กลายเป็นประเด็นดราม่าให้ถกเถียงกันมาระยะหนึ่งในแวดวงนักอนุรักษ์ เมื่อ “วัดคลองรี” อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีการดำเนินการรื้อพระอุโบสถเก่าอายุกว่า 60 ปี โดยให้เหตุผลว่าเก่าทรุดโทรมแล้ว และมีโครงสร้างสร้างโบสถ์ใหม่ทดแทน โดยเมื่อวานนี้ได้ข้อสรุปแล้วจากมติเสียงส่วนใหญ่ ยืนยัน รื้อโบสถ์เดิมทิ้ง
วัดคลองรี ในอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กลายเป็นประเด็นดังในแวดวงนักอนุรักษ์ และชื่นชอบคุณค่าของสถาปัตยกรรม ศิลปะเก่าทางพุทธศาสนา ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทางวัดมีการดำเนินการสร้างโบสถ์ใหม่ แต่ต้องทุบโบสถ์เก่าที่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ทิ้งไป
ดังเช่น “เอนก นาวิกมูล” ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า
อ.ปรัชญา ปานเกตุ นักเลงภาษา ส่งข่าวรื้อโบสถ์เก่าวัดคลองรี อ.สทิงพระ สงขลา มาให้เมื่อสักครู่ เปิดดูต่อไปพบว่าต้นทางมาจากเฟซของนิ เล ใต้ นิธิวัฒน์ ชินพงศ์ เพิ่งปล่อยเมื่อ5ชั่วโมงก่อนของวันนี้-พฤ19มค2566
โบสถ์นั้นเรียบง่าย รูปทรงพอใช้ได้ หลังคาซ้อนสองชั้น หน้าบันด้านหนึ่งปั้นเป็นรูปพระเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าที่ผ่านมาแล้ว 3 ที่กำลังเป็น (พระพุทธเจ้า) 1 และที่จะเป็นในอนาคตคือพระศรีอริยเมตไตรย อีก1
ช่างที่ไหนปั้นไม่ทราบ แต่เส้นงาม มีคุณค่าทางศิลปะพอสมควร ส่วนลวดลายบนซุ้มประตูหน้าต่างฝีมือธรรมดามาก หนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักรบอกว่าวัดอยู่ริมทะเลสาบ เป็นวัดเก่า แต่ตัวโบสถ์ที่เห็นนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ.2503 หรือเมื่อ 63 ปีก่อน-นับจากปี2566 ยังไม่เก่าแก่นัก
โบสถ์วิหารดั้งเดิมหน้าตาอย่างไรไม่เคยเห็น เป็นเรื่องควรสงสัยและควรหามาดู ตอนนี้ทางวัดไม่ต้องการโบสถ์นี้แล้ว กำลังทุบหน้าต่างประตูจนกลวงโบ๋ จุดหมายคือสร้างโบสถ์ใหม่
ผู้อ่านเฟซของ นิธิวัฒน์อ่านแล้วต่างก็แสดงความเสียดายและวิจารณ์กันใหญ่
ผมเองดูรูปแล้วก็เสียดายอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะช่างปั้นปูน ช่างวาดรูปเดี๋ยวนี้ฝีมือหยาบ หาดีแบบยุคเก่าไม่ได้
เปิดคอมฯดูว่าเคยไปวัดนี้หรือไม่ ก็พบว่าเคยไปเมื่อ พฤ30มิย2559 ซีดี3939
หน้าบันด้านที่นิธิวัฒน์ไม่ได้เอามาแสดง ปั้นเป็นรูปพระพุทธเจ้าโปรดปัญจวัคคีย์
ปัญหาคือบริเวณวัดยังมีที่ว่างอีกมาก ไม่รู้ทำไมจึงจำเพาะมาเอาตรงนี้
ถามว่าแปลงโบสถ์เก่าเป็นวิหารแทนได้หรือไม่
ถ้าต้องงรื้อจริงๆแล้ว เฉือนหน้าบันพระเจ้าห้าพระองค์ลงมาเก็บเป็นที่ระลึกสักหน่อยได้หรือไม่ จะได้รักษาของเก่าให้ลูกหลานดูบ้าง
แต่ใจจริงแล้ว อยากให้เน้นเรื่องการจัดภูมิทัศน์ และความเป็นระเบียบมากกว่า
วัดยุคปัจจุบันนิยมสร้างสิ่งใหม่ๆแข่งกันทั้งประเทศ สร้างรูปเคารพเพื่อพุทธพาณิชย์ก็มาก
ไม่มีใครสนใจเรื่องผังวัด ความร่มรื่น ความสะอาด และการให้ความรู้เหมือนวัดคริสต์
ของดีที่มีน้อยอยู่แล้วก็เลยยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก จนไม่รู้จะเอาดีที่ไหนไปอวดเพื่อน
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.66) เฟซบุ๊กของคุณเจริญกิจ มีศิริ คนในพื้นที่อำเภอสทิงพระ ได้แจ้งว่า มีการประชุมชาวบ้านในพื้นที่เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมีพระอาจารย์สุรศักดิ์ กิตติภัทโท- กุย เจ้าอาวาสวัดคลองรี และคณะชาวบ้าน 2 ฝ่าย ทั้งที่สนับสนุนและคัดค้านการรื้ออุโบสถหลังดังกล่าวกว่า 70 คน ซึ่งประประชุมในครั้งนี้มีพระอาจารย์ภัตร"อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวี และรองเจ้าคณะจังหวัดสงขลาได้เดินทางมาช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้งของชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายด้วย
โดยพระอาจารย์สุรศักดิ์ กิตติภัทโท- กุย เจ้าอาวาสวัดคลองรี กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทุบอุโบสถหลังเก่า เนื่องจากปัจจุบันมีความทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวอาคารตั้งอยู่บริเวณที่ลุ่มน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตัวอาคารทรุดตัวของฐานราก และทางวัดมีความตั้งใจที่จะสร้างอุโบสถหลังใหม่มานานแล้วแต่เนื่องจากที่ผ่านมาติดขัดเรื่องปัจจัยที่ทางวัดมีไม่เพียงพอ จนมีผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาช่วยทำบุญ และการให้รื้อก็เป็นความเห็นชอบของคณะกรรมการและชาวบ้านที่ร่วมประชุมกันก่อนที่จะตัดสิ้นใจ ดังนั้นวันนี้จึงอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจพร้อมกับรับฟังความคิดเห็นว่าเสียงส่วนใหญ่จะให้รื้อสร้างหลังใหม่ หรือจะบูรณะหลังเก่า
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายได้ผลัดกันออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีทั้งชาวบ้านที่เห็นด้วยเนื่องจากอยากเห็นการพัฒนา ขณะที่ชาวบ้านที่คัดค้านเพราะอยากอนุรักษ์อุโบสถเก่าแก่หลังนี้เอาไว้เพราะมองว่า อุโบสถกลังดังกล่าว เป็นประวัติศาสตร์พื้นถิ่นที่มีคุณค่าทางจิตใจเหมาะสมแกการอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้
การประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งช่วงท้ายของการประชุม จึงมีการลงมติจากชาวบ้านที่มาร่วมประชุม โดยชาวบ้านส่วนใหญ่มีมติให้รื้ออุโบสถหลังเก่าและสร้างหลังใหม่บริเวณที่ตั้งเดิม จากนั้นชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความเรียบร้อย และยอมรับในเสียงส่วนใหญ่
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline