xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ]SONDHI TALK : จัดให้ “แทนไท” แบบสุดซอย - "ธนาธร" สาระแน ชวนหนุน “ม็อบอิหร่าน” - บอลลูนจารกรรมหรือเกมการเมือง - ฤๅ “คดีแทนไท” จะเป็น “บอส อยู่วิทยา 2”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 10 ก.พ.66 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ ได้แก่

- “แทนไท” จัดให้แบบสุดซอย
- ฤๅ “คดีแทนไท” จะเป็น “บอส อยู่วิทยา 2”
- ผู้หญิงทวงแค้นถอดปลั๊ก “มาเก๊า888”
- สาระแน…ชวนหนุน “ม็อบอิหร่าน”
- หลังฉากการเมืองโลก ข้อตกลงลับ “ปูติน-เซเลนสกี้
- บอลลูนจารกรรมหรือเกมการเมือง

ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.176



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 176 [10 ก.พ. 66] : "แทนไท" จัดให้แบบสุดซอย

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 แฟนรายการที่กำลังรับชมสดทาง Sondhi App, Facebook, YouTube และ TikTok สวัสดีครับ ตอนนี้ร้าน SUN PAN มีสินค้าใหม่ SUN PAN ที่อยู่บนถนนวิภาวดีฯ ข้างๆ ราบ 1 ของปั๊ม ปตท. สินค้าใหม่คือไอศกรีม เดี๋ยวผมบอกชื่อเจ้าของให้ทราบก็คงจะหัวเราะกันก้ากเลย คือจริงๆ แล้วเป็นร้านไอติมของลูกชายคุณโสภณ โองการณ์ แต่ว่าคุณโสภณ โองการณ์ เป็นคนที่คุมอยู่ทุกเรื่อง เป็นไอศกรีมเจลาโต จุดเด่นคือความเข้มข้นของวัตถุดิบ และเนื้อไอศกรีมจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเหนียวหนึบ เนื้อละเอียด กินเข้าไปจะรู้ถึงรสชาติของวัตถุดิบนั้นจริงๆ อีกทั้งเจลาโตจะมีไขมันที่ต่ำกว่าไอศกรีมทั่วไปในรสชาติเดียวกัน ผมลองแล้วครับ รสชาติดีเลย มีทั้งหมด 10 รสชาติ มีมะยงชิด มีชีส รัมเรซิน ฮอกไกโดมิลค์ บราวนี่ บัตเตอร์สก็อตช์ พิซตาชิโอ ยาคูลท์-ปีโป้ ชาเขียว ถั่วแดง ขนมใส่ไส้ ส้มยูซุ คนที่รับประทานวีแกนก็รับประทานได้ เพราะมีรสชาติเป็นผลไม้ ถ้วยละ 65 บาท


แล้วท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ สินค้าที่ขายดีที่สุด โอเลี้ยงโบราณ ผมผลิตจำนวนจำกัด สัปดาห์ละ 1,000 ขวด เท่านั้น ไม่มีผลิตเพิ่ม รสชาติโอเลี้ยงแท้ๆ หอมมัน ขมนำ หวานตาม ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ตั้งไว้ข้างนอก อุณหภูมิห้องปกติอยู่ได้ 2-3 วัน ถ้าเก็บในตู้เย็นอยู่ได้ 3-4 อาทิตย์

ส่วนสินค้าอื่นๆ ยังมีจำหน่าย ทั้งหมูแท่งอบกรอบ ปลาแท่งอบกรอบ ขนมปัง และสเปรดต่างๆ


สินค้าทั้งหมดนี้หาซื้อได้ที่ร้าน SUN PAN ถนนวิภาวดีฯ ในปั๊ม ปตท. ตรงกันข้ามกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหาได้ที่ร้าน "พอดีช้อป" ถนนพระอาทิตย์

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่อง "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ถึงแม้ตอนนี้จะหมดโปรโมชันไปแล้ว แต่ถ้าท่านผู้ชมท่านใดสนใจ ลองสอบถามเข้าไปยัง "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" ทางหลังบ้านยังมีโปรโมชันดีๆ ให้แฟนรายการอยู่ ถ้าท่านผู้ชมสนใจ ขอให้ติดต่อสั่งซื้อโดยแอดไลน์ เพิ่มเพื่อน @sunherb หรือ inbox ที่เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"

ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะว่าคุณแทนไท เขาฟ้องผม แล้วเขาก็ไปพึ่งศาลแพ่งไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ผมพูดถึงเขาอีกต่อไป ผมก็เลยจะพูดถึงคุณแทนไท ฟ้องเรียก 1,000 ล้าน ผมกำลังจะบอกว่า แล้วความจริงจะปรากฏ และอีกอย่าง ผมกำลังมีนัยว่า เรื่องของแทนไท เมื่อค้นไปค้นมาแล้ว คุณแทนไท คุณตัดสินใจฟ้องผมเพราะว่าคุณพูดกับคนใกล้ชิดคุณ ซึ่งมาเล่าให้ผมฟัง เขาเป็นตำรวจ เขาบอกว่า คุณอ้างว่าผู้พิพากษายุให้คุณฟ้อง นัยหมายความว่าอย่างไร ? นัยหมายความว่าคุณมีผู้พิพากษาหนุนหลังใช่ไหม คุณแทนไท คุณนี่เด็กน้อยมาก คุณรู้หรือเปล่าว่าชีวิตผมทั้งชีวิตโดนฟ้องมาแล้วเกือบ 200 คดี ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องผมมานับสิบกว่าคดี คุณดูความหนักแน่นของคุณทักษิณ กับตัวคุณนะ ใครหนักแน่นมากกว่า แล้วทุกคดีศาลยกฟ้องหมด


ผมจะอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังว่า คดีแทนไท อาจจะเป็นเหมือนลักษณะคดี "บอส อยู่วิทยา" ภาค 2

เรื่องที่สอง ผมจะเล่าเรื่องคนๆ หนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีฉายาในวงการว่า "ไอ้กระจอก" ชีวิตเขาเป็นไปได้อย่างไร มีมาอย่างไร ท่านผู้ชมลองฟังดู แล้วท่านผู้ชมจะเห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังของมัน

เรื่องที่สาม คือเรื่องชีวิตเด็กหลายๆ คน เด็กวัยรุ่นหลายคน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ที่ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ที่ใช้ทักษะความสามารถของตัวเองในการที่จะเสนอการบริการหรือสินค้าต่างๆ สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง มีอยู่หลายคน เดี๋ยวผมจะเอาให้ดู ไม่ว่าจะเป็น ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า หรือ โปรเม หรือ โปรจีน รวมไปจนถึงหลายๆ คน ผมจะเอาชีวิตเขาให้ดูว่าเขาสู้มาอย่างไร ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ ? เพราะผมจะเปรียบเทียบให้เห็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง วัยรุ่นเหมือนกัน แต่บัดซบมาก ใช้เรื่องช่องทางทางกฎหมายทำธุรกิจแบบทุนสีเทาออกมาตลอด แล้วก็อวดร่ำอวดรวย ผมจะเปรียบเทียบให้ดู และผมจะฝากข้อคิดให้ท่านผู้ชมที่ดูเรื่องนี้ว่าเห็นด้วยกับผมไหม

เรื่องที่สี่ ไม่พูดไม่ได้ ก็คือ ดิว อริสรา ฉายาคือ "นารีพิฆาต มาเก๊า 888" ตายเพราะอะไร

เรื่องที่ห้า คือเรื่อง สอ ใส่ เกือก ไม่เข้าเรื่อง เมื่อคุณธนาธร ชวนคนไทยหนุนม็อบอิหร่าน

เรื่องที่หก หลังฉากการเมืองโลก ข้อตกลงลับ "ปูติน และ เซเลนสกี" ส.ส. ยูเครน ที่ถูกไล่ออก เหตุเพราะว่าหนีมาเที่ยวเล่นน้ำทะเลในประเทศไทย

และสุดท้าย เป็นเรื่องที่ตลกโปกฮามาก อเมริกา หรือ โจ ไบเดน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องซีเรียส แต่ชาวโลกมองว่าตลก เพราะว่า "ศึกจารกรรม 2 มหาอำนาจ กลเกมการเมืองระหว่างประเทศ" ก็คือว่า ทะเลาะกันเรื่องบอลลูน และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อเมริกาต้องใช้เครื่องขับไล่ F-22 ขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วยิงขีปนาวุธใส่บอลลูน และผมจะเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ฟัง ท่านผู้ชมฟังแล้วจะต้องฮาแน่นอน

++++++++++

"แทนไท" จัดให้ แบบสุดซอย

ท่านผู้ชมครับ คุณแทนไท ไปฟ้องศาลแพ่ง โดยมอบอำนาจให้ทนายไป แล้วศาลแพ่งก็มีคำสั่งให้คุ้มครองฉุกเฉิน เขาก็เลยขึ้นโพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขอบพระคุณศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองผม และมีคำสั่งให้คนที่ทำการละเมิดต่อผมจนเกิดความเสียหาย ต้องหยุดการกระทำดังกล่าวทั้งหมดทันที"

ท่านผู้ชมครับ ศุกร์ที่แล้ว นายแทนไท ณรงค์กูล มอบอำนาจให้นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ และ นายสมพงษ์ ตั่นไพบูลย์ เอาหลักฐานมายื่นฟ้องผมต่อศาลแพ่ง และศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกค่าเสียหายตั้ง 1,000 ล้านบาท คุณแทนไท ครับ ก่อนที่คุณจะเรียกค่าเสียหายผม 1,000 ล้านบาท คุณไปตรวจสอบไหมว่าผมมีทรัพย์สินอะไร เท่าไร ผมพูดอย่างไม่อายคุณแทนไท นะครับ ผมมีไข่อยู่ 2 ใบ แค่นั้นเอง นอกนั้นผมไม่มีครับ ผมอายุ 76 แล้ว


นายนิติศักดิ์ มีขวด เปิดเผยว่า ผมกล่าวหาและหมิ่นประมาทว่าแทนไท ได้เงินจากการผิดกฎหมาย โดยไม่ชอบ ดำเนินธุรกิจสีเทา รวมทั้งมีการฟอกเงิน พูดกล่าวหา เพราะฉะนั้นแล้ว ทนายคนนี้ หรือที่เรียกว่า ทนายเอี้ยง นายนิติศักดิ์ มีขวด ฟ้องผมเพื่อพิสูจน์ให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงว่า คุณแทนไท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และการฟอกเงิน ตามที่นายสนธิ กล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นแล้ว เขาจะดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องกับทุกคนในทุกฐานความผิด พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งและอาญา

ท่านผู้ชมครับ ผมจะแนะนำให้รู้จักกับทนายของคุณแทนไท ครับ คุณนิติศักดิ์ มีขวด ชื่อเล่นชื่อ ทนายเอี้ยง ได้ยินชื่อแล้วรู้สึกคุ้นๆ ไหม เขาเป็นญาติกับทนาย นายเชาวน์ มีขวด อดีตรองโฆษกและผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์

นิติศักดิ์ เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช จบโรงเรียนมัธยมฯ จากโรงเรียนร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนธราภิวัฒก์ จบนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน จากรามคำแหง เขาเปิดสำนักกฎหมาย ชื่อ นิติศักดิ์ มีขวด และเพื่อน ผมก็เลยไปดูสักนิดว่ากรณีของคุณนิติศักดิ์ ทำคดีอะไรใหญ่ๆ มาบ้าง ปรากฏว่ามีอยู่ 2 คดีใหญ่


ท่านผู้ชมจำคดี "ซินแสโชกุน" ได้ไหม หรือว่า น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ "ซินแสโชกุน" คุณนิติศักดิ์ เป็นทนายในคดี "ซินแสโชกุน" ต้มตุ๋นประชาชน อายุ 35 ปี มีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตกเป็นข่าวโด่งดังในปี 2560 มีผู้เสียหายกว่า 500 คน คดีนี้เกิดขึ้นในเดือนมกราคม-เมษายน 2560 ซินแสโชกุน และพวก โฆษณาเชิญชวนประชาชนผ่านเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ YouTube ให้สมัครสมาชิกร่วมลงทุน จำเลยมีการจัดโปรแกรมไปเที่ยว สมาชิกเดินทางไปที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบินแอร์บัส มีประชาชน 871 ราย หลงเชื่อ สมัครเป็นสมาชิก ร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย ได้รับความเสียหายมาก เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร ส่วนทัวร์ญี่ปุ่นก็ไม่มีจริง ลอยแพ ทิ้งเคว้งหลายร้อยคนกลางสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท

ก็คือสู้กันไป สู้กันมา ในคดีความ ปรากฏว่าศาลพิพากษาจำคุก "ซินแสโชกุน" ซึ่งคุณนิติศักดิ์ มีขวด เป็นทนายความให้ จำคุกซินแสโชกุน 4,355 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่คงจำคุก 20 ปี ตามกฎหมาย คนอื่นก็รับโทษไป ตอนนี้ ซินแสโชกุน ก็ยังอยู่ในคุก


คดีที่สองที่คุณนิติศักดิ์ เป็นทนายให้กับจำเลย คือคดี "ผู้กองบอยชักปืนจ่อหัวเมียก่อนลั่นไกดับ" ผู้กองบอย ก็ว่าจ้างคุณนิติศักดิ์ เข้ามาเป็นทนายความว่าความให้ ก็สู้กันไปสู้กันมาล่ะครับ จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ "น้องปูนิ่ม" ก็คือภรรยา เห็นว่า ผู้กองบอย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ข้อหาฆ่าผู้อื่น ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี ชดใช้ค่าเสียหาย 720,000 บาท

คุณนิติศักดิ์ ลึกๆ แล้วแกเคยเป็นทนายความและที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิดของพระเอกคนหนึ่งในแวดวงการสีเทา ก็คือ คุณเอกยุทธ อัญชันบุตร ที่ถูกลอบสังหารไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ถ้าจำไม่ผิดนะครับ

ท่านผู้ชมครับ ผมมีข้อสังเกตคดีแทนไท ฟ้องผมเรียกพันล้าน ผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ชีวิตผมผ่านมาหมดแล้ว คดีความตั้ง 100-200 คดี ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ด้วยความเคารพ ศาลแพ่ง และผู้พิพากษา ท่านอธิบดีศาลแพ่งครับ คดีที่นายแทนไท ฟ้องผม ผมไม่ได้ประหลาดใจ ชั่วชีวิตการเป็นสื่อมวลชนของผมมาห้าสิบกว่าปี ผมต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ฉ้อฉล โดนคดีความเป็นร้อยๆ คดี ผมเห็นคำฟ้องแล้วผมก็มีความรู้สึกครับ ว่ามันมีอะไรทะแม่งๆ มีกลิ่นอะไรผิดปกติ ผิดปกติอย่างไร ? จมูกผมไวในเรื่องพวกนี้ เพราะผมขึ้นศาลมาเยอะ ผมรู้จักผู้พิพากษาเยอะแยะไปหมด และผมรู้ขั้นตอนวิธีการ


ทะแม่งตรงที่ว่า ข้อที่หนึ่ง ทนายผมแจ้งข้อมูลว่า คดีนี้ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ฝั่งนายแทนไท ให้ทนายยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งในเวลาสิบโมงเช้า แล้วยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินทันที ข้อที่สอง ซึ่งศาลท่านก็เมตตา เมตตาคุณแทนไท มาก ให้ไต่สวนฉุกเฉิน ไม่รอให้ผมซักค้าน ทั้งๆ ที่คดีนี้ไม่ได้เป็นคดีร้ายแรง เป็นคดีหมิ่นประมาทธรรมดา ซึ่งสื่อมวลชนปกติก็โดนกันอยู่แล้ว ข้อที่สาม พอศาลไต่สวนฉุกเฉิน โดยไม่ให้ฝั่งผมซักค้าน ผมเป็นสื่อมวลชน แล้วผมเอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาพูด เอาข้อมูล เอาคำพิพากษาที่ศาลแพ่งตัดสินมาเผยแพร่ ท่านผู้ชมครับ ศาลแพ่งเคยพิพาษาว่านายแทนไท นั้น เปิดเว็บพนัน ฟอกเงิน แล้วสั่งยึดทรัพย์ไป 176 ล้าน ประหลาด! ศาลกลับมีคำสั่งคุ้มครองนายแทนไท ที่โดนศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ แล้วสั่งให้ลบข้อมูลที่คาดว่าจะหมิ่นประมาทนายแทนไท ทั้งหมด

ข้อที่สี่ เพื่อเป็นข้อเท็จจริงให้ทราบ ข้อมูลที่ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองนายแทนไท จะให้ผมลบข้อมูล ผมลบไม่ได้ เพราะว่ารายการนี้ผมไม่ได้เป็นเจ้าของ ท่านผู้ชมไปดูเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เอง จะมีชื่อว่า บริษัท ANEWSON จำกัด เป็นเจ้าของ ผมเป็นคนที่รับจ้างมาออกรายการเท่านั้น ลิขสิทธิ์อยู่ที่บริษัท เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านคุ้มครองผิดคน ท่านสั่งผิดคน สั่งให้ถอดข้อความ สั่งผมไม่ได้ ผมไม่ใช่เจ้าของเพจ หลักฐานมีหมด ซึ่งผมจะนำสืบ ถ้าผมไม่ผิด วันนี้ ช่วงเช้า ทนายความผมจะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเช่นกัน และผมก็จะรอ รอวันนี้ วันศุกร์นี้ ว่าศาลจะยอมไต่สวนฉุกเฉินให้อย่างรวดเร็วเหมือนอย่างที่ศาลอนุญาตให้นายแทนไท ไต่สวนฉุกเฉินอย่างรวดเร็วหรือไม่ ผมฝากท่านอธิบดีศาลแพ่งไว้ด้วยนะครับ

ที่สำคัญ ข้อที่ห้า ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้พิพากษาครับ มันมีคน ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายระดับอดีตหัวหน้าองค์คณะศาลฎีกา ได้อ่าน แล้วบอกว่า คำสั่งคุ้มครองให้ผม ปิดปากผม โน่นนี่นั่น เป็นคำสั่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 35 ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 35 พูดว่าอย่างไร ? พูดว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้"


ท่านอธิบดีศาลแพ่งครับ หรือท่านผู้พิพากษาศาลแพ่งท่านนั้น หรือผู้ใหญ่ในศาลแพ่ง อาจจะหลงลืมกฎหมายข้อนี้ไป ประกอบกับเห็นว่าเรื่องของนายแทนไท ฟ้องหมิ่นประมาทผมนั้น เป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมืองเลย คนที่มีประวัติทำเว็บพนัน แล้วโดนศาลแพ่งยึดทรัพย์ 170 กว่าล้าน กำลังถูกหมิ่นประมาท ถูกละเมิด ถูกเปิดโปง ท่านผู้พิพากษาจึงยอมไม่ได้ที่จะให้คนแบบนี้ถูกสื่อมวลชนนำมาเปิดเผย ท่านก็เลยวินิจฉัยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนในสายตาของท่าน แล้วก็หลงลืมจะตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นมันขัดมันแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างไร หรือไม่

ท่านผู้พิพากษาครับ ท่านไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ผมจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างแน่นอน ว่าคำสั่งของท่านขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด ซึ่งอาจจะใช้เวลานิดหนึ่ง แต่ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คำสั่งของท่านขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทีนี้ล่ะ ท่านผู้พิพากษาคนไหนที่เซ็นอนุมัติและเห็นด้วยว่าให้คุ้มครองนายแทนไท เสนอให้ปิดปากผม ท่านจะมีคำตอบอย่างไร ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำตอบมา หรือว่าการไต่สวนฉุกเฉินอย่างมีพิรุธนั้น ผมมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิของผม ผมจะเอาทุกเรื่องที่ผมมีอยู่ในมือ เรียบเรียงไป แล้วผมจะร้องไปที่คณะกรรมการตุลาการ ให้รับทราบ ว่านี่คือวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และสิ่งที่ผมพูดมา ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายแทนไท จากคำพิพากษาศาลแพ่ง ผมผิดตรงไหน ท่านบอกว่าผมยืนยันในข้อเท็จจริง ก็ผมยืนยันสิ ผมเอามาจากคำพิพากษาศาลแพ่งนี่ ผมก็ต้องยืนยันสิ

อันที่จริงแล้วตอนแรกผมจะเว้นวรรคการพูดถึงเรื่องขบวนการและเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ไปสักช่วงหนึ่ง เพราะว่าเรื่องนี้ผมเปิดโปงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว เพื่อนฝูง ท่านผู้ชมหลายท่าน บอกว่าอยากฟังเรื่องอื่นบ้าง บางคนบอกว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว อยากฟังเรื่องการเมืองบ้าง ว่ามีความเคลื่อนไหว มีความคืบหน้า มีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร แต่เพราะการฟ้องร้องของนายแทนไท ต่อผม เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้สัปดาห์นี้ผมต้องพูดเรื่องนี้ เพื่อท่านผู้ชมจะได้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนายแทนไท อย่างละเอียด


ย้อนกลับไปเมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว ตอนที่ผมพูดเรื่องนายแทนไท ก็คือรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 168 วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 ตอน "แทนไท เป็นใคร รวยมาจากไหน ?" ผมบอกว่า นายแทนไท อายุแค่ 26 ปี 10 ธันวาคม 2565 ประมูลป้ายทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก 45 ล้านบาท แต่เมื่อพลิกแฟ้มข้อมูลไปแล้วกลับไม่มีประวัติว่านายคนนี้ที่ควักเงินมหาศาลมาประมูล นอกจากเป็น CEO บริษัทที่ตั้งใหม่แล้ว จนถึงวันที่ประมูล ตั้งบริษัทมายังไม่ครบปีดี กลับมีเงินกองมาเป็นทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท ผมก็ถามต่อว่า คนๆ นี้ร่ำรวยขึ้นมา มีทรัพย์สินเป็นเศรษฐีพันล้านได้อย่างไร ไม่เคยมีใครรับรู้ รับมรดกความร่ำรวยจากพ่อแม่ วงศ์ตระกูลมาจากไหน อีกทั้งยังไม่มีประวัติเคยทำธุรกิจอะไรจนประสบผลสำเร็จ

แต่ผมลงเฟซบุ๊กและค้นหาข้อมูล ปรากฏว่าปี 2563 นายแทนไท ถูกจับเนื่องจากเป็นหัวขบวนในการทำธุรกิจพนันออนไลน์และฟอกเงิน ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 15,000 ล้านบาท ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้พิพากษาศาลแพ่งครับ และทนายครับ ผมไม่ได้พูดโดยมโนเอง ผมเอาหลักฐานมาดู


แต่ว่าปี 2565 เมื่อตำรวจดำเนินคดีแล้วส่งไปที่อัยการ กลับหลุดในชั้นอัยการอย่างปาฏิหาริย์ อัยการสูงสุดในยุคนั้นคือ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน โดยที่นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด นั้น สั่งให้อัยการ พนักงานสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 1 ลงนามสั่งไม่ฟ้อง เอกสารเรื่องแจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง จากสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดี 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ในยุคนายสิงห์ชัย ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในยุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เอกสารพูดชัดเจนว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายแทนไท ผู้ต้องหาที่ 1 นายวสันต์ ขาวสะอาด ที่ 2 ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน bla bla bla ... ลงนามโดย นายสมคิด สายเจริญ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ


ท่านผู้ชมครับ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว นายแทนไท คงคิดว่าตัวเองได้รับการฟอกจากอัยการสูงสุด ที่มีคำสั่งนี้ก่อนเกษียณอายุแค่ 2 เดือน ไปคิดเอาเองก็แล้วกันนะครับ มีคนโวยวายมากที่อยู่ในสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่าท่านสิงห์ชัย ก่อนเกษียณอายุ 2-3 เดือน ท่านฟิตจังเลย ท่านเรียกแต่ละคดีมาแล้วก็สั่งการไป เพราะท่านจะเกษียณอายุแล้ว ท่านผู้ชมตีความเอาเองแล้วกัน ผมไม่มีสิทธิที่จะไปอธิบายว่าเพราะอะไร

แต่ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของกลางและทรัพย์สินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดพนันออนไลน์ของนายแทนไท กับพวก ซึ่งมีมูลฐานความผิดในพระราชบัญญัติฟอกเงิน ที่ทางตำรวจได้ดำเนินการตรวจยึด นำส่งสำนักงาน ปปง. ซึ่งได้ยื่นเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้ยึดให้ตกเป็นของแผ่นดิน ท่านผู้ชมครับ ปีที่แล้ว 16 สิงหาคม 2565 ศาลแพ่งมีคำพิพากษายึดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายแทนไท ตามข้อที่หนึ่ง คดีหมายเลขดำ ที่ ฟ. 50/2564 หมายเลขแดง ที่ ฟ. 101/2565 ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน นำขายทอดตลาด ทั้งหมด 31 รายการ มูลค่า 176,127,860.99 บาท


ท่านผู้ชมครับ คดีนี้มันมีความพิลึกพิลั่น มันย้อนแย้งกัน ตรงที่นายแทนไท รอดคดีอาญา เพราะอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง แต่กลับไม่รอดคดีแพ่ง โดนศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์ 176 ล้าน แล้วมันตลกร้าย คดีเดียวกันแท้ๆ หลักฐานเดียวกันแท้ๆ แต่ดุลพินิจของกระบวนการยุติธรรมกลับออกมาแตกต่างกัน จริงๆ แล้วอัยการก็น่าจะแถลงแสดงเหตุผล มีหลักพิจารณาอะไรบ้าง ถึงตัดสินใจยุติคดีไปเลย แทนที่จะส่งคดีให้ศาล คือไม่ยอมส่งให้ศาล ปรากฏว่าอัยการไม่ทำ ใช้อำนาจที่ตัวเองมีอยู่สั่งไม่ฟ้อง แล้วส่งกลับไปให้ตำรวจ ตำรวจก็ค้านตามพิธีการว่าไม่เห็นด้วย ก็ส่งกลับไป ไปชี้ขาดที่อัยการสูงสุด อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าท่านสิงห์ชัย ท่านกำลังจะเกษียณในอีก 2-3 เดือน ท่านเลยตัดสินใจว่าสั่งไม่ฟ้องดีกว่า

ทีนี้ผมก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร เพราะว่าผมก็ไม่ได้ผิดที่จะไปว่าคุณแทนไท เพราะว่าสิ่งที่ผมถึงคุณแทนไท นั้น มันมีที่มาที่ไปของคำพิพากษาศาลแพ่ง ผมก็เลยไปดูเอกสารคำสั่งยึดทรัพย์นายแทนไท ปรากฏว่าศาลแพ่งได้มีคำพิพากษายึดทรัพย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายตามคดีหมายเลขดำ ที่ ฟ. 50/2564 หมายเลขแดง ที่ ฟ.101/2565 ให้ทรัพย์สินดังมีรายการต่อไปนี้เป็นของแผ่นดินและนำขายทอดตลาด หนึ่ง รถยนต์ยี่้ห้อ Porsche Macan 2.0 ลิตร สอง รถยนต์ยี่ห้อ Porsche รุ่น 911 CARRERA S COUPE สาม รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN รุ่น 720S COUPE สี่ รถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น GT-R ห้า รถยนต์ HONDA รุ่น CIVIC หก รถยนต์ Lamborghini รุ่น Aventador SVJ เงินสดอีก 1 ล้านบาท กรรมสิทธิ์ห้องชุด เงินฝากในบัญชีอื่น และทรัพย์สินดิจิทัล


ทรัพย์สินที่ถูกยึดมีชื่อผู้ครอบครองเป็น นายแทนไท ณรงค์กูล นายธนพล ณรงค์กูล นางปรียาภรณ์ ณรงค์กูล นายอรุวัช ณรงค์กูล นายพิชญ์นันท์ สุวรรณโณ นายณัฐวุฒิ แก้วสองสี

ท่านผู้ชมครับ จากเอกสารยึดทรัพย์ของ ปปง. ที่ชงขึ้นไปให้ศาลแพ่งพิจารณา ระบุว่า ได้ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำการสืบสวนตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์www.sagame1688.com ซึ่งนายแทนไท ณรงค์กูล เป็นผู้จดทะเบียนจัดตั้ง ได้ลักลอบเผยแพร่ ชักชวน และจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารในการทำธุรกรรมหลายบัญชี รวมทั้งบัญชีเงินฝากธนาคารของนายแทนไท ณรงค์กูล มีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมาก ตำรวจก็เลยรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี กล่าวโทษโดยพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

การจับกุมนายแทนไท เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563 คนที่แถลงข่าวก็คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เอกสาร ปปง. ที่ผมดูอยู่ ระบุถึงบัญชีม้าจำนวนมาก และมีบัญชีนายแทนไท เองด้วย ถือว่าหลักฐานด้านเส้นทางการเงินแน่นหนา ศาลแพ่งก็เลยพิพากษายึดทรัพย์สินต่างๆ อันชี้แจงที่มาที่ไปไม่ได้ กว่า 176 ล้าน นี่ถือว่าเป็นคดีแรกๆ เลยที่ศาลสั่งยึดทรัพย์จากบรรดาคนสีเทาที่สร้างตัวจนร่ำรวยจากเว็บพนันออนไลน์

ท่านผู้ชมครับ ผมได้ตั้งคำถามไปแล้วว่า ถ้าคดีอาญา อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง คดีไม่มีมูล แต่ทำไมคดีแพ่ง ศาลแพ่งถึงสั่งยึดทรัพย์และขายทอดตลาดได้

ท่านผู้ชมครับ นายแทนไท ถึงแม้ว่าปี 2565 จะถูกยึดทรัพย์ไปกว่า 176 ล้าน แต่ทุกวันนี้ยังร่ำรวย มีเงินเป็นพันล้าน เป็นเจ้าของบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี กุมภาพันธ์-กันยายน ปีที่แล้ว 7-8 เดือน เพิ่มทุนบริษัทจาก 5 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท ด้วยเงินสด ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทอีกหลายต่อหลายแห่ง แต่พออัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา แทนไท กับพวก ก็เลยตีปีก คิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างบนโลก เหมือนายนอท พันธ์ธวัช แห่ง "กองสลากพลัส" ที่เคยพูดว่าซื้อได้ทั้งตำรวจ ซื้อได้ทั้งอัยการ และตอนนี้เงินทุนสีเทาพวกนี้เริ่มเข้าไปซื้อศาลได้บางคนแล้ว

แต่เจ้าตัว แทนไท ลืมไปว่าคดีแพ่งนั้น คำพิพากษายึดทรัพย์ ระบุชัดเจนว่า เพราะนายแทนไท เกี่ยวโยงกับคดีการพนันออนไลน์และการฟอกเงิน ที่สำคัญ คำพิพากษาระบุชัดเจนว่า นายแทนไท ไม่สามารถชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องถูกยึดทรัพย์


กลับมาถึงคดีอาญาบ้าง ตามคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสูงสุด ท่านผู้ชมครับ คำสั่งที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องและส่งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ถูกผู้ใหญ่ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ใหญ่จริงๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งว่า แม้กระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ก็อ้างว่าคนที่จะขอดูรายละเอียดของคดีนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในคดีนี้เท่านั้น ณ วันนี้ คุณแทนไท มาฟ้องผม และผมกลายเป็นจำเลย ผมก็เลยกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับความเป็นมาและความเป็นไปของคดีดังกล่าว ผมกับทนายจะใช้โอกาสนี้เรียกเอกสารสั่งไม่ฟ้องทั้งหมดมาดูว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ผมต้องการดูอะไร ? หนึ่ง พนักงานสอบสวนเป็นใคร สอง หัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นใคร สาม อัยการพิจารณาคดีเป็นใคร สี่ อัยการคนไหนในสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ลงนามสั่งไม่ฟ้อง รวมไปถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด

ท่านผู้ชมครับ คดีนี้ ผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับทีมทนาย รวมไปถึงทีมงาน และเครือข่ายที่ผมมีทั้งหมด ผมให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนที่ติดตามรายการผม มีความเชื่อมั่นในตัวผม ว่าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้ความจริงปรากฏ

คุณแทนไท ครับ คุณพูดผ่านผู้กำกับเด่นมา ซึ่งอยู่ สอท. เขามาหาผม เขาบอกว่า คุณบอกเขาว่า ที่เขาจำเป็นต้องฟ้องผมเพราะว่ามีผู้พิพากษาสั่งให้ฟ้อง เอ้า! ตายล่ะสิ

"ผู้กำกับเด่น" ซึ่งท่านเป็นลูกเขยของ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ พูดชัดเจนว่าคุณพูดอย่างนั้น สมมุติว่าคุณพูดอย่างนั้นจริงๆ แสดงว่าเงินทุนสีเทามันขยับขยายจากตำรวจไปอัยการ และตอนนี้เริ่มเข้าไปสู่วงการผู้พิพากษาแล้ว ท่านประธานศาลฎีกาครับ ผมว่าต้องสอบสวนเรื่องนี้เสียหน่อย น่าสนใจมาก

คุณแทนไท ครับ คุณอายุเพิ่งจะ 27 ปี ผม 76 คุณไม่รู้หรอกชีวิตผมผ่านอะไรมามาก คุณคิดว่าแค่นี้จะหยุดผมได้หรืออย่างไร คุณยังรู้จักผมน้อยไป ก็ดีเสียอีก แล้วให้วงการสีเทา วงการพนันรับทราบด้วย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและทำให้ชีวิตพวกคุณไม่มีความสุขนั้นมาจากคนที่ชื่อ "แทนไท ณรงค์กูล"

เผอิญมันมีเรื่องที่ผมจำเป็นจะต้องเอามาพูด ท่านผู้ชมครับ นี่คือคำพิพากษาศาลแพ่ง รายละเอียดมีเยอะมาก โคตรสนุกเลย อาทิตย์หน้าผมจะพูดเรื่องนี้ ไม่มีใครมาห้ามได้ เพราะว่าผมเอาคำพิพากษามาพูด ไปสิครับ ไปยื่นขอไต่สวนฉุกเฉิน ขอคุ้มครองไม่ให้ผม ไม่ให้ผมเอาคำพิพากษาศาลแพ่งมาพูด นี่ผมคัดมาจากศาลแพ่งนะครับ คุณห้ามผมไม่ได้หรอกครับ แล้วผมพนัน ผมให้คำมั่นสัญญากับท่านผู้ชมว่า โคตรมันเลย มันส์หยด

วันนี้ผมอยากจะพูดถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกคุณเลย แทนไท แต่ผมจะพูดเพื่อเอามาเปรียบเทียบกับพรรคพวกคุณ ผมชื่นชมคนรุ่นใหม่มาก รวมถึงเด็กๆ รุ่นลูกรุ่นหลานของผม ผมอยากจะยกตัวอย่างมาสัก 7-8 หรือ 9 คน ท่านผู้ชมคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาดี


คนแรกคือ "ลิซ่า" ลลิษา มโนบาล อายุ 25 ปี ศิลปินระดับโลก สมาชิกของ BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ป


คนที่สอง คือ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ อายุ 30 ปี นักฟุตบอลชาวไทย เล่นให้กับทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล ในเจลีก ดิวิชัน 1 และทีมชาติไทย


คนที่สาม ก็คือ "แบมแบม" กันต์พิมุกต์ ภูวกุล อายุ 26 ปี สมาชิกของ GOT 7 บอยแบนด์เกาหลีใต้


คนที่สี่ ชื่อ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ อายุ 26 ปี นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก 2020


คนที่ห้า "โปรโม-โปรเม" โมรียา และ เอรียา จุฑานุกาล "โปรโม" อายุ 29 "โปรเม" 28 คู่พี่น้องนักกอล์ฟมืออาชีพหญิงระดับโลก


คนที่หก คือ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล อายุ 20 ปี นักกอล์ฟชาวไทยที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ชนะการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ปี 2565 คว้าแชมป์อาชีพที่ LPGA Tour 2 รายการ


คนที่เจ็ด "เม" รัชนก อินทนนท์ อายุ 28 ปี แชมป์โลกแบดมินตันอายุน้อยที่สุด ปี 2556 และนักกีฬาแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือหนึ่งของโลก ปี 2559


คนที่แปด "บัวขาว บัญชาเมฆ" อายุ 41 ปี นักมวยไทยที่โด่งดัง เป็นที่ยอมรับในวงการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรป และญี่ปุ่น


แม้กระทั่งคนที่เก้า คุณไพโรจน์ ร้อยแก้ว ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารตลาดนัดรถไฟรัชดา จนกลายเป็นตลาดนัดกลางคืนยอดนิยมของกรุงเทพฯ


ท่านผู้ชมครับ ทำไมผมเอาชื่อคนพวกนี้มา ? เอาอีกคนหนึ่ง คนที่สิบ คนที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยสมอง และสองมือจริงๆ คนที่สิบ "เชฟเพ็ญณี" แบรนด์ PENNY THE CHEF ที่เปิดร้านเบเกอรีอยู่ชั้นล่างของสยามพารากอน เชฟเพ็ญณี ตัวเล็กนิดเดียว สูงแค่ 157 จบบัญชีจุฬาฯ ไปเรียนการทำอาหาร แล้วอยู่หาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ แล้วกลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง


ท่านผู้ชมครับ ลิซ่า ต่อสู้มาเพื่อให้ตัวเองไปสู่ความฝัน ประสบความสำเร็จ มีความโด่งดัง และไม่เคยลืมประเทศไทย ไม่เคยลืมสถาบันกษัตริย์ จนกระทั่ง ลิซ่า เป็นข่าวหลังสุดว่าไปซื้อบ้านมูลค่า 7,200 ล้านวอน หรือ 200 กว่าล้านบาท ซึ่งอยู่ในย่านที่คนรวยอยู่ 200 กว่าล้านบาท ที่ลิซ่า ได้มาเป็นน้ำพักน้ำแรง หยาดเหงื่อของคุณลิซ่า ทั้งนั้น ไม่เหมือนพวกคุณทั้งหลายที่อวดรวย แต่ทำพนันออนไลน์ ฟอกเงิน แล้วมีบ้านเป็นร้อยๆ ล้านบาท มีรถยนต์คันละหลายสิบล้านบาท นี่คือข้อแตกต่าง

หลายๆ คนที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อกี้นี้่ นั่นคือคนรุ่นใหม่ของประเทศไทยที่เราต้องส่งเสริม พวกที่อยู่กับการพนันออนไลน์ แล้วมีเงิน แล้วอวดรวย เอาเงินซื้อตำรวจ ซื้ออัยการ และเริ่มเข้าไปซื้อศาลแล้ว มีเงินหมุนเป็นพันๆ ล้าน หมื่นล้าน เฮ้ย! พวกคุณนี่ภูมิใจนักหรือ แล้วเที่ยวมาพูด ชอบพูดนัก "ผมรวยจากการเทรดหุ้น" เหมือนกับข้อความในคำพิพากษาของศาลแพ่ง เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะฉีกเป็นชิ้นๆ ว่า คุณแทนไท ให้การในศาลว่ารวยจากอะไร ฟังแล้วท่านผู้ชมนั่งเก้าอี้ดีๆ นะ เอาเชือกรัดตัวเองไว้ เพราะท่านผู้ชมจะตกเก้าอี้ เพราะท่านผู้ชมจะขำมากๆ นึกไม่ถึงว่าคุณแทนไท กล้าใช้มุกนี้

ท่านผู้ชมครับ ฝั่งแรก ไม่ว่าจะเป็น ลิซ่า เจ-ชนาธิป โปรจีน-อาฒยา หรือคนที่เปิดตลาดนัดตอนกลางคืน ได้รับความชื่นชม การยอมรับจากคนทั่วโลก รวมไปถึงมวยไทยรุ่นที่อายุมากกว่าพวกนี้หน่อย คือ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้รับความชื่นชม แต่เด็กบัดซบเลวระยำหมาอีกด้านหนึ่ง กลับลืมตัว ทำงานผิดกฎหมาย มองเห็นช่องโหว่ของกฎหมาย แล้วตกไปเป็นทาสของตำรวจ อัยการ และศาลบางคนตอนนี้ ยินดีเอาเงินไปปรนเปรอเจ้าหน้าที่รัฐพวกนี้ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองอยากได้ ทำชั่วอย่างไรก็ยอม และสุดท้าย พอได้เงินได้ทองมา ก็เอามาโชว์ออฟ

ท่านผู้ชมคิดว่าประเทศชาติ สังคมไทย จะอยู่ได้ด้วยคนกลุ่มไหน ? กลุ่มแรก หรือกลุ่มหลัง ใครเป็นกลุ่มที่เราต้องเชิดชู สนับสนุนให้เป็นเยี่ยงอย่างกับลูกหลานของเรา และใครเป็นกลุ่มที่ต้องเรียกว่าบัดซบ เราเห็นว่าสิ่งที่พวกมันทำ พวกมันโชว์ เป็นสิ่งที่ผิด เป็นค่านิยมที่ผิด เป็นวิถีทางที่ผิด ท่านผู้ชมครับ นี่คือสิ่งที่ผมพยายามทำให้ท่านผู้ชมเห็น ว่าพวกคุณหยุดได้แล้วความระยำที่พวกคุณทำอย่างนี้ แล้วผมก็ถูกไต่สวนฉุกเฉิน ปิดปากผม โดยไม่ดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ท่านผู้ชมครับ ผมจะยื่นคำร้องอยู่แล้ว ทนายยื่นแล้วระหว่างผมออกรายการนี้ เดี๋ยวบ่ายผมจะรอดูว่าศาลแพ่งจะให้ไต่สวนฉุกเฉินไหม เพื่อยกเลิกการคุ้มครอง ผมอยากรู้เหมือนกัน ท่านผู้ชมคอยติดตามให้ดี แล้วท่านผู้ชมจะเห็นความยุติธรรมของศาลครั้งนี้ว่ามีจริงหรือเปล่า

++++++++++

ฤๅ "คดีแทนไทย" จะเป็น "บอส อยู่วิทยา 2"


ท่านผู้ชมครับ ผมได้พูดไปตอนต้นว่า คดี "แทนไท" จะเป็น "บอส อยู่วิทยา ภาค 2" หรือเปล่า เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมจะสรุปคำพิพากษาศาลแพ่ง คดีหมายเลขดำ ฟ. 50/2564 และคดีหมายเลขแดง ฟ. 101/2565 คดีนี้ศาลแพ่งพิพากษาเมื่อ 16 สิงหาคม คือ 6 เดือนให้หลัง หลังจากที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565

บทสรุปของคำพิพากษาศาลแพ่งฉบับนี้คือ มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์นายแทนไท และพวก จำนวน 176 ล้าน โดยในคำพิพากษาชี้ให้เห็นว่าคำแก้ตัวและร้องค้านของนายแทนไท พ่อและแม่นายแทนไท และผู้เกี่ยวข้องอีก 8 คนนั้น ฟังไม่ขึ้น คำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องของอัยการนั้นไม่เกี่ยวกับคดีแพ่ง ซึ่งอ้างอิงถึงพระราชบัญญัติฟอกเงิน 2542 คำพิพากษาของศาลแพ่งในหน้าที่ 39 ระบุว่า แม้อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้คัดค้านที่ 1 ก็คือนายแทนไท ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยผิดกฎหมาย หรือร่วมกันฟอกเงิน แล้วก็ตาม แต่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เป็นกฎหมายที่กำหนดความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งมีโทษทางอาญาและมาตรการทางแพ่ง ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน โดยมาตรการทางแพ่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินดังกล่าว มิใช่ความรับผิดชอบทางแพ่งตามความหมายของคำว่า การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพียงแต่ในการพิจารณาและพิพากษาคดีร้องขอทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินนั้น บัญญัติไว้ในมาตรา 59 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว คือ ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลมเท่านั้น ทั้งนี้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้คัดค้าน หรือจำเลยในคดีอาญา ได้กระทำความผิด หรือศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีอาญาหรือไม่

พยานหลักฐานของผู้คัดค้านที่ 1 คือ นายแทนไท ที่นำสืบมา ล้วนมีน้ำหนักน้อยมาก ไม่สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 51 วรรคสาม ได้

สี่ มีคนในวงการยุติธรรม อดีตผู้พิพากษา เมื่อได้อ่านคำพิพากษาศาลแพ่งอย่างละเอียดแล้ว ท่านตั้งข้อสังเกตกับผม ผู้ที่ให้ความเห็นผมนั้น คือดีตหัวหน้าองค์คณะศาลฎีกา และเคยเป็นกรรมการตุลาการมาแล้ว บอกว่า คำพิพากษาศาลแพ่งนั้นเหมือนกับเป็นการตบหน้าอัยการสูงสุดในยุคของนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา


ก่อนหน้าที่จะเกษียณอายุไปนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง ปล่อยผีเจ้าของเว็บพนันระดับตัวใหญ่ๆ ไปหลายคน และผมจะทยอยเอามาเปิดให้ดู ผมจะเอารูปของคุณสิงห์ชัย ทนินซ้อน อดีตอัยการสูงสุด ขึ้นมาให้ดู

ข้อห้า ในประเด็นดังกล่าวผมขอเรียกร้องให้อัยการสูงสุดคนใหม่ คือ คุณนารี ตัณฑเสถียร ซึ่งถือว่าเป็นอัยการสูงสุดผู้หญิงคนแรก หยิบเรื่องนี้ออกมาทบทวน ปัดฝุ่นเสียใหม่


ก่อนที่เรื่องนี้จะกลายเป็นคดี "บอส อยู่วิทยา ภาค 2" เพราะจากคำพิพากษาของศาลแพ่ง และข้อมูลที่ผมมีอยู่ในมือนั้น คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องและสะท้อนความเลวร้ายเฉพาะแวดวงอาชญากรรม การพนันออนไลน์ แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงตำรวจ ปปง. แวดวงอัยการ และ แวดวงศาลบางคน เรียกว่าในทุกระดับชั้นของกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ เลยไปถึงนักการเมืองบางคนด้วย

ข้อหก ในรายการวันนี้ผมขอเปิดไฮไลต์บางส่วนเล็กๆ ของคำพิพากษาศาลแพ่ง ในคดียึดทรัพย์นายแทนไท กับพวก ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาให้ดู


คดีนี้อัยการสูงสุดเป็นผู้ร้อง โดยนายแทนไท ณรงค์กูล เป็นผู้คัดค้านที่ 1 บริษัท แทนไท อินดัสตรี้ส์ และ บริษัท ณรงค์กูล เวิลด์ เป็นผู้คัดค้านที่ 2 และ 3 ผู้คัดค้านที่ 4 คือพ่อและแม่ของนายแทนไท คือ นายอรุวัช ณรงค์กูล และ นางปรียาภรณ์ ณรงค์กูล ทั้งสองคนทำงานที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยพ่อ นายอรุวัช ณรงค์กูล ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งช่างสำรวจ ได้เงินเดือน 17,000 บาท แม่ คือนางปรียาภรณ์ ณรงค์กูล เป็นพนักงานราชการ สังกัดสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ กรมป่าไม้ เงินเดือนอัตราสูงสุด 25,440 บาท

ท่านผู้ชมครับ ศาลบอกว่า จู่ๆ พ่อและแม่นายแทนไท ก็มีเงินออมเพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท กับ 10 ล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ขณะที่พ่อไม่มีประวัติการเสียภาษีเลย โดยอ้างว่ารายได้ไม่ถึงปีละ 200,000 บาท ซึ่งศาลไม่เชื่อว่าได้เงินมาถูกต้องตามกฎหมาย จึงถูกยึดทรัพย์ในบางส่วนไปด้วย


กลับมาถึงนายแทนไท เขาอธิบายให้ศาลฟังสาเหตุที่ไปเกี่ยวข้องกับเงินทองและความร่ำรวยของตัวเองไว้ดังนี้ อ้างว่าชอบทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 17 เมื่อประมาณปี 2556 นายแทนไท เริ่มขายขนมจีบ และผลิตเสื้อขนมจีบแทนไทขาย จนประมาณ 2558 มีรายได้คงที่หลายแสนบาทต่อเดือน และมีเงินเก็บ จึงก่อตั้งบริษัทผู้คัดค้านที่ 3 คือ บริษัท ณรงค์กูล เวิลด์ จำกัด มีบิดา-มารดาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท นอกจากนี้ นายแทนไท ยังเอาเงินจากธุรกิจขายขนมจีบประกอบธุรกิจมาเป็นนายหน้าด้านการตลาด มีรายได้ปีละ 20-30 ล้าน จากนั้นเอาเงินไปลงทุนในธุรกิจค้าเงินล่วงหน้าและเทรดค่าเงิน FOREX ได้กำไรมาตั้ง 334 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว ยังนำเงินกำไรจากการเทรด FOREX ไปลงทุนซื้อขายคริปโตฯ กับ "บิทคับ" (bitkub) ออนไลน์ ได้กำไรอีกหลายสิบล้านบาท

ท่านผู้ชมครับ ประเด็นคือ สตอรี่ที่มาของความร่ำรวยของนายแทนไท ที่เจ้าตัวกล่าวอ้างนั้น คำวินิจฉัยและคำพิพากษาศาลแพ่ง ไม่เชื่อถือ และระบุชัดเจนว่า "ไม่สมเหตุสมผล" นอกจากนี้ ยังไม่มีหลักฐานการเสียภาษีอีกด้วย


ในความของศาลแพ่ง พูดอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าการลงทุนซื้อขายเงินต่างประเทศล่วงหน้า หรือ เทรดค่าเงินระหว่างประเทศ (FOREX) ที่นายแทนไท กล่าวอ้าง ว่าสามารถทำกำไรในช่วงระยะเวลา 1 ปี 10 เดือนเศษ เป็นเงินสูงถึง 334,206,390 บาทนั้น เป็นเรื่องเกินความคาดหมายตามปกติที่บุคคลจะสามารถลงทุนด้วยเวลาไม่นาน แต่ได้กำไรเป็นยอดเงินสูงมากถึง 300 ล้านบาทเศษ แต่ผู้คัดค้านที่ 1 คือนายแทนไท กลับไม่นำพยานบุคคลผู้รู้เห็นเกี่ยวข้องกับการลงทุนซื้อขายเงินต่างประเทศล่วงหน้า หรือเทรดค่าเงินระหว่างประเทศ มาเบิกความยืนยัน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญในคดีของผู้คัดค้านที่ 1 คือนายแทนไท

คงมีเพียงนายวรวัฒน์ นาคแนวดี ซึ่งเป็นพยานของผู้คัดค้านที่ 1 เบิกความกล่าวอ้างตนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ด้านการเงิน และการซื้อขายล่วงหน้าอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินระหว่างประเทศ สนับสนุนเท่านั้น ส่วนที่นายแทนไท นำสืบ ว่าไม่ได้ยื่นภาษีเงินได้จากการซื้อขายต่างประเทศล่วงหน้า เพราะไม่มีความรู้ว่าจะต้องเสียภาษีหรือไม่ อย่างไร เพราะไม่อยู่ในระบบภาษีของประเทศไทยนั้น ก็เป็นเพียงความเข้าใจส่วนตัวของนายแทนไท เอง ส่วนความจริงเป็นอย่างไรนั้น นายแทนไท มิได้นำสืบให้ข้อเท็จจริงปรากฏ ทั้งๆ ที่อยู่ในวิสัยที่จะได้ ด้วยการขอให้ศาลหมายเรียกเจ้าพนักงานกรมสรรพากรมาเบิกความ


นอกจากนี้แล้ว เมื่อพิจารณาช่วงเวลาตั้งแต่กรกฎาคม 2562 ถึงเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผู้คัดค้านที่ 1 ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองรถยนต์ ตามทรัพย์สินรายการที่ 5-9 รวม 5 คัน ซึ่งล้วนแต่เป็นรถยนต์ราคาแพง มีราคารวมกันเป็นเงินสูงถึงร้อยล้านบาทเศษ จึงก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าในช่วงเวลา 1 ปีเศษ ผู้ค้ดค้านที่ 1 ได้เงินจำนวนมากขนาดนี้มาจากไหน

ท่านผู้ชมครับ นี่ล่ะครับรายละเอียดบางส่วน ของศาลแพ่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ที่สั่งใฟ้ยึดทรัพย์นายแทนไท พ่อแม่ และญาติ 176 ล้านบาท จากการกระทำความผิดที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับการฟอกเงิน และเชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์ ส่วนรายละเอียดฉบับเต็มมีความหนา 53 หน้า ผมจะนำมาฉีกเป็นชิ้นๆ ในวันศุกร์หน้า ให้ท่านผู้ชมได้รับรู้ ทราบอย่างละเอียดถึงที่มาที่ไปของคนชื่อ แทนไท ณรงค์กูล ซึ่งผมบอกเลยว่า ยิ่งขุดลึกลงไป ยิ่งฉีกหน้ากากลงไป ยิ่งจะเห็นความฟอนเฟะของสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ผมสัญญาว่าจะเปิดให้หมด เอาแบบสุดซอยไปเลย

++++++++++

เรื่องเล่าชีวิตของ “ไอ้กระจอก”

ท่านผู้ชมครับ ผมมีเรื่องบางเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง ท่านผู้ชมฟังเรื่องที่ผมเล่าให้ดีๆ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวิตไอ้หนุ่มคนหนึ่งในวงการพนันออนไลน์ เขาตั้งฉายาไอ้หมอนี่ว่า "ไอ้กระจอก"


ท่านผู้ชมอย่าไปทึกทักเอานะว่า "ไอ้กระจอก" คนนี้เป็นคนที่ท่านผู้ชมรู้จักนะ ท่านผู้ชมไม่รู้จักหรอก เรื่องราวของไอ้หนุ่มคนนี้คล้ายๆ กับวัยรุ่นยุคนี้ หลายๆ คนที่่ร่ำรวยแบบไม่มีที่มาที่ไป จู่ๆ ก็มีหน้ามีตา มีเงินมีทองขึ้นมาแบบไม่มีเเหตุผล พรีเซนต์ตัวเองว่าเป็นดาวรุ่งคริปโตฯ เศรษฐีนักลงทุน ลงทุนโน่น ลงทุนนี่ ทั้งๆ ที่ความร่ำรวย เงินทองที่ตัวเองมีนั้น เป็นเงินสกปรก เงินที่ตัวเองวักขึ้นมาจากน้ำครำทั้งสิ้น

ย้อนอดีตไปตอนเรียนมหาวิทยาลัย แถวๆ รังสิต ไอ้หมอนี่จบที่นั่น เมื่อก่อนเพื่อนๆ เรียกกันว่า "ไอ้กระจอก" ไม่มีอะไรเลย ไม่มีจริงๆ แต่พอผันตัวกระโดดเข้าไปสู่แวดวงพนันออนไลน์ ในเครือข่ายเว็บ UFA ไอ้หมอนี่ก็ทำขึ้น อู้ฟู่ขึ้นมา ในสายพนันเขาเรียกว่า "กาสิโนออนไลน์"

การพนันออนไลน์มีแบ่งออกเป็นหลักๆ 4 สาย คือ หนึ่ง สายกาสิโน พวกบัคคาร่า ไพ่ต่างๆ สายสล็อต สายกีฬา พนันฟุตบอลลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกอังกฤษ บอลอิตาลี สเปน เยอรมนี บอลไทย สายหวย หรือสายล็อตโต้

2562 ไอ้หนุ่มคนนี้โตมาในสายกาสิโนในเครือข่ายของเว็บ UFA พอเริ่มมีเงินมีทองก็อยากจะขยายกิจการพนันออนไลน์ของตัวเองไปสายอื่นบ้าง ตอนไปเที่ยวผับแถวทองหล่อ กับรามอินทรา ไม่ว่าจะเป็นเอมเมอรัล คริสตัส เอ็มคลับ หรือ อะลาดิน ก็ไปมั่วสุม ไปเจอกับคนในแวดวงคนหนึ่งที่โตมาจากการพนันสายหวย/สายล็อตโต้ มีชื่อว่า "ไอ้ฟลุ้ค" มีฐานที่มั่นอยู่ที่ชลบุรี พอพูดคุยกันถูกคอ "ไอ้กระจอก" คนนี้ก็เลยขอเข้าไปดูระบบหลังบ้านเว็บหวยของ "ไอ้ฟลุ้ค" บอกว่าอยากจะซื้อระบบหวยมาใส่เว็บตัวเอง หรือลงทุนร่วมกัน "ไอ้ฟลุ้ค" ก็ให้ไปดู แต่ปรากฏว่าในเวลาต่อมา "ไอ้กระจอก" กลับฉลาดแกมโกง ก๊อปปี้ โคลน ระบบหวยของ "ไอ้ฟลุ้ค" ไปหมดเลย แล้วเอาไปทำเองในชื่อ "ล็อตโต้432" (Lotto432)

"ไอ้ฟลุ้ค" โกรธมาก ก็เลยเอาไปแฉในวงการพนันว่า "ไอ้กระจอก" ทำอะไรเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ในวงการพนันออนไลน์เขาเลยตั้งฉายาไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ว่า "ไอ้กระจอก"

ต่อมา ถึงแม้ว่าจะทำหน้าตา ทำศัลยกรรม แต่งตัวด้วยแบรนด์เนม ขี่รถหรู นาฬิกาหรู อย่างไร เขาก็เรียกมันว่า "ไอ้กระจอก" อยู่เหมือนเดิม ซึ่งมันก็ยังคงโกรธอยู่เหมือนเดิม

ปี 2563 เว็บพนันของมันโดนตำรวจจับ เจ้าตัวหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่แถวตะเข็บชายแดน วิ่งเต้นจ่ายเงินจ่ายทองให้ตำรวจเยอะแยะไปหมดเพื่อหลุดคดี แต่ไม่สำเร็จ เผอิญไปเจอคนๆ หนึ่ง ชื่อ "กร"

"ไอ้กร" อ้างตัวว่าอยู่หน้าห้องลุงตู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าลุงตู่รู้เรื่องนี้หรือเปล่า "ไอ้กระจอก" จ่ายเงินจ่ายทองให้ "ไอ้กร" ไปวิ่งเต้นคนในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้หลุดคดี เวลาต่อมา เมื่อ "ไอ้กระจอก" มันวิ่งเต้นจนตัวเองได้กลับมา หลุดคดีทั้งหมดแล้ว ก็มีตำรวจใหญ่ระดับยศพลตำรวจโทเข้ามาเป็นหุ้นส่วนพนันออนไลน์ของมันด้วย จนทุกวันนี้มันถือดี คิดว่าตัวเองไม่มีคดีติดตัว คิดว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจถูกกฎหมาย ประวัติขาวสะอาด ไร้มลทิน ทั้งๆ ที่เบื้องหลังเนื้อตัวมันเต็มไปด้วยขี้ เต็มไปด้วยอุจจาระที่เหม็นคลุ้งไปหมด ส่วนตำรวจ อัยการ อยากได้เงิน "ไอ้กระจอก" นี้ แม้เห็นขี้เลอะตัวไปหมดอย่างไรก็ตาม เพราะเงินตัวเดียว ก็พยายามอวย "ไอ้กระจอก" บอกว่าหล่อมากๆ ผอมมากๆ

นี่คือตำนานเรื่องเล่า ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกันว่าเป็นใคร

++++++++++

ผู้หญิงทวงแค้น ถอดปลั๊ก "มาเก๊า 888"


ท่านผู้ชมครับ ถ้าพูดถึงเรื่องการพนันออนไลน์ ถ้าเราไม่พูดถึง "น้องดิว" อริสรา ทองบริสุทธิ์ ก็รู้สึกว่าจะไม่ได้ เพราะล่าสุด "น้องดิว" เองเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจว่า "พี่น้อง 4 บ." เป็นเจ้าของเว็บพนัน "มาเก๊า 888" ทำให้คนไปตามหากันใหญ่ว่าหมายถึงใคร สรุปว่าก็เจอแล้วว่าหนึ่งในนั้นคือ "เบนซ์ เดม่อน" แฟนเก่าของ "ดิว"

29 มกราคม 2566 รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 174 ผมได้เปิดโฉมหน้าของ "พี่น้อง 4 บ." ที่เกี่ยวโยงกับเว็บพนัน "มาเก๊า 888" ให้ชัดๆ แล้วว่าใครเป็นใคร และเป็นลูกเต้าเหล่าใคร คนแรก คือ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร (เบนซ์ เดม่อน) พี่ชายคนโต แฟนเก่าของดิว


คนที่สอง เอกชัย ขจรบุญถาวร ชื่อเล่น "บอส" อายุ 36 ปี


คนที่สาม คือ กิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร ชื่อเล่น "บิ๊ก" อายุ 32 ปี


และคนสุดท้ายก็คือ ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร ชื่อเล่น "ไบร์ท" ตำแหน่งตอนนั้นคือ รองสารวัตรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตม.2 ขาออก อายุ 30 ปี


ปรากฏว่าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการ "มาเก๊า 888" ปิดค้น 8 จุดทั่วกรุงเทพฯ ค้นหมด ทั้งผับ RCA ย่านมักกะสัน คอนโดมิเนียมย่านหรู สุขุมวิท พบว่า "เบนซ์ เดม่อน" ว่าจ้างบริษัทเอกชนมาขนของสำคัญ รวมทั้งเงินในตู้เซฟ ออกจากคอนโดฯ หรูย่านสุขุมวิท ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์


เขาไปค้นวันที่ 3 ท่านผู้ชมเชื่อผมไหม พนันกับผมไหม ตำรวจบางคนเป็นคนส่งสายให้ "มาเก๊า 888" ว่าเขาจะไปค้นแล้วนะ รีบขนของหนีไป เชื่อผมสิ เอาหัวเป็นประกัน พนันได้ทันทีเลย ผลการจับกุมก็ปรากฏว่าจับคนได้ 32 ราย

6 กุมภาพันธ์ ตรวจสอบโกดังที่เก็บรถหรู พบรถหรู Lamborghini Mad Bull Liberty Walk Aventador V2 คันที่ 7 ใน 50 คันทั่วโลก คือทั่วโลกมี 50 คัน คันนี้เป็นคันที่ 7 เป็นเพียงคันเดียวในไทย ของ "เบนซ์ เดม่อน" พี่ชายคนโต ราคารถอย่างเดียว 44 ล้านบาท


ส่วน ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร หรือ ไบร์ท ตำแหน่งรองสารวัตรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตม.2 ถูกเจ้าหน้าที่ ตม. จับกุมในฐานความผิดทางวินัย ผิดระเบียบเกี่ยวกับการราชการ คุณคุณากร ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ "มาเก๊า 888" ไม่เคยทราบเรื่องพี่ชายมาก่อนว่าได้เปิดเว็บทำพนันออนไลน์ ปกติไม่ค่อยรับรู้หรือยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน ในที่สุดก็ลาออกจากราชการตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์


แม้การกวาดล้างเครือข่ายเว็บพนัน "มาเก๊า 888" จะเป็นผลงานการชี้เบาะแสของ "ดิว อริสรา" แต่อีกด้านหนึ่งพบว่า มีเพจชื่อ "เหยื่อ V.2" โพสต์ข้อความตั้งคำถามถึงสามีของ "ดิว" ที่ชื่อ "เซบาสเตียน ลี" ว่าเป็นใคร มีตำแหน่งอะไรในไทย ทำไมถึงมีรถตำรวจนำทางไปกัมพูชา ลาว พม่า มีรถตำรวจนำ มีทหารเป็นการ์ด ถ้าอยู่เขตสามเหลี่ยมทองคำ "เซบาสเตียน" สามารถเข้าถึงอาวุธสงครามได้สบายมาก เขาคือใคร ทำอาชีพอะไร ?


วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ "ดิว อริสรา" เปิดใจผ่านเฟซบุ๊กตัวเอง สาระสำคัญก็คือ ที่ออกมาแฉเรื่องเว็บพนัน "มาเก๊า 888" เพราะมีบาดแผลในใจที่พวกเขามีงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ จัดงานร่าเริง ทั้งๆ ที่เงินที่ได้มาจากผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย ขณะที่เธอเองยอมรับว่าเธอมีบาดแผลในใจ รู้สึกหมดศรัทธาในชีวิต ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ต้องไปหาหมอ กินยาเพราะนอนไม่หลับทุกคืน มีอาการผวาเพียงแค่ "ดิว" เดินผ่านคนที่ยกแขนลูบผม จนต้องเข้ารับการรักษา พบจิตแพทย์ แต่วันนี้ "ดิว" ไม่ใช่คนประเภทนั้นอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ขอปรึกษาทนายความตรวจสอบเรื่องการโดนทำร้ายร่างกาย จิตใจ ถึงเรื่องระยะเวลาและข้อจำกัดทางกฎหมายว่าจะฟ้องร้องได้หรือเปล่า


"น้องดิว" ก็เลยโพสต์คลิปชี้แจงเพิ่มเติมว่า ได้วางแผนไปอยู่ไต้หวันตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 กระทั่งช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา พอทราบข่าวว่าหนึ่งในครอบครัว "4 บ." บิ๊ก กิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร เพิ่งมีการหมั้นและกำลังจะแต่งงาน ความทรงจำร้ายๆ ในอดีตก็ผุดขึ้นมา ทำให้ตนโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมกลุ่ม "4 บ."

"ดิว" บอกว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่คบกับแฟนเก่า คือ "เบนซ์ เดม่อน" พี่ชายคนโตของตระกูล "บ." หนึ่งหรือสองปีที่คบมา ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจหลายครั้ง คนที่อยู่ในครอบครัวไม่เคยมีใครยื่นมือช่วยเหลือ แม้แต่จะห้าม บางครั้งนั่งกินมาม่า ก็โดนเอามาม่าร้อนๆ ราดใส่หัว ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครช่วยสักคน พอมีชื่อหรือเรื่องราวของคนเหล่านี้ เลยโพสต์ย้อนกลับไป ไม่คิดว่าจะมีผลกระทบมากมาย แต่ "ดิว" พูด ถูกต้องแล้วที่ออกมาแฉ "มาเก๊า 888"

"ดิว" ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์หรือเงิน แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าพอที่จะออกมาพูด ออกมาแจ้งความ ในตอนแรกที่ "ดิว" ไม่ออกมาพูด เพราะไม่อยากให้มีรูปในโซเชียลมีเดีย แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปิดแผลตัวเองขึ้นมารักษาและเยียวยาก็แล้วกัน ก่อนทิ้งท้ายว่า สามีของ "ดิว" ไม่มีและไม่เคยทำธุรกิจ หรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมหรือธุรกิจใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ทั้งในอดีต ตอนนี้ และอนาคต


ส่วนคลิปวิดีโอรถนำขบวนนั้น สามีเป็นคนโพสต์เอง ในตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไร นอกจากนั้น เป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไทย ก็คือสามีของดิว "เซบาสเตียน ลี" ได้เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่ง และในแพ็กเกจนั้นมีว่า ให้ตำรวจมารับและไปส่งจากสนามบินอยู่ด้วย

มีแชตไลน์ที่ถูกเปิดออกมาว่า มีคนจากฝ่าย "พี่น้อง 4 บ." ส่งหา "ดิว อริสรา" บทสนทนาทำนองตัดพ้อ "ดิว" และถามว่า ต้องทำอย่างไรเรื่องนี้ถึงจะจบ ซึ่งในแชตนั้น "ดิว" ตอบว่า มันเป็นแผลที่เป็นปมในใจ ไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ อย่างที่อัดคลิปไว้"

ท่านผู้ชมครับ เหมือนอย่างที่คุณชูวิทย์ พูดในงานนี้ "มาเก๊า 888" เพราะแรงแค้นของผู้หญิง แค้น 10 ปี ยังไม่สาย อยากจะรู้ว่าแรงแค้นของผู้หญิงขนาดไหน ไปถาม "ครูไพบูลย์" ดูนะครับ ท่านผู้ชม

คุณชูวิทย์ บอกว่า ล่าสุดตำรวจสะกิดให้ "มายด์" ลูกอดีตนายพล คนสนิท "เบนซ์" ที่ทำหน้าที่คุมเงินนำไปฟอกตามผับ ตามบริษัทออร์แกไนซ์ จัดงานดนตรีใหญ่ หนีไปอยู่ฮ่องกงตอนนี้ ทั้งหมดได้รับสัญญาณจาก นายพล "จ" ตัวดี ให้ช่วยตัวเองด้วยเงิน 500 ล้านบาท แต่คุณชูวิทย์ บอกว่า ตำรวจหรือจะสู้แรงแค้นของ "นารีดิว" เมื่อไม่จบ ก็ต้องไล่จับจนได้

เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือเรื่องล่าสุดของ "น้องดิว" ซึ่งไม่พูดก็ไม่ได้

ท่านผู้ชมครับ เรื่องราวของการพนันออนไลน์ ธุรกิจสีเทา ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ ? ไม่พูดไม่ได้ ท่านผู้ชม มันลุกลามใหญ่โตมโหฬารแล้ว คนพวกนี้หลอกลวงประชาชน ให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมเพื่อจะปล้นประชาชนที่เข้ามาเล่น โดยจับประเด็นสำคัญคือ คนไทยชอบเล่นการพนัน มี AI คุมอยู่ คือพูดง่ายๆ ว่า แจ๊กพ็อตแตกยาก แต่ถ้ากรณีแจ๊กพ็อตแตก ต้องจ่ายเงินเขา ไอ้พวกนี้ก็โกงเขาอีก ปิดเว็บเลย แล้วคนที่ถูกแจ๊กพ็อตติดต่อมา สมมุติว่ามีสิทธิได้ 1 ล้าน มันก็ต่อรองว่า 50,000 ได้ไหม เลิกกันไป

ประเด็นตอนนี้มันลุกลามไปมาก ชลบุรีก็มี กรุงเทพมหานครก็มี หลายคนก็มีฟอกเงินเอาไปสร้างโรงแรมใหญ่ เหมือนโรงแรมในขนอม "เอ๊ดดี้" พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ ก็หนีไปอยู่อังกฤษแล้ว โดนหมายจับคดียาเสพติด หลายต่อหลายอย่าง ที่น่ากลัวคือ เงินพวกนี้ หนึ่ง มันต้องให้ตำรวจ แน่นอนตำรวจซื้อได้หมด ซื้อได้มาก/ซื้อได้น้อย ตำรวจบางคนไปจับเว็บที่เมืองชล เรียกพันล้านเป็นค่าปล่อยตัว แล้วหลังจากนั้นก็เรียกให้จ่ายอีกเดือนละ 20 ล้าน จนกระทั่งเจ้าของเว็บมันรับไม่ไหว มาเจรจาต่อรองขอลดเหลือ 5 ล้าน ได้ไหม นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง

มีเรื่อง ก็วิ่งซื้ออัยการ แล้วก็คืบคลานเข้าไปสู่ผู้พิพากษาบางคนตอนนี้ ท่านผู้ชมคิดว่ามันน่ากลัวไหม เงินประเภทนี้ ในที่สุดแล้ว เป็นเงินทุนสีเทา ที่สำคัญที่สุด มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง เอาเงินไปเล่นการเมือง ท่านผู้ชมครับ ผมไม่พูดเรื่องนี้ได้อย่างไร ประเทศมันฉิบหายหมด เพราะพวกเวรระยำบัดซบทำร้ายประเทศชาติ แทนที่จะทำมาหากินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่ แล้วเอาเงินที่มันได้มาง่ายๆ ไปซื้อตำรวจ ซื้ออัยการ ซื้อผู้พิพากษา แล้วก็เอาเงินไปเล่นการเมืองหมด ฉิบหายแล้วท่านผู้ชม นี่คือประเทศไทย นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมต้องออกมาพูด และผมไม่ได้กลัวเลย ผมไม่ได้กลัวคุณเลยนะ คุณแทนไท ที่คุณมาฟ้องผม หนังเรื่องนี้อีกยาว คุณรอรับให้ดีๆ ข้อมูลผมยังมีอีกเยอะ

++++++++++

สาระแน ... ชวนหนุน "ม็อบอิหร่าน"


ท่านผู้ชมครับ วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คุณธนาธร เขาทวีตออกมา เขาโพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ใจความว่า ผมขอยืนหยัดเคียงข้างชาวอิหร่านที่กำลังต่อสู้กับเผด็จการในบ้านเกิด เรากำลังต่อสู้ในสมรภูมิเดียวกันที่ประเทศไทย พร้อมกับเชิญชวนให้เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับผู้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องเสรีภาพ โดยการเพิ่มชื่อของคุณไปที่ทวิตเตอร์ และลงชื่อได้ที่เว็บไซต์ change.org/IranSolidarity

ปรากฏว่าหลังจากนั้นหนึ่งวัน วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ทวิตเตอร์สถานทูตอิหร่านก็เลยสวนออกมา ตอบกลับข้อความในทำนองว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่าน กับ ประเทศไทย ยาวนานมาถึง 400 ปี แข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับผลกระทบเกมการเมืองและการเลือกตั้ง ด้วยความเคารพอย่างยิ่งต่อประชาชนในประเทศไทย เรามั่นใจว่าท่าทีทางการเมืองดังกล่าวไม่อาจจะมีผลต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองชาติ


ท่านผู้ชมครับ เหตุการณ์ประท้วงในประเทศอิหร่าน จนก่อให้เกิดกระแสและแฮชแท็ก #IranSolidarity จน Freedom House ซึ่งเป็นองค์กรของ CIA หยิบยกขึ้นมาสร้างกระแส และนายธนาธร นำเรื่องราวมาเล่นต่อนั้น เกิดจากเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) สาวชาวอิหร่านวัย 22 ปี


ก่อนที่จะเข้าเรื่องต่อ ผมจะอธิบายให้ฟังว่า Freedom House คือใคร ? Freedom House คือ องค์กรที่คอยหล่อเลี้ยงกระแสม็อบในอิหร่าน Freedom House ก่อตั้งในปี 2484 (ค.ศ. 1941) หรือเมื่อ 81 ปีที่แล้ว โดยนายเวนเดล วิลกี (Vendel Vilki) อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน และ นางเอเลียนอร์ รูสเวลต์ (Eleanor Roosvelt) ภรรยาของแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (Franklin D. Roosvelt) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 32 ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2


Freedom House บอกกับตัวเองว่า เป็นคลังสมอง หรือที่เรียกว่า Think Tank ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยอ้างตัวว่าเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว นี่เป็นองค์กรที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยระบุภารกิจของตัวเองว่า ตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการวิจัยและสนับสนุนเกี่ยวกับประชาธิปไตย และเสรีภาพทางการเมือง และสิทธิมนุษยชน

ท่านผู้ชมครับ เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันในแวดวงการทูต วิชาการ และ NGO มานานว่า Freedom House นั้นสนับสนุนสิ่งต่างๆ โดยมีวาระซ่อนเร้น คือผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อไปดูเงินทุนที่สนับสนุนการดำเนินการของ Freedom House ก็จะยิ่งชัดเจนว่ารายได้ในแต่ละปีของ Freedom House กว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ มาจากเงินสนับสนุนของรัฐบาลกลางอเมริกา


ในปี 2565 Freedom House มีเงินบริจาค มีรายได้รวมประมาณ 87 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,900 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 92 เปอร์เซ็นต์ คือ 80 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยัดใส่ให้ Freedom House เพื่อมาป่วนทั่วโลก

เมื่อท่านผู้ชมทราบประวัติศาสตร์ ที่มาที่ไป แหล่งเงินทุน และภารกิจของ Freedom House แล้ว เราก็จะรู้ว่าต้นตอ ที่มาที่ไปของเรื่องนี้เป็นอย่างไร

ผมขออธิบายเพิ่มเติมในเรื่องของม็อบในอิหร่านกันหน่อย ปีที่แล้ว วันที่ 16 กันยายน 2565 เกิดการเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อะมินี หลังจากถูกตำรวจศีลธรรมของอิหร่านควบคุมตัว (อิหร่านมีตำรวจศีลธรรม ผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนไม่ปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามของอิหร่านซึ่งเข้มงวดมาก เขาก็จะดำเนินคดี)


ตำรวจศีลธรรมของอิหร่านควบคุมตัว น.ส.มาห์ซา อะมินี ไว้ที่กรุงเตหะราน ข้อหาละเมิดกฎ เขากำหนดให้ผู้หญิงต้องสวมฮิญาบ หรือผ้าปกคลุมผม ส่งผลให้มีผู้ชุมนุมเกิดขึ้นอย่างยาวนานและมีการสลายการชุมนุม

ม็อบในอิหร่านดังกล่าวก็เลยถือว่าเข้าทางอเมริกา และสหภาพยุโรป เพราะว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอิหร่านมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากการที่ CIA และ MI6 รวมหัวกันโค่นรัฐบาลแห่งชาตินิยมอิหร่าน ของ โมฮัมหมัด มอสซาเดก เนื่องจากว่าขัดผลประโยชน์ของตะวันตกเกี่ยวกับเรื่องสัมปทานน้ำมัน แล้วตะวันตก คือ CIA และ MI6 ของอเมริกา และของยุโรป ก็เลยตั้งพระเจ้าชาห์ ปาห์ลาวี ขึ้นมาเป็นหุ่นเชิด จนในที่สุดเกิดปฏิวัติอิสลามขึ้นมาในปี 2522 ใครที่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ต้องไปย้อนดูได้ ผมเคยพูดในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 หรือเมื่อประมาณสามปีกว่าที่แล้ว ซึ่งผมเล่าอย่างละเอียดยิบ

ท่านผู้ชมครับ รายการที่ผมพูดแต่ละรายการ แต่ละอย่างนั้น ผมพูดล่วงหน้าไว้ และในที่สุดแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถ้าท่านผู้ชมเคยฟังรายการที่ผมพูดล่วงหน้าไว้แล้ว ท่านผู้ชมจะเข้าใจทุกเรื่องที่ผมพูด เพราะผมพูดแบบป่าทั้งป่าให้เข้าใจ เพราะฉะนั้นรายการนี้ไม่ใช่เป็นรายการที่จับเหตุการณ์โดยเฉพาะกิจ เฉพาะตอนนี้ขึ้นมาพูด


กลับมาตอนนี้เรื่องปัจจุบัน พอมีเหตุเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อะมินี ทางชาติตะวันตกก็ได้ที ออกแรงยุยงส่งเสริม ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลอิหร่าน ออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเป็นระยะๆ โดยใช้เครือข่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางการทูต เวทีต่างประเทศ สื่อมวลชน รวมไปจนถึง NGO ในสังกัดของอเมริกา และยุโรป ต่างพร้อมใจกันออกมาถล่มอิหร่าน

ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นอยู่ที่ว่า การออกมาสนับสนุนม็อบอิหร่านอย่างเปิดเผย เปิดหน้า ครั้งนี้ของคุณธนาธร ชี้ให้เห็นอะไร ? ชี้ให้เห็นว่า ข้อที่หนึ่ง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในเวลาต่อมาพรรคนี้กลายเป็น "พรรคก้าวไกล"


โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค นายพิธา มีศักดิ์เป็นหลานของนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตคนใกล้ชิดของทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือ เป็นมือไม้และเครื่องมือที่รัฐบาลตะวันตกชักใย โดยกรณีนี้ก็คือ Freedom House ที่เข้ามายุแยงตะแคงรั่ว ยุยงส่งเสริมให้เกิดมีความไม่มีเสถียรภาพในประเทศต่างๆ ที่เขาต้องการเข้ามาแทรกแซง ไม่แตกต่างเลยกับการสร้างแนวร่วมม็อบสามนิ้ว ม็อบชานม (Milk Tea Alliance) ที่พยายามดึงไทยเข้าไปแทรกแซง ร่วมวงความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศต่าางๆ ในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ไต้หวัน พม่า และอื่นๆ


ข้อที่สอง ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่าว่า ในปี 2562 นายธนาธร ก็เคยทำอย่างนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นนายธนาธร ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากประเทศไทย ก็คือพูดง่ายๆ ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยนั่นเอง

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2562 (4 ปีที่แล้ว) คุณธนาธร ถ่ายภาพร่วมกับนายโจชัว หว่อง แกนนำกลุ่มประท้วงในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระหว่างนั้นก็ได้รับเชิญจากนิตยสาร The Economist ซึ่งคือหนังสือที่ทางหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ คือ MI6 เป็นคนที่แบ็กอยู่ข้างหลัง และกลุ่ม Neo-Zionism ก็เป็นคนที่แบ็กหนังสือเล่มนี้ ก็คือพูดง่ายๆ ว่า เขียนข่าวเพื่อมาสร้างความวุ่นวาย และปั่นป่วน ในบรรดาประเทศที่ไม่ยอมสยบ หรือเป็นข้าทาสของตะวันตก

คุณธนาธร ได้รับเชิญจากนิตยสาร The Economist ให้ไปพูดที่งาน Open Future Festival ที่ฮ่องกง ในหัวข้อ "Inside The Mind of Asia's Next Generation Politicians" ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งรัฐบาลจีน เนื่องจากว่านายธนาธร ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มี ส.ส. จำนวนมากอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรไทย

ผู้ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าว ที่ถ่ายรูปกับนายธนาธร คือ นายไจชัว หว่อง


นายโจชัว หว่อง ได้พูดว่า จากความพยายามทำลายกรอบการเมืองเก่า ทำให้เพียงการลงเลือกตั้งครั้งแรก พรรคอนาคตใหม่ก็ได้กลายเป็นพรรคใหญ่อันดับสาม ได้รับเลือกตัวแทนเข้ามาเป็น ส.ส. ถึง 80 กว่าที่นั่ง แต่ในเวลาเดียวกันก็ถูกรัฐบาลทหารฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาสร้างความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และหากมีความผิด อาจจะถูกตัดสินจำคุกนานถึง 9 ปี สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของการถือกำเนิดของขั้วอำนาจที่สามในสนามการเมืองของประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ ข้อความและภาพคู่ดังกล่าวของนายธนาธร และ นายโจชัว หว่อง ทำให้วันที่ 10 ธันวาคม 2562 โฆษกสถานทูตจีนในประเทศไทย ได้ออกมาโพสต์เตือนนักการเมืองบางคน ก็คือนายธนาธร นั่นเอง อย่าได้แสดงท่าทีเชิงสนับสนุนกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากจีน เพราะอาจจะทำให้กระทบกระเทือนต่อมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย


ข้อที่สาม กรณีของอิหร่าน ทางสถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ตอบกลับนายธนาธร แบบนิ่มๆ พูดชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของไทย-อิหร่าน มีมานานกว่า 400 ปีแล้ว เรามั่นใจว่าไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของสองชาติได้ แสดงให้เห็นว่าอิหร่านเขารู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง เล่ห์กล และจุดประสงค์ของนายธนาธร กับกลุ่มก้อนพรรคการเมืองภายใต้ปีกของนายธนาธร ว่ากำลังจะทำอะไรอยู่ช่วงนี้ การเลือกตั้ง อ้างเรื่องราวอิหร่านมาเชื่อมโยงกับเรื่องราวในประเทศไทย ว่า ผมขอยืนหยัดเคียงข้างชาวอิหร่านที่กำลังต่อสู้กับเผด็จการในบ้านเกิด เรากำลังต่อสู้ในสมรภูมิเดียวกันที่ประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ ผมขอบอกตรงๆ นะ คุณธนาธร คุณไปเสือกอะไรกับเขา เรื่องในบ้านเขา อิหร่านเขาจัดการเรื่องราวในประเทศของเขา เรื่องราวในฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศจีน ทิเบต ซินเจียง คนจีนเขาจัดการเรื่องของเขาเอง คุณนี่นอกจากไม่รู้จักผู้อื่นแล้ว ยังไม่รู้จักตัวเองเลย ผมไม่อยากจะคิดหรือจินตนาการไปไกลเลยว่าคนเหล่านี้เมื่อก้าวสู่วงจรอำนาจ กุมตำแหน่งการบริหารประเทศแล้ว ประเทศชาติ ประชาชนคนไทยจะวุ่นวาย และต้องเจออะไรอีก เพราะว่า ทั้งธนาธร และพิธา สรุปง่ายๆ ว่าเป็นเครื่องมือของตะวันตก ทำอะไรก็ตาม ทำตามแนวนโยบายที่ทาง CIA และ MI6 หน่วยสืบราชการลับอังกฤษ และอเมริกา วางหมากวางกรอบให้ทำ วันไหนคุณเป็นรัฐบาล ประเทศไทย ประชาชนคนไทย จะวุ่นวาย จะต้องเจออะไรอีก รัฐบาลไทยคงไม่ได้ทะเลาะกับแค่จีนแล้ว อาจจะทะเลาะกับรัสเซีย เกาหลีเหนือ อินเดีย พม่า กัมพูชา

ท่านผู้ชมครับ ถึงวันนั้นอาจจะมีสถานภาพไม่แตกต่างไปจากรัฐบาลหมาชิวาว่า หรือสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ให้กับฝรั่งอย่างอเมริกา หรือชาติยุโรป จูงจมูก ให้ซ้ายหัน ขวาหัน ประท้วง คว่ำบาตร หรือถูกสั่งให้ไปรบกับชาติไหน เพื่อนบ้านเราชาติไหน คงทำได้ตามใจชอบ


แต่จะพูดไปคงเปล่าประโยชน์ เพราะถึงเวลานั้นพวกผมคงไม่อยู่ดูแล้ว คงต้องปล่อยให้คนรุ่นหลานผมรับมือและเผชิญชะตากรรมกันเอง ขอยืนยันนะท่านผู้ชมครับ บทบาทของนายธนาธร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบทบาทที่หน่วยสืบราชการลับ CIA ของตะวันตก และ MI6 และรัฐบาลทางตะวันตก ทั้งยุโรป และอเมริกา วางกรอบให้เดินตาม ท่านผู้ชมจำได้ไหมที่นายธนาธร อุตส่าห์เดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปพบวุฒิสมาชิกของอเมริกา อย่างเท่ห์ จริงๆ แล้วก็คือขี้ข้าเขานั่นเอง ขี้ข้าเขาจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด ผมเป็นเพียงต้องการจะเปิดหน้า ขุดคุ้ยเอาความจริงมาเสนอให้เท่านั้นเองล่ะครับ


++++++++++

คลิป “อนุทิน” ต้อนรับนักท่องเที่ยว ฮิตในจีน

ท่านผู้ชมครับ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อทางการจีนได้อนุญาตเพิ่มเติมให้กรุ๊ปทัวร์จีนเดินทางท่องเที่ยวได้ใน 20 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ผมได้ข่าวมาว่ากรุ๊ปทัวร์ที่มาประเทศไทยนั้น รัฐบาลจีนออกเงินให้ แต่งานนี้ต้องให้เครดิตกับคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ไปรับนักท่องเที่ยวจีนคณะแรกหลังจากเปิดประเทศ 286 คน ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 9 มกราคม ในเวลา 13.15 น.

ท่านผู้ชมครับ กลายเป็นว่าคลิปการเดินทางไปรับชาวจีนที่สนามบินของคุณอนุทิน กลายเป็นไวรัล ท่านผู้ชมเชื่อไหมคนคลิกเข้ามาอ่านข่าวนี้ถึง 500 ล้านครั้ง จนกระทั่งทางการจีนส่งสื่อหลักมาสัมภาษณ์ ในวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 China Media Group สื่อหลักจีน รายงานว่า อนุทิน รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษผู้สื่อข่าวของ China Media Group ในประเด็น เหตุใดไทยจึงมีการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีนที่อบอุ่นอย่างมาก ท่านผู้ชมครับ ผมเคยพูดมาแล้วนะ จีนมีลักษณะนิสัยอย่างหนึ่ง ใครดีกับเขา เขาดีตอบ ส่วนใครกีดกันและเลือกปฏิบัติ เขาก็ตอบโต้เช่นกัน


การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ทุกคนได้ประโยชน์หมด โรงแรม ที่พัก ห้างสรรพสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ภาคบริการต่างๆ เป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย ถ้าสังเกตดีๆ ตั้งแต่นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเมื่อวันที่ 9 มกราคม จนถึงวันนี้ หนึ่งเดือนแล้ว ท่านผู้ชมรู้ไหม ยังไม่มีรายงานการระบาดโควิดระลอกใหม่ในประเทศไทย แสดงว่าการที่เราไม่ตั้งเงื่อนไขกับนักท่องเที่ยวจีนนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ที่สำคัญ ความสัมพันธ์อันดีนี้จะสร้างภาพลักษณ์และรายได้ทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยอย่างมหาศาล เป็นเงินหลายล้านล้านบาท


ก่อนโควิดปี 2562 สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยนั้น มีมากถึงกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ หรือราวๆ 11 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจีน โดยนักท่องเที่ยวจีนเหล่านี้นำเงินเข้ามาประเทศไทย สร้างเงินสร้างรายได้กว่า 543,000 ล้านบาท ทีเดียว

++++++++++

หลังฉากการเมืองโลก ข้อตกลงลับ "ปูติน-เซเลนสกี"

ท่านผู้ชมครับ อีกไม่กี่วันจะครบรอบ 1 ปี ของสงครามยูเครน และ รัสเซีย ที่เปิดฉากขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้ ที่ผ่านมา นายเซเลนสกี ตัวตลกประธานาธิบดียูเครน พยายามเรียกร้องความเห็นใจจากคนทั่วโลกมาตลอด เขาเดินทางไปประเทศโน้นประเทศนี้ เชิญคนโน้นคนนี้มาวิดีโอคอล ในการประชุมใหญ่ๆ ทั่วโลก


วัตถุประสงค์คือไปขอเงินบริจาค ขออาวุธ จรวด รถถัง ไปจนถึงเครื่องบินขับไล่อย่าง F-19 จนมีคนบอกว่า เซเลนสกี คือขอทานระดับโลก เขาเรียกว่า International Beggar โดยอ้างว่าคนยูเครนกำลังล้มตายอยู่ทุกวัน ประชาชนกำลังตกระกำลำบาก ซึ่งสื่อตะวันตกก็เล่นเกมสอดคล้องกับนายเซเลนสกี ส่งภาพชาวยูเครนกำลังตกระกำลำบาก ตกทุกข์ได้ยาก แพร่กระจายไปทั่วโลกในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุด ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามีเหตุการณ์อื้อฉาวเหตุการณ์หนึ่ง ที่ ส.ส. ฝั่งรัฐบาลยูเครน ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ผู้รับใช้ประชาชน SERVANT OF THE PEOPLE พรรคที่นายเซเลนสกี สังกัดอยู่ ทั้งยังเป็นชื่อซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่สร้างชื่อให้กับนายเซเลนสกี ซึ่งเดิมทีเขาเป็นดาวตลกโด่งดัง จนในเวลาต่อมาลงรับเลือกตั้ง และได้เป็นประธานาธิบดียูเครน ในปี 2562


เผอิญเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับประเทศไทยด้วย เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนมีคลิปวิดีโอและภาพที่โพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ของนายมีโคลา ทิชเชนโก ส.ส.รัฐบาลยูเครน และรองหัวหน้าพรรค "ผู้รับใช้ประชาชน" แสดงให้เห็นว่าเขากำลังมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่แหวกว่ายน้ำกลางทะเลฟ้าใสที่เมืองไทย ผมเอารูปให้ดูว่า คลิปของนายมีโคลา ทิชเชนโก ทั้งๆ ที่ประชาชนยูเครนทั้งประเทศต้องทุกข์ยากลำบากในสงครามกับรัสเซีย


พอคลิปวิดีโอดังกล่าวปรากฏในโซเชียลมีเดีย ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2566 เพื่อนร่วมรัฐสภาของยูเครนไม่พอใจที่เขาอ้างว่ามาทำงาน กลับมีคลิปสำราญเริงรมย์ที่ไทย จึงเรียกประชุมด่วนและมีมติร่วมกันขับไล่เขาออกจากพรรครับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของนายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน สังกัดอยู่

เจ้าตัวนายทิชเชนโก ก็แก้ตัวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่า การเดินทางมาเยือนเอเชียของเขาเป็นทางการ โดยอ้างว่าหัวหน้าพรรค SERVANT OF THE PEOPLE รับรู้และได้มีการอนุมัติจากประธานสภาฯ และพร้อมจะรายงานหลังจากกลับไปถึงยูเครน เขาบอกว่า ผมทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ยูเครน นายทิชเชนโก อ้างว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับสมาชิกผู้พลัดถิ่นชาวยูเครน


26 มกราคม มีประกาศที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสถานทูตยูเครนในประเทศไทย ว่า ขอเชิญชวนชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมประชุมกับนายทิชเชนโก เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการปรับปรุงปฏิสัมพันธ์กับตัวแทนชุมชนยูเครนในประเทศไทย ในวันที่ 27 มกราคม 2566 เริ่มประชุมตอน 16.30 น. และข้อความระบุอีกว่า การประชุมจะไม่จัดในอาคารสถานทูต แต่จัดที่โรงแรมโนโวเทล เพลินจิต ซึ่งอยู่ห่างจากสถานทูตยูเครน ในกรุงเทพฯ ที่ตึกออลซีซันส์ ถนนวิทยุ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร

นอกจากนี้ นายทิชเชนโก ได้เดินทางไปยังเวียดนาม และยืนยันว่าที่เวียดนามเขามีเอกสารการประชุมอย่างเป็นทางการ ในฐานะเป็นประธานร่วมของกลุ่มมิตรภาพรัฐสภากับเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของงานรัฐสภา เขาบอกว่า ผมจัดการประชุมกับหุ้นส่วนของเรา เราบรรลุข้อตกลงทางการทูตที่สำคัญเพื่อสนับสนุนยูเครนตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อาวุโส ขณะนี้ทิศทางทางเอเชียเป็นหนึ่งในระดับความสำคัญ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลงนามระหว่างการทำงานมีมากกว่า 2 สัปดาห์


อย่างไรก็ตาม นายรุสลัน สแตฟันชุก ประธานสภาฯ ยูเครน กลับออกมาปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ลงนามในคำสั่งอนุมัติการเดินทางไปต่างประเทศของนายทิชเชนโก แต่อย่างใด

นายรุสลัน สแตฟันชุก หน้าตาน่ากลัวมาก เหมือนกับแดร็กคูลาคนใดคนหนึ่ง


ต่อมา วันที่ 27 มกราคม นางยูเลีย โฆษกหญิงพรรคฯ แแถลงว่า พรรคฯ ได้ไล่ออกนายมีโคลา ทิชเเชนโก จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ นอกจากนี้ นายเดวิด อราคาเมีย หัวหน้าพรรคฯ แสดงปฏิกิริยาต่อการประกาศเดินทางของนายทิชเชนโก แล้วกล่าวว่าพรรคกำลังเตรียมการไล่ออกจากตำแหน่ง

ท่านผู้ชมครับ เรื่อง ส.ส. ยูเครน และรองหัวหน้าพรรคผู้รับใช้ประชาชน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ภายหลังจากที่สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติยูเครน ประกาศห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเดินไปต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ที่ไม่ใช่การเดินทางเพื่อธุรกิจ

ท่านผู้ชมครับ เราขอย้อนหลังไปเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปีที่แล้ว ช่วงเกิดสงครามยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้ออกกฎอัยการศึก ห้ามชาวยูเครนอายุระหว่าง 18-60 ปี เดินทางส่วนตัวออกนอกประเทศ แต่มีชายชาวยูเครนพยายามหลบหนีออกจากยูเครนเพื่อหนีการเกณฑ์ทหาร ออกทางชายแดนของยูเครน ช่องทางธรรมชาติ พรมแดนฮังการี นอกจุดตรวจ แต่พวกเขามักไม่รอด ทุกคนต้องรับโทษกลับไปเกณฑ์ทหาร ถึงแม้ว่าจะแสร้ง ปลอมตัวเป็นผู้หญิงก็ไม่รอด นี่เป็นสาเหตุทำให้กองกำลังผสมที่มีทหารเกณฑ์ยูเครนราว 50 เปอร์เซ็นต์ ขาดขวัญกำลังใจ ขาดทักษะ พากันหนีทัพ พ่ายแพ้ ประกาศไม่ขอรับคำสั่งสู้รบ และมีจำนวนสูญเสียที่สูง

ล่าสุด ผมอ่านข่าว ผมก็เจอข่าวของทหารยูเครนซึ่งถูกรัสเซียจับได้ ส่วนใหญ่เกือบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอร้องไม่ให้แลกเปลี่ยนตัวเชลย เพราะถ้าแลกเปลี่ยนเมื่อไร ส่งกลับไปเมื่อไรก็ต้องออกมารบอีก พวกนี้กำลังยื่นคำร้องขอเป็นประชาชนชาวรัสเซีย ถือสัญชาติรัสเซีย และไม่ยอมกลับยูเครนอีก

ตอนนี้การเมืองภายในยูเครนกำลังชิงอำนาจกันเอง จึงประกาศห้ามข้าราชการระดับสูง และนักการเมือง เดินทางไปต่างประเทศก่อนได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ยกเว้นกรณีที่ได้รับอนุญาตพิเศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจยูเครนบางคนใช้ช่องทางนี้ผ่านข้อจำกัดต่างๆ ส่วนนายเซเลนสกี เคยลั่นวาจาไว้ว่า การเดินทางไปต่างประเทศของเจ้าหน้าที่รัฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนหน่วยงานท้องถิ่น และบุคคลอื่นที่ได้รับมอบอำนาจ ให้ปฏิบัติหน้าที่ของรัฐ หรือปกครองตนเองในท้องถิ่น จะต้องเป็นไปตามการตัดสินใจของสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติ

ต่อมา เมื่อวันที่ 23 มกราคม สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติ ได้สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้แทนราษฎร ผู้พิพากษา อัยการ หัวหน้าฝ่ายบริหารของรัฐ เดินทางออกจากยูเครนในระหว่างประกาศกฎอัยการศึก ยกเว้นการเดินทางเพื่อธุรกิจ หลังจากที่รองอัยการสูงสุด คือนายโอเลกซีย์ ซีโมเนนโก ถูกจับได้ว่าหนีไปพักผ่อนในสเปน เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว

นายโอเลกซีย์ ซีโมเนนโก
ท่านผู้ชมครับ ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังทำไม ? เรื่องอื้อฉาวในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางยูเครน รัฐบาล รวมทั้งรัฐสภา แสดงให้เห็นว่าเกือบหนึ่งปีของสงครามยูเครน เต็มไปด้วยการทุจริต คอร์รัปชัน ผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย ทำลายความน่าเชื่อถือของประธานาธิบดีเซเลนสกี ในสายตาของประชาชนและกองทัพ และที่สำคัญ ในสายตาของพันธมิตรชาติตะวันตก ที่ไม่ไว้ใจ และอาจจะเป็นผลทำให้มีการลดความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารแก่ยูเครน แม้แต่ในอเมริกาก็ยังมีการจัดตั้งหน่วยติดตามพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ยูเครนอย่างใกล้ชิด เมื่อกลางเดือนมกราคม 2566 เป็นคณะทำงานสอบสวนความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทุกเรื่อง ในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งอาวุธยุทโธปกรณ์มีมากที่เมื่อไปถึงยูเครนแล้ว ถูกคนยูเครน เจ้าหน้าที่รัฐยูเครน ทั้งทหาร ทั้งนักการเมือง เอาอาวุธพวกนั้นไปขายต่อ ทำให้พวกผู้ก่อการร้ายในยุโรปมีอาวุธที่หลุดจากยูเครนไปเยอะ ตลอดจนเงินทองที่อเมริกาช่วยเหลือไป มีข่าวลือหนาหูว่า อาวุธที่ชาติตะวันตกมอบให้นั้น ถูกเอามาขายในตลาดมืด

นอกจากนั้น สื่อยูเครนที่เคยปิดปากเงียบ ยอมเซ็นเซอร์ตัวเอง ที่จะรายงานข่าวเชิงลบของรัฐบาลยูเครนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาของสงครามยูเครน เพราะไม่ต้องการให้ดิสเครดิต หรือเป็นบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเซเลนสกี ล่าสุด ก็เปลี่ยนแนวของการเสนอข่าว เจาะลึกเรื่องอื้อฉาวของการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น

ข่าวของยูเครนที่ทางตะวันตกเอามาออกนั้น เป็นข่าวที่สื่อมวลชนในประเทศไทย ไม่ว่าจะสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ยกเว้น NEWS1 และยกเว้นรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" กับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ยกเว้นในเครือผู้จัดการ พากันกระโดดโลดเต้น ทั้งพิธีกรของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เอารายงานของตะวันตกซึ่งได้ข้อมูลของยูเครนด้านเดียวมารายงาน แต่อีกด้านหนึ่ง ระบุชัดเจนว่า ทหารยูเครนตายไปแล้ว จากการพิสูจน์ จากการหาข้อมูลของหน่วยงานเอกชนรายงานว่าทหารยูเครนตายไปแล้ว 3 แสนกว่าคน และเมืองต่างๆ เมืองสำคัญ เป็นเมืองที่เขาเรียกว่าเครื่องบดเนื้อ "บัคมุต"

ที่เมืองบัคมุต กองกำลังผสมของยูเครน และนาโต ติดกับดักอยู่ในเมืองนั้นเป็นหมื่นๆ คน และถูกทหารรัสเซียยิงอาวุธยาวถล่ม ไม่สามารถส่งข้าวของไปช่วยเหลือได้ อาหารการกินก็ไม่มี น้ำก็ไม่มีใช้ ไฟฟ้าก็ไม่มี มีหลายคนยอมแพ้ เดินออกมาและยอมแพ้ และหลายคนก็ยังอยู่เฉยๆ แต่ไม่สู้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่าอาวุธก็ไม่ส่งมา อาหารก็ไม่ส่งมา น้ำก็ไม่ส่งมา บอกให้อยู่ที่นั่นเหมือนกับว่าพวกคุณตายอยู่ที่นั่นเลย อย่าหลุดออกมา


อีกเรื่องหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ มันมีข้อตกลงลับๆ ระหว่างปูติน กับอดีตนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลคนก่อนเนทันยาฮู คนปัจจุบัน ที่ชื่อ เบนเนตต์ ข้อตกลงนี้ก็คือว่า ปูติน รับปากว่าจะไม่ฆ่าเซเลนสกี อีกเรื่องซึ่งเป็นหลังฉากของสงครามยูเครน ซึ่งถ้าได้ฟังแล้วอึ้ง คือวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายนัฟตาลี เบนเนตต์ อดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยกับสื่ออิสราเอล ช่อง 12 ว่า เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างที่เขาพบกับผู้นำรัสเซีย เขาได้รับคำมั่นสัญญาจากนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ว่า จะไม่ฆ่านายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งนายเบนเนตต์ ได้ขอคำมั่นสัญญาจากปูติน ว่า จะไม่ฆ่านายเซเลนสกี ใช่ไหม


นายเบนเนตต์ เปิดเผยว่า เขาเดินทางไปมอสโกเมื่อเดือนมีนาคม 2565 หลังสงครามปะทุในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เขาไปทำไม ? เขาไปเพราะต้องการเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้นระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แต่ประสบความล้มเหลว การเดินทางไปครั้งนั้นของนายเบนเนตต์ ได้รับการขอร้องจากเซเลนสกี ให้เดินทางไป ในเวลานั้นกองกำลังรัสเซียที่ล้อมกรอบกรุงเคียฟ มีรายงานว่า นายเซเลนสกี ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่เป็นที่เปิดเผยแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาของการพบปะหารือ ทางนายเบนเนตต์ บอกว่า ผู้นำยูเครนได้มอบหมายหน้าที่ให้เขาไปขอรับประกันความปลอดภัยจากปูติน ว่า เซเลนสกี จะไม่ถูกปูติน ลอบสังหาร นี่คือความขี้ขลาดตาขาวของนายเซเลนสกี ซึ่งไม่มีใครรู้ มาถูกเปิดเผยโดยนายเบนเนตต์ ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ซึ่งบินไปมอสโกเพื่อเจรจากับวลาดิมีร์ ปูติน

เบนเนตต์ เขาถามปูติน ว่า คุณจะฆ่าเซเลนสกี หรือไม่ ? ซึ่งปูติน ตอบว่า ไม่ เมื่อนายเบนเนตต์ ถามต่อ ให้นายปูติน ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่สังหารเซเลนสกี นายปูติน ก็รับปากตามนั้น

นายเบนเนตต์ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นปูติน เขาก็โทรศัพท์ไปหาเซเลนสกี ในทันทีหลังจากนั้น และบอกนายเซเลนสกี ว่าปูติน จะไม่ฆ่าคุณ พอเซเลนสกี ขอคำยืนยันอีกครั้ง เบนเนตต์ ก็บอกเขาไปว่า มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า ปูติน จะไม่ฆ่าคุณ เพราะว่าคนอย่างปูติน เป็นคนที่มีสัจจะวาจา และไม่เคยกลับคำ


เพียงสองชั่วโมงกว่าเท่านั้น หลังจากได้คำมั่นสัญญาจากนายเบนเนตต์ แล้วว่าปูติน จะไม่ฆ่าตน เซเลนสกี ก็เลยโพสต์วิดีโอจากทำเนียบในกรุงเคียฟ อวดอ้างว่าเขาไม่ได้หลบซ่อน และผมไม่ได้กลัวหน้าไหนทั้งสิ้น คลิปดังกล่าวถูกสื่อตะวันตกนำไปกระจายต่อ แล้วสรรเสริญเปรียบเปรยว่า เซเลนสกี เหมือนแจ๊กผู้ฆ่ายักษ์ กำลังท้าทายยักษ์อย่างนายปูติน แต่ไม่มีใครทราบ จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันนี้เอง จากนายเบนเนตต์ ว่า ในวันนี้นายเซเลนสกี ได้ขออนุญาตปูติน โดยผ่านนายเบนเนตต์ สำหรับเปิดเผยตำแหน่งที่อยู่ของเขาก่อนจะเผยแพร่คำแถลง ก็คือว่า เขาจะเปิดเผยคำแถลง และขออนุญาตว่าเขาอยู่ที่นี่นะ อย่าฆ่าเขานะ แล้วก็แถลงอย่างยะโสโอหัง

เบนเนตต์ เรียกปูติน ว่าเป็นคนฉลาดและหลักแหลม และผู้สนับสนุนของประชาชนชาวยิว อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า อากัปกิริยาของผู้นำรัสเซียเย็นชาทันทีเมื่อพูดเซเลนสกี และเจ้าหน้าที่ของเขา กลุ่มบุคคลที่ปูติน ให้คำจำกัดความว่าเป็น "นาซี" และผู้กระหายสงคราม

คำสัมภาษณ์ของเบนเนตต์ กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 12 ของอิสราเอล มีขึ้นหลังจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ยืนยันว่า การพูดคุยทางโทรศัพท์ส่วนใหญ่ระหว่างนายแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กับนายปูติน เป็นไปตามคำขอร้องของเซเลนสกี


ก็คือเซเลนสกี ตัวตลก มันกลัวตาย อยากยุติสงคราม แต่ยะโสโอหัง วานให้นายเบนเนตต์ มาถามว่าปูติน จะฆ่าเขาหรือเปล่า ติดต่อให้มาครง พูดจากับรัสเซีย โดยพูดแทนตัวเขา

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำของฝรั่งเศส และอิสราเอล นำสารของเขาไปยังมอสโก ตัวเซเลนสกี เองก็ประกาศต่อสาธารณะว่าเขาไม่เคยพูดคุยกับปูติน และห้ามเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาใดๆ กับผู้นำรัสเซีย

ท่านผู้ชมครับ นี่ล่ะครับ หลังฉากการเมืองโลก โฉมหน้าที่แท้จริงของนักการเมืองที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีนักการเมืองคนไหนในโลกเป็นผู้รับใช้ประชาชน ทำตัวเป็นเจ้านายประชาชนมากกว่าด้วยกันทั้งนั้น ส่วนของผมขอจบด้วยประโยคเด็ดในซีรีส์ตลกเสียดสีที่นายเซเลนสกี เคยเล่น ในเรื่อง SERVANT OF THE PEOPLE ข้ารับใช้ประชาชน


คุณเซเลนสกี พูดว่า คุณเข้าใจไหมว่ามันไม่มีอะไรให้เลือก เรากำลังเลือกไอ้สารเลว 2 คน มันเป็นอย่างนี้มา 25 ปีแล้ว รู้ไหมว่าอะไรที่น่าสนใจที่สุด ? คือครั้งนี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เพราะอะไรรู้ไหม ? เพราะคุณพ่อผม และผมเอง จะเลือกไอ้สารเลวอีกสักครั้ง ใช่ เขาเป็นไอ้สารเลว แต่ยังเลวน้อยกว่าคนอื่น จากนั้นไอ้สารเลวพวกนี้ขึ้นสู่อำนาจ แล้วจะขโมย ขโมย และขโมย แล้วไม่มีใครสนใจอะไรเลย

ท่านผู้ชมครับ สรุปแล้ว เซเลนสกี ออกรายการ เล่นซีรีส์ แล้วก็ใช้วาจาอันน่าสนใจ น่าประทับใจ สนุกมาก ในที่สุดก็คือด่าตัวเองนั่นเอง

++++++++++

บอลลูนจารกรรม หรือ เกมการเมือง

สัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีเรื่องที่ตื่นเต้น แต่สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องตลกขบขันมาก แล้วมันก็มีเบื้องหลังหลายอย่างที่สื่อมวลชนหลายคนไม่ได้พูดถึง หรืออาจจะรู้แต่ไม่กล้าพูดถึง แต่วันนี้ผมจะเปิดให้หมดเลย เรื่องอะไรรู้ไหม ท่านผู้ชม ? คือเรื่องบอลลูนของจีนที่ลอยเหนือฟ้าของอเมริกา กลายเป็นถูกกล่าวหาว่าเป็นศึกจารกรรม 2 มหาอำนาจ หรือเป็นกลเกมการเมืองระหว่างประเทศ


สัปดาห์ที่แล้ว ในอเมริกา มลรัฐมอนแทนา แหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วเห็นมีวัตถุขนาดใหญ่ สีขาว ลอยอยู่กลางเวหา ตอนกลางวันแสกๆ ต่อมากระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ก็บอกว่า นี่เป็นบอลลูนสอดแนมของจีนที่ส่งมาทำการจารกรรม เพราะบริเวณที่พบบอลลูน เป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศมาล์มสตรอม (Malmstrom Air Force Base) ซึ่งมีคลังแสงเก็บขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่มีกำหนดเยือนประเทศจีนในช่วงวันที่ 5 และ 6 กุมภาพันธ์ ประกาศยกเลิกการเยือนจีนในทันที พร้อมระบุว่า บอลลูนสอดแนมของจีนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

ในกรณีดังกล่าว ฝั่งจีนออกมาระบุว่า สิ่งที่สหรัฐฯ อ้างว่าเป็นบอลลูนสอดแนมนั้น ที่แท้จริงแล้วมันคือเรือเหาะที่ไร้คนขับ ของเอกชนจีน ที่ส่งขึ้นไป ที่ใช้ตรวจสอบสภาพอากาศและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ บังเอิญควบคุมไม่ได้ ถูกลมพัดเข้าไปเรื่อยๆ และเข้าไปน่านฟ้าของอเมริกา เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เอาล่ะสิ ท่านผู้ชมครับ เป็นเหยื่ออันโอชะแล้วสำหรับนักการเมืองอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรครีพับลิกัน ปลุกกระแสว่านายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้นำที่อ่อนแอ ทำให้ในที่สุดแล้ว นายไบเดน เลยต้องจัดเต็ม สั่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ขึ้นไปบิน


แล้วท่านผู้ชมเชื่อไหม ใช้ขีปนาวุธทำลายวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ระหว่างบอลลูนกำลังลอยตัวอยู่นอกชายฝั่งเซาท์แคโรไลนา เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ก็เลยมีคนตั้งคำถามว่า นายไบเดน ใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ในการสอยบอลลูนราคาไม่เท่าไร เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน ทำเพื่อกอบกู้คะแนนนิยมอันตกต่ำของตัวเอง โดยปลุกกระแสภัยคุกคามจากจีน ใช่หรือไม่

ท่านผู้ชมครับ หลังจากการตีข่าวอย่างอึกทึกครึกโครมในอเมริกาเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งสอยบอลลูนจีนให้ร่วงลงมา กระทรวงการต่างประเทศจีน และกระทรวงกลาโหมจีน ก็ออกแถลงการณ์ว่า อเมริกามีปฏิกิริยาเกินสมควรอย่างเห็นได้ชัด ขัดต่อกฎระเบียบสากลอย่างรุนแรง จีนจะพิทักษ์สิทธิประโยชน์ชอบธรรมของวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง และขอสงวนสิทธิที่จะตอบโต้เพิ่มเติมหากจำเป็น

ท่านผู้ชมครับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารให้ความเห็นว่า การกระทำของสหรัฐฯ อาจขัดต่อหมวดที่ 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ที่ระบุว่า การใช้กำลังในการป้องกันประเทศต้องเป็นไปด้วยความพอเหมาะพอสม ซึ่งถ้าจีนบอกว่าเป็นบอลลูนของเอกชน ใช้พยากรณ์อากาศ แต่อเมริกากลับใช้ขีปนาวุธ ถือว่าขัดต่อหลักการของความพอเหมาะพอสม


ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นอยู่ที่ว่า ไม่ว่าบอลลูนของจีนจะใช้เพื่อสอดแนม หรือใช้พยากรณ์อากาศ เข้าไปในน่านฟ้าของอเมริกาจากเหตุสุดวิสัย หรือจงใจส่งข้ามมหาสมุทรจากจีนมาสหรัฐฯ เพื่อมาก่อกวน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชาติมหาอำนาจต่างก็มีการทำจารกรรมซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลาแล้ว ทุกเมื่อเชื่อวัน เพียงแต่ใช้คำเท่ๆ ว่า รวบรวมข่าวกรอง ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านผู้ชมต้องเข้าใจนะครับว่าอเมริกาแท้จริงแล้วคือนักสอดแนมตัวยง ทำการจารกรรมทั่วโลก แม้แต่พันธมิตรตัวเอง อย่างเช่น เยอรมนี และชาติสมาชิกนาโต ก็เคยโวยวายว่าถูกอเมริกาดักฟังทางโทรศัพท์ผ่านเคเบิลใต้น้ำ อังเกลา แมร์เคิล ก็เคยโดน CIA ดักฟังโทรศัพท์ แล้วมีการเปิดเผยข้อมูลนี้ออกมา ทำให้มีความหมางเมินและบาดหมางระหว่างยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี-อเมริกา ไประยะหนึ่ง ในปี 2557


ในยุคนั้น เป็นยุคประธานาธิบดีบารัก โอบามา ดักฟังโทรศัพท์นางอังเกลา แมร์เคิล เป็นเวลาสิบปี

ท่านผู้ชม สถานกงสุลอเมริกาที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ใช้งบประมาณสร้างสูงถึง 284 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบหมื่นล้านบาท ก็น่าสงสัยเหมือนกันว่าจะเป็นสถานที่สอดแนมเพื่อจับสัญญาณความเคลื่อนไหวในพม่า และภาคตะวันตกของจีน

ท่านผู้ชมครับ ผมขอนอกเรื่องนิดหนึ่ง ในการประชุมเพื่อแนะนำตัวกงสุลอเมริกาที่เชียงใหม่ โดยสมาคมการค้าไทย-จีน ปรากฏว่าผมมีน้องคนหนึ่ง ชื่อ เซียม เป็นนักธุรกิจผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่สุดทางภาคเหนือ คุณเซียม เขาเล่าให้ฟังว่า จู่ๆ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกงสุลอเมริกาเดินข้ามาหาเขา แล้วบอกว่า คุณเซียม เป็นคนส่งภาพต่างๆ เรื่องการก่อสร้างสถานกงสุลไปให้คุณสนธิ ใช่ไหม


เอ่ยชื่อผมเลยนะท่านผู้ชม คุณเซียม ก็บอกว่าใช่ เขาถามต่ออีกว่า ทำไมถึงเกลียดอเมริกานัก ท่านผู้ชมครับ รอฟังคำตอบผม เรื่องนี้โคตรสนุก เดี๋ยวผมจะจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ หรือชุดใหญ่ไฟไหม้บ้าน อาจจะเป็นชุดใหญ่ไฟบรรลัยกัลป์ ให้กับกงสุลอเมริกาที่เชียงใหม่ให้ดู ว่าจริงๆ แล้วทำไมผมถึงเกลียดอเมริกา แล้วทำไมโลกส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ในโลกนี้ ถึงเกลียดพวกคุณ พวกคุณเดินบนทุ่งลาเวนเดอร์ ทำใสซื่อบริสุทธิ์ คิคุอาโนเนะ คุณเตรียมฟังไว้ดีๆ แล้วคุณรอให้เจ้าหน้าที่ที่รู้ภาษาไทยแปลให้คุณฟังก็แล้วกัน รับรองว่าไม่จืดแน่นอน ท่านผู้ชมใจเย็นๆ ได้ดูตอนที่สนุกสนาน ผมยังไม่บอกว่าตอนไหน แต่เร็วๆ นี้

เอาล่ะ ท่านผู้ชม ผมจะมาเล่าเรื่องย้อนอดีตศึกจารกรรมของ 2 มหาอำนาจให้ฟัง เรื่องนี้ท่านผู้ชมต้องรู้ประวัติศาสตร์

ศึกจารกรรม 2 มหาอำนาจ ระหว่างจีน-อเมริกา มีมานานแล้ว วันนี้ผมจะเป็นผู้เฒ่าเล่าเรื่องย้อนอดีตเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เป็นเหตุรุนแรงที่สุดในการปฏิบัติการสอดแนมของอเมริกาที่มีต่อจีน


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 22 ปีที่แล้ว (2544) เครื่องบินสอดแนมของอเมริกาชนกับเครื่องบินรบของจีนกลางอากาศ นักบินจีนเสียชีวิต นักบินลูกเรือสหรัฐฯ 24 คน ถูกจับกุมตัว เพราะว่าเครื่องบินจะล่มก็เลยขอให้ลงที่เกาะไหหลำ แต่จีนไม่ให้ลง แต่ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจลงไปเลย แล้วถูกจับกุมตัว

เรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของอเมริกา และ นายเจียง เจ๋อหมิน ของจีน ซึ่งทั้งสองชาติกำลังชิงไหวชิงพริบเพื่อแย่งข้อมูลลับจากเครื่องบินสอดแนม


เหตุการณ์นี้เขาเรียกว่า "เหตุการณ์เกาะไหหลำ" เกิดขึ้นวันที่ 1 เมษายน 2544 เครื่องบินสอดแนม เป็นเครื่องบินจารกรรม EP-3 ของอเมริกา ขึ้นบินจากฐานทัพอากาศคาเดนา ที่หมู่เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปฏิบัติการรวบรวมข่าวกรองบริเวณทะเลจีนตอนใต้ เครื่องบินประเภทนี้มีฉายาว่า "World Watcher" หรือผู้จับตาดูโลก ผู้สังเกตการณ์แห่งโลก มีนักบินตั้ง 24 คน เป็นเครื่องบินลำใหญ่ ข้างในจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์คอยสอดแนม หรือดักฟังเสียงโทรศัพท์ แล้วก็จะมีไฟล์เสียงของผู้นำจีน หลายคน ถ้าเสียงมันแมตช์กัน เขาก็จะบันทึกลงไป




บินเข้าไปใกล้เขตเศรษฐกิจจำเพาะ ใกล้เกาะไหหลำ ทำให้กองทัพเรือจีนส่งเครื่องบิน J-8 จำนวน 2 ลำ เข้าไปติดตามสกัดกั้น เครื่องบินจีนลำหนึ่งของ น.ต.หวัง เว่ย ได้บินเข้าใกล้เครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ 3 ครั้ง ในครั้งที่ 3 เครื่องบินจีน กับเครื่องบินสหรัฐฯ ชนกันกลางอากาศ ทำให้เครื่องบินจีนซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ขาดเป็นสองท่อน


หลังเกิดเหตุ น.ต.หวัง เว่ย กระโดดร่มดีดตัวออกจากเครื่องบินสู่ทะเล กองทัพจีนระดมพลมากกว่า 1 แสนนาย ออกค้นหา 14 วัน ไม่พบศพเขา ก็เลยประกาศว่า น.ต.หวัง เว่ย เสียชีวิตแล้ว


