xs
xsm
sm
md
lg

แจงภาพเกาะต้นไม้ “สวนป่าเบญจกิติ” ดูโทรมเพราะอากาศแล้ง แต่แปลกที่ภาพปี 65 ช่วงแล้งกว่ากลับดูเขียวสวยงาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพเกาะต้นไม้ สวนป่าเบญจกิติ ที่ดูเปลี่ยนไป ซึ่งถูกแชร์ว่อนโซเชียล (ภาพจาก : Traffy Fondue)
แอดมินเพจ “สวนเบญจกิติ” แจงภาพ เกาะต้นไม้ “สวนป่าเบญจกิติ” ที่ดูโทรมลงผิดตา จนต้นหญ้าตายซากเป็นเพราะสภาพอากาศช่วงหน้าแล้ง ส่วนกรณีน้ำเน่าเสียเป็นไปตามระบบการออกแบบของสวน ที่สร้างขึ้นมาเพื่อนำน้ำเสียจากชุมชนมาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ อย่างไรก็ดีเมื่อย้อนดูในช่วงเดือนมีนาคม ปี 65 ที่สภาพอากาศร้อนแล้งกว่าแต่ว่าภาพของเกาะต้นไม้กลับดูเขียวชอุ่มสวยงาม

จากกรณีมีชาวเน็ตจำนวนมากแห่แชร์ภาพ “เกาะต้นไม้กลางบึงน้ำ” (จาก Traffy Fondue) ซึ่งเป็นไฮไลท์ของ “สวนป่าเบญจกิติ” ที่เปลี่ยนไป เนื่องดูโทรมลงผิดหูผิดตา มีน้ำเน่าเสีย-ต้นหญ้าตายซาก เหมือนไม่ได้รับการดูแล จนกลายเป็นไวรัลและกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล

ภาพเกาะต้นไม้ สวนป่าเบญจกิติ ที่ดูเปลี่ยนไป ซึ่งถูกแชร์ว่อนโซเชียล (ภาพจาก : Traffy Fondue)
ล่าสุดทางเพจ สวนเบญจกิติ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่เชื่อมโยงกับ “สวนป่าเบญจกิติ” ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ดังนี้

season change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

สวัสดีค่ะ ด้วยภารกิจที่มากขึ้น จึงไม่ค่อยได้มาอัปเดทเพจนี้สักเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้มีประเด็นที่ร้อนมากๆ เกี่ยวกับสวนเราจึงอยากมามาชี้แจงเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันสักนิด ขออนุญาตเจ้าของภาพ แอดอยากสื่อสารให้ชัดเจนจึงขอนำภาพของท่านมาประกอบ

ในภาพเราจะเห็นว่าในแต่ละเกาะที่ปลูกหญ้ามีทั้งหญ้าที่งอกอยู่ และที่แห้งตายไป นั่นเป็นเพราะหญ้าที่ปลูกบนเกาะเป็นหญ้ารูซี่ ใครที่เลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้องน่าจะรู้จักกัน เพราะเป็นหญ้าที่มีอายุหลายปี ต้นกึ่งเลื้อยกึ่งตั้ง สามารถเจริญเติบโตในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำได้ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ดอน ดินมีการระบายน้ำดี ทนแล้งพอสมควร ทนต่อการเหยียบย่ำของสัตว์ ไม่ทนน้ำท่วมขัง นิยมปลูกเพื่อเลี้ยงสัตว์ดังกล่าว ซึ่งในสภาพปลูกในสวนเราไม่มีการเก็บเกี่ยว เราปล่อยให้น้องออกออกติดเมล็ดเพื่อเป็นอาหารของนก เมื่อหญ้าติดเมล็ดต้นก็จะโทรมและตายไป ปล่อยเมล็ดที่ร่วงหล่นได้งอกขึ้นมาใหม่ตามวัฏจักรของธรรมชาติ

ส่วนเรื่องน้ำเน่าเสียในสวน ไม่ใช่เรื่องที่แอดตกใจ เพราะผู้ออกแบบได้บอกแอดไว้ว่า สวนนี้สร้างขึ้นเพื่อนำน้ำเสียจากชุมชน ซึ่งมาจากคลอไผ่สิงโตมาบำบัดในสวนด้วยวิธีธรรมชาติ โดยน้ำเสียจากคลองนี้จะเข้ามาบริเวณ Dog Park แล้วไหลไปตามรางน้ำที่เชื่อมในทุกๆ บ่อ ระหว่างทางจะได้รับการฆ่าเชื้อด้วยแสงแดด และพืชน้ำต่างๆ จนสะอาดพอที่แมงปอจะอาศัยอยู่ได้

ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง ฝนไม่ตก มันจึงทำให้เกิดภาพดังกล่าว แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบตั้งใจ เพราะคิดว่าอยากให้คนกรุงได้เห็นความแตกต่างของทิวทัศน์ในแต่ละช่วงของฤดูกาลบ้าง มิใช่มีแต่ความเขียวขจีตลอดปี (ซึ่งสามารถไปดูได้ในสวนสาธารณะอื่นๆ) เค้าแค่อยากนำเสนอสวนป่าในรูปแบบที่คนกรุงจะพบเห็นได้น้อย เพื่อให้ได้เป็นแหล่งศึกษาของเยาวชนและผู้สนใจ

