xs
xsm
sm
md
lg

ผวาลากไส้ “โทนี่” พท.ไม่ (กล้า) เถียงจตุพร !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


จตุพร พรหมพันธุ์ - ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
เมืองไทย 360 องศา

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตเลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธาน นปช. วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า

“ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เป็นท่าทีของคุณจตุพร แสดงออกทั้งตัวข้อความและอารมณ์ความรู้สึก จุดยืนของพรรคเพื่อไทย ได้หารือกับผู้เกี่ยวข้องในพรรคเห็นตรงกันว่า จะไม่ตอบโต้ ไม่สร้างพื้นที่วิวาทะ จะไม่ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งบานปลายระหว่างคนในพรรคเพื่อไทย และคุณจตุพร มากไปกว่าที่เป็นอยู่
แม้ คุณจตุพร กล่าวอ้างเหตุที่ออกมาแสดงบทบาทดังกล่าว เพราะว่าได้รับข่าวสาร ว่า ดร.ทักษิณ พูดจาพาดพิงที่ฮ่องกง ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงพูดไม่ได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร แต่พูดได้ว่า เหตุการณ์นี้มันเกิดผลกระทบทางความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ร่วมต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตยมากว่า 10 ปี ในนามของคนเสื้อแดง
มีหลายฝ่ายติดต่อมาสอบถาม ขอฟังคำอธิบาย ได้บอกไปว่าจะไม่ตอบโต้ หรือเปิดประเด็นสวนกันไปมาอย่างแน่นอน เรายังคงรักษาสมาธิในการเดินหน้าเพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ เพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน แก้ปัญหาให้กับประชาชนตามที่ได้ประกาศกันเอาไว้
สำหรับสื่อมวลชนที่ติดต่อมาจะให้ตนไปออกรายการคู่กับคุณจตุพรนั้น ในทางส่วนตัว สามารถพบปะพูดคุยกับคุณจตุพรได้ปกติ แต่ในภาวการณ์แบบนี้ แม้จะดูน่าตื่นเต้น แต่ดูแล้วไม่มีประโยชน์กับประชาชน และขบวนการที่ต่อสู้ด้วยกันมา คนเสื้อแดงถูกกระทำ เจ็บปวด สูญเสียทั้งชีวิตและอิสรภาพมากเกินพอแล้ว ดังนั้น ถ้าจะมีบางอย่างที่รักษาไว้ให้ได้ ก็จะรักษาไว้ คือ ความทรงจำที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยกันมาของแกนนำและมวลชนเสื้อแดง
เชื่อว่า พี่น้องร่วมอุดมการณ์ คงไม่มีใครอยากเห็นภาพว่าผมกับคุณจตุพร จะต้องแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันในบางแง่มุมบนพื้นที่สื่อสารมวลชน ปกติวิถีของผมไม่เคยตอบโต้วิวาทะกับพี่น้องผู้ร่วมแนวทางมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ขึ้นบนเวทีการต่อสู้ทางเมืองจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยทำและเมื่อได้แสดงออกต่อกันเป็นระยะหนึ่งเวลาก็เพียงพอที่จะให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณว่ามีความคิดอ่านอย่างไรต่อสิ่งที่เป็นอยู่
อดีตแกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ทุกคนมีถูกได้ผิดได้ สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ สามารถถูกตั้งคำถามเรื่องราวในอดีต ปัจจุบันอนาคตได้ ในวิถีทางของมิตร หวังใจว่า เรายังจะรักษาความเข้าใจเบื้องต้นระหว่างกันว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะวิวาทะอะไรให้ยาวความมากมายไปกว่านี้”
นั่นเป็นคำพูดของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตเลขา นปช. ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่ออกมาแถลงวันที่ 24 มกราคม ว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งน่าจะหมายรวมไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่” รวมทั้งคนในครอบครัวของเขาด้วยว่าจะไม่ตอบโต้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ก่อนหน้านี้ ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมหลอกใช้มวลชนคนเสื้อแดงมาตลอด หาประโยชน์เพื่อตัวเองเท่านั้น ซึ่งความหมายจากท่าทีของ นายณัฐวุฒิ ในครั้งนี้ ก็คือ “ไม่ต่อความยาวสาวความยืด” ต่อไป
ฟังจากปากของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่สรุปความเอาว่า นายจตุพร ได้รับรู้ข้อมูลมาว่า ถูกนายทักษิณ ชินวัตร พาดพิงที่ฮ่องกง จนทำให้เกิดอารมณ์ปรี๊ดแตก โดยลักษณะคำพูดของ นายณัฐวุฒิ พูดแบบว่าเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง ก็อาจมองได้สองอย่าง คือ ไม่รู้ว่าจริง หรือไม่จริง และสอง ตัวเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง ขอลอยตัวแบบนี้ดีกว่า
และที่สำคัญ คงไม่กล้าที่จะต้องเผชิญหน้ากับ นายจตุพร หรือเปล่า เพราะฟังจากคำพูดของ นายจตุพร ที่พรั่งพรูออกมาถือว่า “เหลืออด” และสำหรับคนอื่นนั้นถือว่า “จริงทุกดอก” และเชื่อว่า จากคำพูดที่ออกมาสองสามครั้งที่ผ่านมา คงไม่ใช่เหตุการณ์ที่ฮ่องกงเพียงอย่างเดียว คงเก็บกดมานานหลายปีแล้ว สังเกตได้จากตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปี 64 ที่นายจตุพร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เมื่อครั้งลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ชิงกับผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คราวนั้น นายจตุพร สาวไส้ไปถึง “เจ๊ ด.” เสียป่นปี้ มาแล้ว
ล่าสุด เมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “คนพูดเท็จ ไม่ทำบาป ย่อมไม่มี” เมื่อ 23 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพูดช่วงหนึ่งถึงกรณีคดีจำนำข้าว ว่า ความอำมหิตของฝ่ายเดียวกัน โดยสั่งให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ (ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ไปฟังคำตัดสินของศาล
“ทั้งที่สองคนนี้เตรียมหลบภัยไปอยู่เขมร และบางคนซื้อบ้านที่อังกฤษไว้แล้ว ซึ่งพฤติกรรมอำมหิตจากฝ่ายเดียวกันได้หลอกให้ไปถูกจับขังคุก สิ่งนี้แสดงถึงโลกความเป็นจริง ว่า อำนาจในบางช่วงก็ทะเลาะกันและบางตอนยังจับมือร่วมกันได้นั่นเอง มีแต่พวกเรา ประชาชนเป็นคนโง่ ถูกหลอกซ้ำๆ เหมือนเดิม”

ดังนั้น เราจะปล่อยให้บ้านเมืองไปแบบนี้หรือ เมื่อการเมืองเป็นเพียงการแสดง จึงเป็นบทเรียนที่สำคัญ และคนในเพื่อไทยรู้หมด แต่พูดไม่ได้จะเป็นภัย ส่วนตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคใด แต่ต้องการพูดความจริง เพื่อไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกแบบเดิมๆ

เมื่อพิจารณาจากคำพูดของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่พูดถึง นายทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงคนในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ละดอกถือว่า “หนักหน่วงรุนแรง” ปักเข้ากลางอกทุกดอกเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องการหลอกใช้มวลชนคนเสื้อแดง แบบว่าบางครั้งเมื่อเห็นว่าหมดประโยชน์ก็ “ถีบหัวส่ง” แต่พอนึกขึ้นได้ว่าจะใช้ประโยชน์เหมือนอย่างคราวนี้ ที่มีเป้าหมายเลือกตั้ง “แลนด์สไลด์” ก็จะกลับใช้อีกครั้ง หรือ คำพูดเปิดโปงที่อ้างว่า “หลอกให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และนายภูมิ สาระผล ไปติดคุก” ถือว่าอำมหิตมาก
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากข้อกล่าวหาที่หนักหน่วงรุนแรงต่อเนื่องซ้ำๆ กันหลายครั้งของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน  นปช.หรือแกนนำคนเสื้อแดง ที่พุ่งเป้าโดยตรงต่อ นายทักษิณ ชินวัตร และคนในพรรคเพื่อไทย โดยปกติ ทั้งนายทักษิณ และคนในพรรคเพื่อไทย จะต้องออกมาชี้แจงหรือตอบโต้ เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ว่าทั้งในหรือนอกสภาที่พอใครแตะ นายทักษิณ และคนในครอบครัวนี้ จะต้องมีคนที่ร้อนรนแทน ทนไม่ได้ต้องตอบโต้กลับไปทุกครั้ง รวมไปถึงการแจ้งความดำเนินคดีก็มี
แต่คราวนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก กลับบอกว่า “ต้องเงียบ” เอาไว้ ความหมายคงไม่ใช่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่เป็นเพราะกลัวว่า จะถูกเปิดโปงออกมามากกว่านี้ ประเภทไส้กี่ขด จะออกมาประจานให้เห็นธาตุแท้หรือเปล่า และเชื่อว่า คนอย่าง นายจตุพร น่าจะมี “ความลับ” อยู่ในมืออีกเพียบ รอฟังก็แล้วกัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น