ตำรวจยานนาวา ฝากขัง “เมียตู้ห่าว” กับพวกรวม 9 คน คดีฟอกเงิน กระทำผิดยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ ศาลกรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วให้ประกัน พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ “เมียตู้ห่าว” พร้อมผู้ต้องหาอีก 2 คน ตีราคาประกันคนละ 2 ล้านบาท
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวนสน.ยานนาวา ได้ นำตัว นายสิทธิไพบูลย์ คำนิล อายุ 49 ปี, นางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา อายุ 51 ปี, นายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง อายุ 34 ปี, นายสิทธิกร ประภาจรัสวงศ์ อายุ 56 ปี, นางสุรัสวดี ทองเพิ่มพลอย อายุ 43 ปี, นายฉัตรชัย ลาภอำนวยเจริญ อายุ 50 ปี, นายณัฐวุฒิ ศรีออน อายุ 48 ปี, นายพีรพัฒน์ ทองเพิ่มพลอย อายุ 25 ปี และ นาง หรือ พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ อายุ 47 ปี อดีตผู้กำกับการกองการต่างประเทศ ภรรยาของ นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาที่ 1-9
พฤติการณ์แห่งคดี คือ ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บช.น.) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บริเวณภายในอาคารจินหลิง, อาคาร LEELA และอาคารวิบวับคาร์วอช ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุ เปิดเป็นสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดและเล่นการพนันกันเป็นประจำ ตำรวจจึงทำการสืบสวนหาข่าว เฝ้าจุดสังเกตการณ์ใกล้ๆ บริเวณทั้ง 3 อาคารดังกล่าว พบว่า ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนขับรถหรูราคาแพงแวะเวียนเข้ามาเที่ยวกันเป็นประจำ จึงได้รวบรวมข้อมูล จัดทำรายงานการสืบสวนเพื่อขอออกหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ จนศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติให้ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ตามหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 283/2565 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2565 ให้เข้าตรวจค้นอาคารจินหลิง, อาคาร LEELA และอาคารวิบวับคาร์วอซ เลขที่ 60-60/1 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเมื่อไปถึงประตูทางเข้าอาคาร ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงหมายค้นให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้ดูแลสถานที่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาทำการตรวจค้นตามหมายคัน จึงได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปภายใน ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รีบนำกำลังทั้งหมดเข้าไปในบริเวณลานจอดรถและสามารถควบคุมตัวได้บางส่วน และกำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งเข้าไปที่ด้านหน้าอาคารจินหลิงและอาคาร LEELA พบว่า ประตูเหล็กทางเข้าอาคารถูกปิดล็อกแน่นหนา มีบุคคลอยู่ภายในอาคารแต่ไม่ยินยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่งอ้อมเข้าไปด้านหลังอาคาร จนสามารถเข้าไปในอาคารได้ พบว่าภายในอาคารร้านจินหลิง แบ่งเป็นห้องคาราโอเกะตัว จำนวน 12 ห้อง พบนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากและพนักงานอยู่ตามห้องคาราโอเกะ, ห้องเก็บสินค้าของร้าน, ภายในอาคาร LEELA แบ่งเป็นห้องโถงใหญ่และห้องแบบส่วนตัว
จากนั้นได้แสดงหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 283/2565 ดังกล่าวให้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลสถานที่ดังกล่าวได้ตรวจสอบ พร้อมกับทำการตรวจค้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังแสดงหมายค้น พบเห็น นายฮวง ไฮ่ เท่า (Mr. HUANG HAITAO) พร้อมหนังสือเดินทาง ดูท่าทางมีพิรุธกล่าวคือเมื่อผู้ต้องหาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องเก็บของ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พบเห็นว่ามีพิรุธต้องสงสัยว่าจะได้กระทำผิดกฎหมาย หรือมีสิ่งผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง จึงวิ่งตามไปติดๆ พบเห็น นายฮวง ไฮ่ เท่ากำลังนำสิ่งของไม่ทราบชนิดและจำนวน คาดว่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมายเข้าไปซุกซ่อนไว้ในตู้เซฟ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดแล้วทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) พบอยู่ในกระเป๋าเสะพายหลัง ซึ่งวางอยู่ในชั้นวางภายในห้องเก็บของร้านจินหลิง และได้ตรวจค้นตู้เซฟดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี), วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน), วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ไฟว์ ไฟว์) และเครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 2 เครื่อง พบอยู่ในตู้นิรภัยสีทอง
ซึ่งวางอยู่ในห้องเก็บของภายในร้านจินหลิงที่นายฮวง ไฮ่ เท่า กำลังนำสิ่งของเข้าไปซุกซ่อน และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบตู้นิรภัยสีดำต้องสงสัยอีกจำนวน 2 ใบ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับตู้นิรภัยใบที่ตรวจค้นพบยาเสพติด ซึ่งได้ให้นายฮวง ไฮ เท่า เปิดให้ดูแต่แจ้งว่าไม่สามารถเปิดตู้นิรภัยสีดำทั้ง 2 ใบดังกล่าวได้ตำรวจชุดจับกุมจึงตรวจยึดตู้นิรภัยสีดำทั้ง 2 ใบเพื่อนำมาทำการตรวจสอบและได้ทำการจับกุมตัว นายฮวง ไฮ่ เท่า พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและนำตัวพร้อมตรวจยืดของกลางทั้งหมดไปทำบันทึกการจับกุมตัวที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บช.น.) และทำการเปิดตู้นิรภัยสีดำทั้ง 2 ใบดังกล่าว ผลการเปิดตู้นิรภัยพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี), วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวนมาก รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 26 รายการ (รวมของกลางเป็นยาเสพติด (เฮโรอีน) จำนวน 323 ซอง,ยาอีน้ำหนักรวมประมาณ 3,919.7 กรัม, เคตามีน น้ำหนักรวมประมาณ 855.9 กรัม และไฟว์ ไฟว์ จำนวน 8 เม็ด)
นอกจากยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ที่ตำรวจตรวจยึดจากผู้ต้องหาภายในห้องเก็บสินค้าของร้านจินหลิงแล้ว ยังพบกระเป๋าผ้าสีเทาลักษณะเดียวกับที่นายเจียงไต้หลิน (ผู้ต้องหาในคดีนี้ใช้) บริเวณช่องทางเดินติดกับห้องโถงใหญ่ของร้านจินหลิง ภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 60,000 บาท และซองพลาสติกที่ผลการตรวจพบว่าส่วนผสมของยาเสพติด และซองบรรจุมีลักษณะเช่นเดียวกันกับซองยาเสพติดที่พบที่นายฮวง ไฮ เท่า อีกหลายรายการ
อีกทั้งต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 ตำรวจ สน.ยานนาวา ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 290/2565 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2565 เข้าทำการตรวจค้นอาคารวิบวับคาร์ว็อซ ซึ่งอยู่ภายในรั้วและเลขที่เดียวกันกับร้านจินหลิง ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบยาเสพติด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (เคตามีน) ซึ่งมีส่วนผสมของยาเสพติดลักษณะเดียวกับกับที่พบภายในร้านจินหลิง รวมทั้งอาวุธปืนจำนวน 1 กระบอก
สืบเนื่องจากการจับกุมตัวนายฮวง ไฮ่ เท่า จากการสืบสวนขยายผลของ ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวน (บช.น.) ทราบว่า ร้านจินหลิง เปิดเป็นสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยน่าเชื่อได้ว่า เริ่มมีการก่สร้าง ปรับปรุง และเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน พ.ค. - เดือน ต.ค.2565 ทั้งนี้ พบว่ามีพยานหลักฐานในการจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการโดยผิดกฎหมาย โดยพบว่า สถานประกอบการดังกล่าว มีนายชมีนายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ เป็นเจ้าของโดยขอเช่าสถานที่ ดังกล่าวในการเปิดเป็นสถานประกอบการจินหลิง และ LEELA
จากการขยายผลพบว่า ร้านจินหลิงมีบุคคลที่เป็นหุ้นส่วน ผู้ดูแล หรือ พนักงานร้าน สัญชาติจีน สัญชาติกัมพูชา ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหาอีก 8 ราย ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่า นายสิทธิไพบูลย์ คำนิล กับพวกรวม 9 คน ตามคำร้องฝากขังนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดกับผู้ต้องหา โดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเป็นคณะบุคคลได้รวมกันตัวกันช่วงระยะเวลาหนึ่งโดยแบ่งหน้าที่กันดำเนินการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จัดหาบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย จำนวนหลายบัญชี ที่ใช้บริการระบบอีแบงกิ้ง ทำธุรกรรมผ่านบัญชีเงินฝากและบางบัญชีให้ผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่เจ้าของบัญชีเป็นผู้นำไปใช้ในการทำธุรกรรมฝากถอนและโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเปิดอาคารจินหลิง อาคารลีลา และอาคารวิบวับคาร์วอชเป็นสถานบริการจำหน่ายอาหาร สุรา โดยมีคาราโอเกะเพื่อการบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาตและไว้เป็นสถานที่จัดจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เช่น เฮโรอีน, ยาอี วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 ให้กับกลุ่มคนจีนที่มาใช้บริการในสถานบริการ หรือ จัดการเพื่อให้มาใช้บริการในสถานบริการดังกล่าวเพื่อใช้เสพโดยผิดกฎหมายและได้รับเงินทรัพย์สินในการให้บริการ จำหน่ายยาเสพติดให้แก่กลุ่มผู้มาใช้บริการเสพ เป็นการรับเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด จึงเป็นการรับเงินหรือทรัพย์สินเพื่อแก่การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดการและกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร้ายแรง โดยการสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและฟอกเงิน อันเป็นความผิดร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 เพื่อได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน มีการกระทำความผิดในเขตแดนของประเทศไทยและเขตแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน และเขตแดนราชอาณาจักรกัมพูชา
ความผิดที่กระทำในประเทศไทยมีการตระเตรียมการ วางแผน สั่งการ การสนับสนุนการกระทำความผิดบางส่วนได้กระทำในเขตสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรกัมพูชา ผลการกระทำที่สำคัญเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยผู้ต้องหากับพวกที่เป็นองค์กรอาชญากรรมได้สมคบกัน โดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 เป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยมีอาวุธปืน โดยมีหัวหน้าผู้มีหน้าที่สั่งการผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรมกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐจากการที่ได้สมคบกัน ซึ่งผู้ต้องหากับพวกได้สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันกระทำการโดยตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีผู้จัดการ สั่งการ ช่วยเหลือ ยุยง อำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมหรือรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจัดหาและได้มาซึ่งบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ที่บุคคลมีชื่อหลายคนได้เป็นผู้ขอเปิดบัญชีและขอใช้บริการในระบบอีแบงกิ้งทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคารดังกล่าว รวมทั้งบัญชีเงินฝากของตนนอกจากการทำธุรกรรมโดยวิธีทั่วไป บัญชีธนาคารที่เปิดไว้ในนามคนอื่นได้มอบให้พวกผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชีเงินฝากสำหรับนำไปใช้ในการทำธุรกรรมรับฝากเงิน ถอน โอน รับโอนเงิน ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ หรือ สนับสนุนและเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อให้ยากในการตรวจสอบการทำธุรกรรมผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารนั้นๆ เป็นการซุกซ่อน ปกปิด แหล่งที่มาของเงินที่มีการฝากถอนผ่านบัญชีธนาคาร ปกปิดและอำพรางลักษณะการได้มาของทรัพย์สินแล้วได้ร่วมกันฟอกเงินทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานนั้น ได้มีการฝาก ถอน โอน รับโอน หมุนเวียนไปมาผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวนหลายบัญชี ทั้งบัญชีที่มีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของบัญชี แต่ผู้ต้องหากับพวกนำมาใช้ โดยผู้ต้องหากับพวกได้รับทรัพย์สินและประโยชน์ในการกระทำแต่ละครั้ง เป็นการปกปิด หรืออำพราง การได้มาแหล่งที่มา การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
โดยเป็นความผิดฐาน รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ,ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ และมีส่วนร่วมกระทำการใดๆไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันนั้น
เหตุเกิดที่ร้านจินหลิง ถ.เจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทรและอื่นๆ ใน กทม.เกี่ยวพันกัน, สาธารณรัฐประชาชนจีน และ ราชอาณาจักรกัมพูชา ตั้งแต่ประมาณเดือน ม.ค. 2563-26 ต.ค. 2565 เวลา 00.30 น.
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว นายสิทธิไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2, 3, 4, 5, พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ ผู้ต้องหาที่ 9 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสู้คดี
ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายสิทธิกร ผู้ต้องหาที่ 4, นางสุรัสวดี ผู้ต้องหาที่ 5, พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ ผู้ต้องหาที่ 9 โดยตีราคาประกันคนละ 2 ล้านบาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลให้แจ้งตม.ทราบด้วย หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถือว่าผิดสัญญาประกัน ระหว่างปล่อยชั่วคราว กรณีผิดสัญญาประกันให้ปรับ 2 ล้านบาท
สำหรับ นายสิทธิไพบูลย์, นางพัชรินทร์ และ นายสิทธิพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 1, 2, 3 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้ว เห็นว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 1-2,3 ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน อันเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ส่วนผู้ต้องหาที่ 6, 7, 8 ก็ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวเช่นกันโดยศาลออกหมายขังส่งตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร