MGR Online -“ชูวิทย์” ตบเท้าเข้า สตช.พบ “รองโจ๊ก” ยื่นข้อมูลเส้นทางการเงิน “ตู้ห่าว” เตรียมแถลงเปิดโปงเพิ่มบ่าย 3 วันนี้ ด้านตำรวจเร่งขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายทุนจีนสีเทา จ่อออกหมายเรียก 2 นอมินี
วันนี้ (1 ธ.ค.) เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เข้ายื่นเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ให้กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านสืบสวนสอบสวน
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การเข้ายื่นหลักฐานในครั้งนี้ เพื่อให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตรวจสอบความเชื่อมโยงของขบวนการดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า ข้อมูลเส้นทางการเงินนี้มีความแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถบ่งชี้ว่า นายตู้ห่าว มีความสัมพันธ์กับบุคคลใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูลไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง เป็นการทำหน้าที่พลเมืองดี เพียงแค่ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีนายทุนจีนสีเทาอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในเวลา 15.00 น. ที่โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงการตรวจค้นเครื่องบินของนายตู้ห่าว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า ได้พบพยานหลักฐานซึ่งจะส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจยืนยันผลเพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถยึดอายัดทรัพย์สินของนายตู้ห่าว เพียงคนเดียวได้กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมเครือข่ายอื่นๆ เช่น น.ส.พัชรินทร์ และ นายหลินหลง ที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตำรวจจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงที่มาของทรัพย์สินต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องขยายผลติดตามเส้นทางการเงิน เนื่องจากจากการสืบสวนพบข้อมูลว่ายังมีเงินสดอยู่อีกจำนวนมากที่ตำรวจต้องตามอายัดให้ได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการเอาผิดกับบุคคลที่เป็นนอมินี ส่วนใหญ่คนเหล่านี้เป็นคนจีน ที่มีการสวมบัตรประชาชนคนไทย โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขณะนี้การสืบสวนและสอบสวนดำเนินไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนเครือข่ายได้แล้ว 102 ราย รวมถึงผู้ต้องหารายใหญ่ 5 ราย ยกเว้นนายหมิง ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีไปยังต่างประเทศ ขณะนี้ออกหมายจับสากลแล้ว คาดว่า ภายใน 3 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้
“หลังจากดำเนินการเรื่องตู้ห่าวเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว สน.ยานนาวา ซึ่งจะต้องนำมาดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเป็นด่านหน้าในการเปิดช่องทางให้คนจีนเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย” รอง ผบ.ตร.ระบุ
ส่วนกรณีสังคมตั้งคำถามว่าเหตุใด นายโทนี่ หรือ เฉินเจ้าฮุ้ย เจ้าของร้าน Spaceplus Bangkok ได้รับประกันตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เพราะความผิดฐานดังกล่าวเป็นอัตราโทษไม่สูง ผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัวได้ ทางทนายของโทนี่ได้ยื่นขอประกันตัวทุกอย่างเป็นไปตามสิทธิตามหลักสากล
ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า ตำรวจทำตามข้อมูลของนายชูวิทย์นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ตำรวจทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้ทำตามใบสั่งใคร และถือว่า เป็นเรื่องดีที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีข้อมูลจากประชาชนเข้ามามากมาย ซึ่งตำรวจก็พร้อมรีบข้อมูลจากทุกฝ่าย