ที่น่าสนใจ เครื่องบินสอดแนมของอเมริกาก็เสียหายหนักเช่นกัน นักบินคือ เรือเอก เชน ออสบอร์น ตัดสินใจว่าจะเอาเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่เกาะไหหลำ โดยส่งสัญญาณฉุกเฉินไปที่สนามบินบนเกาะถึง 15 ครั้ง แต่จีนไม่ตอบรับจากฝ่ายจีน แต่เพื่อรักษาชีวิตลูกเรือ 24 คน เขาจึงนำเครื่องบินสอดแนมขนาดยักษ์ หนักตั้ง 49,000 กิโลกรัม ลงจอดที่เกาะไหหลำโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากจีน ก่อนจะลงจอดฉุกเฉิน ลูกเรือสหรัฐฯ ต้องเร่งทำลายอุปกรณ์สอดแนม เอกสารข้อมูลลับต่างๆ อย่างฉุกละหุก ทั้งด้วยการเอากาแฟร้อนๆ ราดสาดลงไปบนฮาร์ดดิสก์ แล้วใช้ขวาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการทุบกระจกหนีเอาตัวรอดจากเครื่องบิน จามทำลายอุปกรณ์ต่างๆ แต่เนื่องจากบรรดานักบินและลูกเรือไม่เคยถูกฝึกฝนว่าจะทำลายอุปกรณ์และข้อมูลลับอย่างไรในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ทำให้ภายในเครื่องบินของอเมริกานั้นเต็มไปด้วยความอลหม่าน ไม่สามารถทำลายข้อมูลและอุปกรณ์ได้หมด

หลังจากเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯ ลงจอดฉุกเฉินที่เกาะไหหลำ ลูกเรือชาวสหรัฐฯ 24 คน เป็นชาย 21 และหญิง 3 คน ถูกฝ่ายจีนจับกุมตัวข้อหารุกล้ำอธิปไตย ถูกควบคุมตัวไปสอบสวน ณ ค่ายทหารในเมืองไหโข่ว เมืองเอกของมณฑลไหหลำ


ลูกเรือของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ฝ่ายจีนปฏิบัติต่อเขาดีพอสมควร จัดหาอาหาร น้ำดื่ม บุหรี่ให้ เมื่อบรรดาลูกเรือบ่นว่าอาหารท้องถิ่นที่เป็นหัวปลาหม้อไฟ กินไม่ได้เลย ฝ่ายจีนก็เปลี่ยนอาหารให้ใหม่ แล้วยังให้ไพ่ป๊อก หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษไว้แก้เซ็งระหว่างถูกควบคุมตัวด้วย เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตให้พบกับลูกเรือ 24 คน ในสามวันต่อมา อเมริกาเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวลูกเรือทั้งหมด และคืนเครื่องบินสอดแนมให้กับอเมริกาด้วย

ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. - จอร์จ ดับเบิลยู บุช เพิ่งได้รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ได้เพียง 10 สัปดาห์ ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับจีน ซึ่งอยู่ในยุคของประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ที่มีทัศนคติที่ดีต่อชาติตะวันตก หลังจากเจรจานานนับสัปดาห์ นายโจเซฟ ครูเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง ออกจดหมายอย่างเป็นทางการถึงนายถัง เจียสวน รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน แสดงความเสียใจอย่างยิ่งใน 2 เรื่อง เรื่องที่หนึ่ง แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนักบินจีน เรื่องที่สอง ยอมรับ เสียใจอย่างยิ่งที่เครื่องบินสหรัฐฯ เข้าสู่น่านฟ้าของจีน และลงจอดบนแผ่นดินใหญ่ของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ พล.อ.โคลิน พาวเวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ส่งจดหมายส่วนตัวแสดงความเสียใจถึงรองนายกรัฐมนตรีเฉียน ฉีเชิน ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็ส่งจดหมายแสดงความเสียใจถึงภรรยาหม้ายของ น.ต.หวัง เว่ย ทางฝ่ายจีนบอกว่า คุณเสียใจอย่างเดียวไม่พอใจ ต้องการคำขอโทษจากอเมริกา และให้อเมริกาจ่ายค่าเสียหายมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ อเมริกาไม่ยอมขอโทษ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด เครื่องบินอเมริกาอยู่บนน่านน้ำสากลในทะเลจีนใต้ ซึ่งทุกชาติมีสิทธิเสรีภาพในการทำการบิน แต่เครื่องบินจีนบินเข้ามายั่วยุในระยะใกล้จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนเรื่องเงินชดใช้ อเมริกาจะจ่ายแค่ค่าอาหารและที่พักของลูกเรือ 24 คน ที่จีนควบคุมเอาไว้ ค่าที่พักและอาหาร 34,000 ดอลลาร์

ท่านผู้ชมครับ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนได้หารือกัน โดยมีข้อสรุปว่า หนึ่ง ถ้าหากควบคุมลูกเรือสหรัฐฯ 24 คน ไว้นานเกินไป อาจจะก่อกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนชาวอเมริกา สอง ในช่วงนั้นเป็นเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของชาวสหรัฐฯ ถ้าหากไม่ยอมให้ลูกเรือกลับไปหาครอบครัว อเมริกาอาจจะใช้ประเด็นว่าจีนไร้มนุษยธรรม ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางด้านต่างประเทศของจีน ท่านผู้ชมครับ ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นอยู่ที่ว่า ในช่วงนั้น ท่านผู้ชมต้องอย่าลืมว่าจีนช่วงนั้นยังเป็นประเทศที่อ่อนแอ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการทหาร แล้วยังมีความประสงค์จะหวนเข้าสู่เวทีโลก ไม่อยากสร้างความขัดแย้งกับชาติตะวันตก แต่ขณะเดียวกัน ต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองไว้

สุดท้าย ประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ตัดสินใจยอมรับการแสดงความเสียใจอย่างยิ่งของอเมริกา และปล่อยตัวลูกเรือสหรัฐฯ 24 คน หลังจากควบคุมตัวไว้ 10 วัน แต่ว่าไม่ยอมคืนเครื่องบินให้ อายัดไว้


จีนปฏิเสธข้อเสนอของอเมริกาที่จะส่งวิศวกรมาซ่อมเครื่องบินสอดแนมที่เกาะไหหลำ จนกระทั่ง 2 ชาติตกลงกันว่าจะใช้เครื่องบินรัสเซียส่งชิ้นส่วนเครื่องบินสอดแนมที่ถอดออกเป็นชิ้นๆ กลับไปยังสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2544

ท่านผู้ชมครับ 3 เดือนที่จีนอายัดเครื่องบินสอดแนมของอเมริกาไว้ ได้มีการประเมินว่าฝ่ายจีนได้ข้อมูลลับหลายอย่างที่ลูกเรือสหรัฐฯ ทำลายไม่หมด เช่น รหัสลับต่างๆ คู่มือการรวบรวมสัญญาณข่าวกรอง รายชื่อของลูกจ้างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลคอมพิวเตอร์ในคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการสื่อสารของเกาหลีเหนือ รัสเซีย เวียดนาม จีน และชาติอื่นๆ ที่อเมริการวบรวมไว้ รวมทั้งระบบเรดาร์ของชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ทั่วโลก นอกจากนี้ จีนก็ยังรู้ว่าอเมริกาสามารถติดตามเรือดำน้ำของจีนโดยผ่านการดักจับสัญญาณที่ส่งมาจากทางเรือ จีนได้เรียนรู้ข้อมูลลับเครื่องบินลาดตระเวนสหรัฐฯ ที่อายัดไว้ และเพิ่มขีดความสามารถในการต่อต้านการสอดแนมของตนเอง ทำให้กองทัพสหรัฐฯ จำเป็นต้องเปลี่ยนระบบการลาดตระเวน เพราะกลัวว่าจีนจะสามารถดักฟังและสกัดกั้นการสื่อสารของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้


ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่า ว่าหลังจากเหตุการณ์เกาะไหหลำ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2544 ผ่านไปไม่ถึงปี มันมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการสอดแนมของอเมริกากับจีนเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในเดือนมกราคม 2545 หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ และ วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติจีน ว่า ได้พบเครื่องดักฟัง 27 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องบินโบอิ้ง 767-300 ที่จีนซื้อจากอเมริกาเพื่อเตรียมใช้เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน


เครื่องบินลำนี้รัฐบาลจีนปกปิดสถานะ โดยใช้ชื่อของสายการบินที่อยู่ในกำกับของกองทัพ ซื้อจากบริษัท โบอิ้ง ในราคา 120 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นก็ส่งไปยังสนามบินนานาชาติซานอันโตนิโอ ในเทกซัส เพื่อทำการตกแต่งภายใน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ เครื่องบินดังกล่าวส่งมอบให้จีน มาถึงปักกิ่งในเดือนกันยายน 2544 ฝ่ายจีนได้ทำการบินทดสอบ พบเสียงแปลกๆ จึงตรวจสอบดู พบเครื่องดักฟัง 27 เครื่อง ซ่อนอยู่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ระบุว่า เป็นความโง่เขลาของบุคคลบางคนที่จะสอดแนมจีน และความสัมพันธ์จีน-อเมริกานั้นไม่ได้รับผลกระทบ หลังจากนั้นเครื่องบินลำนี้ก็เลยถูกโอนไปให้สายการบินแอร์ไชน่า ใช้เป็นเครื่องบินโดยสารทั่วไป หลังจากปลดประจำการในเดือนมีนาคม 2544 ก็ถูกขายต่อไปให้กับสายการบินของคาซัคสถาน

ทุกวันนี้เครื่องบินประจำตำแหน่งผู้นำจีน ยังใช้เครื่องบินโบอิ้ง และแอร์บัส เนื่องจากสามารถบินระยะไกลได้ และเข้าได้กับมาตรฐานของสายการบินต่างๆ ทั่วโลก


ท่านผู้ชมครับ จีนตอนนี้สามารถผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ของตัวเองได้แล้ว ใช้ชื่อว่า C919 ผมเคยพูดไปแล้วหลายครั้ง ถ้าท่านผู้ชมตามรายการผมจะจำได้หมด และจะเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ที่ผมมอบให้ไปนานแล้ว เปิดตัวเมื่อพฤศจิกายน 2565 ส่งมอบให้สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ และคาดการณ์ซ่า C919 จะทำการบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในช่วงต้นปีนี้ (2566)

ท่านผู้ชมครับ เหตุการณ์ที่เกาะไหหลำ ที่เครื่องบินอเมริกาชนกับเครื่องบิน J-8 แล้วทำให้นักบินจีนเสียชีวิต 1 คน และทหารอเมริกัน 24 คน ถูกจับ หลังจากเครื่องบินลงฉุกเฉินที่เกาะไหหลำโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการดักฟังเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีจีน แสดงว่ามหาอำนาจชาติต่างๆ ทำการจารกรรมกันอยู่ตลอดเวลา ทำกันมานานแล้ว ยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน


 บรรดาชาติพันธมิตรได้สั่งแบนเทคโนโลยีต่างๆ ของจีน ทั้งระบบ 5G ของหัวเว่ย บริษัทผลิตกล้องวงจรปิดของจีนหลากหลายยี่ห้อ แอปพลิเคชัน TikTok โดยบอกว่าเทคโนโลยีจีนเป็นภัยต่อความมั่นคง มีการสร้างกระแสถึงขนาดที่แม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ เช่น ตู้เย็น ทีวี หลอดไฟที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตได้ ที่ผลิตจากจีน จะเป็นอุปกรณ์สอดแนมส่งข้อมูลผู้ใช้กลับไปยังประเทศจีนได้ อย่างนี้ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Paranoid ครับ ภาษาไทยแถวบ้านผมเขาเรียกว่า ประสาทแดก

น่าสงสัยว่าอเมริกาที่ประกาศก้องมาตลอดว่าเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก และทำไมอเมริกาไม่สามารถสกัดกั้นบอลลูนที่อเมริกาอ้างว่าเป็นบอลลูนสอดแนม กระจอกๆ ลูกหนึ่ง ไม่ให้เข้าสู่พรมแดนอเมริกาได้ ทำไมต้องหวาดกลัวเทคโนโลยีต่างๆ ของจีน ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีที่ประชาชนทั่วโลกใช้ประจำวันส่วนใหญ่เป็นของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Facebook, YouTube, Google, Microsoft เทคโนโลยีเหล่านี้เก็บข้อมูลผู้ใช้อยู่ตลอดเวลา เก็บข้อมูลผู้ใช้ แต่ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการสอดแนมหรือจารกรรม

แล้วเรื่องนี้ผมมีข้อสังเกตอีหลายมิติ ซึ่งยังไม่เคยมีใครเสนอ สื่อมวลชนอื่นๆ ก็ไม่เสนอ ในมุมมองมิติด้านการเมืองของอเมริกา พรรครีพับลิกัน และเดโมแครต ต่างหยิบยกเรื่องบอลลูนสอดแนมมาเป็นเครื่องมือปั่นกระแส เพื่อให้คนกลัวจีนมากขึ้น เพื่อให้คนสนับสนุนการส่งอาวุธให้ไต้หวัน และออกมาปกป้องไต้หวัน

ท่านผู้ชมครับ ผมตั้งข้อสังเกตว่า บอลลูนพยากรณ์จริงๆ ถ้าจีนจะสอดแนมไม่ต้องใช้บอลลูนหรอก เพราะว่าจีน และอเมริกา ต่างมีดาวเทียมสอดแนมอยู่บนท้องฟ้า สอดแนมได้แม้กระทั่งสามารถจะอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา พยายามปั่นว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริงๆ ทำไมไม่แจ้งก่อน ถ้าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ แต่ฝั่งจีนเขายืนยันว่าเขาแจ้งอเมริกาแล้วตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ แต่อเมริกาไม่สนใจ เพราะต้องการดึงเอาบอลลูนนี้มาเป็นข้ออ้างในการหาเรื่องเพื่อปั่นกระแสให้คนอเมริกาเกลียดจีน

เมื่ออเมริกาโต้แย้งว่าบอลลูนนี้ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ท่านผู้ชมครับ ตั้งใจฟังผมดีๆ บอลลูนนี้ลอยอยู่ที่ชั้นบรรยากาศระดับ 60,000 ฟุต 18 กิโลเมตรกว่าๆ ในชั้นบรรยากาศนี้ ภาษาวิทยาศาสตร์เขาเรียกว่า Stratosphere


Stratosphere นั้น เหนือความสูงของน่านฟ้าขึ้นไปอีกราว 18,000 ฟุต ก็คือว่าเครื่องบินบินไม่ถึง 5.5 กิโลเมตร ไม่ถือว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะที่ความสูง 1 แสนฟุต ก็มีบอลลูนของนาซา หรือองค์การสำรวจอวกาศของอเมริกา ลอยอยู่เช่นกัน

สรุปแล้ว บอลลูนนี้เป็นเรื่องโจ๊ก ตลกขบขัน อเมริกาก็รู้ว่าเป็นบอลลูนที่ไม่ได้มาเพื่อสอดแนม แต่จะใช้เหตุการณ์บอลลูนนี้มาปลุกปั่นระดมความเกลียดชังจีน ทั้งรีพับลิกัน และเดโมแครต ต่างชิงธง แต่พอไปดูสื่อมวลชนในอเมริกาหลายแห่ง เป็นสื่อทางเลือก เขาขำขันกัน เขาหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง บอกว่าอเมริกาใช้ F-22 ยิงขีปนาวุธทำลายบอลลูน

ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้มิติของเรื่องบอลลูนท่านผู้ชมพอจะเข้าใจดีหรือยัง ผมจะบอกให้ท่านผู้ชมฟังครับ หลายๆ เรื่องท่านผู้ชมต้องเข้าใจที่มาที่ไป ต้องดูป่าทั้งป่า แล้วท่านผู้ชมจะเข้าใจ อย่าไปกระโดดโลดเต้นตามสำนักข่าวตะวันตก หรือตามช่องทีวีทั่วๆ ไปในประเทศไทย อย่านะครับ เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และข้อเท็จจริง ผมเอาทุกอย่างมาตีแผ่ให้ฟังว่าการจารกรรมนั้นไม่ใช่เพิ่งมี มันมีมานานแล้ว และบอลลูนนี้เป็นอุบัติเหตุจริงๆ ซึ่งจีนเขาก็ดีใจที่มันเกิดอุบัติเหตุนี้ เพราะเขาจะได้ดูความตลกขบขันของอเมริกา เห็นด้วยไหมครับ

ท่านผู้ชมครับ รายการวันนี้ก็ถึงคราวที่จะต้องจบลง ท่านผู้ชม อาทิตย์หน้าพลาดไม่ได้ ผมจะเอาคำพิพากษาศาลแพ่ง ฉีกคุณแทนไท ณรงค์กูล เป็นชิ้นๆ ทนายเอี้ยง เตรียมตัวผมฟ้องได้ แต่ผมไม่รู้ว่าคุณจะฟ้องผมประเด็นไหน เพราะว่านั่นคือคำพิพากษาของศาลแพ่ง คุณก็นั่งฟังไป กัดฟันกรอดๆ ไปก็แล้วกัน รวมทั้งคุณแทนไท ด้วย เพราะคำพิพากษาศาลแพ่งนั้นพิสูจน์ถูกต้องหมดทุกอย่างว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นไม่ผิด และไม่ได้หมิ่นประมาทอะไรคุณเลยแม้แต่นิดเดียว เจอกันอาทิตย์หน้าครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น