสีเทาที่ผิดกฎหมาย จู่ๆ จะเปลี่ยนวิถีทางการใช้ชีวิตอย่างฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวโดดเด่น โด่งดัง เช่น ซื้อรถยนต์หรู ซูเปอร์คาร์ อวดนาฬิการิชาร์ด มิลล์ ยี่สิบกว่าล้าน
เหมาเครื่องบินส่วนตัว ซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ จัดงานวันเกิดแบบอลังการ จ้างดารานักร้องมาร่วม เอาเงินไปประมูลป้ายทะเบียนรถราคาแพง อย่างนายแทนไท ณรงค์กูล เป็นต้น ก็จะถูกจับตาจากสังคมและถูกเจ้าหน้าที่ล็อกเป้า บุกเข้าตรวจสอบ และจะถูกเจ้าหน้าที่ไถเงินเอาอย่างง่ายๆ ด้วย
เพราะฉะนั้น พรชัย ตี๋น้อย เลยมีกฎเหล็ก ข้อห้ามเด็ดขาดไว้เลยว่า ใครก็ตามจะเข้ามาเป็นดาวน์ไลน์ หรือเป็นพาร์ตเนอร์ของ JETSADABET นั้น ห้ามมีพฤติกรรมนี้อย่างเด็ดขาด
ไอ้ฟลุ๊ค อายุยังน้อย วัยยังละอ่อนความคึกคะนอง อายุเมื่อก้าวเข้าสู่วงการเมื่อยี่สิบต้นๆ วัยเด็กไม่ได้มีชีวิตอย่างสบาย ที่บ้านเปิดร้านขายข้าวแกง ไม่มีเงินเรียนหนังสือ ต้องพึ่งพาครอบครัวของเมีย พอเริ่มมีเงินมีทองก็อยากอวดร่ำอวดรวย อวดไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา จนทำให้ตี๋น้อย พรชัย ไม่พอใจและกล่าวตักเตือน สุดท้าย ฟลุ๊คก็ตัดสินใจแยกตัวออกจากตี๋น้อย JETSADABET มาทำเว็บหวยออนไลน์ของตัวเองชื่อ Mawinbet
จากการทำหวยออนไลน์ TheOneLotto ภายใต้ร่มธงของ JETSADABET มาก่อน ทำให้ฟลุ๊คมีฐานลูกค้าในมือจำนวนหลายหมื่นคน ก็เลยทุ่มเงินไปจ้างโปรแกรมเมอร์จากธนาคารแห่งหนึ่ง ให้เขียนแพลตฟอร์มให้ใหม่ในชื่อ Mawinbet
2562-2563 ไอ้ฟลุ๊คเป็นเจ้าของเว็บการพนัน แล้วแยกกันเดินคนละทางกับตี๋น้อย พรชัย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สามปีที่ผ่านมา ไอ้ฟลุ๊ค กับกุ๊กไก่ ภรรยา และพรรคพวก แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส ในช่วงการระบาดโควิด-19 Mawinbet สามารถมีรายได้แบบหักค่าใช้จ่าย หักค่าส่วย เบี้ยบ้ายรายทางแล้ว ได้มากถึงเดือนละประมาณ 300-600 ล้านบาท หรือประมาณ 4,000-7,000 ล้านบาท แบบชิลๆ สบายๆ ถ้าคำนวณสามปีแล้ว ไอ้ฟลุ๊คก็มีเงินหมื่นกว่าล้านบาท
จากข้อมูลที่ผมได้รับทราบคือ จากฐานข้อมูลสมาชิกหลักหมื่นที่ไอ้ฟลุ๊คมีอยู่ จากการทำ TheOneLotto ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย ก้าวกระโดดหลายสิบเท่า คือสมาชิกที่เล่นพนันประจำ Active users เพิ่มเป็นจำนวน 6 แสนคน คน 6 แสนคน เล่นพนันประจำ ท่านผู้ชม เงินจะเข้ามาขนาดไหน สมาชิกที่ลงทะเบียนแล้วจำนวน 1.6 ล้านคน หรือเทียบได้ง่ายๆ จากประชากรคนไทย 66 ล้านคน คนไทยทุกๆ 40-41 คน จะต้องมี 1 คน ที่รู้จัก Mawinbet ของไอ้ฟลุ๊ค
ท่านผู้ชมครับ เมื่อได้เห็นตัวเลขอย่างนี้ ชัดเจนไหมครับว่าเครือข่ายพนันออนไลน์มันเป็นภัยคุกคามร้ายแรงของสังคมไทยเราจริงๆ มันใกล้ตัวเรามาก คุณไม่มีทางรู้เลยว่าพ่อแม่พี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนฝูง ญาติมิตรของเรา จะตกเป็นเหยื่อเมื่อไร ที่สำคัญคือ การพนันออนไลน์ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการตั้งวงพนัน เปิดบ้าน เช่าสถานที่ตั้งเปิดวงไฮโล เปิดวงไพ่ เหมือนสมัยก่อนแล้ว เดี๋ยวนี้ความก้าวหน้าของระบบคอมพิวเตอร์ ระบบชุดคำสั่ง คือมันมีอัลกอริทึม (Algorithm) เหมือนที่เฟซบุ๊ก หรือ YouTube ทำ ก็คือระบบชุดคำสั่ง รวมทั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ ก็คือ AI (Artificial Intelligence) เอาสองตัวนี้เข้ามารวมกันก็สามารถตั้งโปรแกรมว่าคุณจะกำไรจากคนเล่นเท่าไร เอากำไร 50 เปอร์เซ็นต์ 60 เปอร์เซ็นต์ 70 เปอร์เซ็นต์ 80 เปอร์เซ็นต์ กำหนดได้หมด