อนึ่ง สวนเบญจกิติมีช่องจอดรถบัส 10 คัน ทัวร์อย่ามากันเยอะนะคะ โปรดเอ็นดูแอดนิดนึง ^^'

ขอบคุณค่ะ


ภาพเปรียบเทียบเกาะต้นไม้ในช่วงหน้าแล้งที่ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของ มี.ค.ปี 65 กับ ม.ค.ปี 66
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ได้มีผู้เปรียบเทียบภาพของเกาะต้นไม้ในปัจจุบัน (ต้นมกราคม 2566) กับภาพของเกาะต้นไม้เมื่อเดือน มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนมีอากาศที่ร้อนแล้วกว่าช่วงหน้าหนาวของเดือนมกราคมมาก แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังกลับดูเขียวชอุ่มสวยงาม ขณะที่น้ำในบึงรอบเกาะก็ดูสะอาดไม่เน่าเสีย ไม่มีวัชพืชลอยเกลื่อน ดังในภาพที่ปรากฏเป็นดราม่าบนโลกโซเชียล

สำหรับสวนป่าเบญจกิติ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ประมาณ 350 ไร่ ติดกับสวนเบญจกิติทางฝั่งตะวันออก บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ ที่ต่อมากรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ร่วมกับกองทัพบก ทำการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ให้เป็นสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียวที่พัฒนาขึ้นแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานคร

สวนป่าเบญจกิติเป็นโครงการสวนสาธารณะระยะต่อเนื่องจากสวนเบญจกิติที่ยึดแนวคิดของ “สวนน้ำ” ส่วนสวนป่าเบญจกิติยึดแนวคิดของ “ป่าในเมือง” (urban forest) หากรวมพื้นที่ทั้งหมดจะมีเนื้อที่รวมประมาณ 450 ไร่

สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นระดับอาเซียน (แฟ้มภาพ : มี.ค. 2565)
สวนป่าเบญจกิติ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดย กรมธนารักษ์ได้จัดสร้างสวนป่าระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ และได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ “กรุงเทพมหานคร” เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาและบริหารจัดการในปี 2563 อีกทั้งยังขอความร่วมมือจากกองทัพบกก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ ให้มีพื้นที่ป่าและพื้นที่น้ำร้อยละ 85 โดยเพิ่มต้นไม้ในพื้นที่โครงการเข้าไปอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังกำหนดพรรณไม้ใหญ่ในแต่ละจุดเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของสวนป่าในเมืองให้มีความโดดเด่นสวยงาม

สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นระดับอาเซียน (แฟ้มภาพ : มี.ค. 2565)
สำหรับหนึ่งในไฮไลท์อันโดดเด่นที่เป็นอีกหนึ่งภาพจำของสวนป่าแห่งนี้ก็คือ “เกาะต้นไม้” กลางบึงน้ำ ที่นำมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวสวน ยกรากต้นไม้ให้สูงกว่าระดับน้ำใต้ดิน ทำให้น้ำซึมเข้าสู่ดิน รากต้นไม้สามารถดูดซับน้ำ จึงเจริญเติบโตได้ดี พร้อมทั้งลดการระเหยของน้ำ และช่วยลดอุณหภูมิของพื้นที่รอบ ๆ ได้

โดยเกาะต้นไม้กลางบึงน้ำ สามารถมองเห็นได้ชัดจากมุมสูงเมื่อมองลงมาจาก Skywalk เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยม หรือหากใครอยากสัมผัสให้เต็มตากว่านั้น ก็มีเส้นทางเดินเท้าลัดเลาะไปตามบึงน้ำเพื่อศึกษาธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด

สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นระดับอาเซียน (แฟ้มภาพ : พ.ย. 2564)
ขณะที่ในส่วนเส้นทางออกกำลังกายเอาใจคนรักสุขภาพแบ่งเป็นเส้นทางเดินลัดเลาะชมธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร

นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนยังจะได้ศึกษาระบบนิเวศและธรรมชาติ โดยมีแปลงนาสาธิต ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรมและอัฒจันทร์ที่รองรับผู้ใช้งานกว่า 15,000 คน รวมทั้งยังมีทางเดิน Skywalk ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรเชื่อมต่อไปถึงสวนลุมพินี ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมของผู้มาเยือนที่ไม่พลาดในการเดินเล่นและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ปัจจุบันสวนป่าเบญจกิติเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากสวนสาสารณะแห่งนี้เปิดให้บริการ อีกทั้งยังเป็นสวนสาธารณะใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีความโดดเด่นในระดับอาเซียนที่เราทุกคนต้องช่วยกันดูและรักษาพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงฯแห่งนี้ให้เป็นอย่างดี

สวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นระดับอาเซียน (แฟ้มภาพ : พ.ย. 2564)




กำลังโหลดความคิดเห็น