หัวหน้าก้าวไกล ลั่น ไม่ไร้เดียงสา คณิตศาสตร์การเมืองไม่แพ้ใคร จะยุบสภา-เล่นสูตรไหน ‘ก้าวไกล’ พร้อมเลือกตั้ง หวังกวาด ส.ส. เยอะกว่าสมัย ‘อนาคตใหม่’ ขอบคุณชาว กทม. เทใจให้นั่งนายกฯ
วันนี้ (25 พ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ที่ทำการพรรคก้าวไกลถึงประเด็นการเมือง อย่างความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในช่วงปลายวาระ
นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ รอยร้าวในรัฐบาลมีมานาน ไม่ว่าจะสิ่งที่พูดคุยในสภา ก็ดี หรือพฤติกรรมต่างๆ แม้จะมีการเจรจา แต่ก็เห็นมีภาพคุยกันในทำเนียบอยู่ ก็รู้แล้วว่าเป็นดาวคนละดวง แต่ตรงนี้เหมือนเป็นนายกฯ คนละครึ่ง
“ตอนหลังภาพก็ชัดมากขึ้น พลเอก ประยุทธ์ ถ้าเกิดพูดกันตรงไปตรงมา ก็เหมือนเป็นยาหมดอายุ ที่ต่ออายุไปอีก 2 ปี ก็ไม่รู้ว่าจะหาเสียงยังไง”
นายพิธา มองเสถียรภาพรัฐบาลจะกระทบต่อสูตรการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อว่า การคำนวณ ส.ส. ที่ยังกลับไปกลับมาระหว่างหาร 100 หาร 500 หรือจะกลับไปบัตรใบเดียว ซึ่งเป็นเพียงประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ที่ไม่รักษาเสถียรภาพของระบบ ไม่ใช่ความท้าทายที่พี่น้องประชาชนเจออยู่ ในเมื่อเราแก้รัฐธรรมนูญแล้ว เปลี่ยนเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว หางก็ต้องหาร 100 อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีผลกับการทำงานของพรรคก้าวไกล
“อยากเรียกร้องให้รัฐบาลลดเรื่องการเมืองน้อยลง แล้วเพิ่มเรื่องประชาชนมากขึ้น มีสมาธิในการทำงาน แม้ว่าสภาจะมีเวลาเหลืออีกไม่กี่เดือนก็ตาม”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการแยกทางกันระหว่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นการแตกแบงก์พันเพื่อสกัดการตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้านในปัจจุบันหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ไม่มีผลกระทบกับการทำงานของพรรคก้าวไกล พรรคก้าวไกลสู้ศึกเลือกตั้งในทุกกรณี เราพร้อมทำงานหาคนมีอุดมการณ์และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเรื่องนโยบายและการบริหาร
“ส่วนในเรื่องเกมกติกา ผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดถึงไม่ได้คิดหรือคำนึงถึง แต่พรรคเราเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ ใช้ Data Scientist (นักวิเคราะห์ข้อมูล) เยอะ ฉากทัศน์หลายกรณี ทุกความเป็นไปได้ ไม่มีผลกระทบกับพรรคก้าวไกล พรรคขนาดกลางที่กำลังเติบโตอย่างพรรคก้าวไกลไม่กระทบ Voter (ฐานเสียง) ของพรรคก้าวไกลสบายใจได้ ในเรื่องคณิตศาสตร์ทางการเมืองพรรคก้าวไกลไม่แพ้พรรคไหนแน่นอน”
นายพิธา ย้ำว่า การเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จะส่งลงสมัครครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งใกล้ครบแล้ว 100% คงจะเปิดตัวเรื่อยๆ พร้อมกับเปิดนโยบาย ซึ่งสำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นั้นมีมาจากหลากหลายวิชาชีพและกลุ่มประชากร เราเชื่อในความหลากหลาย เราเชื่อในคนธรรมดาทำการเมืองที่เข้าใจปัญหามาก่อน นี่คือจุดแข็งของพรรคก้าวไกลที่จะตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาประชาชนแน่นอน
“เรื่องของอุดมการณ์และความซื่อตรง ซื่อสัตย์ต่อพรรค ต่างจากตอนอนาคตใหม่ เพราะตอนนั้นมีเวลาน้อย แต่ตอนนี้ทำงานมาปีกว่า ปีครึ่ง จึงมีการบริหารจัดการจากล่างขึ้นบนในการวิเคราะห์และส่งกลับไปให้ทำงาน ให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบได้ จึงมีทั้งประสิทธิภาพและอุดมการณ์แน่นอน”
นายพิธา ยังกราบขอบคุณเสียงสนับสนุนตนเองจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามผลการสำรวจ แต่เรื่องพวกนี้ถือคติว่า “ตอนขึ้นอย่าหลง ตอนลงอย่าท้อ” เวลาเราขึ้น เราก็อย่าไปหลง อย่าไปประมาท เราก็ต้องยิ่งทำงานให้หนักมากยิ่งขึ้น เพื่อซื้อใจพี่น้องประชาชนที่อยู่นอกพื้นที่ให้ได้มากขึ้นด้วย การที่จะเป็นรัฐบาลจะต้องได้หลายพื้นที่มากขึ้น เดินมากขึ้น เข้าหามากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองอย่างการยุบสภา พรรคก้าวไกลจะพร้อมต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า พร้อมมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว เพราะกระแสมันก็จะยุบมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ผมก็บอกว่าคุณต้องบอกผมตลอดเวลาว่า 400 เขตเรามั่นใจว่าจะชนะกี่เขต ตัวเลขอยู่ในหัวผมอยู่ตลอด มีการอัพเดตให้ผมทราบทุกวัน ถามว่ายุบสภาพร้อมไหม มันพร้อมมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ตั้งแต่มีกระแสที่จะยุบเยอะ ๆ เราก็ไม่ประมาท แต่ถ้าเกิดมีเวลามากกว่า เราก็มีเวลาทำงานมากขึ้น เพื่อให้นาทีสุดท้าย วันที่ระฆังเคาะหรือชักธงรบแล้ว เราหาผู้สมัครที่มีประสิทธิภาพและอุดมการณ์ครบ
“ถ้าวิเคราะห์กันตรงไปตรงมา ผมก็ไม่คิดว่ารัฐบาลจะได้ประโยชน์จากการยุบสภา”
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเป้าหมายจำนวนที่นั่ง ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลตั้งไว้ นายพิธา ตอบว่า ผมเลิกพูดเรื่องตัวเลข เพราะถ้าเอาตัวเลขมาพูดก็เกินพันแล้ว แต่คาดหวังให้ได้มากกว่าตอนอนาคตใหม่ แต่ที่มากกว่าเรื่องจำนวน คือเรื่องคุณภาพ คุณภาพของพรรคการเมืองที่ดีคือ ส.ส. เขตมากกว่าบัญชีรายชื่อ ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน ต้องการที่จะเป็นพรรคระดับชาติได้ก็ต้องมี ส.ส. เขตครบทุกภูมิภาค เป้าหมายเราจึงไม่ใช่เรื่องจำนวนแน่นอน ถ้าทุกพรรคมีแต่เรื่องจำนวน สภาก็มี ส.ส. เป็นพันคนแล้ว