ด้วยเหตุนี้ ท่านผู้ชมครับ ผมเสนออย่างนี้ได้ไหม เราต้องแก้กฎหมายพนันว่า ถ้าดำเนินคดี พ.ร.บ.พนัน และฟอกเงินแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีอีกข้อหาหนึ่งคือ ฉ้อโกงประชาชน ให้กับคนทำเว็บพนันออนไลน์เหล่านี้ด้วย เพราะพฤติกรรมที่แท้จริงของคนพวกนี้คือการฉ้อโกงประชาชน ไม่ได้ต่างจากแชร์ลูกโซ่เลย ไม่ว่าจะเป็นซินแสโชกุน FOREX-3D แชร์หวย แชร์หุ้น แชร์ FOREX แชร์แม่นู่น พ่อนี่ เป็นต้น แต่อย่างใด โดยเฉพาะความเสียหายต่อชาติ ประชาชน เยาวชน และเด็กทั้งหลาย ที่นับวันจะหลงเข้ามาติดกับพวกพนันออนไลน์นี้ ตอนนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ
กลับมาถึงเรื่องราวของไอ้ฟลุ๊คกันต่อ แน่นอน เมื่อมีรายได้ รายได้เดือนละหลายร้อยล้าน ปีละหลายพันล้าน ผลประโยชน์แบบนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ตำรวจไทยเป็นตำรวจที่จมูกไว ดมกลิ่นได้เข้มแข็งกว่าหมา ไม่ว่าจะเป็นหมาซาฮาร่าที่ไปช่วยชาวตุรกี จมูกไม่ไหวเท่าตำรวจไทยหรอกครับ
ประวัติฟลุ๊ค โดนรวบตัวไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ว่ารอดมาตลอด เงินมันถึงใครกันแน่ 3 ปีที่ผ่านมา ฟลุ๊คกับพรรคพวกถูกตำรวจจับกุม 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2562 วันที่ 25 พฤศจิกายน ตอนทำ TheOneLotto ภายใต้เครือข่าย JETSADABET เป็นฝีมือการจับกุมของพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ภายใต้สังกัดตำรวจภูธรภาค 2 เป็นการจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน สามี-ภรรยา 2 คู่ คือ ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ เจริญสุข กับ กุ๊กไก่ ชลิตา พิทักษากูลเกษม และนายสุรินทร์ แก้วแสงทอง และภรรยา จารุวรรณ พุ่มพวง โดนข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและฟอกเงิน ในสำนวนคดีอาญาที่ 2199/2562 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2563 สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี แต่คดียืดเยื้อมาก ไม่มีการส่งผู้ต้องหาไปที่อัยการและส่งฟ้องศาล จนกระทั่งไอ้ฟลุ๊คโดนจับอีกครั้งหนึ่งในช่วงปลายปี 2563 ครั้งที่สองนี้เป็นข่าวโด่งดังในปี 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีปฏิบัติการที่เขาเรียกว่า "วาฬเกยตื้น" นำโดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ยศและตำแหน่งเวลานั้น ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 7 จุด เพื่อจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ Mawinbet.com
ท่านผู้ชมสังเกตไหม ทั้งหมดที่ผมเอ่ยชื่อมานี้ ไม่มีใครอายุถึง 30 สักคนเลย 26-27-28 ถ้านับจำนวนปีที่ทำงานทางสีเทามาแล้ว เริ่มทำงานจริงๆ ก็ประมาณสัก 23-24 เป็นอย่างไรครับท่านผู้ชม คนที่ไม่มีอาชีพเลย แต่จู่ๆ ร่ำรวยมากๆ
การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นที่โรงแรมซามูจาน่า ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ฯ ต่อเนื่องพื้นที่อื่นๆ ยึดของกลางเงินสดได้ถึง 50 ล้านบาท รถยนต์หรู 8 คัน อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีก 5 กระบอก ในเวลานั้น จากปฏิบัติการ "วาฬเกยตื้่น" โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง กระโดดลงมาจัดแจงแถลงข่าวเสียใหญ่โต ทุกคนต่างคิดว่า ไอ้ฟลุ๊คกับพวกคงถึงเวลาเกมโอเวอร์จริงๆ เสียที
ปฏิบัติการดักงล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2563 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสามารถจับกุมเครือข่าย Mawinbet ได้ พร้อมผู้ต้องหา 6 ราย 4 รายเป็น 2 คู่สามี-ภรรยาเดิมจากคดีแรก คือ เกียรติศักดิ์ เจริญสุข (ฟลุ๊ค) เจ้าของเว็บไซต์ อายุ 27 ปี สุรินทร์ แก้วแสงทอง อายุ 27 ปี ทำหน้าที่แอดมิน กดเงิน โอนเงิน จารุวรรณ พุ่มพวง อายุ 27 แอดมิน เปิดบัญชี ณัฐพล คุ้มทรัพย์ อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีให้ลูกค้าโอนเงิน และชลิตา พิทักษากูลเกษม อายุ 27 ปี เป็นภรรยาของฟลุ๊ค ทำหน้าที่กดเงินบัญชีม้า เอาเงินมา ทวีพงษ์ สุขสุวรรณพร อายุ 28 ปี ทำหน้าที่กดเงิน โอนเงิน ทำการตลาด
พอถึงทุกวันนี้ ไอ้ฟลุ๊ค กับ Movewinbet ยังอยู่ดี เว็บก็เปิดให้ลูกค้าลงพนันได้ปกติ ไม่มีติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว ผมมีข่าวว่าในการจับกุม มีการค้นพบเงินสดที่ไอ้ฟลุ๊คครอบครองไว้เป็นจำนวนมากถึงกว่า 300 ล้านบาท ในเวลาต่อมามีการเจรจาต่อรองกันเพื่อเคลียร์คดีด้วยเงินมากถึงหลักหนึ่งพันล้านบาท โดยมีทีมที่ไอ้ฟลุ๊คเรียกว่า เป็นปู่บุญธรรมของตัวเอง
งานเคลียร์คดีดังกล่าวไม่นับรวมเงินสดที่ไอ้ฟลุ๊ค Mawinbet กับพวกต้องจ่ายส่วยผ่านคนกลางไปให้กับปู่บุญธรรม ผ่านคนกลางอีกเดือนละ 20 ล้านบาท ใครเป็นปู่บุญธรรม ก็ไปคิดเอาเองก็แล้วกัน แต่ต่อมา ไอ้ฟลุ๊คก็ลดค่าจ่าย 20 ล้าน โดยจ่ายตรงให้ปู่บุญธรรมเลยเดือนละ 5 ล้านบาท
นอกจากนี้แล้ว ไอ้ฟลุ๊ค Mawinbet ยังเปิดบัญชีในชื่อ Mawinbet222 ปัจจุบันคือ Movewinbet222 ให้กับนายตำรวจระดับใหญ่ ซึ่งฟลุ๊คนับถือเป็นพ่อบุญธรรม ท่านผู้ชมอย่าสับสนนะครับ ฟลุ๊คได้รับความช่วยเหลือจากพ่อบุญธรรมก่อน แล้วตอนหลังพ่อบุญธรรมไม่ได้ดูแลในด้านนี้แล้ว ไปเจอปู่บุญธรรม ก็เลยต้องพึ่งพาปู่บุญธรรม นับว่าเป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูง เคารพพ่อและเคารพปู่
ข้อมูลวงในระบุว่า Movewinbet222 สร้างรายได้ให้กับพวกบรรดาบุญธรรมทั้้งหลายมากกว่าเดือนละ 50 ล้านบาท คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ จากรายได้เดือนละหลายร้อยล้านบาท ปีละหลายพันล้านบาท มีเงินสะสมอยู่เป็นหมื่นล้าน ฟลุ๊คเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน ข้อมูลที่ได้มาคือ ฟลุ๊คเอาเงินที่ได้จากการทำเว็บพนันไปลงธุรกิจหลายอย่าง เช่น ซื้อที่ดิน ซื้ออพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม ฟิตเนส ปั๊มน้ำมัน รวมถึงนำเงินบางส่วนไปฝากไว้ที่ธนาคารยูโอบี ประเทศสิงคโปร์ เป็นจำนวนมาก
ผมจะเอาทรัพย์สินที่ไอ้ฟลุ๊คนำเงินบาปไปฟอกผ่านทรัพย์สินและการลงทุนว่ามีอะไรบ้าง เอาตัวอย่างมาดูกันชิลๆ นะครับ Lamborghini Huracan EVO Spider ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท Ferrari 488 GTB ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท McLaren 720S ราคาเริ่มต้น 26.5 ล้านบาท Mercedes-AMG GTR ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท Lamborghini Aventador SVJ ราคาเริ่มต้น 44.5 ล้านบาท McLaren 765LT ราคาเริ่มต้น 56. ล้านบาท Porsche 911 GT3 RS ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท
ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งนะ ส่วนหนึ่งของราคารถหรูนี่ก็เกือบ 200-300 ล้านบาท ยังไม่รวมอสังหาริมทรัพย์อีกนับไม่ถ้วน ทั้งห้องพัก ห้องเพนต์เฮาส์ คอนโดมิเนียม บ้านในหมู่บ้านหรูที่ชลบุรี ซื้อทีเดียว 4 หลัง บ้านหรูแถวบางนา ปั๊มน้ำมัน หอพักที่บางแสน แล้วยังมีอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อีกมากมาย
นายฟลุ๊คเป็นคนหุ่นดี สูงใหญ่ 185 เซนฯ ชอบเล่นกล้าม ออกกำลังกาย ทำให้เขาสร้างฟิตเนสขนาดใหญ่ยักษ์มูลค่าหลายสิบล้านบาท ชื่อ DSC - Diamond Sport Complex (2 Fit 2 Be Fat) โดยใช้บริษัทที่ชื่อบริษัท ทูฟิท ทู บี แฟท สปอร์ต คลับ จำกัด เป็นเจ้าของ
บริษัท ทูฟิท ทู บี แฟท สปอร์ต คลับ จำกัด ตั้งเมื่อตุลาคม 2561 สี่ปีกว่าที่แล้ว ทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท เปลี่ยนชื่อจากบริษัท อมตะ ยิม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 139/84 หมู่ที่ 1 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นก็เพิ่มทุนอีก เป็น 30 ล้านบาท ปัจจุบันไม่มีชื่อฟลุ๊คเป็นคนถือหุ้นแล้ว มีเพียงชื่อนอมินี แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 ไอ้ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่อยู่ 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นมูลค่า 13 ล้านบาท 2564 ก็ยังถือหุ้นใหญ่อยู่ มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินมูลค่า 17 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นหุ้นบริษัทต่างๆ ของไอ้ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ เจริญสุข พบว่ามีมูลค่ามากกว่า 170 กว่าล้านบาท ปัจจุบัน ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ ถือหุ้นอยู่ในบริษัทต่างๆ 5 บริษัท มี 4 บริษัทที่ยังดำเนินกิจการอยู่ ประกอบไปด้วย โฮม สวีท โฮม เอสเตท จำกัด เจริญสุข วูล์ฟ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พีทีจี อินเวสเตอร์ แอนด์ ไอที จำกัด และ พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ อีก 6 บริษัท 3 บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ประกอบด้วย พีทีจี อินเวสเตอร์ แอนด์ ไอที จำกัด เจริญสุข วูล์ฟ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจริญสุข เรสซิเดนซ์
ท่านผู้ชมครับ ประเด็นของผมอยู่ตรงนี้ เป็นคำถามเดียวกันกับคำถามเดิม เหมือนที่ผมเคยถามนายแทนไท ณรงค์กูล ตั้งแต่ครั้งออกมาควักเงิน 45 ล้านบาท ประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์หรูเมื่อหลายเดือนก่อน และเรื่อยมาถึงทรัพย์สิน นาฬิกาทั้งหลาย บ้าน คอนโดฯ รถยนต์หรู อพาร์ตเมนต์ รวมไปถึงกิจการบริษัทต่างๆ คิดเป็นเงินหลายพันล้านบาท คำถามคือ ไอ้ฟลุ๊ค อายุ 28 ปี เอาเงินมาจากไหน
ท่านผู้ชมครับ ปปง. ครับ งานนี้ ปปง. เดินหน้าตรวจสอบได้ทันทีเลย แค่พิสูจน์ว่าเอาเงินมาจากไหน ผมคิดว่าแค่นี้ไอ้ฟลุ๊คก็ตายแล้ว ปปง. รู้เหมือนกันไม่ใช่หรือว่าต้องเดินตามเส้นทางทางการเงิน ก็จะเจอตัวที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดเลย แต่ตอนนี้ผมได้ข่าวว่าไอ้ฟลุ๊คเอาเงินบาปจากการพนันออนไลน์ไปฟอกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่าบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ รวมถึงเกี่ยวโยงกับการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin) มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ด้วย ท่านผู้ชมครับ เอาไว้โอกาสเหมาะๆ ผมจะเอามาเปิดเผยให้ทราบว่าชื่อบริษัทอะไร และใครเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่น่าตกใจไม่แพ้การฟอกเงินผ่านบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คือวิวัฒนาการการฟอกเงินของนายฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ ที่เปลี่ยนไปจนยากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ ปปง. คนใดจะตามทัน เป็นอย่างไร ตามผมมา
"กลเม็ดซ่อนเงินของอาชญากรที่ซ่อนเงิน" หลังจากที่วิ่งเต้นจนหลุดคดี 2 คดี (2562-2563) ฟลุ๊คได้เปลี่ยนเส้นทางการเงินใหม่หมด จากเดิมใช้บัญชีม้า ก็เปลี่ยนเป็นการฟอกเงินผ่านคริปโทเคอร์เรนซีหมด เขาใช้แอปพลิเคชันของไบแนนซ์ (Binance) ทั้งหมด เพื่อเลี่ยงเส้นทางการเงิน ขั้นตอนจะเป็นอย่างนี้ครับ
หนึ่ง ลูกค้าโอนเงินเข้ามาเล่นการพนัน ส่วนใหญ่จะใช้บัญชีพนักงานในบริษัทรับเงินเวียนกันไป สอง พนักงานคนนั้นจะโอนเงินสดในบัญชีเข้าแอปฯ ไบแนนซ์ ไม่ใช่แอปฯ เทรดคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศอย่างบิทคับ (bitkub) เพราะตลาดเล็กเกินไป ราคาผันผวนง่าย อาจจะโดนตามเส้นทางการเงินได้ โดยเขาแลกเป็นเหรียญ USDT จากนั้นบรรดาลูกน้องก็จะโอนเงินเหรียญ USDT เข้าแอปฯ ไบแนนซ์ของฟลุ๊คเพื่อเช็กยอด เมื่อเช็กยอดแล้วก็จะเติมเครดิตให้ลูกค้าเพื่อเล่นพนันต่อ
ท่านผู้ชมครับ จากการเปลี่ยนระบบบัญชีม้ามาเป็นการแลกเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ฟลุ๊คได้ลดความเสี่ยง และประหยัดเงินส่วยไปได้ราวๆ เดือนละ 20-30 ล้านบาท ยังส่งผลให้ Mawinbet จ่ายเงินเดือนพนักงานเป็นเหรียญ USDT ราคาเหรียญจะผูกติดกับเงินอเมริกัน (ยูเอสดอลลาร์) ไม่ผันผวนเหมือนคริปโตฯ อื่นๆ อย่างบิตคอยน์ อีเธอเรียม (Ethereum) สามารถนำเงินที่มีไปใช้ในต่างประเทศได้อย่างสะดวก ไม่ต้องแลกเงินสด ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะถูกยึดตรวจสอบ อายัด
สำหรับการซ่อนเงิน ซ่อนทรัพย์สินนั้นทำได้ง่าย โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Hard Wallet อย่าง TREZOR One ในการเก็บเหรียญคริปโตฯ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ IT Gadget ขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายๆ กับ USB Drive แต่ว่าใหญ่กว่า ท่านผู้ชมเชื่อไหม สามารถเก็บเหรียญคริปโตฯ ได้เป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท จนถึงพันล้านบาท อันเดียวเท่านี้ บัญชีม้าได้เงินปั๊บ โอนเข้าไปไบแนนซ์ ไบแนนซ์ จ่ายเป็นเงิน USDT เสร็จแล้วก็ทรานส์เฟอร์เงิน USDT เข้ามาเก็บอยู่ใน TREZOR One ราคาประมาณไม่ถึงหมื่นบาท เพราะฉะนั้นปริมาณของคริปโตฯ อยู่ในนี้ ไปไหนมาไหนก็พกแค่อันนี้ไป หรือเวลาตำรวจเข้าไปค้นจับ ไม่ได้สนใจตัวนี้ วางเอาไว้ สนใจเปิดเซฟว่าซ่อนเงินสด เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ปปง. ครับ นี่เปิดบริบทใหม่ให้ตำรวจ และ ปปง. ได้รับทราบนะครับ
การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ทำให้การยึดอายัดทรัพย์กลุ่มแก๊งพนันออนไลน์แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทำได้ยากยิ่ง เพราะสามารถเอาไปซุกซ่อนที่ใดก็ได้ ในประเทศหรือต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีปัญญาที่จะสามารถยึดอายัดได้โดยสิ้นเชิง
2-3 ปีที่ผ่านมา บรรดาเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่อื่นๆ ก็ใช้วิธีเดียวกับไอ้ฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ แต่ ปปง. ท่านยังเช็กของเก่าได้ ท่านยังเช็กกิจการ รถยนต์ บ้าน อสังหาริมทรัพย์ ที่บรรดานักลงทุนสีเทา เว็บพนัน หรือนายฟลุ๊ค ตามเส้นทางทางการเงินว่ารถคันนี้คุณเอาเงินจากไหนมาซื้อ ตามไปเรื่อยๆ แล้วก็จะเจอข้อหาฟอกเงิน แล้วถ้ายิ่งแก้กฎหมายเป็นฉ้อโกงประชาชนด้วย คนอย่างไอ้ฟลุ๊ค หรือหลายๆ คน ถ้าถูกจับปัญหาเรื่องการฟอกเงินแล้ว ไม่ใช่แค่ผิด พ.ร.บ. การพนัน เท่านั้น ยังผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพราะผมเล่าให้ฟังตอนต้นแล้ว ว่าไอ้พวกนี้มันเขียนโปรแกรมอัลกอริทึมเหมือนกับที่ในเฟซบุ๊ก แล้วก็โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เอาสองตัวนี้มารวมกัน เมื่อได้สองตัวนี้มารวมกัน จะกำหนดได้เลยว่าจะทำให้เว็บมันชนะคนที่เข้ามาเล่นได้ แล้วกำไรได้ 50 เปอร์เซ็นต์ 60 เปอร์เซ็นต์ 70 เปอร์เซ็นต์ 80 เปอร์เซ็นต์ ได้หมดเลย และนี่คือการฉ้อโกงประชาชน
ท่านผู้ชมครับ ถ้าโดนฉ้อโกงประชาชนอย่างนี้แล้ว ต่อให้มีสิบฟลุ๊คก็ไม่มีความหมาย เพราะว่าในกรณีที่ตำรวจไม่รับเงิน อัยการไม่รับเงิน แล้วส่งฟ้องศาล ศาลพิพากษาเป็นกรรมได้ มีทั้งหมด 100 กรรม ก็ 100 ทัณฑ์ อาจจะโดนคดีถึง 4,000 กว่าปี แต่ก็จำได้ไม่เกิน 20 ปี
ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง นี่เป็น sample ตัวอย่างง่ายๆ ผมเอารายละเอียดมาให้ดู ผมเปิดมาให้ดู ปปง. ครับ ยังมีทรัพย์สินของฟลุ๊ค หรือหลายคน ยังมีอยู่ กระโดดเข้าไปงับได้เลยตอนนี้ กระโดดเข้าไปงับได้เลย ส่วนเรื่องตำรวจ กับอัยการนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะตำรวจและอัยการจะเป็นคนที่แพ้ในหลวง ขอให้มีตัวแทนในหลวงซึ่งเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท 1 ปึก 1 ล้านบาท ก็ 1 กิโลกรัม จ่ายเข้าไปหนักๆ เถอะ เพราะเงินที่คุณได้มาเป็นเงินที่คุณฉ้อโกงมาจากประชาชน คุณไม่มีต้นทุน ตำรวจก็เลยช่องว่างตรงนี้ดูดเงินไอ้พวกนี้ และนี่คือเหตุว่าทำไมจับทั้งที แต่ไม่เคยส่งขึ้นฟ้องศาลได้ เพราะอัยการฮั้วกับตำรวจ พอฮั้วถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว อัยการก็บอกว่าหลักฐานไม่พอสั่งฟ้อง สั่งไม่ฟ้อง เรื่องส่งไปถึงอัยการสูงสุด อัยการสูงสุดมีคนชงมาให้แล้วนี่ ไม่รู้ว่าชงอะไรมาให้ด้วยก็ไม่รู้ ก็สั่งไม่ฟ้องโดยเด็ดขาด ท่านผู้ชมครับ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ท่านผู้ชมครับ นายฟลุ๊คโดนรวบไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2562 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ตอนทำ TheOneLotto ภายใต้เครือข่ายของ JETSADABET ตอนที่ยังไม่แยกตัวออกมา เป็นฝีมือจับกุมของตำรวจภูธรสืบสวนสอบสวนจังหวัดชลบุรี สังกัดภาค 2 ในข้อหา ร่วมกันจัดให้เล่นการพนันและมีการฟอกเงิน สำนวนคดีอาญา 2199/2562 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ครั้งนั้นฟลุ๊คกับเมีย และพรรคพวก รอดตัวไปได้ด้วยความช่วยเหลือของพ่อบุญธรรม ซึ่งเป็นตำรวจระดับสูง หลังจากนั้นไอ้ฟลุ๊คก็ตอบแทนด้วยการบริจาคข้าวของต่างๆ อุปกรณ์ราคาหลายล้านบาท ให้กับที่ทำงานของพ่อบุญธรรมคนนี้
ท่านผู้ชม ตลกไหมครับ ตำรวจจับโจรมาเสร็จก็รีดไถ พอรีดไถเสร็จก็ให้โจรเอาเงินบางส่วนมาบริจาคสนับสนุนสร้างที่ทำงาน ติดแอร์ ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ท่านผู้ชมครับ เรื่องบัดซบแบบนี้ไม่ได้เป็นแค่ในส่วนกลางหรือหน่วยงานใหญ่ๆ แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของตำรวจทุกวันที่ต้องจับโจร พอจับโจรเสร็จก็เอามาไถเงิน ถ้าโจรปล้นชิงทรัพย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเป็นโจรทุนสีเทา เปิดเว็บพนัน ซึ่งมีงินเข้ามาเดือนละเป็นร้อยๆ ล้าน ตำรวจก็จะถือคันไถที่ค่อนข้างจะคมและหนักรีดไถ ทั้งเตารีด ทั้งคันไถ มีครบถ้วน
การจับกุมไอ้ฟลุ๊คครั้งที่ 2 ในปี 2563 ตกเป็นข่าวโด่งดัง เพราะเป็นการปฏิบัติการ "วาฬเกยตื้่น" ของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเป็ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง การจับครั้งที่สองนั้น พ่อบุญธรรมช่วยไม่ได้ เพราะคนจับคือกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เคยถูกจับเข้าห้องมืด วิ่งไปหาคนที่ใหญ่กว่าพ่อบุญธรรม ก็คือปู่บุญธรรม เพื่อให้วิ่งเต้นคดีให้แทน ผมพูดไปแล้วบางส่วน
คราวนี้เป็นคดีใหญ่ เพราะเป็นคดีที่มีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้าน เรื่องมันก็เลยจบที่ตำรวจ คือในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นน้ำไม่ได้ ต้องส่งไปยังกระบวนการยุติธรรมขั้นกลางน้ำ นั่นก็คือ อัยการ ในที่นี้ผมตั้งฉายาว่าเป็นทวดบุญธรรมของไอ้ฟลุ๊ค มันมีพ่อบุญธรรม พอพ่อบุญธรรมไม่มีอำนาจ ปู่บุญธรรมเข้ามาแทน รับเงินแทน แล้วมันก็ไปหาทวดบุญธรรม คืออัยการ ผลออกมาก็ไม่ได้ต่างไปกว่าคดีของนายแทนไท ณรงค์กูล แต่อย่างใด คืออัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง
การจับไอ้ฟลุ๊คครั้งที่สอง เดือนตุลาคม 2563 ผ่านไปสองปี คดีสรุปในขั้นอัยการสูงสุดว่าสั่งไม่ฟ้อง อัยการสูงสุดบอกว่า ในคดีนี้จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสี่ รวมทั้งนายฟลุ๊ค เกียรติศักดิ์ กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา คดีจึงมีหลักฐานพยานไม่พอฟ้อง
เยอะแยะไปหมด ก็คือสรุปง่ายๆ ว่า หาเรื่องไม่ฟ้อง คำสั่งสั่งไม่ฟ้องนั้นลงชื่อโดย นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ลงวันที่ 26 กันยายน 2565 ไม่กี่เดือนที่แล้วนี่เอง ก่อนนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด จะเกษียณอายุแค่ 4 วัน ก็สั่งไม่ฟ้อง
คราวนี้เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ เพราะตำรวจเขาทำคดีอย่างเหนื่อยยากแสนสาหัส ตั้งแต่ปี 2562-2563 เขาไม่ยอมครับ ยังมีตำรวจน้ำดีอยู่
ต้นเดือนธันวาคม 2565 หรือปลายปีที่ผ่านมา เขาทำหนังสือเรียนประธานกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ท่านผู้ชมทายซิครับว่าใคร ? จะใครล่ะครับ ก็ลุงตู่ของเราไง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุเรื่องร้องเรียนอัยการมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ เขาแนบรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคดีมาอย่างครบถ้วน โดยตอนหนึ่งของหนังสือดังกล่าวเขียนไว้อย่างนี้ครับ น่าสนใจมาก ท่านผู้ชมฟังอย่างละเอียดนะครับ เพราะทุกใจความของหนังสือร้องเรียนฉบับนี้มีความสำคัญมากๆ สะท้อนให้เห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุด รายละเอียดมีอย่างนี้
ข้าพเจ้าทราบว่าผู้ต้องหา (คือไอ้ฟลุ๊ค) ได้มีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีกับอัยการระดับสูง จนคดีที่กรุงเทพฯ ที่โดนจับเป็นครั้งที่สอง เมื่อปี 2563 อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนคดีชลบุรี โดนจับปี 2562 ได้มีการรื้อการสอบสวนใหม่ บิดเบือนข้อเท็จจริง ให้เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร โดยอธิบดีอัยการภาค 2 ได้ส่งเรื่องให้เป็นคดีผิดนอกราชอาณาจักรทันที โดยไม่มีการรื้อคดีที่กรุงเทพฯ ทั้งที่ข้อเท็จจริงทั้งสองคดีดังกล่าวเป็นอย่างเดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน และอธิบดีอัยการภาค 2 ทราบด้วยว่า เป็นคดีของผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน อันส่อพิรุธว่ามีการตั้งธงช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาไม่ให้ถูกส่งตัวฟ้องเป็นคดีอาญา เพราะข้าพเจ้า (คือผู้ร้องคดีตำรวจ) ได้ทำหนังสือติดตามสอบถามทางอธิบดีอัยการภาค 2 และอัยการสูงสุดมาตลอด แต่ไม่เคยได้รับคำตอบรับ ทั้งที่ข้าพเจ้าและพวกเป็นเจ้าพนักงานและดำเนินการจับกุม สืบพยานจนศาลลงโทษกลุ่มการพนันออนไลน์มาแล้วหลายคดี โดยไม่มีคดีไหนที่อธิบดีอัยการภาค 2 สั่งคดีลักษณะนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร เหมือนกับเป็นการวางงานเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหา
ข้าพเจ้าติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ชลบุรีนี้มาโดยตลอด ต่อมาทราบว่าอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งไม่ฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาแล้ว โดยสืบทราบจากสายลับที่อยู่ในกลุ่มผู้ต้องหา ว่า กลุ่มผู้ต้องหาเสียเงินวิ่งเต้นเพื่อให้อัยการไม่ฟ้องคดี เป็นจำนวนมากมายมหาศาล อนึ่ง คดีนี้มีข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องหลายคน หลายตำแหน่ง ที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อแลกกับผลตอบแทนจากกลุ่มผู้ต้องหา สมาชิกในกลุ่มผู้ต้องหาได้แจ้งว่ามีการนำเงินออกไปวิ่งเต้นจำนวนมาก เพื่อวิ่งเต้นสั่งไม่ฟ้องคดี โดยเมื่อจ่ายเงินออกไปแล้ว ก็อยู่กับบุคคลต่างๆ ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อขอให้ช่วยเหลือ
ข้าพเจ้าเชื่อว่าหากเข้าไปตรวจสอบสำนวนคดีกลุ่มผู้ต้องหาทุกสำนวนแล้ว จะพบความผิดปกติในการใช้ดุลพินิจอย่างมาก ข้าพเจ้าหวังว่าการทุ่มเทปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการทุกคนที่ทุ่มเทกำลังความสามารถเพื่อสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี จะไม่เสียเปล่า จึงขอให้ท่านประธาน (ท่านประธานคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ทำการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการอัยการที่ใช้พยานหลักฐานเท็จในการช่วยเหลือผู้ต้องหา และรื้อคดีขึ้นใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาตามกฎหมายด้วย เขาลงชื่อตำรวจผู้ร้องเรียน
สรุป ท่านผู้ชมครับ ผมได้รับฟังเรื่องราวของนายฟลุ๊ค Mawinbeะ แล้วได้แต่ส่ายหัว ผมเศร้าใจพฤติกรรมของบุคคลชั่วๆ ในกระบวนการยุติธรรมบ้านเรา เศร้าใจว่าพวกนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่รู้จักสถานะหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองต่อบ้านเมือง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เห็นแก่เงินทอง กินสินบาทคาดสินบน จนไม่มีความรู้สึกละอายต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ผมคิดว่าจดหมายร้องเรียนฉบับนี้ วันนี้น่าจะไปอยู่บนโต๊ะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ประธานกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ มานานแล้ว ท่านผู้ชมครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะท่านนายกฯ เราคิดแต่การเลือกตั้งว่าจะทำอย่างไรจะสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง แม้แต่แค่สองปีก็ยังดี
ท่านผู้ชมครับ เศร้าไหม ? เศร้าอย่างมากๆ แต่อันนี้คือหนามยอกอกของอัยการ และหนามยอกอกของตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อบุญธรรม ปู่บุญธรรม ส่งเรื่องไปที่ทวดบุญธรรม ให้ทวดบุญธรรมสั่งไม่ฟ้อง ใครรับเงิน ผมรู้ชื่อหมดแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องพูด ท่านผู้ชมว่ามันชั่วไหม แล้วเราจะมีความหวังอะไร ในเมื่อเงินมันซื้อได้ทุกอย่างในประเทศนี้ เราจะมีตำรวจไว้ทำไม เรามีอัยการไว้ทำไม ท่านผู้ชมครับ คุณชูวิทย์ครับ กลับมาลุยเรื่องนี้สักทีได้ไหม ไม่ใช่ว่าคุณเปิดปั๊บแล้วคุณก็ชิ่งไปจับเรื่องใหม่อยู่เรื่อย กลับมาเถอะครับ คุณชูวิทย์ เรื่องนี้ใหญ่ฉิบหายเลย อย่าไปแตะโน่นทีแตะนี่ทีแล้วก็เดินหนีไป เดี๋ยวคนเขาจะหาว่าคุณรับงาน
ท่านผู้ชมครับ วันนี้รายการมีเพียงแค่นี้ อาทิตย์หน้าท่านผู้ชมพลาดไม่ได้เด็ดขาด อาทิตย์หน้าสุดยอดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น ท่านผู้ชมจำคุณเยาวณี นิรันดร ได้ไหม ที่ผมเคยพูดถึง เดี๋ยวผมจะเอาข้อมูลเบื้องหลัง เบื้องลึก ล่าสุดเมื่อมกราคมนี้เอง ว่าศาลแพ่งได้พิพากษาชัดเจนแล้วว่า พินัยกรรมที่แม่ของคุณเยาวณี นิรันดร ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อตัวเอง คือ คุณธรรมนูญ นิรันดร นั้น ศาลแพ่งพิพากษาแล้วว่าเป็นพินัยกรรมปลอม เรื่องราวเป็นอย่างไร คอยฟังอาทิตย์หน้า พูดได้อย่างเดียว่าโคตรมันเลย ท่านผู้ชม อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดก็คือว่า อาทิตย์หน้าจะเป็นการเปิดภาพรวมทั้งหมดของขบวนการเว็บพนันออนไลน์ และขบวนการลูกน้องของลุงป้อมที่ดูแลเว็บพนันออนไลน์ แล้วก็ลูกน้องลุงตู่ ที่ก็มีเว็บพนันออนไลน์อยู่ในมือ ทั้งสองฝ่ายฟาดฟันกันฉิบหายเลย แล้วผมจะเล่าให้ฟังว่ามีใครเป็นใครบ้าง รับรองว่าไม่จืด สวัสดีครับ
![[คำต่อคำ] SONDHI TALK : “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม ? - เตือน "ชูวิทย์" อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร - 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO](https://mpics.mgronline.com/pics/Thumbnails/566000001873001.JPEG)
![[คำต่อคำ] SONDHI TALK : “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม ? - เตือน "ชูวิทย์" อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร - 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO](https://mpics.mgronline.com/pics/Thumbnails/566000001873002.JPEG)
![[คำต่อคำ] SONDHI TALK : “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม ? - เตือน "ชูวิทย์" อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร - 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO](https://mpics.mgronline.com/pics/Thumbnails/566000001873003.JPEG)
![[คำต่อคำ] SONDHI TALK : “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม ? - เตือน "ชูวิทย์" อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร - 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO](https://mpics.mgronline.com/pics/Thumbnails/566000001873004.JPEG)
![[คำต่อคำ] SONDHI TALK : “ฟลุ๊ค Mawinbet” เจ้าพ่อเว็บพนันหมื่นล้าน ใครคือพ่อบุญธรรม กับปู่บุญธรรม ? - เตือน "ชูวิทย์" อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร - 1 ปีสงครามยูเครน มะกันแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ เยอรมนี-NATO](https://mpics.mgronline.com/pics/Thumbnails/566000001873005.JPEG)